ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด – ตอนที่ 360 ข้าจะไม่ทิ้งเจ้า / ตอนที่ 361 ชีวิตของเซียวเหยี่ยนสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น

ตอนที่ 360 ข้าจะไม่ทิ้งเจ้า / ตอนที่ 361 ชีวิตของเซียวเหยี่ยนสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น

ตอนที่ 360 ข้าจะไม่ทิ้งเจ้า

 

 

หลิงอวี้จื้อจับมือเขาขึ้นมาแนบหน้าตนเอง

 

 

“อาเหยี่ยน ท่านรู้สึกไหม ข้าอยู่ตรงนี้”

 

 

“ข้าไม่เป็นอะไร อวี้จื้อ เจ้าอย่ากลัว ข้าไม่เป็นอะไรจริงๆ”

 

 

เซียวเหยี่ยนรวบรวมแรงพูดกับหลิงอวี้จื้อ เห็นได้ชัดว่ากำลังฝืนตัวเองอยู่

 

 

“ข้าจะไม่ทิ้งเจ้า”

 

 

หลิงอวี้จื้อพยักหน้าติดต่อกัน

 

 

“ข้ารู้ ข้ารู้อยู่แล้ว ท่านเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ยมบาลเห็นท่านยังต้องอ่อนข้อถอยให้เก้าสิบลี้ จะเอาตัวท่านไปได้อย่างไร ดีขึ้นบ้างหรือยังเพคะ”

 

 

เซียวเหยี่ยนชี้ริมฝีปากตัวเอง เสียงต่ำมาก

 

 

“ตรงนี้ร้อน”

 

 

หลิงอวี้จื้อจ้องเซียวเหยี่ยนเขม็ง เวลาเช่นนี้ยังรู้จักหยอกเธออีก เธอไม่พูดพร่ำทำเพลง โน้มตัวลงไปจุมพิตริมฝีปากของเซียวเหยี่ยน

 

 

ริมฝีปากของเซียวเหยี่ยนร้อน ส่วนริมฝีปากของหลิงอวี้จื้อเย็น หนึ่งร้อนหนึ่งเย็นเกี่ยวพันกัน

 

 

เซียวเหยี่ยนหลับตาลง ไม่ขยับเขยื้อนแล้ว เห็นเซียวเหยี่ยนปิดตา ดูเหมือนหลับไปแล้ว หลิงอวี้จื้อก็ถอนริมฝีปากออก รู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เซียวเหยี่ยนตื่นขึ้นมาเพื่อพูดให้เธอสบายใจ เขารู้ว่าเธอจะเป็นห่วงและหวาดกลัว

 

 

“เซียวเหยี่ยน รีบฟื้นขึ้นมานะ ข้าจะรอท่าน”

 

 

หลิงอวี้จื้อพูดเสียงต่ำข้างๆ หูเซียวเหยี่ยน แล้วเช็ดตัวให้เซียวเหยี่ยนต่อ

 

 

คืนนี้ เธอไม่จากห้องของเซียวเหยี่ยนไปไหน ได้แต่คอยทำซ้ำอยู่แบบนี้ไม่หยุด ไม่อนุญาตให้ใครมาช่วย สุดท้ายเธอก็ไม่รู้ว่าตนเองหลับไปตอนไหน

 

 

ลืมตาขึ้นมาอีกที เธอก็ปีนขึ้นขอบเตียงเซียวเหยี่ยนไปแล้ว เธอนวดต้นคอที่เมื่อยขบ สิ่งแรกที่ทำคือดูอาการของเซียวเหยี่ยน เซียวเหยี่ยนยังคงไม่ได้สติ ยื่นมือออกไปแตะๆ หน้าผากของเซียวเหยี่ยน ยังดีที่ไม่ร้อนเหมือนเมื่อวานแล้ว

 

 

เมื่อคืนนับว่าไม่เสียแรง ไม่มียา ก็ได้แต่ใช้วิธีโง่ๆ แบบนี้แหละ

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นเปิดประตู เดินเข้ามา สีหน้าเป็นห่วง

 

 

“อวี้จื้อ เจ้าออกมากินอะไรหน่อยเถิด ดูสิหน้าเจ้าซีดเซียวไปหมด ท่านอ๋องตื่นมา เกรงว่าคงจำเจ้าไม่ได้”

 

 

“เขาจะกล้าหรือ”

 

 

หลิงอวี้จื้อจ้องเขม็ง

 

 

คราวนี้ทำเอามู่หรงนี่อวิ๋นตกใจ

 

 

“ตอนนี้ช่างกล้าเหลือเกินนะ กล้าพูดเช่นนี้กับท่านอ๋องแล้ว”

 

 

“ใช่สิ ใต้หล้าก็ยังมีคนเช่นข้านี่แหละ เจ้าอิจฉาต่อไปเถิด”

 

 

หลิงอวี้จื้อหิวจริงๆ แล้ว เธอต้องกินอิ่มถึงจะมีแรงมาดูแลเซียวเหยี่ยนต่อ จากนั้นจึงเดินออกไปกับมู่หรงนี่อวิ๋น

 

 

ตอนแรกมู่หรงนี่อวิ๋นเตรียมคำพูดดีๆ เอาไว้มากมาย เพราะกลัวว่าหลิงอวี้จื้อจะไม่ออกไป คิดไม่ถึงว่าคำพูดทั้งหมดนั้นไม่ต้องเอามาใช้

 

 

บนโต๊ะมีปาท่องโก๋หนึ่งจานกับข้าวต้มหนึ่งถ้วย และยังมีซุปเห็ดหูหนูขาวพุทราจีนอีกหนึ่งถ้วย หลิงอวี้จื้อล้างหน้าล้างตาเสร็จก็ถูมือ

 

 

“อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้เชียว นี่อวิ๋น ตอนนี้เจ้าเป็นพยาธิในท้องข้าโดยสมบูรณ์ รู้ความชอบของข้าดีราวกับรู้จักนิ้วมือของตนเอง”

 

 

“อย่างไรเสียพวกเราก็เคยอยู่ด้วยกันมาเช้าเย็นตั้งหลายวัน รีบกินเถิด! เดี๋ยวจะเย็นเสีย”

 

 

“เจ้าละ”

 

 

“นี่กี่โมงกี่ยามแล้ว ข้ากินไปนานแล้ว”

 

 

หลิงอวี้จื้อหยิบปาท่องโก๋แถวหนึ่งมากิน มู่หรงนี่อวิ๋นนั่งตรงข้ามหลิงอวี้จื้อ ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองหลิงอวี้จื้ออยู่อย่างนั้น ดูจากภายนอก นอกจากสีหน้าซีดเซียวแล้ว นางก็ดูไม่ต่างจากปกติ ช่างเป็นสาวน้อยที่มองโลกในแง่ดีเสียจริง ไม่เหมือนบางคนเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทำราวกับฟ้าถล่ม

 

 

เห็นนางเป็นเช่นนี้ มู่หรงวี่อวิ๋นก็ทั้งสงสารทั้งชื่นชม ปกติเขาไม่ชอบผู้หญิงที่เอะอะอะไรก็เอาแต่ร้องไห้อยู่แล้ว

 

 

“อวี้จื้อ เจ้าไม่เป็นอะไรนะ!”

 

 

“ข้าจะเป็นอะไรได้ ฟ้าไม่ได้ถล่ม คนก็ยังอยู่ ควรทำอะไรก็ทำ ข้ายังต้องดูแลอาเหยี่ยน ไม่อยากคิดลบทำร้ายตนเอง เช่นนั้นไม่เป็นผลดีกับใครเลย

 

 

จะเผชิญหน้ากับเรื่องๆ หนึ่งด้วยรอยยิ้มหรือน้ำตา สาระมันก็เหมือนกัน ต่างกันเพียงลักษณะที่แสดงออกมา แต่รอยยิ้มนั้นมีสเน่ห์กว่า ข้าย่อมเลือกเป็นคนมีเสน่ห์อยู่แล้ว”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 361 ชีวิตของเซียวเหยี่ยนสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น

 

 

หลิงอวี้จื้อเคี้ยวปาท่องโก๋ช้าๆ

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมา

 

 

“อวี้จื้อ บางครั้งเจ้าก็พูดจาฟังไม่รู้เรื่อง อายุก็ยังน้อย ไปเอาคำพูดเพ้อเจ้อเหล่านี้มาจากไหน หากเจ้าอยากร้องไห้ ก็มาหาข้าได้ทุกเมื่อ”

 

 

“ร้องไห้บ้านเจ้าสิ”

 

 

“อยู่ดีๆ มาร้องไห้บ้านข้าเพื่ออะไร”

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นถามอย่างใคร่รู้

 

 

หลิงอวี้จื้อเกือบสำลัก นี่เป็นช่องว่างระหว่างยุคสินะ ช่องว่างครอบคลุมระยะเวลาหลายพันปีด้วย จะให้พูดอย่างไรก็ไม่เข้าใจอยู่ดี หุบปากไม่พูดเสียดีกว่า

 

 

เพิ่งซดข้าวต้มไปเพียงนิดเดียว มั่วชิงก็เข้ามาแล้ว พูดเบาๆ ข้างหูหลิงอวี้จื้อว่า

 

 

“คุณหนู เฟิงอิ๋นมาแล้วเจ้าค่ะ”

 

 

ได้ยินชื่อนี้ หลิงอวี้จื้อก็หมดความอยากกินอาหารต่อทันที เธอจัดทรงผมลวกๆ ลุกขึ้นไปต้อนรับ

 

 

เฟิงอิ๋นสวมเสื้อเจี๋ยอ่าวสีแดงชาด เบ้าตาลึก โครงร่างแข็งแรงกว่าผู้หญิงทั่วไป ดูห้าวหาญไปทั่วสรรพางค์กาย

 

 

ส่วนหลิงอวี้จื้อสวมเสื้อเจี๋ยอ่าวสีชมพูอ่อน หน้ากลมๆ น่ารักยิ่ง สองคนมีลักษณะต่างกันโดยสิ้นเชิง ยืนต่อหน้าเฟิงอิ๋น หลิงอวี้จื้อก็เหมือนเด็กน้อยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทั้งสองยืนด้วยกันให้ความรู้สึกเหมือนผู้ใหญ่กับเด็กน้อย

 

 

“เจ้ามาเร็วกว่าที่ข้าจินตนาการไว้เสียอีก ทานอาหารเช้าหรือยัง หากยังไม่ทาน ที่นี่มี กินสักหน่อยก่อนก็ได้”

 

 

“ไม่จำเป็น ข้ามาที่นี่เพราะเหตุใด เจ้ารู้ดี”

 

 

เฟิงอิ๋นเปิดปากก็ปฏิเสธทันที

 

 

“พวกเราเปลี่ยนที่คุยกัน”

 

 

พูดจบก็เดินนำไปก่อน หลิงอวี้จื้อพามั่วชิงตามไป มู่หรงนี่อวิ๋นก็กำลังจะไปด้วย แต่ถูกหลิงอวี้จื้อห้ามไว้ก่อน

 

 

“ผู้หญิงเขาจะคุยเรื่องส่วนตัวกันเจ้าไปทำไม ข้าตามนางมาเอง นี่อวิ๋น เจ้าไปดูท่านอ๋อง”

 

 

“เจ้าห้ามทำเรื่องโง่ๆ เด็ดขาด”

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นเริ่มร้อนใจ

 

 

“ข้ารู้ดีว่าต้องทำอะไร เรื่องนี้ข้าไปคุยเอง”

 

 

พูดจบหลิงอวี้จื้อก็เดินก้าวใหญ่ตามไป ความสามารด้านวาทศิลป์ของเธอ มู่หรงนี่อวิ๋นเคยเห็นมาแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่ได้ตามไปด้วย มีมั่วชิงอยู่ ก็ไม่กลัวว่าเฟิงอิ๋นจะทำอะไร

 

 

บ้านพักอยู่ตรงมุมถนน เฟิงอิ๋นออกจากบ้านพัก เดินไปถึงทะเลสาบใกล้ๆ บ้านพักจึงหยุดเดิน หันหลังให้หลิงอวี้จื้อ พูดอย่างตรงไปตรงมา

 

 

“ข้ามีสมุนไพรเซียนหลินจือในครอบครองจริง ข้าสามารถหยิบสมุนไพรเซียนหลินจือมาช่วยอาเหยี่ยนได้ แต่ข้ามีเงื่อนไขอย่างหนึ่ง”

 

 

“เงื่อนไขอะไร”

 

 

ปากถามไป แต่ในใจก็เดาไว้คร่าวๆ แล้ว

 

 

เงื่อนไขของเฟิงอิ๋นไม่พ้นสองเรื่อง ถ้าไม่เอาชีวิตเธอก็ให้เธอไปจากเซียวหยี่ยน

 

 

อย่างแรกโหดเ**้ยมกว่า ไม่ว่าเฟิงอิ๋นจะยื่นข้อเสนอใด ที่จริงเธอก็จะไม่ปฏิเสธทั้งนั้น

 

 

สำหรับเธอในตอนนี้ ชีวิตของเซียวเหยี่ยนสำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น เธอหวงแหนชีวิต แต่ชีวิตของเซียวเหยี่ยนสำคัญกว่าเธอ หากระหว่างสองคนนี้ สามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้หนึ่งคน เธอยินดีเอาชีวิตของตนเองไปแลกกับชีวิตเซียวเหยี่ยน เมื่อก่อนเคยแสดงแต่ในโทรทัศน์ เธอคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าวันหนึ่ง เธอจะรักใครได้เหมือนกับในบทละคร

 

 

“ข้าอยากให้เจ้าหายไปจากชีวิตเซียวเหยี่ยนโดยสมบูรณ์”

 

 

เฟิงอิ๋นหันกลับมา มองหลิงอวี้จื้ออย่างเยือกเย็น

 

 

“ขอเพียงเจ้าช่วยอาเหยี่ยน ข้าจะเก็บห่อผ้าออกไปจากที่นี่ทันที”

 

 

เฟิงอิ๋นหัวเราะเย็นชาหนึ่งครั้ง

 

 

“จากไปเช่นนี้จะเรียกว่าจากไปได้อย่างไร พอเซียวเหยี่ยนดีขึ้น ก็ย่อมต้องไปหาเจ้า เจ้าพูดเองมิใช่หรือว่าเจ้ากับคุณชายมู่หรงรักใคร่ซึ่งกันและกัน ข้าให้โอกาสนี้กับเจ้า ขอเพียงเจ้าแต่งงานไหว้ฟ้าดินกับคุณชายมู่หรงต่อหน้าข้า แล้วเข้าห้องหอ ข้าก็จะใช้สมุนไพรเซียนหลินจือช่วยเซียวเหยี่ยน เจ้าไม่ต้องมองข้า ของนั้นข้าไม่พกติดตัว”

 

 

หลิงอวี้จื้อนึกไม่ถึงว่าเฟิงอิ๋นจะเสนอเงื่อนไขเจ้าเล่ห์เช่นนี้ ให้เธอไปแต่งงานกับมู่หรงนี่อวิ๋นเนี่ยนะ เธอพยายามสะกดกลั้นอารมณ์โกรธที่อยู่ในใจ

 

 

“เฟิงอิ๋น เจ้าทำเช่นนี้ อาเหยี่ยนก็จะเกลียดชังเจ้านะ”

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

Status: Ongoing

ชีวิตในชาติก่อนต้องจบลงอย่างน่าอนาถเพียงเพราะตกบันไดก็โชคร้ายมากพอแล้ว วิญญาณดาราสาวพราวเสน่ห์อย่างเธอยังต้องมาติดอยู่ในร่างหลิงอวี้จื้อ คุณหนูใหญ่จวนเสนาบดีผู้ใสซื่อทว่าโง่เขลาที่พ่อไม่แลแม่ไม่รัก ถูกวางยาพิษร้ายเตรียมนับถอยหลังรอวันตาย มิหนำซ้ำยังมีคู่หมั้นที่ไม่เคยเห็นหน้าค่าตาพ่วงมาให้เป็นพันธะอีก แต่นับว่าสวรรค์ยังเมตตา บันดาลให้เธอได้พบกับท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการรูปงามนามเซียวเหยี่ยน ที่กล่าวกันว่าเป็นผู้กุมอำนาจตัวจริงเหนือฮ่องเต้น้อยแห่งแคว้นเว่ยตะวันออก เธอจึงต้องงัดลูกไม้สารพัดมาใช้ หวังจะให้เขาเป็นสะพานทำให้ตนกลับสู่ฐานะ ‘คนปกติ’ ทว่าเรื่องราวไหนเลยจะง่ายดายปานนั้น เพราะข่าวลือที่ว่าเหตุที่เขาครองตัวโสดเพราะนิยมไม้ป่าเดียวกันนี่สิ! เช่นนั้นแล้วแผนหว่านเสน่ห์ของเธอจะสั่นคลอนหัวใจเขาได้บ้างหรือไม่หนอ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท