บทที่35 ฉันให้คุณได้ทุกอย่าง
พอได้ยินชื่อนี้แล้ว สีหน้าหลานซือเฉินเปลี่ยนไปทันที
เขาเป็นคนไล่เจียงสื้อสื้อเองกับมือ ทำไมไอหลี่เซิ่งถึงไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้เลย?
ตอนนี้บริษัทนี้ก็ซื้อมาแล้ว แต่จิ้นกรุ๊ปกลับมายกเลิกสัญญา แล้วเงิน500ล้านนั้นก็เสียไปเปล่าๆ สิ? ขณะที่หลานซือเฉินกำลังโกรธอยู่นั้น ผู้ช่วยเขาก็เดินเข้าห้องทำงานมาอย่างเร่งรีบ พูดด้วยสีหน้าที่เร่งรีบว่า “ประธานหลาน แย่แล้ว ผู้ถือหุ้นมากันเต็มเลยค่ะ มาคุยกันเรื่องนี้”
หลานซือเฉินสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “เชิญพวกเขาไปรอฉันที่ห้องประชุม”
“ค่ะ”
ผู้ช่วยรับคำสั่งไว้ แล้วก็รีบเดินออกไป
………………………
จิ้นกรุ๊ป ห้องทำงานท่านประธาน
จิ้นเฟิงเหรากำลังอวดกับพี่ชายเขาว่า “ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันว่านะตอนนี้สีหน้าไอคนที่แช่หลานคงแย่มาก พี่ครับเรื่องนี้ผมทำได้ดีเลยใช่ไหมครับ?”
จิ้นเฟิงเฉินค่อยๆ เปิดดูเอกสารไปเรื่อยๆ แล้วตอบกลับไปอย่างนิ่งๆ ว่า “พอใช้ได้นะ”
“อะไรคือพอใช้ได้? พี่จะไม่ชมผมหนักๆ สักหน่อย แล้วให้ผมหยุดสัก3เดือนหรอกครับ?” จิ้นเฟิงเหราถามอย่างสงสัยพร้อมรู้สึกรับไม่ได้
จิ้นเฟิงเฉินมองค้อนใส่เขาไปทีนึง “งานทำไปแค่ครึ่งเดียว ก็คิดอยากจะหยุดต้องรออีกนานเลย”
จิ้นเฟิงเฉินพูดด้วยสีหน้าที่เริ่มรน “ไม่นานนะครับ นานตรงไหน ตามที่ผมเช็กมาแล้วเนี่ย โปรเจ็คต่างๆ ที่หลานซื่อกรุ๊ปทำก่อนหน้านี้ใช้เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทไปจนเกือบหมดแล้วนะครับ รอบนี้ที่หลานซือเฉินใช้ทุน500ล้านซื้อบริษัทที่ไม่มีประโยชน์นั้นไว้ คงจะไปต่อได้ยาก แล้วบริษัทเขาก็จะหมุนเงินไม่ทันแล้วก็เกิดเรื่องขึ้นมา แค่นี้ก็พอแล้วนิครับ”
จิ้นเฟิงเฉินเห็นน้องชายตัวเองกำลังพูดได้ใจ ก็เลยส่ายหน้าแล้วใช้โอกาสนี้บ่นน้อง “เพราะฉะนั้นฉันถึงพูดอยู่บ่อยๆ ไงว่า นายทำอะไรคิดแต่หน้าไม่คิดหลัง ถึงแม้ว่าหลานซือเฉินจะเป็นคนที่ไม่ดีเท่าไหร่ แต่เขาไม่ได้เป็นคนไม่เอาถ่าน ที่นายจริงๆ หรือว่าเขากระจอก ถ้ากระจอกจริงเขาคงไม่ได้ขึ้นมานั่งที่ประธานได้ตั้งแต่อายุยังน้อยหรอก นายอย่าลืมนะว่าเบื้องหลังเขายังมีตระกูลเจียงค่อยช่วย ถ้าหลานซื่อกรุ๊ปเกิดมีเรื่องอะไรขึ้นมา ตระกูลเจียงต้องช่วยอยู่แล้ว”
ถ้ามันแค่นี้ก็ว่าไปอย่าง แต่ฉันกลัวว่าเขาจะทำอะไรเจียงสื้อสื้อหน่ะสิ
จิ้นเฟิงเหราเข้าใจในทันที
จิ้นกรุ๊ปยกเลิกสัญญากับบริษัทX.C.โดยใช้เหตุผลว่าผู้รับผิดชอบโปรเจคไม่ใช่เจียงสื้อสื้อ ดูจากความหน้าด้านของคนที่แช่หลานแล้วเนี่ยเป็นไปได้ที่เขาจะไปหาเรื่องพี่สะใภ้เขาในอนาคต
ก็หมายความว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ แต่เพิ่งเริ่มต่างหาก
พอคิดเรื่องทุกอย่างเสร็จแล้ว ความสงสัยในใจของจิ้นเฟิงเหราก็ลดลงนิดหน่อย แต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกว่าเหมือนโดนหลอกอยู่ตลอดเลย
ทั้งๆ ที่คุยกันแล้วว่าจัดกันเรื่องนี้เสร็จก็จะยอมให้ลาหยุดไม่ใช่หรอ แต่ทำไมถึงรู้สึกว่ากว่าจะได้หยุดมันน่าจะนาน
ไอที่บอกว่าให้หยุด3เดือนเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้นเลย
พี่ชายเขาเป็นคนขี้โกง!
จิ้นเฟิงเหรารู้สึกหงุดหงิดอย่างพูดไม่ออก
พี่เขาเป็นพวกที่ได้เมียแล้วลืมน้อง
จิ้นเฟิงเฉินทำเหมือนว่าไม่รู้ไม่เห็น เขายิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วก็ส่งข้อความให้เจียงสื้อสื้อ “เสี่ยวเป่าบอกว่าวันนี้ไปซื้อไปซื้อผักกับพี่เลี้ยงมา เขาบอกว่าจะเลี้ยงข้าวเธอ คืนนี้ฉันไปรับนะ”
ตอนนี้เจียงสื้อสื้อกำลังเคลียร์เอกสารที่สำคัญของบริษัท พอได้รับข้อความนั้นเธอก็ยิ้มออกมาอย่างสดใสแล้วตอบกลับไปว่า “ได้สิ แต่ว่าฉันต้องกลับไปเปลี่ยนชุดก่อนถึงจะไปได้”
วันนี้เธอทำกาแฟหกใส่ตัวเองตอนเธอกำลังชงกาแฟ ถึงแม้ว่าเธอจะเช็ดทำความสะอาดแล้วแต่มันก็ยังมีคราบอยู่ ถ้าไปด้วยชุดนี้มันน่าเกลียดเกินไป
จิ้นเฟิงเฉินตอบกลับว่า “ได้สิไม่มีปัญหา งั้นเจอกันตอนเย็นนะ”
เจียงสื้อสื้ออมยิ้มเล็กน้อยแต่ไม่ได้ตอบกลับ แล้วเธอก็ทำงานต่อไป
ถึงแม้ว่ามาทำงานที่บริษัทจิ่นซื่อแค่ไม่กี่วัน แต่ว่าเธอชอบบรรยากาศการทำงานของที่นี่มาก เพื่อนร่วงงานที่นี่ดีกับเอทุกคน แถมยังดูแลเธอที่เป็นเด็กใหม่อย่างดีเลย
เพราะฉะนั้น เจียงสื้อสื้อพอใจและรักที่นี่มาก
เวลาผ่านไปไวมาก
พอตกเย็นเจียงสื้อสื้อก็เก็บของแล้วก็กลับไปที่คอนโดทันที
ตอนแรกเธอคิดว่าจะกลับไปเปลี่ยนแค่ชุดแล้วก็ไปหาเสี่ยวเป่าเลย แต่พอเดินออกจากลิฟต์ก็เจอหลานซือเฉินยืนพิงอยู่ข้างประตูห้องเธอ
สีหน้าเขาดูเคร่งเครียดเล็กน้อย เสื้อสูทที่ดูหรูดูแพงถูกถือไว้ในมือ เนกไทที่ผูกอยู่ก็ดูรกๆ กระดุมเสื้อปลดไปสองเม็ด แล้วก็มีบุหรี่ในมืออีก1มวน
เขาคนนั้นที่ดูดีมีสง่าได้หายไปแล้ว
เจียงสื้อสื้อเองก็คาดไม่ถึงว่าจะเจอเขาที่นี่ได้ พอเจอเขาเธอก็ทำหน้านิ่งๆ แล้วค่อยๆ เดินไป
ตอนแรกเธอจะทำเป็นมองไม่เห็น แต่หลานซือเฉินกลับทิ้งก้นบุหรี่ลงมา แล้วใช้เท้าเหยียบให้มันดับ แล้วก็ถามเธอว่า “เธอไปไหนมา ทำไมถึงเพิ่งกลับมา? รู้ไหมว่าฉันรอเธอนานขนาดไหน?”
เจียงสื้อสื้อรู้สึกงงๆ แล้วมองหน้าเขาแบบนิ่งๆ “เราสนิทกันหรอ?”
หลานซือเฉินอึ้งไปสักพัก แล้วรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อย แล้วเขาก็ใช้นำเสียงดีๆ ค่อยๆ พูดกับเธอว่า “สื้อสื้อ……….ยังโกรธฉันเรื่องก่อนหน้านี้อยู่หรอ?”
เจียงสื้อสื้อรู้สึกตลกกับคำพูดเขาเล็กน้อย
ไอคนนี้อยู่ดีๆ ก็โผล่มาที่นี่ แล้วก็พูดอะไรบ้าๆ บอๆ เขาต้องการอะไรกันแน่
“หลานซือเฉินถ้าฉันจำไม่ผิด ฉันเคยพูดไปแล้วนะว่าถ้าเจอกันอีก ก็ทำเหมือนคนไม่รู้จักกันไป นายไปแอบหาที่อยู่ฉันมาฉันก็ไม่ถือแล้วนะ แต่นี่นายยังจะมาหาฉันถึงที่อีก นายต้องการอะไรกันแน่”
เจียงสื้อสื้อพูดกับหลานซือเฉินแบบไม่มีเยื่อใยเลยแม้แต่น้อย
กับผู้ชายคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า นอกจากความเกลียดความชังแล้วไม่มีความรู้สึกใดๆ อีกเลย
หลานซือเฉินมองหน้าเธออย่างสงสัย
ที่วันนี้เขายอมมาหาเธอก็เพราะเรื่องการร่วมงานกับจิ้นกรุ๊ป
ตอนนั้นเขาไล่เธอออกโดยไม่รู้เรื่องนี้ ตอนนี้ทางเดียวที่ทำได้ก็คงขอให้เธอกลับมาทำงาน ถึงจะห้ามเรื่องนี้ได้ เขาคิดว่าการที่เขามาด้วยตัวเองมันแสดงความจริงใจให้เธอเห็นอย่างชัดเจนแล้ว แต่เจียงสื้อสื้อกลับไม่สนใจเขาเลย
หลานซือเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยเขาอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่ก็ต้องแกล้งทำเป็นอ่อนโยนแล้วพูดว่า “สื้อสื้อ นี่เธอเกลียดฉันขนาดนั้นเลยหรอ? ฉันรู้ว่าเธอยังค้างคาใจกับเรื่องตอนนั้นอยู่ แต่ว่าถึงยังไงเราก็โตมาด้วยกัน ถึงไม่ได้เป็นแฟนกันแต่เราก็เป็นเพื่อนกันได้หนิ ฉันไม่อยากตัดขาดกับเธอ หลายปีที่ผ่านมาที่เธอหายตัวไป ฉันจ้างคนให้ตามหาเธอตลอด พอได้เจอเธออีกครั้งฉันก็ดีใจเหมือนกัน แต่ฉันไม่คิดว่าเธอจะทำเรื่องแบบนั้นกับนวลนวล…….. ตอนนั้นก็เพราะโกรธฉันเลยทำแบบนั้นกับเธอ เพราะฉะนั้นเธออย่าถือสาฉันเลยนะ”
น้ำเสียงของเขาดูจริงใจมากบวกกับใบหน้าที่ดูไม่มีพิษมีภัย มันทำให้น่าเห็นใจจริงๆ
ถ้าเป็นเจียงสื้อสื้อคนเก่า เธอต้องเชื่อเขาแน่ๆ
แต่เจียงสื้อสื้อคนใหม่กลับรู้สึกว่ามันน่ารังเกียจมาก
เธอรู้สึกแบบนี้จากใจจริง เธอกำลังคิดว่าผู้ชายคนนี้กินยาผิดมาแน่ๆ ถึงมาพูดอะไรที่มันน่ารังเกียจแบบนี้ออกมา
เป็นแฟนไม่ได้แต่ก็เป็นเพื่อนกันได้นิ พูดออกมาได้ไงกัน
นอกซะจากว่าเจียงสื้อสื้อจะขึ้นคาน ไม่อย่างงั้นแฟนเก่าทุกคนจะเป็นศัตรูทั้งหมด
“ประธานหลาน คุณชายหลาน คุณหลาน ฉันไม่สนิทกับคุณจริงๆ และก็ไม่ได้อยากฟังเรื่องราวในอดีตของเธอ เพราะฉะนั้นเชิญคุณออกไปได้เลยค่ะ ฉันยังมีเรื่องต้องยุ่งอย่ามาทำให้ฉันเสียเวลา”
พอพูดจบเจียงสื้อสื้อก็หยิบกุญแจออกมาเปิดประตูเตรียมเข้าไป
แต่หลานซือเฉินคว้าลูกบิดประตูไว้