ตอนที่ 458 นอกจากได้ชื่อว่าเป็นพระชายารองแล้ว ข้าก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นมอบให้เจ้า
อยู่ต่อหน้าสาวงามเช่นนี้ ใจของเซียวเหยี่ยนดั่งน้ำนิ่ง ไม่มีความรู้สึกหวั่นไหวแม้แต่น้อย
เขานึกถึงหลิงอวี้จื้อ หากเธออยู่ด้วย คงจะไม่มีทางได้นั่งเงียบๆ เช่นนี้ คงจะกุมมือเขาพูดคุยไม่หยุด
“วันนี้ท่านอ๋องมาเยี่ยมหม่อมฉัน หม่อมฉันรู้สึกเป็นเกียรติมาก เชิญดื่มชาสักถ้วยเถิดเพคะ!”
เสียงของเฉินปี้อ่อนโยน รินชาถ้วยหนึ่งยื่นให้เซียวเหยี่ยน เซียวเหยี่ยนรับชาที่เฉินปี้ยื่นมา แต่ยังไม่ได้ดื่มก็วางลง
“คุณหนูเฉิน วันนี้ข้ามาไม่ใช่เพื่อมาเยี่ยมเจ้า แต่มีเรื่องบางเรื่องที่ต้องบอกเจ้าให้ชัดเจน”
“ท่านอ๋องเชิญกล่าวเพคะ หม่อมฉันฟังอยู่”
เฉินปี้ประพฤติตนอย่างเหมาะสม โน้มตัวมาข้างหน้าเล็กน้อย การกระทำและการพูดของนางไร้ที่ติ ผู้หญิงเช่นนี้ เซียวเหยี่ยนเห็นมามาก พวกนางล้วนได้รับการสั่งสอนมาอย่างดีจากครอบครัว ดีไปทุกอย่าง ขาดอย่างเดียวคือความมีชีวิตชีวา
“คุณหนูเฉิน งานแต่งนี้เป็นเจตนาของไทเฮา ข้าไม่เคยมีเจตนาเช่นนี้
ใจข้ามีคนที่รักอยู่แล้ว
หากเจ้าแต่งงานเข้ามาในจวนของข้า นอกจากได้ชื่อว่าเป็นพระชายารองแล้ว ข้าก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นมอบให้เจ้า
ข้าเองก็ไม่อยากทำให้คุณหนูเฉินเสียเวลา หวังว่าคุณหนูเฉินจะคิดให้ดีๆ หากเจ้าไม่ยินดี ข้าสามารถจัดการให้คุณหนูเฉินออกจากจวนของข้าได้ ไม่ทราบว่าคุณหนูเฉินมีความเห็นว่าอย่างไร”
เฉินปี้เข้าใจความหมายของเซียวเหยี่ยน นางไม่นึกว่าเซียวเหยี่ยนคิดจะกล่อมให้นางยอมแพ้ ซ้ำยังบอกนางตามตรงว่า นอกจากได้ชื่อว่าเป็นพระชายารองแล้ว นางจะไม่ได้อะไรอีก
แม้จะเป็นเช่นนี้ นางก็ไม่เคยคิดจะยอมแพ้ นางอยากแต่งงานกับผู้ชายที่ดีที่สุดในโลกนี้ เซียวเหยี่ยนเป็นผู้ชายเช่นนั้น ทั้งเมืองหลวง เพียงคนเดียวที่เข้าตานางก็คือเซียวเหยี่ยน
ตอนนี้เซียวเหยี่ยนไม่มีใจให้นาง แต่ไม่ได้หมายความว่าต่อไปจะไม่มีใจให้ ยังมีเวลาอีกทั้งชีวิต นางจะต้องมีที่ยืนในใจเซียวเหยี่ยนสักวันหนึ่ง สำหรับตัวนางเอง นางมีความมั่นใจในตนเองเป็นอย่างมาก
เฉินปี้แสดงท่าทีขอโทษ
“หม่อมฉันรู้ว่าท่านอ๋องกับคุณหนูหลิงรักกัน หม่อมฉันก็ไม่เคยคิดจะแทรกกลางระหว่างท่านอ๋องกับคุณหนูหลิง ไทเฮาเป็นผู้ออกพระราชเสาวนีย์นี้ หม่อมฉันปฏิเสธมิได้ ไทเฮาวางยาแก่พี่ชายของหม่อมฉัน ให้หม่อมฉันจงใจเข้าใกล้ท่านอ๋อง ต้องรอแต่งงานก่อนถึงจะได้ยาถอนพิษมาให้พี่ชาย หากหม่อมฉันไม่ปฏิบัติตาม ชีวิตของพี่ชายก็น่าเป็นห่วง”
พูดจบเฉินปี้ก็ลุกขึ้นคุกเข่ากับพื้น พูดด้วยความกังวลใจว่า
“ท่านอ๋อง ท่านวางใจเถิด หม่อมฉันจะไม่ไปขวางกั้นท่านอ๋องกับคุณหนูหลิง รอพี่ชายได้ยาถอนพิษก่อน ถึงตอนนั้นหม่อมฉันจะออกจากจวนท่านอ๋องไปเอง ตอนนี้ข้าวอนขอให้ท่านอ๋องช่วยชีวิตพี่ชายด้วย”
เซียวเหยี่ยนขมวดคิ้ว เขานึกไม่ถึงว่าเพื่อให้เฉินปี้แต่งงานเข้าจวน มู่หรงกวานเย่ว์ถึงกับทำเรื่องเช่นนี้ นางช่างทุ่มเทเสียจริง
“คุณหนูเฉิน ลุกขึ้นเถิด! เจ้าเข้าใจเจตนาของข้าก็ดีแล้ว เจ้าวางใจ เฉินเยี่ยนจะไม่เป็นอะไร”
“ขอบคุณท่านอ๋องเพคะ ความเมตตาของท่านอ๋อง หม่อมฉันจะจำไปตลอดชีวิต หม่อมฉันจะไม่ไปวุ่นวายกับท่านอ๋องและคุณหนูหลิง
รอจนพบโอกาสเหมาะ หม่อมฉันจะออกไปจากจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ หม่อมฉันเข้าใจ ใจของท่านอ๋องมีเพียงคุณหนูหลิง หม่อมฉันก็หวังว่าต่อไปจะได้พบผู้ชายที่ดูแลหม่อมฉันอย่างจริงใจ คราวนี้ถือเสียว่าร่วมมือกับท่านอ๋องเพื่อช่วยพี่ชาย เช่นนี้ดีหรือไม่เพคะ”
การที่เฉินปี้เข้าใจภาพรวมเช่นนี้ เหนือความคาดหมายของเขา มาคราวนี้ เขาก็อยากจะลองหยั่งเชิงน้ำเสียงของเฉินปี้ หากเฉินปี้ไม่ยินดี เขาก็สามารถร่วมมือกับเฉินปี้ ให้งานแต่งงานครั้งนี้ดำเนินต่อไป
เห็นได้ชัดว่ามู่หรงกวานเย่ว์ก็นึกถึงจุดนี้ มิเช่นนั้นคงไม่ลงมือกับพี่ชายของเฉินปี้ ในเมื่อเฉินปี้ก็มีเจตนาจะออกจากจวน เช่นนั้นยิ่งดี รอจนได้เวลาเหมาะสมค่อยหาเหตุผลจัดการให้เฉินปี้ออกจากจวนไป เรื่องนี้ก็จะผ่านไปแล้ว
ตอนที่ 459 ค่อยๆ แย่งเซียวเหยี่ยนกลับมา
“เช่นนั้นทำให้คุณหนูเฉินลำบากใจแล้ว”
น้ำเสียงของเซียวเหยี่ยนอ่อนโยนลงไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าพอใจเฉินปี้
“ไม่ลำบากใจเพคะ ทำให้ท่านอ๋องกับคุณหนูหลิงลำบากใจต่างหาก หากคุณหนูหลิงเข้าใจอะไรผิด หม่อมฉันสามารถไปอธิบายคุณหนูหลิงได้”
เซียวเหยี่ยนปฏิเสธทันที
“ไม่ต้อง นี่เป็นเรื่องของข้า คุณหนูเฉินไม่ต้องแทรกแซง”
“หม่อมฉันพลั้งปากไปแล้วเพคะ”
เฉินปี้รีบพูดขอโทษ
“ข้ายังมีธุระ เชิญคุณหนูเฉินตามสบาย”
เซียวเหยี่ยนพูดจบก็ลุกขึ้น เฉินปี้ลุกขึ้นตาม หันไปทางเซียวเหยี่ยนแล้วโค้งตัว
“ทูลลาท่านอ๋องเพคะ”
ซูฮว่า สาวใช้ประจำตัวของเฉินปี้ประคองเฉินปี้นั่งลง ถามด้วยความสงสัย
“คุณหนู คุณหนูคิดจะออกจากจวนท่านอ๋องหรือเจ้าคะ หากออกไปแล้ว คุณหนูจะทำอย่างไรดีเล่าเจ้าคะ”
เฉินปี้หยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับตรงมุมปาก
“เข้าจวนท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แล้วก็กลายเป็นคนของท่านอ๋อง ข้าจะออกมาอีกได้อย่างไร นอกจากข้าจะตาย นี่เป็นแค่อุบายหน่วงเวลาเท่านั้น
หากข้าไม่ทำเช่นนี้ ท่านอ๋องก็จะเริ่มรำคาญข้า ยังไม่ทันแต่งก็ทำให้สามีรำคาญเสียแล้ว แล้วชีวิตหลังจากนั้นจะอยู่อย่างไร
ตอนนี้ใจท่านอ๋องมีเพียงหลิงอวี้จื้อ ข้าก็ตามเจตนารมณ์ของเขาไปก่อน
ข้าไม่เชื่อหรอกว่าเขากับหลิงอวี้จื้อจะไม่ขัดแย้งกันเลย ผู้หญิงก็เหมือนกันหมด แค่หลิงอวี้จื้อยอมรับข้าไม่ได้ ความขัดแย้งก็มาแล้ว ข้าก็จะสามารถฉวยโอกาสเข้าโจมตียามอ่อนแอได้”
ซูฮว่ายกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมา พูดชมไม่หยุดปาก
“คุณหนูคิดรอบคอบจริงๆ เจ้าค่ะ หากตอนนี้คุณหนูแย่งท่านอ๋องกับคุณหนูหลิงอย่างโจ่งแจ้ง ก็จะไม่ได้เปรียบอะไร ตอนนี้ใจท่านอ๋องมีคุณหนูหลิง ก็ต้องช่วยคุณหนูหลิง”
“ซูฮว่า ถือว่าเจ้ายังฉลาด ต่อหน้าท่านอ๋อง ยิ่งเข้าอกเข้าใจผู้อื่นยิ่งดี
ต้องทำเช่นนี้เท่านั้นข้าถึงจะมีที่ยืน สำหรับหลิงอวี้จื้อน่ะหรือ เจ้ารอดูก็พอแล้ว อีกไม่กี่วันไทเฮาจะจัดงานเลี้ยงมิใช่หรือ ถึงเวลาข้าก็จะได้เจอกับหลิงอวี้จื้อ”
เฉินปี้พูดพลางก็ยิ้มออกมา แววตาล้ำลึก นางเป็นลูกสาวภรรยาหลวง มิได้เป็นอนุนางบำเรอ ตั้งแต่เด็กก็เห็นพวกนางต่อสู้กันทั้งต่อหน้าและลับหลัง ซึมซับไปโดยปริยาย กลยุทธ์ต่างๆ ที่ควรเรียนนางก็เรียนรู้มาหมดแล้ว มิหนำซ้ำมารดาของนางยังสอนสิ่งเหล่านี้ให้นางด้วย
นางรู้สึกว่าหลิงอวี้จื้อไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตน ในเมื่อหลิงอวี้จื้อปัญญาอ่อนมาตั้งสิบกว่าปี นางไม่สามารถมารถแย่งเซียวเหยี่ยนมาจากมือหลิงอวี้จื้อได้ทันทีทันใด นางจะต้องทำให้เซียวเหยี่ยนค่อยๆ ผิดหวังในตัวหลิงอวี้จื้อ จากนั้นก็ค่อยๆ แย่งเซียวเหยี่ยนกลับมา
ถึงเวลานั้นจวนท่านอ๋องก็จะไม่มีที่ให้หลิงอวี้จื้ออยู่ ขอเพียงไม่มีหลิงอวี้จื้อ ตำแหน่งพระชายาเอกก็ต้องตกเป็นของนาง นางมีเวลาอีกทั้งชีวิต ด้วยเหตุนี้นางจึงไม่รีบ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
อดทนเพียงอึดใจ การใหญ่ถึงจะบรรลุ นี่คือสิ่งที่แม่นางสอนไว้ นางไม่ได้มีปณิธานใหญ่โต นางอยากเป็นนายหญิงแห่งจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ นี่คือปณิธานของนางในตอนนี้
“คุณหนูก็ต้องระวังนะเจ้าคะ ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เป็นคนอย่างไร คุณหนูหลิงสามารถกุมหัวใจของท่านอ๋องได้ แสดงว่าคุณหนูหลิงก็ต้องมีจุดที่เหนือกว่าคนอื่น”
“หากนางไม่มีอะไรดีสักอย่าง ท่านอ๋องก็คงไม่ชอบนาง
ตั้งแต่นางฟื้นขึ้นมาแล้ว จวนท่านมหาเสนาบดีก็เกิดเรื่องมากมาย เพียงพอจะพิสูจน์ได้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดา เจอคนแกร่งก็ต้องยิ่งแกร่ง หากเจอคนไร้น้ำยาจริงๆ ก็ไม่สนุกสิ ข้ามีวิธีจัดการนางได้”
เฉินปี้พูดเสร็จก็ลุกขึ้น หาวหนึ่งครั้ง
“ข้าเริ่มเหนื่อยแล้ว ซูฮว่า ประคองข้ากลับห้องเถิด!”
“เจ้าค่ะ คุณหนู”
ซูฮว่าประคองเฉินปี้กลับห้อง หลิงอวี้จื้ออ่านหนังสืออยู่ในห้องอย่างเบื่อหน่าย บอกว่าอ่านหนังสือ แต่ความจริงคืออ่านไม่เข้าหัว ผ่านไปนานแล้วแต่ไม่ได้พลิกกระดาษสักหน้า แช่อยู่ตรงหน้านั้นไม่ไปไหน