ตอนที่ 3101 ต่อสู้ด้วยมือข้างเดียว
หมัดปีศาจหยกของตู้เทียนหยู่นั้นเป็นวิชาประสานยีนของยีนเรซเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งพลังของยีนเรซเอ็กซ์คลูซีฟระดับเทพเจ้านั้นจะเหนือกว่าพลังของยีนเรซระดับเทพเจ้าทั่วๆไป
แต่ไม่ว่าหมัดของตู้เทียนหยู่จะทรงพลังขนาดไหน เขาก็ยังคงถูกหยุดเอาไว้โดยหมัดสีแดงนั่น เขาไม่สามารถเข้าไปในห้องได้
ทุกคนรู้สึกตกใจเมื่อเห็นว่าถึงแม้ตู้เทียนหยู่จะพยายามใช้พลังทั้งหมดโจมตี แต่เขาก็ยังคงถูกหยุดเอาไว้นอกประตู ความแข็งแกร่งของหานเซิ่นเป็นสิ่งที่อยู่เหนือจินตนาการของพวกเขา
“น่าสนใจ” มิสเตอร์ก็อตวันพูด เขายืนดูเทียนหยู่ต่อสู้กับหมัดสีแดงด้วยความสนใจ
ซิตูย่ารู้สึกตกใจยิ่งกว่าคนอื่นๆ เพราะยิ่งหานเซิ่นแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ โอกาสที่เขาจะช่วยชีวิตเฟิงเฟยเฟยสําเร็จก็ยิ่งสูงมากเท่านั้น ซึ่งสําหรับเธอแล้วนี่เป็นข่าวร้ายมากๆ
ภายในห้อง พลังสีแดงและลมปราณมังกรสีม่วงของหานเซิ่นรวมกันเป็นหนึ่งเดียว เขาใช้มือข้างหนึ่งเพื่อหยุดตู้เทียนหยู่เอาไว้นอกประตู ขณะที่มืออีกข้างกําลังดึงเส้นไหมทองแดงออกมาจากอกของเฟิงเฟยเฟย
ขณะที่เส้นไหมทองแดงถูกดึงออกมาทีละเส้นๆ เงาดอกบัวที่อยู่ใต้ผิวหนังของเธอก็ค่อยๆมัวลงไป ดวงตาของเฟิงเฟยเฟยค่อยๆกลับมาดูกระจ่างใสอีกครั้ง
“เขากําลังทําอะไร?” เฟิงเฟยเฟยเริ่มจะรู้สึกตัว ทันใดนั้นเธอสังเกตเห็นร่างกายของตัวเองที่ถูกกําลังห้อมล้อมไปด้วยแสงสีแดงและสีม่วงของหานเซิ่น เขาดูเหมือนกับเทพปีศาจ มันทําให้นางรู้สึกตกใจอย่างมาก
เมื่อเธอรู้สึกถึงสิ่งที่กําลังเกิดขึ้น เธอก็ตกใจยิ่งกว่าเดิม
“ขุนนางเลือดพระเจ้า…. เขาเป็นขุนนางเลือดพระเจ้า…”
เฟิงเฟยเฟยเห็นหานเซิ่นกําลังยื่นกําปั้นที่ถูกปกคลุมด้วยแสงออกไปเพื่อหยุดตู้เทียนหยู่เอาไว้ที่นอกประตู โดยที่ดวงตาของเขาไม่แม้แต่จะเหลียวไปมอง ดวงตาของเขาจับจ้องมาที่หน้าอกของเธออยู่ตลอดเวลา
“หน้าอก” ในตอนที่เฟิงเฟยเฟยคิดแบบนั้น เธอก็หน้าแดง เธอเห็นเส้นไหมทองแดงกําลังถูกดึงออกมาจากอกของเธอ และเธอก็รู้สึกตัวว่าหานเซิ่นกําลังช่วยชีวิตเธออยู่
เธอทั้งรู้สึกเขินอายและประหลาดใจ หานเซิ่นใช้มือเพียงข้างเดียวเพื่อหยุดยอดฝีมืออย่างตู้เทียนหยู่เอาไว้นอกประตู และในขณะเดียวกันเขาก็มีเวลามาช่วยดึงพลังประหลาดที่พยายามจะช่วงชิงชีวิตเธอออกไปอีก แถมเขายังดูสบายๆราวกับว่านี่เป็นแค่เศษเสี้ยวของพลังที่แท้จริงของเขา นั่นเป็นอะไรที่น่ากลัว
“เขาเป็นใครกัน? เขามาเป็นเพื่อนกับเซียวหยินได้ยังไง?” เฟิงเฟยเฟยเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
ด้านนอกประตู ตู้เทียนหยู่ทําการรวมร่างกับเทพสปิริตเพื่อจะขับเคลื่อนโลหิตชีพจรเทพสปิริตจนถึงขีดจํากัด มันทําให้ร่างกายของเขาดูเหมือนกับเทพสปิริตที่จุติลงมา ตัวของเขาเรืองแสงแห่งเทพที่ทรงพลัง ทุกหมัดของเขาดูเหมือนจะแบกพลังที่สามารถทําลายทั้งท้องฟ้าและผืนดิน
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่สามารถเข้าไปในห้องได้ มันทําให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจ ทั้งหมดที่พวกเขาทําได้ก็คือยืนดูอยู่ห่างๆ
“หานเซิ่นเป็นใครกันแน่? เขาต่อสู้กับขุนนางเลือดพระเจ้าได้ยังไง? เขาเองก็เป็นขุนนางเลือดพระเจ้าเหมือนกันอย่างนั้นหรอ?”
“ไม่มีทาง ข้าไม่เคยได้ยินว่ามีขุนนางเลือดพระเจ้าที่ชื่อหานมาก่อน”
“ถ้าเขาไม่ใช่ขุนนางเลือดพระเจ้า แล้วเขาจะต่อสู้กับตู้เทียนหยู่ที่รวมร่างกับเทพสปิริตได้ยังไงกัน?”
“สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นอะไรที่แปลกประหลาดเกินไป หานเซิ่นคนนั้นเองก็ลึกลับมากๆ”
ทันใดนั้นเสียงของเฟิงเฟยเฟยก็ดังออกมาจากห้อง “นายน้อยได้โปรดหยุด หานเซิ่นกําลังช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของข้า เขาไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายอะไร ทุกคนได้โปรดคอยอยู่ข้างนอก เมื่อข้าหายดีแล้ว ข้าจะออกไปขอบคุณทุกคน”
หลังจากที่ได้ยินเสียงของเฟิงเฟยเฟย เพิ่งหยินหยินก็ดีใจอย่างมาก “น้าเป็นยังไงบ้าง?”
“เซียวหยิน เจ้าไม่จําเป็นต้องกังวล หานเซิ่นกําลังรักษาน้าอยู่” เสียงของเฟิงเฟยเฟยดังออกมาจากภายในห้องอีกครั้ง
ทุกคนดูแปลกใจยิ่งกว่าเดิมเมื่อได้ยินแบบนั้น หานเซิ่นต่อสู้กับตู้เทียนหยู่โดยที่ทําการรักษาเฟิงเฟยเฟยไปพร้อมๆกัน นั่นเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อ
หลังจากที่ได้ยินทั้งหมดนี้ เทียนหยู่ก็ขมวดคิ้ว ดวงตาของเขาลุกโชนด้วยแสงแห่งเทพ แต่เขาไม่ได้ทําการโจมตีอีก
“คุณหาน คุณเก่งมากจริงๆ วันนี้ไม่ค่อยเหมาะที่พวกเราจะมาต่อสู้กัน พวกเราค่อยมาต่อสู้อีกครั้งในวันข้างหน้า” ตู้เทียนหยู่มองไปที่ประตูเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหันหลังกลับและเดินจากไป
การต่อสู้นี้ทําให้หานเซิ่นกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงภายในเมืองกําแพงหยก ถึงมันจะไม่ได้เป็นข่าวที่แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง แต่มันก็ไปถึงหูคนระดับสูงหลายคน
แน่นอนว่าสําหรับคนที่ไม่ได้เห็นเรื่องทั้งหมดนี้ด้วยตาตัวเองแล้ว เรื่องนี้ฟังดูเหมือนเป็นเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมา เพราะยังไงซะถึงหานเซิ่นจะมีบลัดโกสต์สปิริต แต่เขาก็ไม่มีทางจะทํารักษาเฟิงเฟยเฟยและต่อสู้กับขุนนางเลือดพระเจ้าอย่างตู้เทียนหยู่ในเวลาเดียวกันได้
แต่นอกจากหานเซิ่นจะมีบลัดโกสต์สปิริตแล้ว เขายังมีโฮลี่เหวินไวท์เดียร์ และเขายังได้มอบไข่ยีนแมลงแปดเสียงกลายพันธุ์ให้กับเพิ่งหยินหยินอีก มันทําให้ผู้คนรู้สึกสงสัยในตัวตนที่แท้จริงของเขา พวกเขาตั้งใจจะไปดูร้านค้าออนไลน์ของหานเซิ่นเพื่อดูว่าเขายังมียีนเรซอะไรวางขายอีกบ้าง
แต่ผลลัพธ์นั้นทําให้พวกเขาต้องผิดหวัง ร้านของหานเซิ่นมีไข่ยีนแปดเสียงกลายพันธุ์วางขาย แต่ราคาของมันสูงเกินไป มันจึงไม่คุ้มค่ากับราคาที่ถูกตั้งเอาไว้ นอกจากนั้นแล้วร้านของหานเซิ่นก็มีแค่ไข่ยีนระดับไวเคานต์และเอิร์ลเท่านั้น ถึงพวกมันจะหายาก แต่พวกมันก็ไม่ได้เป็นของดีอะไร มันจึงมีเพียงบางคนเท่านั้นที่ซื้อไข่ยีนจากร้านของเขา
ภายในคฤหาสน์ของตระกูลกงซู กงซูจื่อเห็นชื่อหมิงเดม่อนเรซที่ดูเหมือนกับเฟิงเฟยเฟย ปล่อยควันสีดําออกมา และหลังจากนั้นมันก็ไม่ได้ดูเหมือนกับเฟิงเฟยเฟยอีกต่อไป มันกลับไปเป็นรูปปั้นทองแดงที่ไร้ใบหน้าอีกครั้ง ร่างกายของกงซูจื่อชักกระตุกและเขาก็กระอักเลือดออกมา
“เป็นไปไม่ได้ นั่นมันเป็นไปไม่ได้ ใครกันที่ทําลายพลังของซือหมิงเดม่อนเรซ?” ดวงตาของกงซูจื่อเต็มไปด้วยความแปลกใจ
“นายท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” คนรับใช้แก่เข้าไปช่วยพยุงกงซูจื่อ
“ข้าไม่เป็นอะไร ไปหาซิตูย่า และถามนางว่ามันเกิดอะไรขึ้น” กงซูจื่อผลักคนรับใช้แก่ออกไป และออกคําสั่งด้วยความโกรธ
แต่ทันใดนั้นชิตูย่าที่เขาพูดถึงก็เปิดประตูเข้ามาข้างในด้วยความร้อนรน
“นี่พลังของซือหมิงเดม่อนเรซถูกทําลายอย่างนั้นหรอ?”
“นี่เฟิงเฟยเฟยคนนั้นทําอะไร?” กงซูจ่อถามอย่างโมโห
ใบหน้าของซิตูย่าดูเหี่ยวเฉาเมื่อรู้ว่าพลังซื่อหมิงเดม่อนของกงซูจือนั้นถูกทําลาย เธอบอกเรื่องที่หานเซิ่นสามารถต่อสู้กับตู้เทียนหยู่ ขณะที่รักษาเฟิงเฟยเฟยไปพร้อมๆกัน
ซิตูย่าไม่ได้อยู่ดูจนกระทั่งเฟิงเฟยเฟยออกมา ด้วยความตื่นตระหนกเธอรีบวิ่งมาหากงซูจือ
สีหน้าของกงซูจื่อเปลี่ยนไป “นี่หานเซิ่นเก่งกาจถึงขนาดนั้นเลย?”
“ตอนนี้พวกเราจะทํายังไงกันดี? เฟิงเฟยเฟยไม่มีทางที่จะปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ” ซิตูย่ารีบถาม
ใบหน้าของกงซูจ่อบิดเบี้ยว หลังจากคิดอยู่สักพัก เขาก็พูดขึ้นว่า “ไม่ต้องกังวลไป ข้ามีวิธีที่จะทําให้พวกเขาถูกฆ่าโดยที่ไม่มีที่ให้กลับ”
“วิธีอะไร?” ซิตูย่าถาม
“สตีลซีนนั้นต้องการซือหมิงเดม่อนเรซและยีนเรชอื่นๆของข้ามาโดยตลอด ข้าไม่อยากจะทําการแลกเปลี่ยนกับเขา แต่ดูเหมือนว่าครั้งนี้ข้าจําเป็นต้องทํา” กงซูจื่อพูดต่อด้วยความอาฆาต
“ลูกชายของข้าถูกฆ่าตาย มันไม่มีประโยชน์อะไรอีกแล้วที่ข้าจะเก็บยีนเรชพวกนี้เอาไว้ ถ้าสตีลซีนช่วยพวกเราฆ่าสองคนนั้นได้ ข้าก็ยินดีที่จะมอบพวกมันให้กับเขา”
“สตีลซีนที่คุณพูดถึงคือขุนนางเลือดพระเจ้าของเมืองไอซ์สโนว์อย่างนั้นหรอ?” ซิตูย่าทั้งตกใจและดีใจ
กงซูจื่อพูดพร้อมกับกัดฟันของเขา “ใช่ ด้วยความช่วยเหลือจากสตีลซีน ถึงแม้หานเซิ่นจะเอาชนะตู้เทียนหยู่ได้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไร ต่อหน้าสตีลซีนเขาจะต้องตาย”