สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 61.3 สาวงามอยู่ในอ้อมกอด และสถานการณ์อันตรายรอบด้าน (3)

บทที่ 61.3 สาวงามอยู่ในอ้อมกอด และสถานการณ์อันตรายรอบด้าน (3)

ด้านหลังทางขวามีลูกธนูพุ่งโจมตีเข้ามาไม่หยุด อีกฝ่ายไล่ตามไม่เลิกไม่รา ฉู่สวินหยางกับอิ้งจื่อต่อกรกับพวกนั้นจนเหนื่อยล้า

อิ้งจื่อหันไปมองด้านหลังแล้วกัดฟันพูดว่า  ท่านหญิง ท่านล่วงหน้าไปก่อนเถอะเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าน้อยอยู่กันพวกมันไว้ให้เอง 

พูดจบนางก็ไม่รอให้ฉู่สวินหยางพยักหน้าตอบรับ ดึงบังเหียนม้าเตรียมตัวหันหลังไปทันที

 หาเรื่องตายสินะ!  องค์รัชทายาทหนานฮวาสบถเสียงเย็นชา จากนั้นยิงธนูออกไป

ท่าทางในระหว่างที่อิ้งจื่อหันหลังไปตอนนั้นมันถูกจำกัด นางรู้ดีว่าการหันหลังกลับไปครั้งนั้นมีโอกาสรอดชีวิตเท่ากับศูนย์ นางไม่ได้คิดที่จะหลบการโจมตีนั้น นางเพียงหยิบมีดดาวกระจายที่เหน็บอยู่ข้างเอวขว้างกลับออกไป

 องค์รัชทายาทระวังขอรับ!  ทหารนายหนึ่งตะโกนขึ้นอย่างตกใจ

แววตาขององค์รัชทายาทแน่นิ่ง ตัดสินใจกลิ้งลงจากหลังม้าหลบการโจมตีอย่างว่องไว

ในขณะเดียวกันนั้นเองช่วงเวลาที่พวกเขาสองฝ่ายต่อสู้โจมตีกันไปมาตอนนั้น ลูกธนูที่เขาเพิ่งยิงปล่อยออกไป กำลังตกลงตรงเบื้องหน้าของอิ้งจื่อ

ในภาวะวิกฤตอันตรายเยี่ยงนั้น ฉู่สวินหยางอดไม่ได้ที่จะหันศีรษะแล้วพุ่งเข้าใส่อย่างเต็มแรง ผลักให้อิ้งจื่อตกลงจากหลังม้าจนกลิ้งหลุนไปบนผืนหญ้า

 ท่านหญิง!  อิ้งจื่อหมุนกลิ้งอยู่บนพื้น รีบลุกขึ้นไปตรวจสอบรอยแผลบนไหล่ของฉู่สวินหยาง

ทว่าฉู่สวินหยางกลับไม่สนใจบาดแผลนั้น นางเพียงใช้สายตาอันแหลมคมสาดส่องไปรอบทิศ จากนั้นกระชากตัวอีกฝ่ายดึงเข้าไปในพุ่มไม้ด้านซ้ายแล้วมุ่งหน้าตรงไป

เมื่อพวกนางลงจากหลังม้าไปแล้ว ก็เลิกหวังไปได้เลยว่าจะผ่านการขัดขวางของหลี่เหวยและพรรคพวกไปได้

การประจันหน้ากันมันย่อมใช้ไม่ได้ผลอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นจึงทำได้เพียงยอมเลิกล้มความคิดนั้นไปอย่างเด็ดเดี่ยว

องค์รัชทายาทหนานฮวาเดินเร่งขึ้นหน้าไปสองก้าว หัวเราะขึ้นอย่างเย็นชา ดึงบังเหียนม้าขององครักษ์ข้างกายขึ้นหลังม้าไปอีกครั้ง จากนั้นมุ่งหน้าตามอีกฝ่ายเข้าไปในพุ่มไม้อย่างไม่รีรอ

เฉี่ยนลวี่กับเจี๋ยหงต่างก็ร้อนรนใจเป็นอย่างมาก ทว่าพวกนางกลับตกอยู่ในการโจมตีของหลี่เหวยและพรรคพวกทำให้ไม่สามารถปลีกตัวออกไปช่วยเหลือได้ ขณะที่กำลังกังวลใจอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าใกล้เข้ามาด้วยความรวดเร็ว เมื่อหันหน้าไปมองก็พบเข้ากับฉู่ฉีเหยียน นางรีบพูดขึ้นอย่างไม่รีรอ  ซื่อจื่อ ท่านหญิงเข้าไปทางพุ่มไม้ด้านซ้ายเจ้าค่ะ 

ฉู่ฉีเหยียนเบนทิศทางไปยังพุ่มไม้นั่นโดยไม่ได้ผ่อนฝีเท้าม้าให้ช้าลง

ป่าผืนนี้อยู่มานาน บริเวณกว้างขวางมากนัก แต่เนื่องจากสภาพอากาศทำให้ในป่ามีพุ่มไม้เยอะมาก ซึ่งส่งผลให้การขี่ม้าในนั้นไม่สะดวกเท่าที่ควรนัก

องค์รัชทายาทหนานฮวาไล่ตามไปได้แค่ชั่วครู่ ไม่นานนักก็ต้องยอมทิ้งม้าแล้วเดินเท้าต่อ

 ไป พวกเจ้าทั้งหมดไปทางขวา ปิดเส้นทางด้านขวาเอาไว้ให้หมด ไม่ว่าอย่างไรก็ตามอย่าปล่อยให้พวกนางเข้าใกล้ประตูเมืองเมืองฉู่เด็ดขาด  องค์รัชทายาทหนานฮวาสั่งการเสียงแข็ง พลางชักดาบฟาดฟันลงบนกิ่งไม้ที่ขวางอยู่ออก

พวกทหารองครักษ์รีบมุ่งหน้าไปทางด้านขวาแล้วรวมตัวสร้างกำแพงมนุษย์ขึ้นมา

ด้วยความที่เรี่ยวแรงมีน้อย ฉู่สวินหยางจึงไม่ได้คิดปะทะกับอีกฝ่ายโดยตรง นางทำเพียงแค่ลากจูงอิ้งจื่อวิ่งฝ่าดงป่าไม้ออกไปอย่างชำนาญทาง

นางรู้จักเข้าใจพื้นที่แถบนี้ดี ดูท่าผู้ชายคนนั้นคงโกรธโมโหมากเป็นแน่ จึงเอาแต่ไล่ตามพวกนางไม่หยุดหย่อนแบบนี้ ในเมื่อนางรู้แล้วว่าหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น สู้สลัดพวกเขาทิ้งในป่าผืนนี้ไปมันก็ไม่ใช่เรื่องเหนือบ่ากว่าแรงอะไร

อิ้งจื่อตามติดฉู่สวินหยางไม่ห่าง นางหันไปเฝ้าระวังด้านหลังอย่างแข็งขัน พลางรู้สึกทึ่งที่ฉู่สวินหยางเดินเหินในป่าแห่งนี้ได้อย่างใจเย็น

 ท่านหญิงเจ้าคะ ทิศทางที่จะกลับเมืองถูกพวกมันปิดล้อมเอาไว้แล้ว คนของพวกมันมีมาก หากต้องฝ่าออกไปดูคงจะลำบากมาก ท่านปล่อยให้ข้าน้อยไปล่อมันไว้ แล้วท่านล่วงหน้าออกไปก่อนเถิดเจ้าค่ะ!  อิ้งจื่อลังเลอยู่ชั่วครู่จากนั้นก็พูดเสนอขึ้นมา

 ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นต้องต่อสู้จนตายกันไปข้างหรอก ยังไม่จำเป็นต้องใช้วิธีสุดโต่งแบบนั้น!  ฉู่สวินหยางกล่าวโดยไม่แม้แต่จะหันหน้ากลับมามอง

แต่การที่คนพวกนั้นไล่ตามอยู่มันทำให้นางหงุดหงิดเหลือเกิน นางพยายามคิดวิเคราะห์ด้วยความรวดเร็วแล้วเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา จากนั้นเร่งฝีเท้าให้ไวยิ่งขึ้น

นางพาขบวนคนที่ไล่ตามอย่างไม่หยุดหย่อนพวกนั้นอ้อมอยู่ในป่าไปรอบหนึ่ง เมื่อฉู่สวินหยางคิดว่าถึงเวลาพอเหมาะแล้ว ก็พาอิ้งจื่อหันไปอีกทางพุ่งทะลุออกไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของป่า

ทัศนียภาพตรงหน้าเปิดกว้างขึ้นในทันใด ตรงข้ามมีแม่น้ำลำธารที่ไหลงมาจากภูเขาที่ตั้งตระหง่านอยู่ลิบๆ เมฆหมอกบดบังมองเห็นไม่ค่อยชัดเท่าไรนัก

ส่วนด้านข้างเป็นภูเขาสูงชันตั้งขวางปิดทางอยู่

 ไม่มีทางไปต่อแล้วเจ้าค่ะ  อิ้งจื่อกล่าวพลางขมวดคิ้วไปมองฉู่สวินหยาง

ฉู่สวินหยางยิ้มขึ้นเล็กน้อยแล้วพานางเดินไปทางด้านข้าง ยกมือขึ้นแหวกปัดกิ่งไม้เถาวัลย์บนหน้าผาออก จากนั้นก็เผยให้เห็นเส้นทางเดินเล็กๆ ที่ต้องเดินเลียบภูเขาไปขึ้นมา

ด้านล่างเป็นหน้าผาลึกมากเหลือหลาย ถึงแม้เสียงน้ำไหลจะไม่ดังมากนัก ทว่ามันก็ไม่ได้อ่อนโยนเลยแม้แต่น้อย ทำให้คนที่ได้ฟังรู้สึกพะวงอยู่พอสมควร

 ไปได้หรือเปล่า?  ฉู่สวินหยางถาม

 ได้เจ้าค่ะ!  อิ้งจื่อมองด้านหลังกองเถาวัลย์พวกนั้น หากบอกว่าเป็นถนนเล็กแคบ สู้บอกว่าเป็นที่วางขาข้างหน้าผาที่มีๆ หายๆ เสียจะดีกว่า

 แต่ว่า…เส้นทางนี้เมื่อเข้าไปแล้วจะไปถึงที่ใดหรือเจ้าคะ?  อิ้งจื่อถามขึ้นอย่างสงสัย

 เมื่ออ้อมไปแล้วเดินตรงไปทางทิศใต้ต่ออีกประมาณสองลี้ ก็จะถึงค่ายทหารของพวกหนานฮวา  ฉู่สวินหยางกล่าวแล้วดึงเถาวัลย์พวกนั้นออก ตบก้อนหินบนภูเขาเบาๆ จากนั้นหันไปมองพุ่มไม้ทุ่งหญ้าด้านหลัง  สงครามทางนั้นคงไม่ได้ต่อสู้กันไวขนาดนั้นหรอก ตอนนี้พวกกองทัพทหารหนานฮวาไม่มีใครคอยคุมและสั่งการ เจ้าอ้อมเข้าไปทางนี้ หากหาที่เก็บเสบียงของพวกมันไม่ได้ ก็จุดไฟเผาค่ายทหารของพวกมันไปหน่อย เร่งมือเข้าล่ะ 

อิ้งจื่อคิดอยู่สักพักก็เข้าใจความต้องการของนางทันที ทว่ายังคงไม่วางใจ  แล้วท่านหญิงล่ะเจ้าคะ? เห็นได้ชัดว่าองค์รัชทายาทต้องการเล่นงานท่านให้ได้ หากท่านทำให้เขาขายหน้าต่อประชาชนแบบนี้ เขาคงโมโหมากกว่าเดิมเป็นแน่ 

 เจ้าไปทำตามที่ข้าสั่งก็พอ  ฉู่สวินหยางเบ้ปากแต่ก็ไม่คิดเอามาใส่ใจ  ขอเพียงแค่ทางนั้นเกิดเรื่องขึ้นมา มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับข้าอีกแล้ว เขาสั่งประหารฉางซือหมิงต่อหน้าผู้คน หาเกิดเรื่องเสียหายเกี่ยวกับการทำสงครามครั้งนี้ขึ้นอีกครา เขาเองก็ไม่มีทางรอดไปได้หรอก! 

ในขณะนี้พวกทหารหนานฮวาไม่มีผู้นำคอยสั่งการ หากห้องเสบียงหรือค่ายทหารของพวกมันเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น ต้องโกลาหลวุ่นวายเป็นแน่แท้ พวกทหารที่กำลังทำการสู้รบอยู่ต้องได้รับผลกระทบไปด้วยแน่นอน หากนางไม่ได้ถือโอกาสตอนที่องค์รัชทายาทหนานฮวานั่นไม่อยู่ไปเผาค่ายทหารของพวกมันสักหน่อย นางคงรู้สึกแย่มากที่ตนต้องทนทรมานไปอย่างเสียเปล่าตลอดเวลาตอนที่อาศัยอยู่ในเมืองฉู่นั่น

อิ้งจื่อเองก็ถูกคนพวกนั้นไล่ตามไม่หยุด ด้วยความกดดันจึงฮึดสู้ขึ้นมา นางพยักหน้าตกลงอย่างเป็นห่วง

 งั้นท่านหญิงระวังด้วยนะเจ้าคะ ข้าน้อยจะทำให้สำเร็จไม่เป็นตัวถ่วงให้เสียเรื่องแน่นอนเจ้าค่ะ 

 ไปเถอะ!  ฉู่สวินหยางยิ้มพลางตบไหล่นาง  ภูเขาแถบนี้สูงชันยิ่งนัก ที่วางเท้าไม่ค่อยมั่นคงเท่าไร อย่างไรเจ้าก็ระวังตัวด้วยแล้วกัน 

 เจ้าค่ะ  อิ้งจื่อพยักหน้า จากนั้นก็มุดตัวเข้าไปด้านหลังเถาวัลย์พวกนั้น เมื่อหาที่วางขาได้แล้ว ก็แนบหลังชิดไปบนหน้าผาอย่างระมัดระวัง แล้วค่อยๆ เขยิบตัวเดินไป

ฉู่สวินหยางหยิบเถาวัลย์พวกนั้นลงมาปิดเส้นทางเข้าเอาไว้เหมือนเดิม นางเองก็คร้านที่จะเล่นซ่อนแอบกับอีกฝ่ายต่อ เลยหาก้อนหินสะอาดก้อนหนึ่งนั่งลงพักผ่อนอย่างสบายใจ

———————————–

 

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน