วัวหินผา
ซิวซือและดราก้อนหญิงไม่ได้ลดเสียงลง ดังนั้นหานเซิ่นจึงได้ยินสิ่งที่พวกเธอพูดคุยกันอย่างชัดเจน
‘พยายามจะจับฉันไปเป็นสัตว์ขี่เนี่ยนะ? นี่เธอกล้าดียังไง! และถึงฉันจะยินยอม เธอก็จำเป็นต้องมีขาก่อนไม่ใช่หรอ?’ หานเซิ่นสงสัยว่าตัวเองมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ได้ยังไง
ดราก้อนหญิงคนนั้นเป็นระดับมาร์ควิส ส่วนดราก้อนคนอื่นๆดูไม่ต่ำไปกว่าระดับดยุก และด้วยยานรบที่พร้อมใช้งาน การหนีไปดูจะไม่ใช่ทางเลือกที่เป็นไปได้
ปัญหาใหญ่ที่สุดก็คือถ้าหานเซิ่นเปิดเผยตัวขึ้นมา ทั้งทะเลโบราณหวนคืนก็จะพยายามตามล่าตัวเขาและทางออกก็ต้องมีการป้องกันอย่างแน่นหนา ซึ่งการจะหนีไปก็คงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
“ไม่ เราไม่ควรเปิดเผยตัว” หานเซิ่นคิดขณะที่พยายามจะฆ่าเจ้าฉลาม
“ซีโน่เจเนอิคฉลามหินผาระดับมาร์ควิสถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ คุณได้รับวิญญาณอสูรฉลามหินผา”
หานเซิ่นฉีกร่างของฉลามหินผาและกัดกระดูกส่วนที่เป็นยีนซีโน่เจเนอิคเข้าไป หลังจากนั้นเขาก็ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและเริ่มว่ายออกไปอย่างสบายใจ
แต่ซิวซือไม่คิดจะปล่อยเขาไป เธอเคลื่อนตัวเข้ามาขวางทางของหานเซิ่นเอาไว้ด้วยแสงศักดิ์สิทธิ์
หานเซิ่นส่งเสียงร้องมอๆใส่ซิวซือเพื่อแสดงว่าเขาเป็นแค่วัว ซิวซือยิ้มออกมา หลังจากนั้นเธอก็สะบัดมือและปลดปล่อยวงแหวนศักดิ์สิทธิ์มาใส่หานเซิ่น
หานเซิ่นพยายามจะกัดวงแหวนด้วยเขี้ยวของวัวหินผา แต่เมื่อวงแหวนพุ่งเข้ามา มันก็ขยายใหญ่ขึ้น มันครอบผ่านหัวของหานเซิ่นและหดตัวลงรอบๆคอของเขา
หานเซิ่นส่ายหัวและพยายามจะกำจัดมันออกไป แต่วงแหวงศักดิ์สิทธิ์นั้นรัดแน่น แม้แต่ร่างกายวัวหินผาที่ทรงพลังก็ไม่สามารถทำลายมันได้ มันดูเหมือนจะเป็นวิชาจีโนพิเศษเฉพาะของเผ่ากาน่า
ขณะที่หานเซิ่นกำลังสงสัยว่าควรจะใช้พลังของตัวเองเพื่อทำลายมันดีไหม เขาก็ได้ยินเสียงประหลาดดังมาจากซิวซือ
หานเซิ่นไม่เคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อน มันไม่ได้เป็นภาษาที่เจาะจง แต่เขาเข้าใจความหมายของมัน มันเป็นโทนเสียงที่โน้มน้าวให้เขาเชื่อฟังเธอ และมันยังคงแฝงไปด้วยการข่มขู่
มันเป็นอะไรที่ซับซ้อน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างหานเซิ่นสามารถเข้าใจมันได้
‘วิชาจีโนของกาน่าช่างแปลกประหลาดจริงๆ น่าเสียดายที่สถานล้างบาปแห่งสรวงสวรรค์ยังคงอยู่บนดาวอุปราคา ไม่อย่างนั้นเราก็คงจะไปถามพี่น้องกูน่าได้’
หานเซิ่นคิด ‘เนื่องจากในตอนนี้เราหนีไปไม่ได้ งั้นก็แกล้งทำเป็นว่าถูกจับตัวล่ะกัน ด้วยฐานะของซิวซือ บางทีเธออาจจะพาเราออกไปจากทะเลโบราณหวนคืนได้’
ซิวซือสร้างเสียงเหล่านั้นขึ้นมา ขณะที่วงแหวนรัดแน่นขึ้นเรื่อยๆ หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าคอกำลังจะขาด
หานเซิ่นสามารถกำจัดวงแหวนนี้ไปได้ แต่แทนที่จะทำแบบนั้น เขากลับทำท่าเหมือนกับว่าสัตว์ที่เชื่อง เขาส่งเสียงร้องมอๆใส่ซิวซือ
“เจ้าจะติดตามข้าไปไหม?” ซิวซือถามเมื่อเห็นท่าทางของวัวหินผา
“มอ!” หานเซิ่นพยายามทำตัวให้ดูเชื่องที่สุด เขาเดินเข้าหาเธอและถูหัวของเขากับมือของเธอ
หานเซิ่นพยายามนึกถึงท่าทางของจิ้งจอกสีเงินและใช้เทคนิคของมันเพื่อทำให้ตัวเองดูน่ารักที่สุด
ซิวซือพอใจกับท่าทางของหานเซิ่น เธอลูบหัวของเขาและยิ้มออกมา
“จากนี้ต่อไปเจ้าต้องติดตามข้า และเจ้าจะได้รับผลประโยชน์อย่างงาม”
“มอ!” วัวหินผาส่งเสียงมออีกครั้งเพื่อบ่งบอกว่ามันเข้าใจ
“นั่นเป็นวิชาจีโนที่สุดยอดจริงๆ วันนี้ข้าได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างเลย” ดราก้อนไนน์ทีนเอยชม
“โชคดีที่สติปัญญาของวัวหินผาตัวนี้ไม่เลว และลักษณะนิสัยของมันก็อ่อนโยนอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลที่มันเป็นไปอย่างราบรื่น” ซิวซือพูด
วงแหวนรอบๆคอหานเซิ่นเริ่มคายตัว แต่มันไม่ได้หายไป มันยังคงห้อยอยู่รอบๆคอของเขา
‘นี่เป็นวิชาจีโนที่น่าสนใจไม่เบา ถ้าเราเรียนรู้มันได้ การจับซีโน่เจเนอิคก็คงจะเป็นอะไรที่ง่ายขึ้น’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
ซิวซือพาหานเซิ่นกลับขึ้นไปบนยานรบพร้อมกับเธอ หานเซิ่นติดตามเธอไปและพยายามปฏิบัติตัวให้น่ารักที่สุด
ที่หานเซิ่นสามารถแกล้งทำตัวน่ารักได้อย่างเชี่ยวชาญนั้นเป็นเพราะเขามีสัตว์เลี้ยงอยู่หลายตัว ทั้งหมดที่เขาทำก็คือเลียนแบบการกระทำของพวกมัน
“ซิวซือ วัวหินผาตัวนี้น่ารักเกินไปจริงๆ ถ้าเจ้าไม่ต้องการมันล่ะก็ ข้ายินดีแลกมันกับสัตว์ขี่ระดับดยุกเลย” ดราก้อนไนน์ทีนพูดขณะที่ลูบคอของหานเซิ่น
หานเซิ่นยังคงปฏิบัติตัวน่ารัก และในดวงตาของเขาก็ดูไร้เดียงสาอย่างมาก
“เจ้าล้อเล่นใช่ไหม? มันก็เป็นแค่วัวหินผาเอง แถมมันยังมาจากทะเลโบราณหวนคืนอีก ข้าจะจับมันอีกตัวให้เจ้าทีหลัง แต่ข้าไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับมาแถวนี้อีกหรือเปล่า” ซิวซือยิ้ม
เมื่อดราก้อนไนน์ทีนได้ยินอย่างนั้น เธอก็ไม่พูดเรื่องนี้อีก เธอยื่นมือออกไปลูบหัวของวัวหินผาอีกครั้ง
“ไนน์ทีน มันยังมีสถานที่อื่นที่พวกเรายังไม่ได้ไปค้นหาอีกไหม?” ซิวซือเปลี่ยนเรื่อง
“ข้าค้นหาบนดาวดวงนี้จนทั่วแล้ว แต่ข้าคิดว่าหานเซิ่นคงจะหนีออกไปแล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นพวกเราก็คงหาเขาพบแล้ว” ดราก้อนไนน์ทีนพูด
เนื่องจากพวกเธอกำลังพูดถึงเขาอยู่ ดังนั้นหานเซิ่นจึงนั่งลงข้างๆซิวซือเพื่อฟังที่พวกเธอคุยกัน
ซิวซือขมวดคิ้วและพูด “เขาหนีออกไปจากทะเลโบราณหวนคืนได้ยังไงกัน?”
“บางทีเขาอาจจะมีพลังในการเทเลพอร์ตหรือมีสมบัติพิเศษบางอย่าง ไม่อย่างนั้นเขาจะมาโผล่ที่นี่ตั้งแต่แรกได้ยังไง?”
ดราก้อนไนน์ทีนพูด “หานเซิ่นแข็งแกร่ง เขาฆ่าทั้งชารอนและพี่เธอร์ทีน นอกจากนั้นเขายังหนีรอดจากพี่ฟิฟทีนและหลงอิ๋งอีก ข้ากลัวว่าคงจะมีแต่พี่ใหญ่ของพวกเราเท่านั้นที่จะจัดการกับเขาได้”
ซิวซือขมวดคิ้ว “ข้าได้สืบเรื่องของหานเซิ่นมาพอสมควร เขาเสมอกับไผ่เดียวดายในการประลองภายในปราสาทนภา เขาเป็นอัจฉริยะ มีคนในระดับเดียวกันไม่มากที่จะต่อกรกับเขาได้”
“ฮ่าๆ เขาก็แค่โชคดีที่ยังไม่ได้เผชิญหน้ากับพี่ใหญ่ของข้า” ดราก้อนไนน์ทีนพูด
“ดราก้อนวันนั้นคือคนที่เก่งกาจที่สุดในเผ่าดราก้อน เขาเป็นผู้นำของดราก้อนทั้งหมด แน่นอนว่าเขาต้องแข็งแกร่งกว่า” ซิวซือพูด
“แต่หานเซิ่นหนีไปได้ ถ้าพี่ใหญ่มาที่นี่เพื่อต่อสู้กับเขาด้วยตัวเอง เขาก็ต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน” เมื่อพูดถึงดราก้อนวัน ดราก้อนไนน์ทีนก็ดูกระตือรือร้นขึ้นมา ดูเหมือนว่าเธอจะนับถือเขาอย่างมาก
ซิวซือและดราก้อนไนน์ทีนยังไม่มีแผนจะเดินทางออกจากทะเลโบราณหวนคืน พวกเธอยังพยายามค้นหาต่อไป
ซิวซือเชื่อว่าหานเซิ่นยังอยู่ที่ไหนสักแห่งแถวๆนี้ ถ้าดราก้อนไนน์ทีนเป็นออกคำสั่งล่ะก็ พวกเขาก็คงจะเดินทางออกจากที่นี่ไปนานแล้ว