สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 47.4

ตอนที่ 47.4

เมื่อครู่ในห้องนางก็ถือโอกาสตบตีหลัวอวี่ก่วนไปฉาดใหญ่ ใบหน้าของหลัวอวี่ก่วนนั้นถูกตบจนช้ำ มีคราบเลือดแห้งกรังจนดูน่ากลัว

นางเคยพบหญิงอารมณ์ร้ายเฉกเช่นชายาสี่ที่ไหนกัน ทั้งยังเห็นได้ชัดว่าเป็นตัวเองที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ เวลานี้จึงทำได้เพียงแค่ตกใจตัวสั่นอย่างลูกนก หลบอยู่ในอ้อมกอดของหลัวเสียง เอาแต่ร้องไห้อย่างไม่หยุดหย่อน

หลัวเสียงก็มีความกระวนกระวายใจเช่นกัน อยากจะถามว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับนางแต่ก็ไม่สามารถเอ่ยปากได้

ฮูหยินใหญ่เห็นฉู่สวินหยางเดินเข้ามา ในที่สุดจึงค่อยโล่งใจขึ้นมา รีบเร่งเดินเข้าไปหา “สวินหยาง เจ้าว่าเรื่องนี้…”

“ท่านอา ท่านอาหญิงเจ้าคะ!” ฉู่สวินหยางกลับเดินผ่านนางไป เดินไปอยู่ด้านหน้าของชายาสี่ กล่าวอย่างเผยรอยยิ้มเล็กน้อย “ขอท่านอาหญิงโปรดระงับโทสะ มีเรื่องอันใดเข้าไปพูดในห้องกับพวกเราก่อนดีกว่าเจ้าค่ะ!”

“แค่ก…” ฉู่อี้ชิงกลับไม่รู้สึกว่านี่นับเป็นเรื่องใหญ่อันใด เพียงแค่ถูกชายาของตนทำเรื่องวุ่นออกมาจึงดูมิงามอยู่บ้าง เวลานี้อยู่ตรงหน้าฉู่สวินหยางที่เป็นคนรุ่นเยาว์เช่นนี้ จึงอดไม่ได้ที่จะไอแห้งออกมากลบเกลื่อน

ชายาสี่เห็นเช่นนั้นก็ยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก กล่าวระคนโมโห “ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในห้อง ข้าไม่มีเรื่องอันใดที่ต้องปกปิดผู้อื่น มีอะไรจะพูดก็พูดมันที่นี่แหละ!”

ตอนที่นางพุ่งเข้าใส่เมื่อครู่ไม่ทันได้มองอย่างละเอียด ยามนี้เมื่อเห็นว่าเป็นหลัวอวี่ก่วนก็ยิ่งแค้นเคืองมากขึ้นไปอีก ยกมือชี้ไปที่จมูกของนางพลางด่าทออย่างโกรธเกรี้ยว “เป็นถึงหญิงสาวที่เกิดในตระกูลใหญ่แท้ๆ กลับแอบทำเรื่องสกปรกอย่างเชี่ยวชาญเช่นนี้ นับเป็นความอัปยศอดสูเสียจริง!”

“เจ้าก่อเรื่องพอรึยัง?” ในที่สุดฉู่อี้ชิงก็ทนไม่ไหวก้าวเดินมาด้านหน้า เหวี่ยงแขนไปจับข้อมือชายาสี่เอาไว้ พยายามขยิบตาให้นางอย่างเอาเป็นเอาตาย

“เป็นข้าที่ก่อเรื่องหรือเป็นท่านที่ก่อเรื่อง?” ชายาสี่กลับไม่ยอมร่วมมือ เพียงแค่กล่าวด่าออกไป “วันนี้เป็นงานเลี้ยงต้อนรับหลานสาวกลับสู่เรือน เจ้าที่เป็นอากลับทำขายหน้าต่อหน้าผู้คน มาเกลือกกลั้วกับนังแพศยาที่นี่ ข้าก็จัดการเก็บกวาดแทนท่านอยู่นี่ไง!”

ขณะที่นางพูดก็ยังคงไม่ลดโทสะลงได้ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เดินเข้าไปดึงแขนเสื้อของฉู่อี้ชิงทันที ก่อนจะเดินไปทางด้านนอก “ไป! พวกเราเข้าวังไปเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ ให้พระองค์ช่วยตัดสิน ดูซิว่าสุดท้ายแล้ว จะเป็นท่านที่หน้าไม่อายหรือจะเป็นข้าที่ทำเรื่องเกินงาม!”

กล่าวถึงฮ่องเต้ ฉู่อี้ชิงก็นึกไปถึงก่อนหน้านี้ที่นางหาเรื่องให้ตัวเองอย่างทันที น่าอับอายจนต้องโมโหขึ้นมา จึงผลักนางจนซวนเซ ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด “อย่าเอาเสด็จพ่อมาข่มข้า ข้าจะหลับนอนกับหญิงกี่คน จะรับสนมมาเพิ่มอีกเท่าไรก็เป็นสัจธรรมที่มิอาจเปลี่ยนแปลงได้ เสด็จพ่อท่านไม่มายุ่งหรอก!”

“ท่าน…ท่านพูดอันใดกัน?” ชายาสี่กล่าวออกไปอย่างไม่ขาดช่วงตอน ตกตะลึงอ้าปากค้างจ้องมองเขาอย่างทำอะไรไม่ถูก ผ่านไปสักพักค่อยโหยหวนร่ำไห้ออกมา “ท่านไม่ละอายอันใดแล้วใช่หรือไม่? ท่าน…”

ขณะที่พูด ด้านนอกก็มีคนกล่าวเสียงดังขึ้นมาโดยพลัน “องค์รัชทายาทมาถึงแล้ว!”

หน้าประตูที่แออัดไปด้วยกลุ่มฝูงชนค่อยๆ ขยับเปิดทางให้ ฉู่อี้อันที่อยู่ในอาการใบหน้าดำคล้ำก้าวเท้ายาวเข้ามาจากด้านนอก ทั้งยังมีขุนนางร่วมงานที่ดื่มชาในงานเลี้ยงกับเขาก่อนหน้านี้ไม่กี่คนตามเข้ามาด้วย

ชายาสี่คิดหันกลับไปพึ่งเขา รีบร้อนถลาเข้าไป คุกเข่าต่อหน้าฉู่อี้อันพลางกล่าว “รัชทายาทโปรดยกโทษด้วย เป็นท่านอ๋องของข้าที่วู่วามไปชั่วครู่ มิควรอย่างมากที่จะทำเรื่องเสื่อมเสียในจวนของท่าน ทั้งยังก่อการรบกวนให้กับงานเลี้ยงของท่านหญิงสี่”

นางเริ่มกล่าวโทษให้กับฉู่อี้ชิงก่อนเป็นอันดับแรก

ฉู่อี้ชิงจุกเสียดในช่วงอก สูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะก้าวไปด้านหน้า ประสานมือทำความเคารพกับฉู่อี้อัน “ท่านพี่ เป็นน้องที่เลอะเลือนไปชั่วขณะ เดิมทีก็ไม่ใช่เป็นเรื่องใหญ่อันใด พระชายาเป็นอย่างไรท่านก็น่าจะรู้ดี ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่…”

ชายาสี่จ้องมองเขาอย่างโกรธเกรี้ยว กำลังที่จะคิดโต้เถียงอะไรสักอย่างกับเขา ฉู่อี้อันกลับเดินผ่านทั้งสองคนเข้าไปในห้องโดยไม่หันมามอง กล่าวออกมาด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ “ข้าไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของพวกเจ้า แต่ว่าเรื่องวันนี้ได้สร้างปัญหามาจนถึงภายในจวนของข้า ทั้งยังทำให้เกียรติของราชวงศ์เสื่อมเสีย เจ้าสี่ เจ้าแค่วู่วามไปชั่วครู่ก็ดี หรือจะเป็นอย่างอื่นก็ช่างเถิด ข้าที่เป็นพี่ของเจ้ามิอาจสอดมือยุ่งกับเรื่องส่วนตัวเจ้าได้หรอก หลังจากนี้เรื่องทั้งหมดก็ให้เสด็จพ่อเป็นผู้ตัดสินใจเอาเถิด!”

ฉู่อี้ชิงเมื่อได้ฟัง เหงื่อเย็นก็ผุดขึ้นทั่วร่างไปชั่วขณะ รีบร้อนตามเข้าไป “ท่าน…”

ชายาสี่กลับเผยยิ้มเยือกเย็นอย่างถึงที่สุดขึ้นมา จัดแจงกระโปรงให้เข้าที่ก่อนจะตามเข้าไปด้วย

ฉู่สวินหยางหันไปมองดูคนรอบๆ ในเรือนครั้งหนึ่ง ก็กล่าวขึ้นกับฮูหยินใหญ่ “ฮูหยินใหญ่แยกย้ายคนออกไปก่อนเถิด อีกเดี๋ยวฝ่าบาทจะเข้ามา ไม่ทำให้เป็นที่สนใจของผู้อื่นน่าจะเป็นการดีกว่า!”

หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นที่ทำเรื่องเช่นนี้ในวังบูรพา เพียงแค่คำพูดคำเดียวของฉู่อี้อันก็อาจจะสามารถจัดการได้แล้ว ทว่าเมื่อเป็นฉู่อี้ชิง ทั้งยังให้พระชายาก่อเรื่องขึ้นมาจนใหญ่โต เช่นนั้นก็คงมีแต่ฮ่องเต้เท่านั้นที่จะสามารถออกหน้าได้

ทั้งยังเป็นเรื่องใหญ่ที่เกี่ยวพันกับหน้าตาของราชวงศ์ เหล่าสตรีบรรดาศักดิ์และขุนนางที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดไม่จำเป็นต้องรอกล่าวคำสั่งอันใด ก็ต่างพากันแยกย้ายไปอย่างรู้ตัว

ฉู่สวินหยางเหลือบตามองสองพี่น้องสกุลหลัวที่ยืนอยู่ในเรือนไปทีหนึ่ง ก่อนจะออกคำสั่งกับเจี๋ยหง “ไปเชิญตัวท่านหลัวกั๋วกงแล้วก็ฮูหยินกั๋วกงเข้ามาด้วย!”

“อย่า…” หลัวอวี่ก่วนตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะใช้มือดึงชายเสื้อหลัวเสียงไว้อย่างสุดแรง

ให้หลัวกั๋วกงเข้ามา? หากทั้งสองคนรู้เรื่องที่นางทำความอัปยศสู แล้วจะปกป้องนางได้อย่างไร

แต่ในเวลานี้ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นให้นางได้โต้แย้งอีกแล้ว

ฉู่สวินหยางมองทั้งสองคนโดยไม่แสดงท่าทีอันใด ก่อนจะเดินตามเข้าไปในห้องโถง

เมื่อนางเดินไป หลัวเสียงก็เผยแววตาจ้องหลัวอวี่ก่วนอย่างอดต่อไปไม่ไหวทันที กดเสียงต่ำกล่าว “เรื่องมันเป็นอย่างไร? เจ้าเสียสติไปแล้วรึ?”

แม้จะกล่าวว่าฉู่อี้ชิงจะเป็นคนมักมากในกาม เวลานี้หลัวอวี่ก่วนหลับนอนกับเขาก็นับเป็นเรื่องที่รนหาที่ตาย อย่างไร…

ในท้องนั้นของนางก็เป็นสิ่งที่อันตรายอยู่

“ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใด…”สักพักหลัวอวี่ก่วนก็ร้องไห้ออกมา

เดิมทีนางกับเซียงเฉ่ากำลังเดินเล่นที่สวนดอกไม้อยู่ดีๆ จู่ๆ ก็ถูกคนทำให้สลบไป ตอนที่ตื่นขึ้นมาก็อยู่ในห้องนี้เสียแล้ว

นางยังรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้ผิดปกติ อยากจะลุกขึ้นมากลับไร้เรี่ยวแรงเสียอย่างนั้น จากนั้นฉู่อี้ชิงก็ปรากฏกายขึ้นอย่างแปลกประหลาด

ฉู่อี้ชิงที่อยู่ในห้องนั้นก็ยังคงตงิดใจ

เดิมทีเขาก็เดินอยู่ในสวนดอกไม้ ระหว่างนั้นจู่ๆ ก็พบเงาผ่านแวบไปหลังพุ่มดอกไม้ ชั่วพริบตากลับตราตรึงใจ ราวกับเป็นสาวที่สวยสดงดงามคนหนึ่ง เขาจึงจิตใจสับสนวุ่นวายเดินตามเข้ามา ท้ายที่สุดก็พบกับห้องนี้

เข้ามาก็เห็นหลัวอวี่ก่วนอยู่บนตั่ง

แม้ว่ารูปลักษณ์ของหลัวอวี่ก่วนจะไม่ถึงกลับงามล่มเมือง แต่ก็ยังนับว่าเป็นหญิงงามคนหนึ่งอยู่ดี อย่างไรก็เป็นดั่งเนื้อที่ส่งเข้าปากเสือ มีเหตุผลอันใดกันที่จะไม่แตะต้อง

ดังนั้นเขาก็คิดที่จะจัดการรวบรัดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน แต่ไม่คาดคิดว่าเรื่องด้านนี้ยังไม่ทันได้ทำสำเร็จ พระชายาก็มาตามถึงที่ ไม่พูดไม่กล่าวอันใดก็ผสมโรงดุด่าเขา ทั้งยังโหมเรื่องครึกโครมให้เป็นที่โจษจันไปทั่วทั้งเมือง เวลานี้ยิ่งจะทำเรื่องไปถึงฮ่องเต้อีก

“ท่านพี่ เป็นน้องที่หลงผิดไปชั่วครู่ เสด็จพ่อมีราชกิจมากมาย…” เดินเข้าประตูไป ฉู่อี้ชิงก็เปิดปากกล่าวทันที “อย่างไรก็เป็นแค่เรื่องของผู้หญิงเท่านั้น ข้านำตัวนางกลับไปก็น่าจะจบแล้ว จะต้องรบกวนถึงเสด็จพ่อไปไย?”

ฉู่อี้อันเผยใบหน้าเรียบเย็น ไม่กล่าวใดใดสักคำ

เดิมวันนี้เขาก็มีเหตุผลที่สมควรจะบันดาลโทสะ ลูกสาวตนเองเพิ่งจะแต่งงานไป แต่งานเลี้ยงต้อนรับกลับเรือนนั้นกลับเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา ไม่เพียงไม่อาจพูดว่าแค่ทำให้ขายหน้า แต่ก็ไม่ใช่ลางที่ดีเช่นกัน

“ตอนนี้พระชายาไม่ยอมจบยอมสิ้นกับเจ้า ข้าก็มิอาจตัดสินใจแทนพวกเจ้าสองสามีภรรยาได้ อย่างไร…ก็รอเสด็จพ่อมาแล้วค่อยพูดเถอะ!” ฉู่อี้อันกล่าว กลับยืนยันอยู่เช่นนั้น

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน