สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 65.1 โหดร้าย (1)

บทที่ 65.1 โหดร้าย (1)

สำหรับผู้ชมชอบคิดการวางแผนในที่มืดและถนัดการอ่านใจผู้อื่น ย่อมมีลางสังหรณ์เช่นนี้ จึงเตรียมพร้อมที่จะชดเชยให้กับแผนการที่ตนได้วางเอาไว้ด้วยชีวิต

ฉู่ซิ่นดื่มยานั้นลงไปแล้วเริ่มรู้สึกเวียนศีรษะ

ยามนี้จิตใจเขาเคว้งคว้างนัก ในใจมีเพียงความรู้สึกไม่สงบและหวาดกลัวอยู่ลึกๆ พยายามที่ฝืนสติเอ่ยถาม

 เจ้าต้องการทำเรื่องอันใดกันแน่? 

 เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้  ฉู่สวินหยางกล่าว เพียงแต่มองเขาแวบหนึ่ง

ท่าทางของนางทำให้คนอยากจะกัดลิ้นตัวเอง

ทำให้มองฉู่สวินหยางไม่ออก…

หลังจากผ่านความเป็นความตายมาครั้งหนึ่ง แม่นางผู้นี้ไม่ได้มีท่าทีหวาดกลัวหรือตระหนกตกใจ ซ้ำยังรู้อีกว่าเขาเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการวางแผนทั้งหมดนี้…

ในแววตาของนางไม่มีแม้กระทั่งความเคียดแค้นใดใด

แต่การกระทำของนางที่เด็ดขาดและโหดร้ายทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาในใจ

เขาพยายามฝืนลืมตาเพื่อให้ตัวเองมีสติอีกสักครู่ ต่อให้ตนถูกจับได้แล้วก็ยังต้องพยายามที่จะถ่วงเวลาเพื่ออ่านใจเด็กสาวที่อยู่เบื้องหน้านี้ให้กระจ่าง

แต่ด้วยยาที่ฉู่สวินหยางนำมานั้นมีฤทธิ์รุนแรงนัก ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่อึดใจเขาก็หลับตาลงท่ามกลางความรู้สึกง่วงงุน

มองฉู่ซิ่นที่เอียงตัวล้มลงบนเตียงคราหนึ่ง ริมฝีปากของฉู่สวินหยางโค้งขึ้นอย่างเย็นชา จากนั้นจึงเดินออกไปด้านนอกอย่างไม่แสดงสีหน้าและไร้อารมณ์

เจี่ยงลิ่วรีบตามออกมา ถามว่า  จะจัดการกับรุ่ยชินอ๋องอย่างไรขอรับ? 

คนผู้นี้เป็นเสมือนเผือกร้อนในมือ

แม้ยามนี้ฉู่สวินหยางและพี่ชายแน่ใจแล้วว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจากคนผู้นี้ทำการชักใยอยู่เบื้องหลังทั้งหมด แต่…

ถ้าหากเป็นไปอย่างที่ฉู่ซิ่นพูดไว้อย่างเมื่อสักครู่เล่า…

พวกเขาไม่มีหลักฐาน

รอให้ชัดเจนกระจ่างแจ้งในใจมากกว่านี้ แต่หากไม่มีหลักฐาน ต่อให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โตจนถึงฮ่องเต้ ก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่ถูกลากลงไปร่วมเคราะห์กรรมครั้งนี้ได้

 เขา?  ย่างก้าวของฉู่สวินหยางหยุดชะงักลง แล้วหันกลับไปมองแสงไฟด้านหลังที่ส่องออกมาจากในเรือน พูดเรียบเรื่อยว่า  ส่งเขากลับเมืองหลวง 

 หา?  เจี่ยงลิ่วตะลึงงัน ตั้งตัวไม่ทันเล็กน้อย

 ตอนนี้เขาเป็นเพียงคนที่ไร้ประโยชน์คนหนึ่ง ให้เขาอยู่ที่นี่ แล้วยังต้องให้เปิ่นกงและพี่ชายมาปรนนิบัติเขาอีกหรือ?  ฉู่สวินหยางกล่าว น้ำเสียงเย็นเยียบ ทว่ากลับจับไม่ได้ถึงความรู้สึกใดใดในน้ำเสียงนั้น นางเพียงสั่งการราวกับเป็นหน้าที่การงานปกติ เปรียบเทียบกับในยามปกติที่มักจะหัวเราะ โมโห ดุด่า สีหน้าท่าทางต่างๆ ของฉู่สวินหยางในตอนนี้ราวกับเป็นคนละคน

คราแรกที่เห็นนางในลักษณะเช่นนี้ เกรงว่าแม้เจี่ยงลิ่วที่เข้าใจในตัวนางอย่างยิ่ง แม้จะรู้ว่านี่ไม่ใช่ท่าทีในยามปกติของนาง ก็ยังรู้สึกแปลกประหลาดยิ่งนัก แต่เมื่อเห็นนางตัดสินใจเด็ดขาด เหี้ยมโหด สั่งการอย่างสงบนิ่ง ก็ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจอีกแล้วหรือไม่คิดต่อต้านแต่อย่างใด

เจี่ยงลิ่วตะลึงงันอยู่บ้าง ฉู่สวินหยางกลับไม่ได้ใส่ใจ เปลี่ยนหัวข้อสนทนาและถาม  บ่าวรับใช้ในเรือนหลังนี้เล่า? 

 ล้วนถูกควบคุมตัวเอาไว้ทั้งหมดและกักขังตัวเอาไว้ที่เรือนด้านข้างขอรับ  เจี่ยงลิ่วตอบ

ฉู่สวินหยางเดินย้อนกลับมา เดินได้สองก้าวและชะงัก จากนั้นจึงสั่งการว่า  ไปจัดการทั้งหมดให้เรียบร้อยเถอะ 

 ขอรับ  เจี่ยงลิ่วพยักหน้ารับคำ

ฉู่สวินหยางครุ่นคิดอึดใจหนึ่งแล้วถามว่า  สวีเหลียงเล่า? 

 ถูกจับกุมเอาไว้แล้วเช่นกันขอรับ  เจี่ยงลิ่วร้องฮึเสียงเย็นด้วยแววตาถากถาง  โชคดีที่ท่านหญิงและคังจวิ้นอ๋องส่งข่าวทันที พวกเราจึงได้ป้องกันพวกเขาเอาไว้ได้ทันท่วงที หาไม่แล้ว…ที่พวกเราเสียเวลาไปมากมาย ก็คงไม่แคล้วถูกเจ้าคนลวงโลกผู้นั้นหลอกลวง 

ฉู่สวินหยางส่งเสียงพรืดหนึ่งออกมาไม่แสดงความเห็น ไม่ตอบอันใด ยกแขนเสื้อขึ้นมองดูพระจันทร์ที่อยู่ไกลแสนไกลอย่างไร้ขอบเขตนั่น

สวีเหลียงเป็นพ่อบ้านของจวนรุ่ยชินอ๋อง เป็นข้ารับใช้ข้างกายที่ติดตามฉู่ซิ่นมาเป็นเวลาหลายปี ย่อมต้องซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อฉู่ซิ่นอย่างยิ่ง เรื่องนี้ดูออกได้จากการที่ฉู่ซิ่นมากระทำการเรื่องสำคัญในแคว้นฉู่ก็ยังให้ติดตามมาด้วยราวกับเป็นเงาตามตัวที่ขาดไม่ได้

แต่เมื่อตอนกลางวันที่เห็นฉู่ซิ่นตกอยู่ในมือของนางและฉู่ฉีเฟิงนั้น สวีหยางกลับคิดจะหลบหนีเอาตัวรอดไปเพียงคนเดียวในเวลาที่คับขันที่สุด

จุดนี้ คิดอย่างไรก็ไม่ถูกต้องสำหรับข้ารับใช้ที่จงรักภักดีต่อนายเช่นเขา

ดังนั้นฉู่ฉีเฟิงจึงได้สั่งการให้ปล่อยคนโดยเจตนา ให้เขาหลบหนีแต่สุดท้ายก็ติดตามเขามาจนถึงที่นี่

 พูดขึ้นมาแล้วก็ลำบากพวกเขาที่ต้องวางแผนการมากมายถึงขั้นนี้  หลังจากที่นิ่งเงียบไม่พูดอันใดอยู่เนิ่นนาน จากนั้นฉู่สวินหยางจึงค่อยๆ รวบรวมความคิดจากเหตุการณ์ในตอนกลางวัน  คิดดูแล้วไม่ผิด เมื่อมีความคิดทะเยอทะยานเช่นนี้ วางแผนการไว้ครอบคลุมทุกอย่าง หากไม่ใช่ว่าทุกๆ จุดสำคัญนั้นมีการรองรับการเปลี่ยนแปลงเอาไว้แต่แรกแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอุปสรรคขึ้นในจุดใดเพียงจุดเดียว ย่อมเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาต้องเสียแรงเปล่าในทันที เขาจะหลบซ่อนอยู่นี่โดยที่ไม่มีความประหลาดใจแม้แต่น้อย 

‘รุ่ยชินอ๋อง’ ในแคว้นฉู่ท่านนั้น ได้รับการตรวจสอบแล้วว่าต้องยาพิษ รวมไปถึงองครักษ์ที่เฝ้ารักษาเมืองและขุนนาง มักจะมีผู้คนมาสอบถามสถานการณ์ของเรือนอื่นเสมอ เพื่อให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น คนผู้นั้นจึงจำเป็นต้องนอนหลับ

ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการปิดบังอำพรางสายตาผู้คน ผู้ที่ทำการบงการอยู่เบื้องหลังจึงต้องอยู่อีกสถานที่หนึ่ง

เมื่อคิดว่าสองพี่น้องเกือบจะต้องตายอยู่ที่นี่ทั้งคู่ เจี่ยงลิ่วแทบจะสะอึกสะอื้นออกมา

แต่เขากลับจนปัญญาที่จะแสดงความรู้สึกของตนในยามนี้ออกมา จึงได้แต่ทำหน้าเคร่งขรึม

 คนที่อยู่ที่นี่จัดการให้เรียบร้อยทั้งหมด แล้วจึงไปนำตัวข้ารับใช้ในเรือนอื่นออกมา ถ่ายทอดคำสั่งของเปิ่นกง นำกำลังพลสามพันนายคุ้มกันรุ่ยชินอ๋องกลับเมืองหลวง  ฉู่สวินหยางไม่อยากจะสนใจเขาเช่นกัน นางเดินไปข้างหน้าไม่หยุดพร้อมกับสั่งการไปด้วย  และให้กราบทูลฝ่าบาทว่า ใต้เท้าเหยียนหลิงได้ทำการตรวจอาการให้เขาแล้ว พิษชนิดนี้ยังหายารักษาไม่ได้ แต่ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพนัก ร่างกายของท่านอ๋องยังแข็งแรงดียิ่ง เพียงแต่ต้องดูแลเอาใจใส่อย่างละเอียด เขาจะได้อยู่จนถึงแก่กรรมด้วยโรคชราเป็นแน่ 

เจี่ยงลิ่วฟังแล้วรู้สึกงงงวยอยู่บ้าง

ฉู่สวินหยางกลับไม่เอ่ยอันใดอีก เพียงแต่มีรอยยิ้มเย้ยหยันอยู่บนริมฝีปาก

นางไม่ได้หาวิธีการจัดฉู่ซิ่นไม่ได้ และใช่ว่าจะวิธีการที่เหมาะสมมารายงานต่อฝ่าบาทหลังจากเขาตายลงไม่ได้ เพียงแต่…

ชีวิตของคนผู้นี้ไม่มีความหมายอีกแล้ว

ในทางกลับกัน เขายังมีชีวิตอยู่จะดียิ่งกว่า

และต้องเป็นการมีชีวิตอยู่เหมือนคนตายเช่นนี้…ต้องอยู่ต่อไปเช่นนี้

เพราะขอเพียงรุ่ยชินอ๋องไม่ตายหนึ่งวัน ตำแหน่งโหวนี้ก็จะต้องอยู่บนศีรษะของเขา

ต่อให้เขาเป็นน้องชายแท้ๆ ของฮ่องเต้ ฮ่องเต้ย่อมต้องยินดีเมื่อเห็นเช่นนี้…

เพราะหากเป็นเช่นนี้ จวนรุ่ยชินอ๋องก็จะตกอยู่ในกำมือของเขา

ภาพลักษณ์ของรุ่ยชินอ๋องที่ปฏิบัติต่อฝ่าบาทนั้นคือความซื่อสัตย์จงรักภักดี แต่ตำแหน่งของเขาปรากฏอยู่ที่นั่น ความหวาดระแวงในใจของฮ่องเต้นั้นหนักหนาสาหัสยิ่ง ด้วยเหตุที่เมื่อครั้งนั้นเพื่อให้เขาได้ขึ้นครองราชย์ ฉู่ซิ่นได้เสียสละมากมายทำให้เขาต้องมอบตำแหน่งและเกียรติยศให้กับน้องชายผู้นี้ ทว่าในขณะเดียวกัน…

—————————

 

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน