สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 44.4

ตอนที่ 44.4

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 44.4 ซินเป่าของข้าเป็นหญิงงาม! (4)
เหยียนหลิงจวินจิ้มนิ้วไปที่ปลายจมูกนางทีหนึ่ง ตอนที่ฉู่สวินหยางคิดว่าเขายังจะพูดอะไรที่ยิ่งทำให้หวั่นไหวอีกนั้น รอยยิ้มที่หายไปจากใบหน้าเขาก็กลับมาสว่างไสวที่สุดอย่างไร้สาเหตุอีกครั้งในชั่วพริบตา เขาเอ่ยเสียงต่ำว่า “ถึงแม้จะนิสัยไม่ดี แต่ซินเป่าของข้าก็เป็นหญิงงามที่หาได้ยากเช่นกัน!”

ฉู่สวินหยางเพิ่งเคยได้ยินคำพูดแบบนี้เป็นครั้งแรก

หากมีคนมาพูดอะไรแบบนี้ซึ่งๆ หน้า นางจะอึ้งไปก่อนในชั่วพริบตา แล้วพอตั้งสติได้ ใบหน้าที่เขินจนหน้าแดงอยู่บ้างแล้วก็จะยิ่งแดงก่ำเหมือนผลมะเขือเทศสุก

เหยียนหลิงจวินชอบที่ได้เห็นนางเขินจนหน้าแดงมาก นานๆ ทีจะได้เห็นท่าทางเช่นนี้จากนาง เขาจึงยังคงก้มตัวอมยิ้มมองนางอยู่เช่นเดิม

สุดท้ายพอฉู่สวินหยางหายตะลึงแล้วถึงได้รู้สึกว่า…

เวลานี้นางไม่มีทางคุยกับคนๆ นี้ได้อย่างปกติแล้ว

นางสะบัดแขนเสื้อเดินจากไปอย่างโมโห รีบเดินเหมือนโกรธใครมา

เหยียนหลิงจวินเห็นท่าทางแบบนั้นของนางก็ยิ่งหัวเราะชอบใจ

หญิงสาวคนนี้ดูท่าทางเข้มแข็ง ทว่าท้ายที่สุดก็เป็นเพียงดรุณีน้อยเท่านั้น อันที่จริงอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ของนาง…แค่ตั้งใจก็ควบคุมได้ง่ายมาก!

เพียงแต่…

ถึงอย่างไรความอยู่รอดนี้ก็ได้ทำให้นางเติบโตมาเป็นคนเช่นนั้น นางมักจะคอยกังวลกับผลได้ผลเสียของตนเอง ครุ่นคิดเรื่องราวมากมายในโลกของผู้ชาย และไม่ยอมวางภาระนี้ลงเสียที

พอคิดเช่นนี้เหยียนหลิงจวินก็ค่อยๆ ตีหน้าขรึม แล้วนัยน์ตาก็ค่อยๆ ฉายแววลุ่มลึกอย่างบอกไม่ถูก

———————————–

ซูอี้ยืนอยู่ตรงทางเดินแคบนั้นนานมาก เหมือนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตลอด ผ่านไปครู่ใหญ่ถึงค่อยๆ ได้สติกลับมา เขาสงบสติอารมณ์อีกครั้ง แล้วเดินต่อไปทางประตูใหญ่

เนื่องจากวันนี้มีแขกเหรื่อมากมาย รถม้าและเกี้ยวของแต่ละตระกูลจึงจอดกันแน่นขนัดอยู่หน้าประตู และทำให้รถม้าของเขาแล่นผ่านไม่ได้ เขาจึงทำได้เพียงจูงม้าเข้าไปในตรอกที่ดูไม่เบียดเสียดมากนักทางด้านขวา

เขาเพิ่งจะขึ้นม้าหลังเลี้ยวออกจากตรอกไปแล้ว ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรีดร้องเสียงแหลมอย่างตกใจดังมาจากหลังกำแพง

ถึงอย่างไรเขาก็ถือว่าสนิทกับฉู่สวินหยางอยู่บ้าง วันนี้วังบูรพากำลังจัดงานแต่งงาน ซูอี้ก็คิดว่าหากบังเอิญเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมาในโอกาสเช่นนี้ต้องแย่แน่

ซูอี้รวบรวมสติจับบังเหียนม้าไว้แล้วกระโดดข้ามกำแพงเข้าไปในเรือนอย่างว่องไวและไม่ลังเลทันที

ตรงนั้นเป็นสวนดอกไม้ด้านตะวันตกสุดพอดี ด้านข้างเป็นห้องของคนรับใช้เรียงกันยาวเหยียดและตั้งอยู่ค่อนข้างลับตาคน ปกติแล้วน้อยคนนักที่จะเดินเล่นในสวนมาถึงทางด้านนี้

ซูอี้พลิกตัวลงพื้น เวลานั้นองครักษ์ยังมาไม่ถึง เขาวิ่งอ้อมศาลาไปตามเสียงกรีดร้องที่ได้ยินก่อนหน้านี้ แล้วก็เห็นสาวใช้คนหนึ่งนั่งหน้าซีดเผือดอยู่บนพื้นจริงๆ

เงาดำที่วิ่งผ่านด้านข้างและแวบหายเข้าไปในพุ่มไม้กลับเป็นเพียงแมวดำที่ตกใจเท่านั้น

สาวใช้คนนั้นเหมือนพยายามจะลุกขึ้นมา แต่มือเท้าของนางอ่อนแรง แม้จะลองหลายครั้งแล้วก็ล้มลงไปอีก

ผ้าเช็ดหน้าไหมผืนหนึ่งตกอยู่บนพื้นหินข้างๆ

“คุณชาย! คุณชายช่วยด้วยเจ้าค่ะ!” สาวใช้เห็นซูอี้เหมือนได้เจอผู้ช่วยชีวิต นางร้องให้ช่วยเสียงดัง

ซูอี้เดินไปหาอย่างรวดเร็ว เขายื่นมือไปดึงตัวนางขึ้นมาและถามอย่างระแวดระวังว่า “เจ้าเป็นสาวใช้ของตระกูลไหน? แล้วเกิดอะไรขึ้นหรือ?”

“ข้าเป็นสาวใช้ของจวนหลัวกั๋วกงเจ้าค่ะ คุณหนูใหญ่ของข้า…คุณหนูใหญ่ของข้า…” สาวใช้พูดไปก็ร้องไห้โฮขึ้นมา นางจับแขนของซูอี้ไว้แน่นจนนิ้วมือแทบจะจิกลงไปในเนื้อของเขาและเอ่ยด้วยสีหน้าร้อนใจว่า “คุณหนูใหญ่ของข้า คุณหนูใหญ่ของข้าถูกจับตัวไปเจ้าค่ะ คุณชาย…ท่านรีบ…รีบ…”

คุณหนูใหญ่ตระกูลหลัว?

หลัวซืออวี่?

ซูอี้คาดไม่ถึงและอดที่จะตกใจไม่ได้

ระหว่างที่กำลังพูดคุยนั้นเจิงจีก็พาองครักษ์กลุ่มหนึ่งมาถึง เขาได้ยินคำพูดนี้มาแต่ไกลก็ตกใจจนหน้าเปลี่ยนสีเช่นกัน “เจ้าว่าอะไรนะ? คุณหนูหลัวซืออวี่ถูกจับตัวไปหรือ?”

“หัวหน้าพ่อบ้าน ท่านช่วยคิดหาทางเร็วเข้า!” สาวใช้เอ่ยทั้งน้ำตาอย่างทำอะไรไม่ถูก

“ไปทางไหนแล้ว?” ซูอี้ถาม

“ไปทางนั้นเจ้าค่ะ!” สาวใช้ยกมือชี้ไปทางห้องแถวนั้น

ซูอี้มองเจิงจีแล้วเอ่ย “พ่อบ้านเจิง เจ้าไปแจ้งให้ท่านหญิงหรือองค์รัชทายาททราบเดี๋ยวนี้ เรื่องเกี่ยวพันถึงชื่อเสียงอันบริสุทธิ์ของแม่นางหลัวซืออวี่ต้องปิดข่าวไว้ ข้าจะพาคนตามไป!”

“ขอรับ!” เจิงจีพยักหน้าตอบรับ “รบกวนคุณชายรองแล้ว!”

ซูอี้โบกมือแล้วพาองครักษ์กลุ่มนั้นไปก่อน

เพราะเมื่อครู่สาวใช้ร้องตะโกนเสียงดังเกินไปจริงๆ เหล่าฮูหยินและคุณหนูที่เดินเล่นอยู่ในสวนไกลหน่อยก็ได้ยินและรีบตามมาด้วยเช่นกัน

ยังดีที่ตอนนั้นคนรับใช้ที่อาศัยอยู่ที่นี่ต่างไปช่วยเตรียมงานแต่งงานกันหมดแล้ว จึงไม่มีใครเห็นตอนที่เกิดเรื่องขึ้น

ผู้คนที่มาถึงในเวลานี้จึงเห็นเพียงเจิงจีประคองสาวใช้แปลกหน้าอยู่เท่านั้น

โชคดีว่าเกิดเรื่องขึ้นกับเยียนเอ๋อร์ที่ติดตามอยู่ข้างกายหลัวซืออวี่ตลอด คนอื่นต่างไม่เคยเจอสาวใช้ที่นางพามาด้วยในวันนี้ ไม่อย่างนั้นแค่สาวใช้คนนี้ก็สามารถคิดโยงไปถึงตัวนางได้

“พ่อบ้าน พวกเราได้ยินเสียงร้องตกใจดังมาจากทางนี้ เกิดอะไรขึ้นหรือ?” บางคนเอ่ยถาม

สาวใช้เพิ่งมาอยู่กับหลัวซืออวี่ได้ไม่นาน พอได้ยินก็กลัวความผิดจนตัวสั่น

เจิงจีแอบพยุงนางไว้ข้างหนึ่ง พลางถอยไปข้างๆ และเหยียบผ้าเช็ดหน้าที่ตกอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีนิ่งเฉย เขาอมยิ้มเอ่ย “สาวใช้คนนี้หลงทางและตกใจกลัวแมวจรจัด ข้าก็ไม่เคยเจอคนขี้ขลาดขนาดนี้ รบกวนทุกท่านแล้ว ต้องขออภัยเป็นอย่างมากขอรับ!”

ทุกคนกวาดสายตามองไปรอบด้าน เมื่อไม่เห็นอะไรผิดปกติ ต่างคนก็ต่างแยกย้ายไป

พอทุกคนเดินจากไปแล้ว สีหน้าเจิงจีก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมในชั่วพริบตา เขาเก็บผ้าเช็ดหน้ามาซ่อนไว้ในแขนเสื้อ แล้วประคองสาวใช้ไปเรือนของฉู่สวินหยางด้วยตนเอง

เวลานั้นฉู่อี้อันกำลังต้อนรับแขกอยู่ที่เรือนด้านหน้า หากเขารู้เรื่องนี้เข้า ผู้คนอีกมากก็ต้องรู้ไปด้วย เจิงจีจึงจำเป็นต้องไปหาฉู่สวินหยาง แต่กลัวข่าวจะรั่วไหลออกไปจึงไม่กล้าบอกอย่างละเอียด

ฉู่สวินหยางรู้ว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นแล้วแน่นอนจึงรีบกลับไป พอได้ยินว่าหลัวซืออวี่ถูกคนจับตัวไปในวังของพวกเขาก็ประหลาดใจมากทีเดียว

“เกิดอะไรขึ้น?” ฉู่สวินหยางถามแล้วก็อดที่จะกลั้นหายใจไม่ได้

“ข้ากับคุณหนูกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนดอกไม้ แล้วอยู่ดีๆ ก็มีคนปิดบังใบหน้าคนหนึ่งกระโดดออกมา พอผลักข้าล้มลงแล้วก็พาตัวคุณหนูของข้าไปเจ้าค่ะ” สาวใช้ตื่นตระหนกมากจนทำอะไรมาถูกและร้องไห้ขึ้นมาอีก

“ตอนที่ข้าไปถึงก็สายไปแล้วจึงไม่เห็นตัวคนร้ายขอรับ” เจิงจีเอ่ย พลางเช็ดเหงื่อบนหน้า “คุณชายรองจวนอ๋องฉางซุ่นก็อยู่ด้วยพอดี เขาพาคนตามไปแล้วขอรับ ตอนนี้ข้าปิดข่าวไว้แล้ว แต่ยังไม่กล้าไปแจ้งให้องค์รัชทายาททราบ วันนี้มีแขกมาเยือนมากมาย อาจจะ…”

“ให้ท่านพ่อรู้ไม่ได้เด็ดขาด!” ฉู่สวินหยางเอ่ยแทรกคำพูดเขาอย่างเห็นด้วย “เรื่องเกี่ยวพันถึงชื่อเสียงของแม่นางหลัวซืออวี่ต้องปิดข่าวไว้ ห้ามแพร่งพรายข่าวออกไป”

“ขอรับ!” เจิงจีขานรับ แล้วมองสาวใช้อย่างลำบากใจอีกครั้ง

ฉู่สวินหยางกวาดตามองตามไปด้วยก็เข้าใจ นางคิดอยู่ชั่วครู่ กล่าวว่า “สั่งเด็กรับใช้ที่ไม่สะดุดตาสักคนไปเชิญหลัวซื่อจื่อมาหาข้าที่นี่เถอะ!”

นางชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยเสริมอีก “เรื่องใหญ่ขนาดนี้คงปิดบังคนตระกูลหลัวไม่ได้!”

—————————————————-

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน