ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 631 ทำไมเธอต้องกลับมาอีก!

บทที่ 631 ทำไมเธอต้องกลับมาอีก!

บทที่ 631 ทำไมเธอต้องกลับมาอีก

ดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินกำลังยิ้ม ลูกชายของเขา แน่นอนว่าตามเขามา

“แดดดี๊ ผมเบื่อมากเลย พวกเราไปหาหม่ามี๊และน้องสาวได้ไหมครับ?”

เสี่ยวเป่าดึงแก้ม กะพริบตาอย่างไร้เดียงสา ถามจิ้นเฟิงเฉิน

จิ้นเฟิงเฉินกลั้นยิ้ม ตอบอย่างไร้ความเมตตา “ไม่ได้”

หน้าของเสี่ยวเป่าบึ้งลงในทันที ถามอย่างไม่เต็มใจว่า “ทำไมล่ะครับ?”

“หม่ามี๊ของหนูกำลังยุ่ง อีกอย่างแดดดี๊กำลังทำงานอยู่ ไม่มีเวลา”

คำพูดของจิ้นเฟิงเฉินเกือบจะทำให้เสี่ยวเป่าคลั่ง เสี่ยวเป่าฟังออกว่าครึ่งหลังของประโยคคือประเด็นหลัง

เสี่ยวเป่าคิดวิธีดีๆออก พูดออกมาอย่างฉลาดว่า “ถ้าอย่างนั้นให้คนขับรถไปส่งผม ผมไม่หายไปอย่างแน่นอนครับ”

จิ้นเฟิงเฉินชะงักไปสักพัก หลังจากนั้นก็พูดปฏิเสธไป “ไม่ได้ หนูจะไปรบกวนหม่ามี๊ของหนู เชื่อฟังอยู่ที่นี่ไปเถอะ”

ฟังจบ เสี่ยวเป่ามองไปที่จิ้นเฟิงเฉินด้วยสีหน้าดื้อรั้น

แดดดี๊จงใจ!

แดดดี๊ไปหาหม่ามี๊ไปได้ เลยไม่ให้เขาไปด้วย!

ช่างทำร้ายหัวใจผู้ชายที่สุดจริงๆ

หลังจากถูกจิ้นเฟิงเฉินปฏิเสธการตัดสินใจไปหาเจียงสื้อสื้อ ภายในเวลาห้านาทีสั้นๆ เสี่ยวเป่าถอนหายใจไปไม่น้อยกว่าสิบครั้ง

ทุกครั้งก็จะเปลี่ยนวิธีมากระซิบอยู่ข้างๆหูของเขา

ทำให้จิ้นเฟิงเฉินไม่มีสมาธิเลยแม้แต่น้อย ปากกาหยุดอยู่ที่ตรงกลางระหว่างนิ้วชี้และนิ้วโป้ง เขามองไปทางเสี่ยวเป่าอย่างจนปัญญา

“หนูโทรไปถามพวกเธอก็ได้”

ดวงตาสองข้างของเสี่ยวเป่าสว่างขึ้นมาทันที

หยิบโทรศัพท์ของจิ้นเฟิงเฉินขึ้นมาอย่างมีความสุข โทรวิดีโอไปหาเจียงสื้อสื้ออย่างอดใจรอไม่ไหว

“หม่ามี๊! ทำอะไรอยู่ครับ?”

เจียงสื้อสื้อกำลังดูแลแม่ฝู้อยู่ที่โรงพยาบาล

หลังจากผ่าตัดแม่ฝู้ก็ยังไม่ได้สติ

ถึงแม้จะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่เพราะบาดเจ็บรุนแรงมาก จึงยังต้องได้รับการผ่าตัดต่อไป

เจียงสื้อสื้อรู้สึกไม่สบายใจ จึงอาสาขอเป็นคนมาดูแลแม่ฝู้

เดิมทีรู้สึกเหนื่อยล้า แต่พอได้เห็นเสี่ยวเป่า ความเหนื่อยล้าในแววตาก็หายไปไม่น้อย

เธอโค้งริมฝีปากและพูดว่า “อยู่โรงพยาบาลกับเถียนเถียนครับกำลังดูแลคุณย่า”

เจียงสื้อสื้อหมุนโทรศัพท์ไปรอบๆ ให้เสี่ยวเป่าเห็นบรรยากาศในโรงพยาบาล

พอได้ยินเสียงของเสี่ยวเป่า เด็กหญิงตัวน้อยก็รีบวิ่งมาทันที ขยับมาเพื่อจะดูกล้อง

“พี่ชาย! ใช่พี่ชายไหมคะ? ให้หนู ให้หนู”

เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาบางๆ อุ้มเด็กหญิงตัวน้อยมานั่งอยู่บนขา ทั้งสองคนพูดคุยกับเสี่ยวเป่า

เด็กหญิงตัวน้อยตื่นเต้นดีใจมาก ส่งจูบหอมๆให้กับเสี่ยวเป่าผ่านทางหน้าจอ

“พี่กำลังทำอะไรอยู่?”

เด็กหญิงตัวน้อยสำรวจที่ที่เสี่ยวเป่าอยู่ ดวงตากลอกไปรอบๆ

รู้สึกคุ้นตากับสถานที่นี้เล็กน้อย

“อยู่บริษัทกับแดดดี๊ น่าเบื่อมากเลย” เสี่ยวเป่าอดไม่ได้ที่จะตัดพ้อออกไป

“เจ้าเด็กนี่! ไม่ใช่ว่าโดนหนูถ่ายไปหมดแล้วเหรอ?”

เสียงต่ำๆของผู้ชายคนนั้นดังผ่านโทรศัพท์เข้ามา เจียงสื้อสื้อชะงักไปครู่หนึ่ง การหายใจไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ

โชคดีที่ จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้เดินมาในทันที เหมือนกับว่าเขาแค่ตอบกลับคำพูดของเสี่ยวเป่า

“แบร่ๆๆๆ” หลังจากเสี่ยวเป่าทำหน้าตลก

“แบร่ๆๆๆ”

เด็กหญิงตัวน้อยก็เอามือมาจิ้มตาขวาของเธอและหน้าตลกเลียนแบบเสี่ยวเป่า ทำให้เจียงสื้อสื้อหัวเราะจนน้ำตาไหล

ทั้งสามคนคุยกันอย่างไม่รู้จบ

คุยไปเรื่อยๆ จนหัวข้อสนทนาเริ่มจะไปไกลแล้ว

ผ่านไปสักพัก ทันใดนั้นเสี่ยวเป่าก็พูดกับเจียงสื้อสื้อว่า “หม่ามี๊ รอให้เย็นกว่านี้ ผมไปหาหม่ามี๊และน้องสาวที่โรงพยาบาลดีกว่า ผมอยากเจอ”

เจียงสื้อสื้อลังเลไปเล็กน้อย และพูดต่อว่า “หม่ามี๊ไปหาหนูดีกว่า ได้จังหวะเลี้ยงอาหารแดดดี๊หนูสักมื้อพอดี อยากจะขอบคุณเขาที่สองสามวันนี้ช่วยดูแลเถียนเถียน”

พูดจบ เธอก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน

จริงๆแล้วจิ้นเฟิงเฉินที่อยู่อีกด้านหนึ่งของสายอย่างเงียบๆ เงี่ยหูฟังลาดเลาทางนี้

พอได้ยินเจียงสื้อสื้อพูดถึงตัวเอง ก็นั่งอยู่ไม่นิ่ง

เขาค่อยๆลุกขึ้น เดินเข้ามากลางกล้องในจอ

“ไฮ”

เจียงสื้อสื้อยกมือของเถียนเถียนขึ้นมา ทักทายกับเขา

“เย็นนี้คุณเลิกงานกี่โมงคะ ฉันจะชวนพวกคุณมาทานอาหาร”

จิ้นเฟิงเฉินเม้มปากเล็กน้อย ในดวงตาของเขามีแสงสว่าง

ลูกกระเดือกของเขาขยับเล็กน้อย อยากจะพูดปฏิเสธออกไป

การดูแลเถียนเถียน เดิมทีเขาควรจะทำอยู่แล้ว คำพูดอยู่ที่ปาก แต่กลับถูกเขากลืนลงไปทันที

ไม่ง่ายนักที่เจียงสื้อสื้อจะเป็นคนเริ่มชวนไปทานอาหารด้วยกัน นับเป็นโอกาสที่เกิดขึ้นได้ยาก

เขาเองก็อยากจะเจอสองแม่ลูกอย่างมาก พูดเสียงต่ำตอบไปว่า “หกโมง”

เสี่ยวเป่าที่อยู่ข้างๆกะพริบตา มองไปทางจิ้นเฟิงเฉิน อดไม่ได้ที่จะแอบหัวเราะ

เลิกงานหกโมง?

ไม่ใช่หนึ่งทุ่มเหรอ?

เจียงสื้อสื้อไม่ได้สงสัยอะไร “อืม โอเค ถึงเวลาเจอกันค่ะ”

หลังจากที่ผู้ใหญ่สองคนตกลงเวลา ดีใจที่สุดก็คงจะเป็นเด็กน้อยทั้งสองคน

เหลือเพียงแต่แค่ไม่ได้กระโดดขึ้นมา

หลังจากคุยโทรศัพท์เสร็จ เถียนเถียนก็ถามเจียงสื้อสื้อว่ากี่โมงแล้ว

วางแผนอย่างเงียบๆว่าคืนนี้ตัวเองจะใส่ชุดอะไร ทำให้เจียงสื้อสื้อรู้สึกขบขัน

หลังจากทักทายพยาบาลที่โรงพยาบาล เธอก็พาเถียนเถียนกลับไปอาบน้ำแต่งตัว ไม่นานก็ถึงเวลานัด

แม่ลูกรีบออกเดินทาง เพื่อไปพบกับพ่อลูกตระกูลจิ้น

ทางด้านจื่อเฟิงก็รู้เพียงแค่พ่อลูกคู่นี้นัดทานข้าวกับใครสักคน แต่ก็ไม่รู้ว่าคนที่พวกเขาจะไปเจอเป็นใคร

ตอนที่อยู่ที่บริษัท ก็เห็นจิ้นเฟิงเฉินและเสี่ยวเป่ารู้สึกตื่นเต้นมาก

โดยเฉพาะจิ้นเฟิงเฉิน ในหนึ่งชั่วโมงมองนาฬิกาไปนับครั้งไม่ถ้วน ท่าทางดูเหม่อลอย

จื่อเฟิงอดไม่ได้ที่จะอยากรู้ว่าคนที่สองพ่อลูกจะไปพบเป็นใคร พวกเขาถึงได้มีท่าทีระมัดระวังแบบนี้

คำตอบของคำถามมาพร้อมกับสีของท้องฟ้าในยามเย็น

พลบค่ำ ในที่ที่ไกลๆ เงาของร่างเล็กและร่างใหญ่ที่สวนกับพราะอาทิตย์ในยามเย็น

ในตอนที่เจียงสื้อสื้อพาเด็กหญิงตัวน้อยที่ตัวค่อนข้างจะโตปรากฏในขอบเขตการมองเห็นของจื่อเฟิง เธอก็ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้

รูม่านตาของขยายกว้างขึ้น จ้องมองไปที่ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อ ก้าวถอยหลังไปอย่างหวาดกลัว

สีหน้าในตอนนั้นก็เปลี่ยนไป

เป็นไปได้ยังไง ทำไมเจียงสื้อสื้อถึงยังมีชีวิตอยู่

เธออ้าปากเล็กน้อย อย่างตกใจ

“คุณพ่อ พี่ชาย กอดๆ”

เสียงอ่อนนุ่มของเด็กหญิงตัวน้อยดังผ่านอากาศ สะท้อนในความว่างเปล่า

เธอสะบัดมือของเจียงสื้อสื้อออก และวิ่งไปทางสองพ่อลูก

เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะมองตามไป ดึงเด็กหญิงตัวน้อยออกมาจากตัวของเสี่ยวเป่า พูดด้วยสีหน้าขรึมๆว่า “เถียนเถียน อย่าทำเรื่องวุ่นวาย!”

ตอนนี้ขาของเสี่ยวเป่ายังเจ็บอยู่ ถ้าบาดเจ็บอีก เกรงว่าต้องอยู่โรงพยาบาลอีกครั้ง

พอได้ยินเสียงแหลมๆที่คุ้นเคยนั้น ตัวของจื่อเฟิงก็หนาวเหน็บขึ้นมา

เธอมองตรงไปที่ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อที่อยู่ตรงหน้าเธอ ราวกับฝันร้าย กระตุ้นประสาทของเธอในทันที

แม้ว่าเธอไม่อยากจะเชื่อ แต่คนตรงหน้าเธอคือเจียงสื้อสื้ออย่างไม่ต้องสงสัย

แต่ไม่ใช่ว่าเธอตายไปแล้วเหรอ?

ทำไม ถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่?

เมฆหมอกแห่งความสงสัยปกคลุมไปทั่วจิตใจของเธอ ความตกใจในใจของ

จื่อเฟิงค่อยๆเพิ่มมากขึ้น

ครู่หนึ่ง เธอลืมจัดการการแสดงสีหน้าของตัวเอง

สายตาของเธอจ้องมองอย่างเกลียดชัง เล็บแหลมทิ่มลงไปในเนื้อ

ทำไม ทำไมเธอต้องกลับมาอีก!

เธอตะโกนอย่างโกรธแค้นอยู่ในใจ

เจียงสื้อสื้อกลับมาแล้ว งั้นหลายปีที่ฉันถูกขับไล่ หมายความว่ายังไงกันแน่?

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท