บทที่ 688 เสี่ยวเป่าหายตัวไป
เจียงสื้อสื้อรู้สึกถึงลางที่ไม่ดี ก็ได้ถามออกไป “เกิดอะไรขึ้น?”
สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินไม่น่าดูมากๆ เสียงก็ได้แหบไปมาก
“เสี่ยวเป่าหายตัวไป”
ได้ยินว่าเกี่ยวกับเสี่ยวเป่า เจียงสื้อสื้อก็ร้อนใจ ก็ได้ถามต่อว่า “ทำไมถึงหายตัวไป เขาไปไหนแล้ว?”
จิ้นเฟิงเฉินส่ายหน้า “ทางโรงเรียนโทรมา เสี่ยวเป่าก็แค่โผล่หน้าให้เห็นที่โรงเรียนแล้วก็ออกไป เขาหาไม่เจอ”
“ไม่แน่อาจจะกลับไปเองแล้ว” เจียงสื้อสื้อก็ได้มีหวังเพียงน้อยนิด
จิ้นเฟิงเฉินไม่พูดอะไร สีหน้าเคร่งเครียด
จากนั้นก็โทรให้แม่จิ้น แต่สีหน้าก็ได้เสียกว่าเดิม
เป็นไปตามที่เขาคิดไว้ เสี่ยวเป่าไม่ได้กลับไป
เขาได้หนีออกจากบ้าน!
ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปไหน
ตั้งแต่วันนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็รู้มาโดยตลอดว่าเสี่ยวเป่าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ว่าเขาพยายามที่จะแสดงออกมาว่าปกติ
แต่ว่าจิ้นเฟิงเฉินก็ได้เก็บความทุกข์เองในใจมาตลอด ไม่มีเวลาสนใจเสี่ยวเป่า
ข้อสองก็คิดว่านิสัยของเด็ก ผ่านไปสักพักก็คิดได้เองแล้ว
แต่ก็คิดไม่ถึงว่า เสี่ยวเป่าได้อ่อนไหวถึงขนาดนี้
จิ้นเฟิงเฉินนั่งเงียบ แวบเดียว เจียงสื้อสื้อรู้สึกว่าเขาถูกความเศร้าขนาดหนักครอบคลุม
มองดีๆ สีหน้าของเขากลับได้นิ่ง
นั้นเป็นความเศร้าเสียใจสิ้นหวังที่ส่งมาจากกระดูก
เจียงสื้อสื้อเหมือนว่าจะหายใจไม่ออก เธอได้พูดออกไปอย่างสับสน “พวกเรา คือพวกเรารีบไปตามหาเสี่ยวเป่าเถอะ ผ่านไปนานๆ ก็……”
จิ้นเฟิงเฉินเงยหน้า ก็ได้ขยับมุมปากยิ้มให้เธอ ใบหน้ากลับไม่มีรอยยิ้ม
“งั้นใบหย่า”
“การหย่ามันจะไปสำคัญเท่าเสี่ยวเป่าเหรอ!” เจียงสื้อสื้อก็ได้พูดออกไปเลยทันที
มองเธอไปสักพัก จิ้นเฟิงเฉินก็ได้สตาร์ทรถแล้วขับออกไป
ไปที่โรงเรียน หาไปบริเวณรอบๆ โรงเรียนทั้งหมด ไม่มีเงาของเสี่ยวเป่า
สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินยิ่งอยู่ก็ยิ่งแย่กว่าเดิม เสี่ยวเป่าไม่ได้เป็นเด็กเกเร
การหนีออกจากบ้านคราวนี้ ต้องเป็นเพราะว่าเสียใจมากๆ แน่
ถ้าไม่ได้มาถึงจุดที่รับไม่ได้แบบนี้ เขาจะไปทำเรื่องที่เกินไปแบบนี้ที่ไหน
มือที่จิ้นเฟิงเฉินวางที่พวงมาลัยก็ได้ออกแรงจนสุด หลังมือก็ได้เริ่มเขียว
เจียงสื้อสื้อมองก็รู้สึกปวดใจ กระตุกแขนเสื้อของเขา
“พวกเราลงจากรถไปหาเถอะ ที่นี่ซอยเล็กๆเยอะเกินไป ขับรถไม่สะดวก”
จิ้นเฟิงเฉินก็ได้พยักหน้า
ต่อให้ในใจจะหงุดหงิดขนาดไหน ไม่มีความอดทนขนาดไหน กับเจียงสื้อสื้อจิ้นเฟิงเฉินจะมีท่าทางที่ดีให้ตลอด
หาที่จอดรถ ทั้งสองก็ได้เดิมตามหา
เดินผ่านถนนแล้วถนนเล่า ไปหาร้านของกินที่เสี่ยวเป่าชอบ สุดท้ายก็หาไม่เจอ
ครูของโรงเรียนได้ตามหา พ่อจิ้นแม่จิ้นก็ได้ตามหา สองสามีภรรยาจิ้นเฟิงเหราก็ได้ไปช่วย
จิ้นเฟิงเฉินมองข้อความที่พวกเขาส่งมา ใจก็ได้ตกหล่นไปเรื่อยๆ
ไม่มีทั้งหมด……
“ต้องไม่เกิดอะไรขึ้นหรอก เสี่ยวเป่าฉลาดขนาดนั้น อาจเป็นเพราะเขาอยากเล่น แล้วก็หนีไปที่ที่หนึ่งแล้วก็เล่นอยู่”
เจียงสื้อสื้อแกล้งทำเป็นพูดออกไปอย่างสบายใจ ก็ไม่รู้ว่าได้ปลอบใจตัวเองหรือปลอบใจจิ้นเฟิงเฉิน
หาไปหามา สุดท้ายก็ได้กลับมาที่รอบๆบริเวณโรงเรียนอีกครั้ง
เจียงสื้อสื้อเดินไปที่ร้านขายของชำซื้อน้ำสองขวด ให้จิ้นเฟิงเฉินหนึ่งขวด
พอได้เดินตามหากี่ชั่วโมง บวกกับความรีบร้อน ริมฝีปากของจิ้นเฟิงเฉินได้เริ่มซีด
เขารับเอาน้ำมา มองเจียงสื้อสื้อที่ได้ใจร้อนเหมือนกัน อยู่ๆ ก็อย่างจะบอกเรื่องราวทั้งหมดออกไป แต่สุดท้ายก็ได้เก็บเงียบ
ไม่กล้าที่จะเสียเวลา ตอนที่เจียงสื้อสื้อเดินผ่านร้านผลไม้นั้น ก็ได้ลองเสี่ยงถามคุณลุงคนนั้นดู
คุณลุงคนนั้นได้ยินก็ได้มีสีหน้าสงสัย “เด็กที่เธอพูดฉันเหมือนเคยเจอ สูงขนาดนี้ใช่ไหม เด็กชายที่มีหน้าตาเหมือนตุ๊กตาน่ะ?”
“ใช่ค่ะใช่ค่ะ คุณลุงเคยเจอไหม?” เจียงสื้อสื้อดีใจมากๆ
คุณลุงพยายามที่จะย้อนคิดแล้วพูด “ตอนที่ฉันมาตั้งร้านตอนเช้า ผ่านทางนี้ เห็นเด็กที่เหมือนกับที่เธอเล่ามา มีสีผิวที่ขาวสะอาด”
ตอนนี้ไม่ว่าข้อมูลอะไรสำหรับทั้งสองแล้ว มันมีค่ามากๆ
คุณลุงได้ชี้ทางให้พวกเขา ทั้งสองก็ได้รีบเดินไปทางนั้น
ซอยทางนี้มีทางเข้าเยอะมาก ทั้งสองก็ได้ตามหาไปจนทั่ว ในที่สุดก็ได้เจอเสี่ยวเป่า
เวลานี้เขาได้นั่งก้มหัวตรงบันได
เสี่ยวเป่าได้ยินเสียงฝีเท้าแล้วก็เสียงเรียกเขา เงยหน้ามองทั้งสองที่เต็มไปด้วยความร้อนใจ ปฏิกิริยานิ่งเรียบ
ไม่ได้วิ่งเข้ามาหาอย่างออดอ้อนเหมือนทุกครั้ง แต่เป็นการเปลี่ยนที่ที่มองอย่างรวดเร็ว
แต่ว่า จิ้นเฟิงเฉินสังเกตไม่เห็นท่าทางนั้น
เขาเดินไปหน้าเสี่ยวเป่า ก็ได้ดุออกไปด้วยความโมโห “เสี่ยวเป่า ลูกเป็นอะไรไป? ลูกรู้ไหมว่ามีคนหลายคนเป็นห่วง?”
จิ้นเฟิงเฉินไม่เคยที่จะพูดต่อว่าเสี่ยวเป่าแบบนั้นมาก่อน เวลานั้น ตัวของเสี่ยวเป่าได้สะดุ้ง หน้าก็ได้ก้มต่ำกว่าเดิม
เห็นท่าทางแบบนั้นของเขา จิ้นเฟิงเฉินก็ปวดใจเล็กน้อย แต่ส่วนมาจะเป็นการโมโหหลังจากที่เป็นห่วง
เขารู้ว่าตอนนี้ถ้าไม่พูดกับเขาดีๆ งั้นต่อไปก็จะกลายเป็นความเอาแต่ใจของเขาในอนาคต
เพราะงั้นก็ได้ใจแข็งพูดต่อว่า “ลูกหนีออกมา รู้ไหมว่าคุณปู่คุณย่าเป็นห่วงขนาดไหน? รู้ไหมว่าพวกเราเป็นห่วงขนาดไหน? เสี่ยวเป่า เราเป็นเด็กดีหน่อยได้ไหม?!”
ไม่ว่าจิ้นเฟิงเฉินพูดอะไร เสี่ยวเป่าก็ได้ก้มหน้าตลอดไม่ขยับ
ท่าทางเหมือนปีศาจน้อยที่ได้รับบาดเจ็บ ได้เลียแผลตัวเองอย่างโดดเดี่ยว
เวลานี้จิ้นเฟิงเฉินก็ได้สังเกตว่าเสี่ยวเป่าไม่เหมือนเดิม ท่าทางแบบนั้นทำไมเหมือนกับก่อนหน้าขนาดนั้น?
เขาไม่กล้าที่จะคิดเลยว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเป่า เขาจะมีชีวิตอยู่ต่อยังไง
ต่อไปเจียงสื้อสื้อจากไป ทั้งชีวิตของเขาที่ที่ประคองเขามีแค่อย่างเดียว จะให้เกิดอะไรขึ้นกับเขาได้ยังไง
สองพ่อลูกก็ได้อยู่แบบนั้น
สุดท้ายเจียงสื้อสื้อทนดูต่อไปไม่ได้ ก็ได้บอกให้พวกเขากลับไปก่อน
เจียงสื้อสื้อก็ได้ตามไป เธอไม่วางใจเสี่ยวเป่า
เธอนั่งอยู่ที่นั่งหลังคนขับ เสี่ยวเป่ากลับนั่งที่นั่งข้างคนขับ
เวลานั้นในใจของเจียงสื้อสื้อก็ได้มีความรู้สึกแปลกๆ โผล่ออกมา ตอนนี้เสี่ยวเป่ากีดกั้นเธอแล้วเหรอ?
แต่ว่าไม่นานเธอก็ได้ปฏิเสธความคิดนี้ น่าจะเป็นเพราะว่าคนในตระกูลจิ้นได้ทะเลาะกัน
เธอรู้ว่าหาเสี่ยวเป่าเจอแล้ว เธอควรจากไป
แต่ไม่รู้ทำไม เธออยากที่จะอยู่กับพวกเขาต่อนานหน่อย
ระหว่างทางที่กลับไป จิ้นเฟิงเฉินก็ได้โทรไปบอกพ่อแม่และก็ครูที่โรงเรียน บอกเขาว่าหาตัวเจอแล้ว
ระหว่างนั้น ก็ได้มองเสี่ยวเป่า เขาก็ยังมีท่าทางแบบเดิม
สองมือจับกัน ก้มหน้า คนทั้งคนดูหดหู่มาก
ทำให้จิ้นเฟิงเฉินเป็นห่วงมากๆ
มาถึงตระกูลจิ้น พ่อจิ้นแม่จิ้นได้รอที่ประตูตั้งนานแล้ว
เห็นหลานรัก แม่จิ้นก็ได้วิ่งเข้าไป กอดเสี่ยวเป่าแล้วร้องไห้
เสี่ยวเป่าก็ได้เปิดปาก แต่ก็ไม่พูดอะไร
คิ้วน้อยๆ ได้ขมวด ใบหน้าเศร้าใจ
ตาของพ่อจิ้นก็ได้แดง แต่เขาก็ได้มองออกถึงความผิดปกติ
ท่าทางของเสี่ยวเป่าแปลกไป
สายตาของเขาเย็นชา เหมือนว่าได้กีดกั้นอ้อมกอดของแม่จิ้น
ก็ได้ดิ้นรนเล็กน้อยอยู่ตลอด หมายที่จะออกจากอ้อมกอดแม่จิ้น