สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – ตอนที่ 23.5

ตอนที่ 23.5

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2 – บทที่ 23.5 บุ่มบ่ามบุกมาข่มขู่ถึงบ้าน (5)
บทที่ 23 บุ่มบ่ามบุกมาข่มขู่ถึงบ้าน (5)
โดย
Ink Stone_Romance
เพราะว่าหลัวฮองเฮาไม่ถูกกับคนแซ่ฟาง และถึงแม้ในราชสำนักฉู่อี้อันกับหลัวเหว่ยจะไม่มีอะไรผิดใจกัน แต่สมาชิกฝ่ายหญิงของทั้งสองตระกูลกลับไม่คบหากัน

ท่านหญิงสวินหยางมาเยือนถึงจวนอย่างกะทันหัน คนรับใช้ทั้งจวนตระกูลหลัวจึงต่างประหลาดใจกันไม่น้อย แต่ก็ยังคอยปรนนิบัติรับใช้อย่างพิถีพิถัน

ฮูหยินรองหลัวรู้สึกเหมือนตนเองกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมาได้แล้ว รอยยิ้มบนหน้าจึงเยือกเย็นมากขึ้น แต่เพิ่งจะเข้าไปในเรือนที่สองก็เจอสาวใช้วิ่งมาหาอย่างตื่นตระหนก

“ฮูหยินรอง ทำไมท่านถึง…” สาวใช้พูดไปได้เพียงครึ่งเดียวก็สังเกตเห็นฉู่สวินหยางยืนอยู่ข้างๆ จึงหยุดพูดไปทันที

ฮูหยินรองหลัวสีหน้าแปลกไปและตำหนิเสียงเย็นชาว่า “ตะโกนโหวกเหวกทำไม? ไร้มารยาทอย่างนี้ หากล่วงเกินท่านหญิงเข้าเจ้าได้แย่แน่!”

“เจ้าค่ะ ข้าผิดไปแล้ว!” สาวใช้รีบก้มหน้ากล่าวขอโทษ แต่นางกลับไม่รู้จักฉู่สวินหยาง

ฮูหยินรองหลัวเปลี่ยนเป็นสีหน้าเปื้อนยิ้มแล้วมองฉู่สวินหยางอีกครั้ง พูดว่า “ท่านหญิง ข้าต้องกลับไปจัดการธุระที่เรือนสักหน่อย คงไม่ได้ไปหาอวี่ก่วนเป็นเพื่อนท่านแล้ว แม่นมหง เจ้านำทางท่านหญิงไปเถอะ!”

“ฮูหยินรองตามสบายเถอะ!” ฉู่สวินหยางพยักหน้าแล้วยิ้มเล็กน้อย

“เชิญเจ้าค่ะ ท่านหญิง!” แม่นมหงก้าวเข้ามาหาอย่างนอบน้อมและนำฉู่สวินหยางเดินต่อไปในเรือนที่สาม

สาวใช้ตรงนั้นยังยื่นศีรษะมองตามหลังฉู่สวินหยางไปอย่างอยากรู้อยากเห็น แล้วพึมพำว่า “ฮูหยินรอง คุณหนูบ้านไหนหรือเจ้าคะ? ข้าเหมือนไม่เคยเจอมาก่อนเลยเจ้าค่ะ”

“จะถามมากขนาดนั้นไปทำไม?” ฮูหยินรองหลัวเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ และจ้องนางอย่างเย็นชา “ข้าบอกไปแล้วไม่ใช่หรือว่าถ้าไม่มีธุระไม่ต้องมาหา?”

“คือนายหญิงของพวกเรา นาง…” สาวใช้พูดจาอ้ำๆ อึ้งๆ

“เอาล่ะ เอาล่ะ ไปเถอะ!” ฮูหยินรองหลัวเอ่ยแทรกนางอย่างรำคาญ แล้วเดินไปอีกฝั่งหนึ่งของสวนดอกไม้

จวนของตระกูลหลัวมีอาณาบริเวณกว้างขวาง เรือนสี่ประสานที่เชื่อมต่อกันถึงห้าเรือน ทำให้พื้นที่ทั้งจวนแบ่งออกเป็นห้าส่วน ถือว่าเป็นจวนที่ใหญ่โตอันดับต้นๆ ในเมืองหลวงเลยก็ว่าได้

พอเดินผ่านห้องยามตรงเรือนที่สอง แม่นมหงก็ให้เตรียมเกี้ยวแทนการเดิน และคอยติดตามอยู่เป็นเพื่อนตลอดทางจนกระทั่งส่งฉู่สวินหยางถึงเรือนที่สี่ที่หลัวอวี่ก่วนพักอาศัยอยู่

“ที่นี่เป็นที่พักของคุณหนูหลัวอวี่ก่วนของพวกเราเจ้าค่ะ” แม่นมหงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม พลางจะเดินนำฉู่สวินหยางเข้าไป

“ข้าเข้าไปเองก็ได้ แม่นมกลับไปคอยรับใช้ฮูหยินรองเถอะ” ฉู่สวินหยางยิ้มทีหนึ่ง พูดว่า “จำไว้ว่าอีกครึ่งชั่วยามให้คนมารับข้าก็พอ!”

แม้แม่นมหงยังไม่ค่อยวางใจนัก ทว่าแอบสังเกตนางแล้วไม่เห็นพิรุธอะไรแม้แต่น้อย จึงยอมพยักหน้ารับคำในที่สุด

ฉู่สวินหยางก้าวเข้าไปในเรือน

ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายพอดี แต่ในเรือนนี้กลับเงียบสงบ เหมือนคนรับใช้ถูกไล่ออกไปหมด

ฉู่สวินหยางเดินตรงเข้าไปตลอดทางจนมาถึงทางเข้าโถงบุปผา[1] ก็ได้ยินเสียงข้างในเหมือนหลัวอวี่ก่วนเพิ่งตื่นจากนอนกลางวัน นางหาวอย่างขี้เกียจแล้วเรียกว่า “เซียงเฉ่า ตักน้ำมาให้ข้า!”

ฉู่สวินหยางยิ้มมุมปากแล้วก้าวเข้าไป

เพราะว่าอยู่ในเรือนของตนเอง หลัวอวี่ก่วนจึงนอนบนเตียงที่วางอยู่ตรงมุมหนึ่งในโถงบุปผา เวลานั้นนางนั่งอยู่อย่างงุนงงและงัวเงีย ได้ยินเสียงเปิดประตูจึงเงยหน้าขึ้น พอเห็นว่าจู่ๆ ฉู่สวินหยางกับบ่าวรับใช้ก็ปรากฏตัวอยู่ตรงประตู นางจึงเบิกตาโตทันที ตาสว่างในทันใด

“ทำไมเป็นเจ้า?”

“เหมือนข้าจะมาได้ถูกเวลาพอดี แม่นางหลัวอวี่ก่วนตื่นแล้วหรือ?” ฉู่สวินหยางเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางๆ นางยกชายกระโปรงเดินเข้ามาอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วเลือกนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่แสงแดดส่องถึงใกล้ประตู

หลัวอวี่ก่วนหน้าดำคร่ำเครียดในชั่วพริบตา นางสวมรองเท้าแล้วลงมาจากเตียง พลางเอ่ยอย่างโมโหว่า “ที่ข้าถามเจ้าล่ะ ที่นี่บ้านข้า แล้วเจ้าเข้ามาได้อย่างไร?”

นางเอ่ยพลางถลาออกไปตะโกนเสียงดังข้างนอกว่า “เข้ามาหน่อย? เซียงเฉ่า? เจ้าไปตายอยู่ที่ไหน?”

“แม่เจ้าขอร้องให้ข้ามา เกรงว่าต่อให้เจ้าอยากส่งแขกก็คงทำไม่ได้” ฉู่สวินหยางเพียงแค่อมยิ้มมุมปากและมองนางอย่างเยือกเย็น แต่พูดไปได้เพียงครึ่งเดียวก็เปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นในทันใด และสีหน้านางก็ลุ่มลึกขึ้นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวเช่นกันว่า “และเจ้าก็น่าจะรู้ว่าหากข้าไม่มีธุระข้าคงไม่มา แล้วถ้าเจ้าจะเรียกคนรับใช้เข้ามาอีกหลายคน ข้าก็ไม่ถือสา…หากเจ้าไม่กลัวคนนอกได้ยินเรื่องที่พวกเรากำลังจะคุยกันเช่นกัน”

ถึงแม้หลัวอวี่ก่วนจะมั่นใจว่านางจับผิดอะไรไม่ได้ แต่ได้ยินแล้วก็ยังรู้สึกลังเลไปชั่วครู่และเอ่ยอย่างระมัดระวังว่า “เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?”

“ข้าคิดจะทำอะไร เจ้าต้องรู้ดีอยู่แก่ใจอยู่แล้ว” ฉู่สวินหยางแค่มองนางแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “แม่นางหลัวอวี่ก่วน เจ้าทั้งได้อยู่ในที่อุ่น ฐานะร่ำรวย ใช้ชีวิตสุขสบาย และเป็นอิสระ แต่แม่นางฮั่วยังถูกขังอยู่ในคุกของศาลาว่าการพระนคร!”

หลัวอวี่ก่วนรู้สึกว้าวุ่นใจ นัยน์ตาของนางฉายแววกระวนกระวาย แต่ก็ฝืนทำตัวสงบนิ่งเยือกเย็นได้ในทันใด นางเชิดหน้าขึ้นว่า “แล้วเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับข้าด้วย? ข้าไม่เข้าใจว่าเจ้ากำลังพูดเรื่องอะไร?”

“เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ?” ฉู่สวินหยางย้อนถาม ขี้เกียจจะอธิบายให้นางฟังอีกเหมือนกัน จึงยกมือขึ้นมาทันที

ชิงเถิงส่งห่อยาที่ถืออยู่ในมือมาตลอดให้แก่ผู้เป็นนาย ฉู่สวินหยางพลิกไปพลิกมา แล้วก็สะบัดมือทิ้งห่อยาลงบนเตียงที่หลัวอวี่ก่วนนอนเมื่อครู่ พลางสั่งเสียงเฉียบขาดว่า “พูดตรงๆ แล้วกัน เรื่องของหลัวส่วงให้จบกันแค่นี้ แล้วเจ้าไปจัดการให้เรื่องนี้สงบซะ!”

หลัวอวี่ก่วนเบิกตากว้างมองนางอย่างไม่อยากเชื่อ อึกอักอยู่นานด้วยไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไร

“แล้วเจ้าก็ไม่ต้องคิดหาเหตุผลให้เหนื่อยเปล่า เพราะข้าก็ไม่ได้อยากรู้ว่าพวกเจ้าวางแผนอะไรบ้าง ข้าแค่ต้องการให้เรื่องนี้จบเพียงเท่านี้!” ฉู่สวินหยางเอ่ย พลางเลิกหางคิ้วสูงชำเลืองมองห่อยาที่ทิ้งอยู่บนเตียง “เจ้าแค่เอาห่อนี้ไปซ่อนในห้องที่หลัวส่วงเคยอยู่ก็พอ เรื่องอื่นเจ้าไม่ต้องยุ่ง ง่ายมากใช่หรือไม่?”

นางพูดทิ้งท้ายแค่สองประโยคก็ปัดกระโปรงแล้วลุกขึ้นจะไปเหมือนไม่อยากอยู่ต่อแล้ว

หลัวอวี่ก่วนยังงงไม่หาย อย่างไรนางก็ไม่เชื่อว่าฉู่สวินหยางจะรู้ว่าพวกนางวางแผนนี้อย่างไร แต่เจ้าเด็กบ้านี่กลับบุ่มบ่ามบุกมาข่มขู่นางถึงบ้านงั้นหรือ?

น่าประหลาดเสียจริง!

“ฮั่วชิงเอ๋อร์ฆ่าพี่ห้าของข้า เวลานี้คนที่อยากให้นางชดใช้ด้วยชีวิตคือท่านลุงของข้า เกรงว่าท่านหญิงสวินหยางมาหาผิดคนแล้ว แล้วเจ้าเอาอะไรมาคิดว่าคนเช่นข้าจะต้องเชื่อฟังคำสั่งเจ้า ช่วยให้นางผู้หญิงสารเลวนั่นพ้นผิดด้วย?” หลัวอวี่ก่วนเอ่ยอย่างโมโหเดือดดาล

“เจ้าจะปฏิเสธข้าก็ได้ แต่หากข้าให้คนอื่นมาคุยกับเจ้า อย่างไรเจ้าก็ต้องตอบตกลงอยู่ดี ดังนั้นจำเป็นต้องทำให้เรื่องยุ่งยากขึ้นด้วยหรือ?” ฉู่สวินหยางเบ้ปากและมองนางอย่างมีเลศนัย

รอยยิ้มนั้นงดงามจับตา ทว่าหลัวอวี่ก่วนเห็นแล้วกลับรู้สึกหนาวสะท้านอย่างบอกไม่ถูกจนต้องระวังตัวเต็มที่

“เจ้าก็น่าจะรู้เช่นกันว่าข้าสนิทกับซื่อจื่อจวนอ๋องฉางซุ่น ต้อง…ให้ข้าเชิญเขามาคุยกับเจ้าหรือ?” ฉู่สวินหยางเอ่ยช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ

หลัวอวี่ก่วนเซไปในทันใด นางหน้าซีดเผือดและถอยหลังไปก้าวหนึ่งทันที

————————————

[1] โถงบุปผา คือ ห้องรับแขกนอกเหนือจากห้องโถงใหญ่ มักตั้งอยู่ในสองเรือนที่ขนาบข้างเรือนหลักหรือกลางสวนดอกไม้

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

สวินหยาง ยอดหญิงไร้พ่าย ภาค 2

Status: Ongoing

วังหลวงโรยแสงกับสุราพิษหนึ่งจอก พี่ชายฝาแฝดสละชีพ สีเลือดชโลมลาน ตระกูลรัชทายาทถูกประหารยกครัว

โลหิตย้อมคม เทียนแดงร่ำไห้ เขาว่า จะไม่มีใครบนโลกนี้ล่วงรู้ฐานะแท้จริงของเจ้า เจ้าก็รั้งอยู่ข้างกายข้าอย่างสบายใจเถอะ

นางเป็นกากเดนในราชวงศ์ก่อน ฉากนองเลือดครั้งนี้ ก็แค่อุบายสวยหรูที่อ้างชื่อของความรัก!

นางฟื้นตื่นจากฝันร้าย ลืมตาอีกครั้ง…

นางยังเป็นองค์หญิงสวินหยางผู้ไร้เทียมทานคนเก่า

บิดาผู้ชุบเลี้ยงยังมี ชายผู้เป็นพี่ยังอยู่เคียงข้าง ทุกสิ่งทุกอย่าง ยังไม่สายเกินแก้

นางรวบรวมไพร่พล สวมชุดนักรบกรุยทางแห่งอำนาจ นางจะพลิกบัลลังก์ด้วยคมดาบเปื้อนเลือดในมือ

ของของนาง นางจะปกป้อง

ของที่อยากได้ นางก็จะแย่งมา!

กบฏแห่งใต้หล้า นางมารล่มเมือง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน