ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 562 ไปรับเถียนเถียน

บทที่ 562 ไปรับเถียนเถียน

บทที่ 562 ไปรับเถียนเถียน

เจียงสื้อสื้อจ้องมองภาพในกล้องวงจรปิดอย่างไม่หันเหไปไหน

ตอนที่เห็นเด็กปรากฏขึ้นมานั้น ม่านตาก็สั่นอย่างรุนแรง

จากนั้นก็กุมหน้าร้องไห้“ใช่เถียนเถียน!ไม่ผิดแน่นอน”

ไม่ต้องดูเต็มๆหน้าเธอก็สามารถรู้ได้เลยว่านี่คือลูกสาวของเธอ

แม่ฝู้โอบเจียงสื้อสื้อไว้ คอยปลอบเธออยู่ข้างๆ

เจ้าหน้าที่ตำรวจถามอย่างละเอียดอีกหนึ่งทีเพื่อกันการผิดพลาด“มั่นใจแล้วใช่ไหมครับ? ว่าเธอเป็นเด็กที่หายไปของพวกคุณ?”

ฝู้จิงเหวินพยักหน้าพร้อมกับพูดตอบกลับอย่างมั่นใจ“ใช่ครับ คุณตำรวจ พวกเรามั่นใจครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้ลูกสาวของผมอยู่ที่ไหนเหรอครับ?”

ตำรวจคนนั้นได้ยิน ก็เกาๆคออย่างรู้สึกผิด พร้อมกับพูดอธิบายด้วยความรู้สึกอึดอัด“จริงๆแล้วเธอควรจะต้องอยู่ที่นี่นั่นแหละครับ แต่เธอไม่เต็มใจที่จะอยู่ที่นี่เลย ดึงดันจะกลับไปกับคนที่เจอเธอมาให้ได้ พวกเราเห็นว่าคนคนนั้นก็ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไร ก็เลยให้เขาพากลับไปแล้วล่ะครับ”

พอได้ฟังคำพูดของตำรวจ สีหน้าของฝู้จิงเหวินก็เปลี่ยนไป

เจียงสื้อสื้อก็ยิ่งขึงตาโตมากขึ้น คิดไม่ถึงว่าเถียนเถียนจะกลับไปพร้อมกับคนนั้น

ใบหน้ายังมีรอยคราบน้ำตาที่ยังไม่แห้ง รู้สึกกังวลไม่น้อย

เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบพูดขึ้นมาทันที“แต่พวกคุณก็อย่ากังวลไปเลยครับ คนนั้นทิ้งที่ติดต่อเอาไว้ บอกไว้ว่าถ้าพวกคุณมาแล้ว ให้ติดต่อไปตามเบอร์นี้ได้เลย”

จากนั้นก็ยื่นเบอร์โทรที่เสี่ยวเป่าให้มา

พอได้ยินแบบนั้นสีหน้าของทั้งครอบครัวก็ดูดีขึ้นมาหน่อย

ฝู้จิงเหวินรับเบอร์โทรศัพท์มา ก่อนจะพูดขอบคุณกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ“ขอบคุณมากจริงๆนะครับ”

ในใจรู้สึกว่าสถานีตำรวจทำแบบนี้ก็ไม่ค่อยดีนัก แต่เจียงสื้อสื้อรู้ดีว่าเจ้าหนูน้อยมีอารมณ์แบบไหน

ถ้าเธอโหวกเหวกโวยวายล่ะก็ ไม่มีใครเอาเธออยู่แน่นอน

เจ้าหน้าที่ตำรวจใกล้จะเลิกงาน ฝ่าฝืนสักครั้งก็คงพอจะให้อภัยได้อยู่

ตำรวจคนนั้นรู้ดีว่าเหตุผลคงไม่หนักพอแน่ๆ ก็เลยไม่กล้ารับคำขอบคุณของพวกเขา ให้พวกเขารีบโทรติดต่อไปหาอีกฝั่งโดยเร็ว

ฝู้จิงเหวินล้วงมือถือออกมา เดินไปริมๆ กดหมายเลขตามที่เขียนไว้บนกระดาษ

อีกฝั่ง จิ้นเฟิงเฉินเพิ่งจะพาเจ้าหนูน้อยออกมาจากร้านขนมหวาน

มือหนึ่งอุ้มเถียนเถียน อีกมือถือของหนึ่งถุง ข้างในมีอมยิ้มแล้วก็เค้กสองสามชิ้น

ในมือของเจ้าหนูน้อยเองก็ยังถือเค้กชิ้นเล็กๆไว้อีกหนึ่งชิ้น กินอย่างมีความสุข

ที่ปากมีครีมติดอยู่ แลบลิ้นออกมา เลียเข้าไปในปาก เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่พออกพอใจ

จิ้นเฟิงเฉินมองเจ้าหนูน้อยอย่างเอ็นดู พร้อมกับพูดเตือนเธอ“เถียนเถียน กินช้าๆหน่อยสิ ไม่มีใครแย่งหนูหรอก เดี๋ยวจะสำลักเอานะ”

เจ้าหนูน้อยได้ยินแบบนั้น ก็พยักหน้า ค่อยๆใส่เข้าไปในปากช้าๆอย่างเชื่อฟัง

จากนั้น ก็ตักขึ้นมาหนึ่งช้อน ยื่นไปจะให้จิ้นเฟิงเฉินกิน

จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว เขาไม่ชอบกินอะไรแบบนี้ มันเลี่ยนสุดๆ

จากนั้นก็สบตาที่ใสแป๋วของเจ้าหนูน้อย ปากก็อ้าออก กลืนลงไปในท้องอย่างไม่รู้ตัว

“ขอบใจ”

เค้กเข้าไปในปาก หวานอย่างสุดหัวใจ เขายกมุมปากพูดขอบคุณ

ทั้งสองเดินไปที่ทางเข้าบริษัท ในตอนนั้นเอง มือถือในกระเป๋ากางเกงก็สั่นขึ้นมา

เขาขมวดคิ้ว รีบเดินเข้าไป เอาเจ้าหนูน้อยไปไว้บนเก้าอี้ที่เคาท์เตอร์

ส่วนตัวเองยืนอยู่ข้างๆเธอ ก่อนจะล้วงมือถือออกมา

เป็นเบอร์แปลกหน้า

จิ้นเฟิงเฉินรับสาย พูดถามไปหนึ่งประโยคด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ“ใครครับ?”

พอได้ยินเสียงที่ชัดแจ๋วของผู้ชายดังเข้ามา ฝู้จิงเหวินก็สีหน้าดีใจ

เขาถามขึ้นอย่างอดใจรอไม่ไหว“สวัสดีครับ ขอถามหน่อยนะครับ ไม่ทราบว่าเมื่อคืนพวกคุณไปเจอเด็กผู้หญิงหนึ่งคนใช่ไหมครับ?”

จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้ว หันไปมองเจ้าหนูน้อยที่อยู่ข้างๆอย่างทันที

เจ้าหนูน้อยกำลังนั่งแกว่งสองขาน้อยๆ กินครีมเค้กอย่างเต็มปากเต็มคำ พอเห็นเขามองมา เถียนเถียนก็ยิ้มให้เขา

จิ้นเฟิงเฉินจ้องมองเธอ พร้อมกับถามขึ้น“ใช่ครับ ผมเจอเด็กผู้หญิงหนึ่งคน แล้วคุณคือ?”

แม้ว่าปากจะถามออกไปแบบนั้น แต่ในใจก็มีคำตอบอยู่แล้ว

“ผมเป็นพ่อของเด็ก ผมกับแม่ของเธอหาเธอมาทั้งคืน ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงกันมากๆเลยครับ”

ฝู้จิงเหวินน้ำเสียงสูงขึ้นไม่น้อย

แม้ว่าจะได้ยินที่ฝู้จิงเหวินพูดแล้ว แต่จิ้นเฟิงเฉินก็ยังถามขึ้นอย่างระมัดระวังไปอีกประโยค“ผมจะรู้ได้ยังไงว่าคุณคือพ่อของเด็ก?”

น้ำเสียงที่เย็นชากลบความรู้สึกตื่นเต้นของฝู้จิงเหวิน

ฝู้จิงเหวินเงียบสงบลงสักพัก ก่อนจะถามขึ้น“เถียนเถียนอยู่ใกล้ๆคุณไหม? คุณให้เธอมาฟังดู ก็สามารถยืนยันสถานะของผมได้แล้ว”

ตอนที่ได้ยินเขาพูดถึงชื่อของเถียนเถียน จิ้นเฟิงเฉินก็พอจะยืนยันได้บ้างแล้ว

ตอบอื้มกลับไปหนึ่งคำ ก่อนจะขยายเสียงมือถือ แล้วไปวางใกล้ๆกับเจ้าหนูน้อย

ในสายมีเสียงคนกำลังกินอะไรดังเข้ามา ฝู้จิงเหวินกลืนน้ำลาย พูดถามขึ้นมาหนึ่งประโยคอย่างจริงจัง“เถียนเถียน ใช่ลูกไหม? รู้ไหมว่านี่คือใคร?”

พอได้ยินเสียงของเขา เจ้าหนูน้อยที่กำลังเขมือบเค้กอยู่ แววตาก็เปล่งประกายขึ้นมา

มือน้อยๆเอื้อมไปจะคว้ามือถือ“แด๊ดดี้!”

เธอร้องเรียกคนในสายด้วยความดีใจ สีหน้าเผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่สดใส

ภาพนี้ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว

ฝู้จิงเหวินหลืนน้ำลายหนึ่งที มีความรู้สึกอยากจะร้องไห้

พูดกับคนในสายไปหนึ่งประโยค จากนั้นก็ให้เถียนเถียนเอามือถือให้กับจิ้นเฟิงเฉิน

“เถียนเถียนไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวแด๊ดดี้หม่ามี๊ก็จะไปรับลูกแล้ว”

จิ้นเฟิงเฉินรับมือถือมา แนบที่หู

“ขอโทษนะครับ ตอนนี้คุณสะดวกไหม? ถ้าสะดวกล่ะก็ช่วยบอกที่อยู่ของพวกคุณกับพวกเราหน่อยนะครับ ผมกับแม่ของเถียนเถียนจะไปรับเธอเดี๋ยวนี้เลย”

จิ้นเฟิงเฉินได้ฟังแบบนั้นก็พูดตอบกลับไปอย่างนิ่งๆ“อื้อ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณก็มาที่ตึกสำนักงานใหญ่JSกรุ๊ปเลยแล้วกัน ผมกับเจ้าหนูน้อยอยู่ที่นี่”

เขามองไปยังเจ้าหนูน้อยที่แสนไร้เดียงสาข้างๆ ในใจรู้สึกไม่อยากให้จากไปอยู่ไม่น้อย

คิดไม่ถึงว่าพ่อแม่ของเธอจะมารับเร็วขนาดนี้

แล้วก็รู้สึกอยากรู้อยู่ไม่น้อย ว่าพ่อแม่แบบไหนที่คลอดเจ้านางฟ้าตัวน้อยที่แสนน่ารักขนาดนี้ออกมา ช่างน่ารักจริงๆ

แต่ถ้าเถียนเถียนถูกรับกลับไปแล้วล่ะก็ เสี่ยวเป่าก็คงจะรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อย เขาแอบคิด

อีกฝั่ง ตอนที่ฝู้จิงเหวินได้ยินว่าJSกรุ๊ป ก็อึ้งตะลึงไปไม่น้อย

บริษัทนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมากในประเทศฝรั่งเศส

แม้แต่คนที่ไม่ได้เป็นนักธุรกิจแบบเขายังรู้จัก ช่วงสองสามปีที่JSกรุ๊ปพุ่งพรวดขึ้นมานี้ ได้ยึดครองตลาดของประเทศฝรั่งเศสอย่างรวดเร็ว

อำนาจแข็งแกร่ง ไร้ซึ่งคนจะไปต่อกรได้

ผู้นำของบริษัทพวกเขา จิ้นเฟิงเฉิน ก็มีชื่อเสียงพอๆกัน

คิดไม่ถึงว่าคนที่เก็บเจ้าหนูน้อยได้จะเป็นพนักงานของบริษัทนี้ มันทำให้เขารู้สึกประหลาดใจจริงๆ

หลังจากทอดถอนหายใจอยู่สักพัก ฝู้จิงเหวินก็รีบพูดตอบกลับทันที“ได้ครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ รบกวนคุณช่วยรอสักประเดี๋ยวนะครับ”

หลังจากวางสายลง เขาก็เดินตรงไปหาเจียงสื้อสื้อที่กำลังจ้องมองมาทางนี้อยู่ตลอดเวลา

เจียงสื้อสื้อนิ้วมือกำเสื้อไว้แน่น ริมฝีปากถูกเธอกัดจนแตก เผยให้เห็นเลือดที่ซึมออกมา

พูดถามฝู้จิงเหวินขึ้นอย่างตึงเครียด“เป็นยังไงบ้าง ติดต่อได้แล้วเหรอ?”

เขาพยักหน้า ตบๆที่ไหล่ของเจียงสื้อสื้อเพื่อเป็นการปลอบใจ

“โชคดีที่คนนั้นเขาเป็นคนดี เถียนเถียนไม่เป็นอะไรแล้ว ตอนนี้เธออยู่ที่JSกรุ๊ป”

เจียงสื้อสื้อได้ยินแบบนั้น อารมณ์ความรู้สึกที่ตึงเครียดในที่สุดก็ผ่อนคลายลงได้

ในที่สุดใบหน้าก็เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มที่วางใจลงได้ พร้อมกับพูดขึ้นอย่างปลื้มปริ่มใจ“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ต้องไปขอบคุณเขาดีๆสักหน่อยแล้ว พวกเรารีบไปกันเถอะ”

พูดจบ ก็หันตรงออกไปข้างนอกทันที

เนื่องจากอารมณ์ที่ปลดปล่อยออกมากะทันหัน ทำให้ขาไม่มีเรี่ยวแรง

ด้วยความรีบร้อน เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกเวียนหัว โลกเริ่มหมุน

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท