ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 581 ไปปลอบเสี่ยวเป่า

บทที่ 581 ไปปลอบเสี่ยวเป่า

บทที่ 581 ไปปลอบ เสี่ยวเป่า

คืนที่หนาวเหน็บ ลมกลางคืนได้พักมา ทำให้เกิดคลื่นเล็กน้อย

การส่งภาษามือของแม่จิ้น มือของนักดนตรีไม่กี่คนที่อยู่ข้างๆ ขยับ

เสียงที่อ่อนโยนโรแมนติกของวิโอลอนเชลโลได้ดังขึ้น ได้ปิดบังอารมณ์ที่หดหู่ไว้

ส้งหวั่นชีงกับจิ้นเฟิงเหราได้เชิญผู้ใหญ่ดื่มเหล้าแสดงความเคารพเสร็จ ก็ได้กลับไปนั่งโต๊ะหลักอย่างรวดเร็ว

สายตาที่เหมือนมองของจิ้นเฟิงเฉินมองไปทางที่เจียงสื้อสื้อจากไป นัยน์ตาเหมือนได้คิดอะไรอยู่ แววตานิ่ง

ทางตระกูลฉินก็ได้รู้เรื่องของเจียงสื้อสื้อกับจิ้นเฟิงเฉิน ก็ได้เงียบอยู่แบบนั้น ไม่กล้าพูดอะไรออกไปมาก

ทั้งบ้านได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาสับสน

คุณท่านฉินเห็นแบบนั้นก็ได้กระแอมออกมาเบาๆ นิ้วที่ผอมแห้งได้งอเล็กน้อย

ไปวางไว้ตรงหน้าของจิ้นเฟิงเฉินแล้วเคาะเบาๆ สองที ทำให้จิ้นเฟิงเฉินสนใจ

“คุณตา เป็นอะไรครับ?”

จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้า ได้ถามออกไปอย่างเศร้าๆ

คุณท่านฉินได้ชี้ไปที่จิ้นเฟิงเหรากับส้งหวั่นชีง ให้เขามองไปทางนั้น จากนั้นก็ได้พูดกับเขาเสียงเบาว่า “เฟิงเฉินน่ะ หวังว่าคำพูดเมื่อกี้ของตาเราจะจำได้ ห้ามทำให้งานแต่งวุ่นวาย”

ความรักถึงแม้สำคัญ แค่ว่าความสำคัญของครอบครัวก็ไม่แพ้กัน

ถ้าจิ้นเฟิงเฉินยังใจไม่อยู่กับตัวแบบนี้ งั้นใจของตระกูลจิ้นทั้งตระกูลก็ได้อ่อนไหวไปตามเขา ไม่มีคนมาสนใจงานหมั้นนี้แล้ว

แบบนั้น สำหรับส้งหวั่นชีงแล้ว มันไม่ยุติธรรม ต่อไปเธอแต่งเข้าบ้านก็จะมีปมในใจ

แน่นอนว่าจิ้นเฟิงเฉินรู้ถึงสิ่งที่คุณท่านฉินจะเตือน เขาก็ได้เก็บสีหน้าของตัวเอง แล้วก็พยักหน้าให้กับคุณท่านฉิน

“ผมรู้แล้วครับ คุณตา ท่านวางใจเถอะครับ”

ตอนที่จิ้นเฟิงเหราเข้ามา สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินได้เป็นปกติแล้ว

ตอนที่อวยพรให้จิ้นเฟิงเหรากับส้งหวั่นชีงนั้น ก็ได้พูดขอโทษที่ข้างหูเขาเบาๆ

“ไม่เป็นไรครับ พี่” จิ้นเฟิงเหราได้โอบไหล่ของเขา พยักหน้าด้วยความเข้าใจ

ส้งหวั่นชีงก็ได้ยิ้มอย่างอ่อนโยน ไม่มีความอคติเลยแม้แต่น้อย

ทางตระกูลจิ้นก็ได้คึกคักขึ้นมา ระหว่างงานเลี้ยง พวกแขกที่ได้มาร่วมงานก็ได้พูดคุยกันขึ้น

เวลาได้เดินไปอย่างรวดเร็ว งานเลี้ยงก็ได้เดินมาถึงตอนจบ

ตระกูลจิ้นก็ได้รีบไปบอกลาพวกแขก จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ตั้งสติดีๆ ไปช่วยส่งแขก

หลังจากที่ได้ส่งแขกกลับไปทั้งหมด สีของท้องฟ้าก็ได้มืดไปไม่น้อย

“พ่อคะ นี่ก็ดึกมากแล้ว ท่านก็กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

แม่จิ้นก็ได้ประคองคุณท่านฉิน บอกให้เขานั้นกลับไปกับพวกญาติของตระกูลฉิน รถก็ยังได้รออยู่ด้านนอก

สายตาของคุณท่านฉินก็ได้ตกไปอยู่ที่ตัวของจิ้นเฟิงเฉิน

สองตาหลานได้มองไปสักพัก จิ้นเฟิงเฉินก็ได้เดินเข้าไป ก็ได้พูดกับคุณท่านว่า “คุณตา ท่านกลับไปก่อนเถอะครับ เรื่องของผมผมรู้ดี รอถึงตอนนั้นพาสื้อสื้อกลับมา แล้วพวกเราไปเยี่ยมหาท่าน”

เวลานี้สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้ผ่อนคลายไปไม่น้อย ไม่ได้หดหู่เหมือนเมื่อกี้แล้ว นัยน์ตานั้นก็ได้มีสีสันขึ้น

ดวงดาวที่เคยดับไป ก็ได้กลับมาสว่างอีกครั้ง

คุณท่านฉินเห็นแบบนั้น ก็ได้พยักหน้าด้วยความพอใจ

เขาไม่ได้ตื้อต่อ ก็ได้กลับไปก่อนกับคนขับ

สถานที่ที่กว้างไม่นานก็ได้เหลือแค่คนของตระกูลจิ้น

จิ้นเฟิงเฉินที่เดินไปส่งคุณท่านฉินเสร็จ พูดกับแม่จิ้นว่าให้พวกเขากลับไปก่อน ตัวเองนั้นจะไปหากู้เนี่ยน

“รีบไปตามสืบพวกฝู้จิงเหวิน ว่าพวกเขาไปไหนแล้ว แล้วก็ไปสืบว่าเกิดอะไรขึ้นกับสื้อสื้อ เธอกับฝู้จิงเหวินเป็นอะไรกันแน่?”

ตอนที่พูดคำนี้นั้น สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้เคร่งเครียด สายตาก็ได้ส่งความน่ากลัวออกมา

เขาเชื่อในสายตาแล้วก็หัวใจของตัวเอง เขาตาฝาดมองใครผิดไม่มีทางที่จะมองเจียงสื้อสื้อผิด

สายตาคู่นั้น ใบหน้านั้น รอยยิ้มนั้น เป็นเจียงสื้อสื้อแน่ๆ

สามปีแล้ว ในฝันของเขาทุกวัน ได้กอดเอาไปหน้าของเจียงสื้อสื้อไว้ที่อกของตน

คนที่ได้คิดถึงอยู่ทุกวันได้มาอยู่ตรงหน้า เขาจะปล่อยไปได้ยังไง

“ครับ คุณชาย เดี๋ยวผมสั่งลงไป ช่วงนี้ก็ให้คนได้จับตามองว่าพวกเขาไปที่ไหน แล้วมารายงานท่านครับ”

แววตาของกู้เนี่ยนก็ได้มีความกังวลส่งออกมา มองไปที่สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉิน พยักหน้ารับคำสั่ง

คราวนี้ หวังว่าจะไม่ผิดหวัง

กลับไปตระกูลจิ้น เข้าประตู ก็ได้ยินเสียงเด็กที่ร้องไห้ดังมาจากชั้นบน

จิ้นเฟิงเหราก็ได้ลงมาจากชั้นบนพอดี เห็นจิ้นเฟิงเฉิน มองเขาอย่างเป็นห่วง “พี่ พี่กลับมาแล้ว ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

จิ้นเฟิงเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ได้ตอบอืมไปส่งๆ

“เสี่ยวเป่าเป็นอะไรไป?” จิ้นเฟิงเฉินถาม

จิ้นเฟิงเหราก็ได้ตบเบาๆ ไปที่หูที่เหมือนได้ถูกทรมานมาของตน อธิบายไปว่า “ก็ได้โวยวายว่าจะหาหม่ามี๊ของตนในห้องน่ะ พ่อแม่กับหวั่นชีงก็ได้ปลอบเขา ผมทนน้ำเสียงที่ทรงพลังของเขาไม่ไหว ก็ได้ออกมาหลบ”

เพราะการปรากฏตัวของเจียงสื้อสื้อ ทั้งบ้านก็ได้ร้อนรน

ส้งหวั่นชีงไม่วางใจ ก็ได้กลับมาด้วย

เสี่ยวเป่าก็ได้ตกใจมาทั้งคืน ปรับอารมณ์กลับมาไม่ได้

ตอนอยู่ในงานก็ได้เชื่อฟัง ห้ามอารมณ์ไว้ ตอนกลับมาบ้านก็ได้ระเบิดอารมณ์ที่อดทนไว้ กลางคืนร้องไห้ไม่หยุด

บอกว่าหม่ามี๊ไม่เอาเขาแล้ว ไม่ว่าพ่อจิ้นแม่จิ้นจะพูดยังไง ก็ไม่สามารถที่จะลากเขาออกมาจากความเสียใจได้

คาดว่าท่าทางที่ปฏิเสธเขาของเจียงสื้อสื้อ ก็ได้ทำร้ายจิตใจเดิมที่อ่อนไหวของเสี่ยวเป่า

สังเกตสีหน้าของจิ้นเฟิงเฉิน จิ้นเฟิงเหราขมวดคิ้ว ก็ได้ถามออกไปอย่างระมัดระวัง “พี่ พี่ไปปลอบเสี่ยวเป่าหน่อยไหม?”

ได้ยินชื่อของเจียงสื้อสื้อ ลมหายใจของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้หยุดไปสักพัก

นัยน์ตาก็ได้มีความหดหู่ขึ้นเล็กน้อย สิ้นหวังเล็กน้อย

เขานั้นเข้าใจความรู้สึกของเสี่ยวเป่าดี

เจียงสื้อสื้อได้ลืมทุกคนไปหมด เรื่องแบบนี้ก็เหมือนฟ้าที่ได้ผ่าลงมา พลังทำลายเยอะมาก

ต่อให้เป็นจิ้นเฟิงเหราก็ไม่สามารถที่จะปรับอารมณ์ได้ทัน อย่าว่าแต่เด็กเลย

ได้ยินเสียงร้องไห้จากชั้นบน มุมปากของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้กระตุกแบบหดหู่

เขาส่ายหน้า ก็ได้ตอบไปเบาๆ ว่า “ตามใจเขาเถอะ ร้องเหนื่อยแล้วก็ดีขึ้นแล้ว”

เสี่ยวเป่ายังสามารถที่จะร้องไห้ออกมาเป็นการระบายอารมณ์ อารมณ์ของเขากลับทำได้แค่เก็บไว้ในใจ อึดอัดมากๆ

พูดจบ จิ้นเฟิงเฉินก็ได้ตาตก ลากฝีเท้าที่เหนื่อยล้าเดินไปทางห้องหนังสือ

ร่างที่สูงใหญ่แบบนั้นมองแล้วดูโดดเดี่ยวมากๆ แล้วก็ได้มีความหดหู่ปนด้วย

ผ่านไปสักพัก ประตูห้องหนังสือก็ได้ค่อยๆ ปิดลง ตัดจากโลกภายนอก

จิ้นเฟิงเหราเห็นแบบนั้น ก็ได้ถอนหายใจเบาๆ

ความเสียใจที่พี่ชายมีไม่แพ้เสี่ยวเป่าเลยสักนิด

ก่อนหน้าได้แกล้งทำเป็นไม่เป็นอะไร ตอนนี้ก็ได้เก็บกดความเศร้าในในใจไม่อยู่

เขาถึงแม้จะเป็นห่วง แต่เขารู้ดีว่าตอนนี้จะไปรบกวนจิ้นเฟิงเฉินไม่ได้ ก็ได้ปล่อยเขาไป

เทน้ำอุ่น ก็ได้กลับไปชั้นบน

พ่อจิ้นแม่จิ้นได้ยินเสียงประตูห้องหนังสือ ก็ได้ถามว่า “เฟิงเหราพี่ของลูกกลับมาหรือยัง?”

จิ้นเฟิงเหราพยักหน้า ก็ได้พูดออกไปว่า “กลับนั้นกลับมาแล้ว แต่ว่าท่าทางไม่ดีเท่าไหร่ พี่ผมได้ล็อกตัวเองที่ห้องหนังสือ”

เห็นใบหน้าที่เป็นห่วงของแม่จิ้น พ่อจิ้นก็ได้ตบไหล่ของแม่จิ้นเบาๆ พูดว่า “ปล่อยเขาไปเถอะ เรื่องวันนี้เขาต้องไปทำใจหน่อย คุณก็อย่าเป็นห่วงไปเลย”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท