ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 258 อดีตถูกเปิดเผย

บทที่ 258 อดีตถูกเปิดเผย

บทที่ 258 อดีตถูกเปิดเผย

ต้องขึ้นไปเรียกเขาไหม?

ขณะที่เจียงสื้อสื้อกำลังลังเลเสียงทุ้มดังเข้ามาในหู

“อรุณสวัสดิ์”

“แดดดี๊” เสี่ยวเป่าเรียกอย่างปลิ้มปิติ

เจียงสื้อสื้อหันหน้ามาก็พบว่าเขาเดินมาอยู่ข้างๆเธอแล้ว เขาโน้มตัวเข้ามาจูบลงที่หน้าผากของเธอพร้อมมองเธอด้วยรอยยิ้ม “อรุณสวัสดิ์ สื้อสื้อ”

เจียงสื้อสื้อรู้สึกราวกับว่าหน้าผากถูกไฟลวก จึงรีบก้มหน้าลง แก้มขาวๆก็แดงขึ้น

การกระทำของเขาช่างดูเป็นธรรมชาติเกินไปราวกับแต่งงานกันมาหลายปีแล้ว

“อรุณสวัสดิ์”

เสียงของเจียงสื้อสื้อค่อนข้างเบา ยังไงซะเธอก็หน้าบาง ไม่สามารถทำได้อย่างเป็นธรรมชาติเหมือนเขากับเสี่ยวเป่าได้

จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ใส่ใจ เขาเชื่อว่าเดี๋ยวเธอจะค่อยๆชินไปเอง

“ชอบอาหารเช้าไหม? จิ้นเฟิงเฉินถาม

บนโต๊ะมีทั้งอาหารเช้าแบบฝรั่งและแบบจีนที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เขาเอาใจใส่ขนาดนี้เธอจะไม่ชอบมันได้อย่างไร?

เจียงสื้ออสื้อยิ้ม “ชอบ แต่วันหลังไม่ต้องเตรียมเยอะขนาดนี้นะ กินไม่หมด”

“อื้ม”

จิ้นเฟิงเฉินช่วยตักโจ๊กมาเธอ “กินเยอะๆนะจะได้หายเร็วๆ”

“แดดดี๊ลำเอียง ตักให้แต่หม่ามี๊ไม่ตักให้ผมเลย”

เสี่ยวเป่าที่ถูกทอดทิ้งแสร้งยู่ปากทำเป็นไม่พอใจ ความจริงแล้วเขามีความสุขมากที่จากนี้ไปหม่ามี๊จะอยู่กับพวกเขาและกินอาหารเช้าด้วยกันทุกวัน

ในที่สุดเขาก็มีหม่ามี๊แล้ว

เจียงสื้อสื้ออนึกว่าเขาเสียใจจริงๆจึงรีบพูดว่า “เสี่ยวเป่าครับ หม่ามี๊ตักให้เอง”

พูดพลาง เธอก็จะไปหยิบถ้วย

“ฉันทำเอง”

จิ้นเฟิงเฉินจับมือเธอแล้วส่งสายตาไปที่เสี่ยวเป่า

เสี่ยวเป่ากล่าวอย่างรวดเร็วว่า “หม่ามี๊ครับ ผมแค่พูดเล่นๆเอง ผมไม่ได้เสียใจอะไร”

เจียงสื้อสื้อหัวเราะอย่างช่วยไม่ได้

“ผมไม่มีทางเสียใจหรอกครับ ผมมีความสุขจะตายที่หม่ามี๊กินอาหารเช้าพร้อมกับผมกับแดดดี้”

เมื่อเห็นเสี่ยวเป่ายิ้มอย่างสดใส เจียงสื้อสื้อก็อดที่จะยิ้มไม่ได้ หัวใจของเธอก็รู้สึกถูกเติมเต็ม

“กินไข่สักฟองสิ”

จิ้นเฟิงเฉินวางไข่ปอกเปลือกแล้วไว้บนจานของเธอ

เจียงสื้อสื้อเหลือบมองไข่จากนั้นก็หันไปมองเขา

ที่แท้หัวใจก็เปี่ยมไปด้วยความสุข

แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาตกลงบนพื้นบนโต๊ะ ในอากาศอบอวนด้วยกลิ่นหอมของอาหาร บางครั้งเสียงหัวเราะอย่างร่าเริงของเสี่ยวเป่าก็ดังขึ้นทำให้บรรยากาศอบอุ่นมากๆ

เจียงสื้อสื้อเงยหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความสุข

แบบนี้ช่างดีจัง

แม้ว่าจะเคยบอกกับพ่อบ้านว่าให้ลดปริมาณอาหารทั้ง 3 มื้อลงหน่อย แต่ดูเหมือนคำว่าน้อยของพ่อบ้านกับเธอจะต่างกัน อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการยังคงถูกเตรียมมามากมาย เพราะเธอกลัวว่าถ้ากินไม่หมดจะเสียของ เธอจึงกินอย่างอิ่มหนำทุกครั้ง

นอกจากเล่นเป็นเพื่อนเสี่ยวเป่าแล้ว เวลาที่เหลือเธอไม่นอนก็กินตลอด ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเธอคงจะถูกขุนจนอ้วนแน่ๆ

แต่ชีวิตแบบนี้มันสบายมากจริงๆ ถ้าหากเป็นไปได้เธอก็อยากจะอยู่แบบนี้ตลอดไป

……

“อะไรนะ? เจียงสื้อสื้อเข้าไปอยู่ในบ้านเฟิงเฉินแล้ว?”

ซูชิงหยิงยืนขึ้นมองพ่อบ้านอย่างแทบจะไม่อยากเชื่อ

พ่อบ้านฝืนใจพยักหน้า “ใช่ครับ”

ยัยหญิงเลวคนนั้นเข้าไปอยู่ในบ้านเฟิงเฉินแล้ว!

ซูชิงหยิงไม่อยากจะเชื่อ เธอส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้!”

เธอกวาดสิ่งของบนโต๊ะลงกับพื้นด้วยความโกรธ มือทั้งสองข้างกำแน่น เล็บที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามจิกลึกลงไปในฝ่ามือโดยไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ

ดวงตาคู่สวยถลึงแดงด้วยความโกรธ เธอกัดฟันด้วยความเกลียดชังจนอยากจะเข้าไปฉีกเจียงสื้อสื้อออกเป็นชิ้นๆให้ได้ในตอนนี้

เธอในตอนนี้ไม่หลงเหลือความอ่อนโยนที่ปกติเคยมี พ่อบ้านแอบกลัวน้อยๆ แต่ก็ยังฝืนใจเกลี้ยกล่อมเธอ “คุณหนูอย่าโกรธไปเลยครับ เดี๋ยวจะเสียสุขภาพเอาเสียเปล่าๆ คุณเจียงได้รับบาดเจ็บก็เลย……”

ซูชิงหยิงตวัดสายตาราวกับมีดมาทำให้พ่อบ้านเงียบลงทันทีด้วยความตกใจ

พอพ่อบ้านพูดถึง “ได้รับบาดเจ็บ” สี่พยางค์นี้ ซูชิงหยิงก็นึกได้ว่านังหญิงชั่วนั่นได้รับบาดเจ็บเพราะเธอถูกผลักลงเขา ก็เพราะเหตุนี้จิ้นเฟิงเฉินถึงเย็นชากับเธอเข้าไปอีก

เมื่อคิดว่าเป็นเพราะตัวเธอที่ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีขึ้นอีกขั้น มันก็เหมือนกับมีคนมาบีบคอเธอจนหายใจแทบไม่ออก

ความอิจฉาและความโกรธเพิ่มพูนขึ้นในใจอย่างบ้าคลั่ง

ทำไมเจียงสื้อสื้อถึงไม่ตกตายไปเลย?

สมควรจะตายร้อยครั้งพันครั้ง!

ซูชิงหยิงหรี่ตาที่เต็มไปด้วยความคิดชั่วร้าย หลายปีที่ผ่านมาเธอชอบจิ้นเฟิงเฉินมาโดยตลอด เธอพยายามอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อเขา

แต่สุดท้ายแล้วเขากลับไปชอบนังผู้หญิงชั่วนั่น!

เธอหายใจเข้าลึกๆ ในเมื่อเธอไม่ได้ก็อย่าหวังเลยว่านังผู้หญิงนั่นจะได้

มาถึงวันนี้แล้วเธอไม่จำเป็นต้องกังวลชื่อเสียงของนังผู้หญิงชั่วคนนั้นอีก

……

วันต่อมา

หลังจากกินอาหารเช้าแล้ว จิ้นเฟิงเฉินก็ไปทำงาน เสี่ยวเป่าก็ไปโรงเรียนอนุบาล เจียงสื้อสื้อก็กลับมาอ่านหนังสือที่ห้องคนเดียว บางทีก็เล่นอินเทอร์เน็ตบ้าง

ตอนใกล้เที่ยงเธอได้รับโทรศัพท์จากผู้ช่วย

“พี่สื้อสื้อ เกิดเรื่องแล้ว”

ทันทีที่รับสายน้ำเสียงกังวลของผู้ช่วยก็ดังเข้ามา

เธอคิดว่างานมีปัญหา จึงพูดปลอบใจอย่างอ่อนโยน “อย่ารน มีอะไรค่อยๆพูดมา”

“พี่สื้อสื้อ พี่ใกล้จะถูกถกเถียงกันทั้งบริษัทแล้วนะ”

“เกิดอะไรขึ้น?” เจียงสื้อสื้อประหลาดใจมาก

“ฉันพูดในโทรศัพท์คงไม่ชัด พี่เข้าไปดูที่เขาถกเถียงกันเองเถอะ”

เจียงสื้อสื้อวางสายแล้วเข้าดูการสนทนาภายในบริษัทด้วยความสงสัย

แค่เปิดดูเธอก็เห็นโพสต์ยอดนิยม

ข่าวซุบซิบใหญ่! อดีตของใครบางคนกำลังบังตาคุณอย่างแน่นอน!

เมื่อเห็นคำว่า “อดีต” ในชื่อเรื่อง ใจของเจียงสื้อสื่อก็เต้น “ตึกตักๆ” ในใจรู้สึกได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

เมื่อคลิกที่โพสต์ก็เห็นตัวหนังสือสีดำขนาดใหญ่: เกี่ยวกับอดีตที่เจียงสื้อสื้อไม่อยากให้ใครรู้

สิ้นเสียง “ตู๊ม” สมองของเจียงสื้อสื้อก็ว่างเปล่าไปชั่วขณะ เธอรีบอ่านต่ออย่างรวดเร็ว

โพสต์ทั้งหมดเปิดเผยข่าวเกี่ยวกับอดีตของเธอ โดยบอกว่าในตอนนั้นเพื่อเงินแล้วเธอยอมมีลูกนอกสมรส หักหลังคู่หมั้นของเธอแถมถูกไล่ออกจากบ้าน

แต่ละคำที่ใช้นั้นช่างเหลือทนมาก มันทำให้เธอดูเหมือนเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอายคนหนึ่ง

ใครเป็นคนตั้งกระทู้นี้?

เมื่อดูลงไปเรื่อยๆก็พบว่ามาจากบุคคลนิรนาม

เจียงสื้อสื้อหน้าซีดเผือด ทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้? ทำไมอีกฝ่ายถึงรู้เรื่องนี้?

เธอเลื่อนลงอย่างช้าๆด้วยใจตุ้มๆต่อมๆ ก็เห็นว่ามีคนแสดงความคิดเห็นไปต่างๆนานา

มีคนไม่เชื่อ มีคนบอกว่าดูจากภายนอกไม่ได้เลยจริงๆ มีคนแสดงความเห็นทุกรูปแบบ

คนที่มาแสดงความคิดเห็นล้วนเป็นเพื่อนร่วมงานในบริษัทที่ต้องเจอกันทุกวัน เธอไม่กล้าที่จะจินตนาการเลยว่าเรื่องนี้ดังในบริษัทขนาดไหน

ความรู้สึกที่เหมือนกับว่าถูกคนมาเปิดแผลเป็นที่เธอซ่อนไว้อย่างโหดเหี้ยม แล้วก็เอาออกมาวางโชว์ต่อหน้าทุกคนปล่อยให้พวกเขาวิจารณ์กันตามใจชอบ

เธอตื่นตระหนกขึ้นทันใด!

ไม่รู้จะทำอะไรดี?

ตอนนั้นเองโทรศัพท์ก็ดังขึ้นทำเอาเธอตกใจร้องออกมา

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆระงับความกังวลทั้งหมดในใจแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

ผู้ช่วยโทรมา

“พี่สื้อสื้อเห็นแล้วรึยัง?”

เธอมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วตอบอย่างสงบว่า “เห็นแล้ว”

“พี่สื้อสื้อไม่ต้องกังวลไปนะคะ ดูเหมือนว่าโพสต์นั้นจะถูกบล็อคแล้ว แต่บริษัทก็ได้หาวิธีจัดการแล้วค่ะ”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท