แมลงประหลาดที่น่ากลัว
ร่างกายของหานเซิ่นยังคงถูกจำกัดการเคลื่อนไหวจากทั้งกุญแจหัวใจนภาและซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณ ความเร็วในการเคลื่อนไหวของเขาจึงช้าลงอย่างมาก แต่โชคดีที่รองเท้าเขี้ยวกระต่ายไม่ได้รับผลกระทบอะไร ทำให้เขายังสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยความเร็วของดยุก
ในจังหวะที่หานเซิ่นหลบลำแสงสีเงินนั้น ลวดลายสีทองของมดก็ปรากฏขึ้นบนตัวของเขา จากนั้นเขาก็ฟันเข้าใส่แมลงสีเงินที่ดูเหมือนกับแก้ว
เคร๊ง!
หานเซิ่นใช้พลังของมีดและดาบฟันเข้าใส่แมลงแก้วเงินที่เข้ามา แต่ทันใดนั้นม่านพลังโปร่งใส่สีเงินก็ปรากฏขึ้น ทำให้การโจมตีของเขาไม่สามารถไปถึงตัวของมันได้
หานเซิ่นตกตะลึง ร่างกายของเขาเทียบได้กับมาร์ควิสคนหนึ่ง และเขาก็ยังถูกเสริมพลังด้วยเครื่องหมายมดราชินี มันจึงไม่ควรจะเป็นเรื่องยากอะไรในการจัดการกับซีโน่เจเนอิคระดับมาร์ควิสตัวหนึ่ง แต่การโจมตีอย่างเต็มกำลังของเขากลับไม่สามารถทำลายโล่ป้องกันของแมลงแก้วเงินได้ มันเป็นอะไรที่น่าตกใจ
หานเซิ่นใช้ความเร็วของรองเท้าเขี้ยวกระจ่ายเพื่อต่อสู้กับแมลงแก้วเงิน เขาฟันใส่โล่ป้องกันของมันซ้ำๆหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่ได้ผล ม่านพลังของมันทนทานเกินไป แม้แต่พลังของมีดและดาบรวมกันก็ไม่สามารถเจาะทะลวงมันได้
หานเซิ่นตกเป็นฝ่ายที่เสียเปรียบ
ถึงความเร็วของเขาจะได้รับความช่วยเหลือจากรองเท้าเขี้ยวกระต่าย แต่กุญแจหัวใจนภาและซีโนเจเนอิคสเปชเทพโบราณก็ยังส่งผลต่อตัวเขา ทำให้การต่อสู้เป็นไปอย่างยากลำบาก และเขาก็เริ่มที่จะรู้สึกเหนื่อยล้า ร่างกายของเขาปวดไปทั้งตัว เขารู้สึกแย่มากๆ
หานเซิ่นต้องการจะหนีไปจากที่นี่ ขณะที่เขาตัดสินใจได้แล้ว เขาก็สังเกตว่าไห่เอ๋อร์หนีไปเรียบร้อยแล้ว
แมลงแก้วเงินไม่เชื่องช้าเลยสักนิดเดียว มันไล่ตามหานเซิ่นจากด้านหลังพร้อมกับปล่อยลำแสงสีเงินออกมา
หานเซิ่นกัดฟันและวิ่งกลับไปทางน้ำตก มันมีเส้นทางเดียวให้กลับ ซึ่งเป็นเส้นทางที่แคบและไม่มีที่ให้ซ่อนตัวได้ ดังนั้นหานเซิ่นจึงเลือกที่จะเอาตัวรอดในพื้นที่ที่กว้าง
แมลงแก้วเงินกำลังบินอยู่ ดังนั้นหานเซิ่นจึงบินขึ้นเหมือนกับนกฟินิกซ์และฟันใส่ด้านหลังของมัน แต่พลังของมีดและดาบยังคงไม่พอที่จะทำลายโล่สีเงิน
นี่เป็นครั้งแรกที่หานเซิ่นต้องเผชิญหน้ากับซีโน่เจเนอิคที่มีพลังป้องกันสูงถึงขนาดนี้ เขาเชื่อว่ามันต้องเป็นซีโน่เจเนอิคระดับมาร์ควิสกลายพันธุ์ที่โดดเด่นในด้านพลังป้องกัน
หานเซิ่นต่อสู้กับมันไปเรื่อยๆพร้อมกับคอยๆถอยไปหารูปปั้นสีเงิน ถ้าเขาต้องหนีไป เขาก็ไม่คิดจะหนีไปมือเปล่า เขาต้องการจะหาจุดเริ่มต้นแห่งเทพโบราณของรูปปั้นสีเงินนี้ เพราะถ้าไหนๆไม่สามารถฆ่าแมลงตัวนี้ได้แล้ว อย่างน้อยเขาก็จะเอาจุดเริ่มต้นแห่งเทพโบราณกลับไปด้วย
โชคดีที่ภายในรูปปั้นมีหลายเส้นทางให้เขาใช้ ดังนั้นเขาจึงใช้สภาพแวดล้อมเพื่อหลบแมลงแก้วเงินไปเรื่อยๆ แต่มันก็ใช้พลังงานจำนวนมาก และยิ่งเวลาผ่านไปเขาก็เริ่มจะช้าลงเรื่อยๆ
เนื่องจากไม่มีใครอยู่รอบๆ หานเซิ่นจึงเรียกชุดเกราะตงเสวียนออกมา ชุดเกราะตรงเสวียนเริ่มที่จะดูดซับพลังงานจากสภาพแวดล้อมเพื่อเติมพลังให้กับหานเซิ่น แบบนั้นเขาก็จะสามารถต่อสู้ได้เรื่อยๆโดยไม่หมดสติไปจากความเหนื่อยล้า
มันดูเหมือนว่าซีโน่เจเนอิคด้วงเงินที่เขาเจอก่อนหน้านี้คือพวกมันทั้งหมดแล้ว และหลังจากที่เขาฆ่าพวกมันที่อยู่ข้างนอกไป มันก็ไม่มีด้วงสีเงินตัวไหนหลงเหลืออยู่ภายในรูปปั้น
หานเซิ่นวิ่งลึกเข้าไปในอุโมงค์เรื่อยๆ และหลังจากที่ผ่านไป 2 ชั่วโมง เขาก็พบจุดเริ่มต้นแห่งเทพโบราณตรึงอยู่กับกำแพง มันมีสัญลักษณ์ของด้วงไทรโลไบต์อยู่บนแผ่นศิลาพร้อมกับส่องแสงสีเงินออกมา
หานเซิ่นรู้สึกดีใจที่หามันได้พบ เขารีบวิ่งเข้าไปคว้ามันมา
แมลงแก้วเงินโกรธจัด ตอนนี้มันยิ่งอยากจะฆ่าหานเซิ่นมากกว่าเดิม
แมลงและมนุษย์ต่อสู้กันอยู่เป็นเวลานาน แต่หานเซิ่นก็ยังไม่สามารถเจาะทะลวงโล่ป้องกันของมันได้ และเขาก็ถูกลำแสงสีเงินหลายครั้ง ทำให้ชุดเกราะตงเสวียนเริ่มจะได้รับความเสียหาย
หานเซิ่นมีแผนที่จะต่อสู้ จนกระทั่งแมลงแก้วเงินใช้พลังจนหมด แบบนั้นบางทีม่านพลังของมันอาจจะหายไป แต่หลังจากที่ต่อสู้กว่า 10 ชั่วโมง หานเซิ่นก็ใกล้ที่จะหมดแรงเต็มที แต่ม่านพลังของแมลงแก้วเงินยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
มันสายเกินไปที่หานเซิ่นจะหลบการโจมตีครั้งต่อไป และลำแสงสีเงินของแมลงก็พุ่งทะลุตัวของเขาไป
ร่างกายของหานเซิ่นระเบิดออกมาเหมือนกับลูกโป่งน้ำ แต่นั่นเป็นแค่ร่างโคลนที่เขาสร้างขึ้นมาด้วยวิชาจันทรา
และในขณะที่เจ้าแมลงมัวสนใจอยู่กับร่างโคลน หานเซิ่นก็วิ่งหนีออกไปตามเส้นทางที่แคบ และเมื่อพ้นจากสายตาของเจ้าแมลงแล้ว เขาก็ใช้ศาสตร์ตงเสวียนเพื่อซ่อนพลังชีวิตของตัวเองและหยุดเคลื่อนไหว
แมลงแก้วเงินบินไปมารอบๆถ้ำด้วยความโกรธ พร้อมกับส่งเสียงกรีดร้องออกมา
หลังจากผ่านไปสักพัก แมลงแก้วเงินก็บินกลับเข้าไปในรูปปั้น เมื่อเห็นอย่างนั้นหานเซิ่นก็เผยตัวเองออกมาและรีบเดินทางออกมาที่นั่น
แมลงแก้วเงินแข็งแกร่งเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งโล่ป้องกันของมัน นอกซะจากจะใช้ท่าตบขั้นสุดยอด เขาก็ไม่คิดว่าจะสามารถทำลายมันได้
พลังของท่าตบขั้นสุดยอดอาจจะทำลายโล่ป้องกันของมันได้ก็จริง แต่มันก็อาจจะทำลายร่างกายของเจ้าแมลงไปด้วย แบบนั้นเขาก็จะไม่ได้รับผลประโยชน์อะไร ซึ่งถ้ามันเป็นอะไรที่ไม่มีประโยชน์ เขาก็ไม่คิดจะทำมัน
หานเซิ่นออกมาจากรอยแยก และเขาก็พบไห่เอ๋อร์ยืนอยู่ด้านนอก เขาจึงเรียบเปลี่ยนเป็นชุดเกราะมนตรา
“เจ้าวิ่งได้เร็วหนิ” หานเซิ่นมองไห่เอ๋อร์และยิ้มออกมา
ไห่เอ๋อร์ยิ้มและพูด “ข้าเป็นแค่โจรสลัด ข้าไม่ได้เก่งในเรื่องไหนๆ ข้าแค่วิ่งหนีเอาตัวรอดได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่ข้าเชื่อในตัวเจ้า ข้ารู้ว่าเจ้าจะรอดชีวิตกลับมาได้”
หานเซิ่นนั่งลงกับพื้น เขารู้สึกเหนื่อยล้ามากๆ น้ำหนักของกุญแจหัวใจนภาและพลังของซีโน่เจเนอิคสเปชเทพโบราณทำให้เขาต้องใช้แรงมากกว่าปกติ เขาใช้เรี่ยวแรงเกือบจะทั้งหมดกว่าที่จะรอดออกมาได้
“เจ้าจะไปไหนต่อ?” ไห่เอ๋อร์ถามหานเซิ่น ขณะที่นั่งลงตรงกันข้ามกับเขา
“ข้าคิดว่าการร่วมมือของเราควรจะจบลงเท่านี้ หลังจากนี้ไปพวกเราจะแยกทางกัน” หานเซิ่นพูด
“เจ้าโหดร้ายเกินไปแล้ว! นี่พวกเราเพิ่งจะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายมาด้วยกัน” ไห่เอ๋อร์พูด
“เดี๋ยวก่อนนะ เจ้าเพิ่งจะปล่อยให้ข้าตายอยู่หยกๆ อย่าได้พยายามพูดแก้ตัวเลย” หานเซิ่นพูดขึ้นมา
ไห่เอ๋อร์กรอกตาและพูดต่อ “เอาแบบนี้เป็นยังไงข้าจะขอจ้างเจ้าเพื่อไปล่าซีโนเจเนอิค?”
“ข้าไม่สนใจ” หานเซิ่นนอนลงกับพื้นและหลับตา เขารู้สึกปวดกล้ามเนื้อไปหมด
“มีใครบางคนมาที่นี่” จู่ๆไห่เอ๋อร์ก็พูดขึ้นมา
หานเซิ่นรีบลุกขึ้นนั่งและมองไปในทิศทางที่ไห่เอ๋อร์บอก มีคนบางคนกำลังมาทางนี้จริงๆ
“บุดด้า!” หานเซิ่นตกตะลึง
“ไว้พวกเราค่อยพบกันใหม่” ไห่เอ๋อร์หันหลังกลับและวิ่งออกไป เธอลืมเรื่องเกี่ยวกับการร่วมมือกันไปจนหมดสิ้น
“เจ้านี้วิ่งหนีเก่งจริงๆ” หานเซิ่นรู้สึกแย่ เขาเองก็ต้องการจะหนีเช่นกัน แต่เขาเหนื่อยล้าเกินไป เขาเลือกที่จะเก็บแรงเอาไว้เพื่อต่อสู้ดีกว่าพยายามวิ่งหนีไป