บทที่ 325 เธอจะยอมรับผิด
ซูชิงหยิงปฏิเสธยอมรับผิด
“ทำไมถึงขนาดนี้แล้ว เธอยังไม่ยอมผิดอีก?” เจียงสื้อสื้อไม่เข้าใจว่าซูชิงหยิงคิดอะไรอยู่
ตอนนี้หลี่หมิงสารภาพทุกอย่างแล้ว ตำรวจก็ยืนยันว่าเธอเป็นคนชี้แนะ แต่เธอยังคงไม่ยอมรับ
“อันนี้คุณต้องถามพี่ชายผมแล้ว” จิ้นเฟิงเหราหยิบองุ่นเข้าปากด้วยแล้วมองไปยังจิ้นเฟิงเฉินที่ยืนข้างหน้าต่างด้วย
“หมายความว่าไง?” เจียงสื้อสื้อไม่เข้าใจ
จิ้นเฟิงเหรากลืนองุ่นเข้าไป แล้วพูดช้าๆ “ตราบใดที่ซูซื่อกรุ๊ปยังไม่กลับสู่ความปกติ ซูชิงหยิงก็จะไม่ยอมรับผิด”
ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง
เจียงสื้อสื้อครุ่นคิดสักครู่ แล้งถาม “เฟิงเฉิน นายจะทำยังไงต่อ?”
ฟังแล้ว จิ้นเฟิงเฉินหันกลับมา ใบหน้าหล่อเหลานิ่งสงบ ตอบกลับเบาๆ “เธอจะยอมรับผิด”
เธอจะ?
เขาแน่ใจขนาดนั้นเลยเหรอ?
หรือว่าเขาจะยอมปล่อยซูซื่อกรุ๊ป?
ในใจของเจียงสื้อสื้อเต็มไปด้วยคำถาม อยากถามให้ชัดเจน แต่ยังไม่ทันจะเปิดปาก เขาถามต่อ “เธออยากออกจากโรงพยาบาลไหม?”
บทสนทนาเปลี่ยนไปเร็วมาก เจียงสื้อสื้อชะงักไปสองสามวิ แล้วดึงสติกลับมา ถามอย่างตื่นเต้น “ฉันออกโรงพยาบาลได้แล้วเหรอ?”
“อืม”
“ดีมากเลย! ฉันจะได้ออกโรงพยาบาลแล้ว ถ้ายังอยู่ต่อไปฉันจะขึ้นราแล้ว”
เมื่อคิดว่าจะได้ออกโรงพยาบาลแล้ว เจียงสื้อสื้อยิ้มจนตาปิด
“พี่สะใภ้ออกโรงพยาบาลได้แล้ว แล้วผมล่ะ?” จิ้นเฟิงเหราเศร้าใจ เขาไม่อยากอยู่โรงพยาบาลคนเดียว น่าเบื่อจะตาย
“นายต้องอยู่อีกสักพัก”
“ไม่เอา!” จิ้นเฟิงเหราคร่ำครวญ “ผมก็อยากออกโรงพยาบาล ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแล้ว”
“จริงเหรอ?” เจียงสื้อสื้อจ้องมองเขาอย่างสงสัย “นายไม่เสียดายพยาบาลที่นี่เหรอ? นายคุยกับพวกเธอทุกวันอย่างมีความสุขไม่ใช่เหรอ?”
จิ้นเฟิงเหราลดริมฝีปากลง พูดเบาๆ “นั่นเป็นแค่งานอดิเรก”
“งานอดิเรก? ฉันไม่คิดอย่างนั้น บางทีวันที่ออกโรงพยาบาลอาจจะพาลูกสะใภ้คนหนึ่งกลับไปให้คุณน้าก็ได้” เจียงสื้อสื้อหัวเราะและแกล้งเขา
สะใภ้?
สายตาของจิ้นเฟิงเหราฉายแสงบางอย่างผ่านไปยังรวดเร็ว เขาพึมพำเบาๆ “คนที่ผมชอบเป็นสะใภ้ของคนอื่นแล้ว ที่อยู่ที่นี่ผมไม่ชอบหรอก”
“นายพูดว่าอะไรนะ?” เจียงสื้อสื้อได้ยินไม่ชัดเจน
“ไม่มีอะไร”
จิ้นเฟิงเหราหันไปมองพี่ชายของเขา “พี่ นายพาพี่สะใภ้ไปเก็บสัมภาระเถอะ ผมอยู่คนเดียวได้”
“นายแน่ใจว่าได้?” จิ้นเฟิงเฉินมองเขาอย่างสงสัย
“ผมเรียกให้พยาบาลมาช่วยได้”
“งั้นถ้ามีเรื่องอะไรก็โทรศัพท์มาหาฉัน”
จิ้นเฟิงเฉินพาเจียงสื้อสื้อออกไป ห้องผู้ป่วยเหลือเพียงจิ้นเฟิงเหราคนเดียว ห้องเงียบลงทันที
เขามองดูรอบๆ สีหน้าเหงาหงอยเล็กน้อย มุมปากกระตุกยิ้มเยาะเย้ยตัวเอง
“คุณจิ้น”
ทันใดนั้น เสียงคมชัดดังมาจากหน้าประตู
จิ้นเฟิงเหราหันไปมอง เป็นพยาบาลตัวน้อยที่ไม่ชำนาญเรื่องเข็มเมื่อกี้
ชื่อ…ชื่ออะไรนะ?
เขาพยายามนึกชื่อของอีกคน จนเธอเดินมาข้างเตียง แล้วนึกออกพอดี “เธอคือส้งหวั่นชีง”
เห็นว่าเขายังจำได้ ส้งหวั่นชีงยิ้มตาหยี พูดอย่างปลื้มใจ “คุณยังจำฉันได้เหรอคะ”
“ผมความจำดี” จิ้นเฟิงเหราชมตัวเอง แล้วถามต่อ “เธอจะมาฉีดยาให้ผมอีกแล้วเหรอ?”
ต่อมา เขาแสดงท่าทางกลัว “ผมขอเปลี่ยนเป็นคนอื่นได้ไหม”
“คุณจิ้น!” ส้งหวั่นชีงอายจนแก้มแดง “อย่าพูดถึงเรื่องนี้อีกไหม?”
เธอหน้าเด็ก ผิวขาว มองดูแล้วน่ารักมาก ตอนนี้หน้าแดง เหมือนแอปเปิ้ลสุกสีแดง
ใจรู้สึกเหมือนมีอะไรผ่าน
แต่จิ้นเฟิงเหราไม่ได้สนใจ หัวเราะเสียงดัง แล้วพูด “ได้ ผมจะไม่พูดถึง แล้วเธอมาทำอะไร?”
“มาดูคุณไง” ส้งหวั่นชีงมองไปที่ขาของเขา แล้วถามอย่างห่วงใย “หลายวันนี้ดีขึ้นไหม?”
“อืม….นอกจากคันแล้ว ก็ยังดี”
“คัน ก็ต้องทน”
ปากของจิ้นเฟิงเหรากระตุก “เธอกำลังพูดไร้สาระเหรอ?”
ส้งหวั่นชีงตาโต ดวงตาสดใสจ้องมองเขา “ฉันไม่ได้พูดผิดนะ ก็ต้องทนจริงๆ”
จิ้นเฟิงเหราสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วม้วนริมฝีปาก “ขอบคุณที่มาเยี่ยมผม ผมดีใจมาก”
“คุณดีใจก็ดีแล้ว หลังจากนี้ฉันจะมาเยี่ยมคุณบ่อยๆ”
จิ้นเฟิงเหรา “……”
ทำไมคุยกับเธอแล้วรู้สึกเหมือนเป็ดกับไก่คุยกัน?
……
เจียงสื้อสื้อคิดว่าหลังจากออกโรงพยาบาลแล้วจะกลับบ้านของจิ้นเฟิงเฉิน คิดไม่ถึงว่าเขาจะส่งเธอกลับบ้านตระกูลจิ้น
“ทำไมส่งฉันกลับที่นี่?” เจียงสื้อสื้อมองวิลล่าข้างนอก คิ้วบางขมวดเล็กน้อย
“เธอต้องมีคนดูแล” จิ้นเฟิงเฉินหันมา จ้องมองเธอลึก ๆ
“ที่นายก็มีคนดูแลฉัน ไม่ต้องรบกวนคุณน้า”
ความหมายของเธอก็คือเธอไม่อยากมาที่นี่
หวังว่าเขาจะเข้าใจความหมายของเธอ
จิ้นเฟิงเฉินเงียบ สักพัก เปิดปากพูด “สื้อสื้อ”
“หืม”
“พ่อแม่ฉันไม่ใช่โรคระบาด เธอไม่ต้องกลัวพวกท่าน”
“ฉันรู้ แต่ว่า……”
เธอไม่ชิน ไม่สบายใจ
เขาดูออกว่าเธอคิดอะไร ยิ้มเล็กน้อย “พวกเราจะต้องแต่งงานกัน หลังจากนั้นก็จะกลับมาอยู่ที่นี่บ่อยๆ ดังนั้นต้องชินให้ได้”
ถ้ายังพูดอีก จะทำให้ตัวเองดูเหมือนเจ้าเล่ห์เกินไป
ดังนั้น เธอพยักหน้าแล้วพูด “ฉันรู้แล้ว ฉันจะพยายามปรับตัวให้ชิน”
จิ้นเฟิงเฉินเลิกคิ้ว “ไม่อิดออด?”
“ไม่อิดออด” เธอยักไหล่ “ใครให้ฉันเลือกนายแล้วล่ะ?”
จิ้นเฟิงเฉินอดที่จะหัวเราะไม่ได้ “ทำไมรู้สึกเหมือนเธอลำบากใจ?”
“นิดหน่อย ดังนั้นนายต้องดีกับฉัน รู้ไหม?” เจียงสื้อสื้อจ้องมองเขาด้วยท่าทางดุๆ
“ฉันไม่ดีกับเธอ แล้วจะดีกับใคร?” จิ้นเฟิงเฉินลูบหัวเธอเบาๆ
เจียงสื้อสื้อยกคางขึ้นอย่างภาคภูมิใจ “แบบนี้ก็ดี”
……
ครั้งนี้มาที่บ้านตระกูลจิ้น เจียงสื้อสื้อไม่ได้ทำตัวไม่ถูกขนาดนั้นเหมือนครั้งก่อน พ่อบ้านและสาวใช้คุ้นเคยกับเธอแล้ว เห็นเธอก็ทักทายเธออย่างอบอุ่น
แม่จิ้นก็อบอุ่นเช่นกัน เมื่อเห็นเธอ ก็จูงมือเธอไปนั่งที่ห้องรับแขก แล้วให้พ่อบ้านนำสัมภาระไปเก็บที่ห้องนอนของจิ้นเฟิงเฉิน
เมื่อได้ยิน เจียงสื้อสื้อเบิกตากว้างด้วยความตกใจ รีบห้ามพ่อที่ถือสัมภาระกำลังจะเดิรขึ้นบันได แล้วพูดกับแม่จิ้น “คุณน้าคะ ฉันอยู่ห้องที่มาครั้งที่แล้วก็ได้ค่ะ”
“ได้ยังไงล่ะ?” ยังดีที่แม่จิ้นไม่มองเธอด้วยความโกรธ “สักวันเธอกับเฟิงเฉินก็ต้องแต่งงานกัน อยู่ห้องเดียวกันไม่เป็นไรหรอก”
แม้ว่าเธอกับจิ้นเฟิงเฉินเคยทำสิ่งที่ควรเกิดขึ้นแล้ว แต่ว่าอยู่ห้องเดียวกันอย่างโอ่อ่าแบบนี้ ดูเหมือน…จะไม่ค่อยดีนัก
ไม่อยากให้แม่จิ้นรู้สึกว่าตัวเองง่ายเกินไป เธอจึงปฏิเสธอย่างสุภาพ “คุณน้าคะ ฉันต้องนอนเช้า เฟิงเฉินก็กลับมาดึก จึงยังแยกกันนอนค่ะ”
“ก็จริง ตอนนี้ร่างกายของเธอยังไม่หายดี ต้องพักผ่อนเยอะๆ” แม่จิ้นคิด จึงให้พ่อบ้านนำสัมภาระไปเก็บทีาห้องที่อยู่ครั้งที่แล้ว
เจียงสื้อสื้อแอบโล่งใจ