ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 71 ตกหลุมพราง

บทที่ 71 ตกหลุมพราง

บทที่ 71 ตกหลุมพราง

ทันใดนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา เธอคือซูซิงหยิง

“เฟิงเฉิน ฉันตามหาคุณตั้งนาน” ซูซิงหยิงเห็นจิ้นเฟิงเฉินก่อนจะเห็นเจียงสื้อสื้ออยู่ด้านข้าง เธอถึงกับสะดุ้งเล็กน้อยเหมือนกับตกใจ “พี่สาวเจียง พี่ก็อยู่ที่นี้เหมือนกันหรอ? พวกคุณ….”

“อ๋อ ฉันกับคุณจิ้นบังเอิญเจอกันค่ะ เราเพิ่งคุยเสร็จ และฉันกำลังจะไปพอดีค่ะ!” เจียงสื้อสื้อพูดอธิบายตามความจริง

เมื่อได้ยินแบบนี้ ถึงแม้บนใบหน้าของซูซิงหยิงไม่เปลี่ยนสีหน้า แต่ในใจแอบรู้สึกว่ามันคงไม่ง่ายดายแบบนี้รางๆ

หรือว่าที่จิ้นเฟิงเฉินปฏิเสธเธอ เพราะผู้หญิงเบื้องหน้าที่ชื่อเจียงสื้อสื้อคนนี้?

เขาชอบผู้หญิงคนนี้หรอ?

ความคิดอันน่ากลัวนี้ปรากฏขึ้นในหัวสมองของซูซิงหยิง เธอส่ายหน้าเล็กน้อย และรู้สึกว่าตัวเองคิดมากเกินไป

ซูซิงหยิงยิ้มและพูดว่า : “แบบนี้นี่เอง! จริงสิ เฟิงเฉิน คุณปู่ให้ฉันมาตามคุณ เขาต้องการแนะนำคนให้คุณรู้จัก”

จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ตอนแรกตั้งใจว่าหากเจอเจียงสื้อสื้อจะไปส่งเธอกลับบ้าน แต่นี้….

ตอนแรกเขาคิดจะปฏิเสธ แต่กลับได้ยินเจียงสื้อสื้อพูดว่า : “คุณซู พวกคุณคุยกันต่อเถอะ ฉันต้องไปหาคุณชายรองจิ้นแล้ว”

พูดจบ เจียงสื้อสื้อก็ก้าวเท้าเดินจากไป

“ไปกันเถอะ เฟิงเฉิน คุณปู่กำลังรอคุณอยู่!”

จิ้นเฟิงเฉินหยุดนิ่งชั่วขณะ แล้วทิ้งม้วนบุหรี่ที่ยังไม่ได้สูบลง จากนั้นก็เดินจากไปพร้อมกับซูซิงหยิง

ระหว่างทาง เจียงสื้อสื้อก็เดินนำหน้าพวกเขา โดยที่พวกเขาทั้งสองคนเดินตามหลังห่างกันระยะหนึ่ง จู่ๆซูซิงหยิงก็จ้องมองร่างเงาของเธอ และพูดว่า : “พี่สาวเจียงสวยมากจริงๆเลย! ดูแล้วเหมาะสมกับน้องชายของคุณมาก พวกเขาสองคนคบกันนานแค่ไหนแล้วค่ะ? ไม่ทราบว่าคุณในฐานะพี่ชายวางแผนจะจัดงานแต่งงานให้กับพวกเขาเมื่อไหร่?”

เมื่อได้ยินแบบนี้ จิ้นเฟิงเฉินก็เปลี่ยนสีหน้าทันที พร้อมปริปากพูดว่า : “เธอไม่ใช่แฟนของเฟิงเหรา”

“อ้าวหรอ?” ซูซิงหยิงสะดุ้งชั่วขณะ และแสร้งพูดว่า : “อยู่ในช่วงตามจีบหรอ งั้นเฟิงเหราต้องสู้ๆหน่อย อย่าพลาดผู้หญิงดีๆแบบนี้ไป”

ซูซิงหญิงสังเกตมองอย่างละเอียด และพบว่าจิ้นเฟิงเฉินมีปฏิกิริยาตอบสนองชัดเจนมาก เขาชอบเจียงสื้อสื้อจริงๆหรอ?

ซูซิงหยิงจ้องมองร่างเงาของเจียงสื้อสื้ออย่างนิ่งๆ พร้อมกำมือไว้อย่างแน่น ไม่ว่าอย่างไร ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นของเธอคนเดียวเท่านั้น!

ถึงแม้คืนนี้จะถูกปฏิเสธ แต่ซูซิงหยิงยังคงเชื่อมั่นว่า ในอนาคตเขาต้องชอบเธอแน่

อย่างที่คุณปู่บอกไว้ว่า ยังมีเวลาอีกยาวนาน

……

เจียงสื้อสื้อเดินหาที่นั่งในงานเลี้ยงตามอำเภอใจ เธอไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงเดินหนีไปอย่างรีบร้อน

ไม่ไกลมาก จิ้นเฟิงเฉินกำลังถือแก้วไวน์พูดคุยกับเหล่านักธุรกิจอยู่ โดยมีซูซิงหยิงยืนอยู่ข้างๆ

เมื่อเห็นฉากนี้ เหมาะสมกันอย่างกิ่งทองใบหยก ประโยคนี้ก็ปรากฏขึ้นในหัวสมองของเจียงสื้อสื้อทันที

ชั่วพริบตาเธอรู้สึกสับสนขึ้นมาเล็กน้อย

ไม่นาน เจียงสื้อสื้อก็ลุกขึ้นเดินไปที่จิ้นเฟิงเหรา และพูดว่า : “คุณชายรองจิ้นค่ะ วันนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย ขอตัวกลับก่อนนะคะ”

“ห่ะ?” ตอนแรกจิ้นเฟิงเหราตั้งใจอยากให้พี่ชายของเขาพาเจียงสื้อสื้อไปส่งที่บ้าน เพราะวันนี้พี่สะใภ้ถูกเขาแต่งตัวจนสวยแบบนี้ ตอนกลับไปไม่แน่ทั้งสองคนอาจมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่ดูจากสถานการณ์แล้วพี่ชายของเขาคงไปไหนไม่ได้แน่ จิ้นเฟิงเฉินเลยพูดว่า : “ได้ งั้นเธอรอฉันข้างนอกแปบหนึ่ง เดียวฉันขับรถไปส่ง”

“ไม่ต้องหรอก คุณอยู่ที่นี้อีกสักหน่อยเถอะ! เดียวฉันเรียกแท็กซี่กลับเอง” เจียงสื้อสื้อไม่อยากรบกวนเขา

“แบบนั้นไม่ได้ ฉันเป็นคนพาเธอมา ฉันก็ต้องพาเธอกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยด้วย!”

จิ้นเฟิงเฉินจะกล้าให้เจียงสื้อสื้อกลับคนเดียวได้ยังไง หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา พี่ชายของเขาคงเอาเขาตายแน่

เจียงสื้อสื้อเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ หลังจากเห็นจิ้งเฟิงเหราเดินจากไป เธอก็เดินตามออกไปด้วย

ซึ่งขณะเดียวกัน เมื่อเจียงนวลนวลที่แอบเฝ้าดูเจียงสื้อสื้อจากที่มืดเห็นฉากนี้ ในดวงตาของเธอก็เผยสายตาเป็นประกายขึ้นแวบหนึ่ง จากนั้นก็ส่งสัญญาณสายตาให้กับผู้ชายของเธอที่อยู่ไม่ไกล

หลังจากที่ผู้ชายคนนั้นได้รับสัญญาณสายตาก็เดินตรงไปที่เจียงสื้อสื้อ

เจียงสื้อสื้อใจลอยเล็กน้อย จนไม่ทันระวังชนเข้ากับคนเบื้องหน้า เจียงสื้อสื้อที่เพิ่งดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็วก็รีบพูดขึ้นว่า : “ขอโทษ ขอโทษด้วยค่ะ คุณไม่เป็นอะไรนะคะ?”

ผู้ชายคนนี้ดูเป็นคนมีอายุประมาณสามสิบ เขามีหน้าตาธรรมดา สวมชุดสูทสีขาวทั้งตัว โดยในมือถือไวน์แดงแก้วหนึ่งอยู่ เพราะไม่ทันระวังถูกเธอชน ไวน์แดงในแก้วทั้งหมดเลยสาดกระจายบนเสื้อผ้าของเขา ซึ่งคราบไวน์แดงจัดกับเสื้อผ้าสีขาวอย่างชัดเจนมาก

“ไม่เป็นไรครับ แค่ชุดสูทสกปรกเองครับ”

ผู้ชายยิ้มแย้ม และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน โดยไม่เอาผิดเจียงสื้อสื้อด้วย ดูแล้วเขามีท่าทางสุภาพบุรุษมาก

“เดียวฉันเอาไปซักให้ไหมค่ะ?”

เจียงสื้อสื้อรู้สึกละอายใจ เขากำลังสนุกสนานกับงานเลี้ยงอยู่ดีๆก็ถูกเธอทำชุดสูทสกปรกแบบนี้ แต่เขากลับไม่มีท่าทีโกรธเคือง แม้กระทั่งคำพูดตำหนิก็ไม่มี

ผู้ชายที่อยู่เบื้องหน้ารู้สึกลังเลเล็กน้อย และพูดว่า : “แบบนั้นก็ได้ครับ งั้นรบกวนคุณเดินตามผมหน่อย ผมจะไปเปลี่ยนอีกชุดหนึ่ง”

เมื่อเจียงสื้อสื้อได้ยินแบบนี้ก็ไม่คิดอะไรมาก รีบเดินตามเขาไป

เมื่อเจียงนวลนวลที่อยู่ไม่ไกลเห็นฉากนี้ เธอก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย เจียงสื้อสื้อ ฉันจะรอดูว่าเธอจะทำยังไง

หลานซือเฉินเองก็เห็นเหมือนกัน เขาเอ่ยปากถามว่า : “ผู้ชายคนนั้นคือคนที่คุณจ้างมาหรอ? คุณคิดจะทำอะไรหรอ?”

เจียงนวลนวลยิ้มแย้ม “พี่ซือเฉิน ไม่ใช่ว่าคืนนี้ค่อนข้างจืดชืดเกินไปหรอกหรอ? ฉันเลยจัดฉากสนุกๆสักหน่อย”

เมื่อหลานซือเฉินได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที

……

งานเลี้ยงจัดที่ห้องโถงชั้นหนึ่ง ส่วนชั้นสองเป็นห้องพักส่วนใหญ่

เมื่อเดินมาถึงประตู ผู้ชายคนนั้นก็หยิบกุญแจเปิดประตูห้อง

เจียงสื้อสื้อพูดว่า : “งั้นคุณเข้าไปเปลี่ยนก่อนล่ะกัน! เดียวฉันรออยู่ตรงนี้”

เมื่อผู้ชายได้ยินแบบนี้ก็มองเธอ พร้อมยิ้มแย้ม

“ในเมื่อมาแล้ว เข้ามานั่งรอสักหน่อยเถอะ?”

“ไม่ดีกว่าค่ะ” เจียงสื้อสื้อพูดปฏิเสธขึ้น

นี่เป็นห้องของผู้ชาย หากเธอเข้าไปยังไงก็ดูไม่เหมาะสม เพราะเธอแค่ต้องการเอาเสื้อแล้วจากไป

หลังจากสิ้นสุดเสียงของเธอ ผู้ชายก็เม้มปากเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงอันตราย

“งั้นก็ช่วยเธอไม่ได้”

หลังจากพูดจบ เขาก็ยื่นมือดึงเจียงสื้อสื้อเข้าไป

เจียงสื้อสื้อสะดุ้งชั่วขณะ เธอแทบไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองเลย กว่าจะดึงสติกลับมาเธอก็เข้ามาในห้องแล้ว

ผู้ชายรีบปิดประตูล็อก แล้วเปิดไฟในห้อง

เจียงสื้อสื้อเผยสีหน้าตกใจช็อก ขณะเดียวกันหัวใจก็เต้นแรง

“คุณจะทำอะไร? เปิดประตู ฉันต้องการออกไป” เจียงสื้อสื้อเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาขึ้น

ความรู้สึกไม่ปลอดภัยยิ่งเกิดความรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆ เธอกำกระโปรงไว้อย่างแน่น พร้อมพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองลง

ผู้ชายยิ้มแย้ม แต่ไม่ได้ยิ้มเหมือนสุภาพบุรุษเมื่อกี้แล้ว เขาหรี่ตามองประเมินเจียงสื้อสื้อ

“ผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกันสองต่อสอง เธอคิดว่าจะทำอะไรล่ะ?”

สิ้นสุดเสียง เขาก็เริ่มดึงเนคไทออก แล้วเดินเข้ามาหาเจียงสื้อสื้อทีละก้าวทีละก้าว

เจียงสื้อสื้อได้แต่เดินถอยหลังทีละก้าวทีละก้าว พร้อมกับเปลี่ยนสีหน้าหวาดกลัว

ผู้ชายคนนี้ตั้งใจชนเธอ เธอตกหลุมพรางแล้ว…

……

ข้างล่างตึก หลังจากจิ้นเฟิงเหราขับรถออกมารอเจียงสื้อสื้ออยู่สักพักใหญ่ แล้วไม่เห็น เขาก็เดินกลับเข้างานเลี้ยงตามหาเจียงสื้อสื้อ

แต่เมื่อเดินหารอบหนึ่ง กลับไม่พบพี่สะใภ้ของตัวเองอยู่ที่ไหน

เธอล่ะ? จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้วอย่างกลุ้มใจขึ้น

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท