ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 832 ไม่ใช่การปล้นฉึ่งๆหน้าหรือ

บทที่ 832 ไม่ใช่การปล้นฉึ่งๆหน้าหรือ

บทที่ 832 ไม่ใช่การปล้นฉึ่งๆหน้าหรือ

“เมื่อกี้คุณทำพนักงานของฉันเจ็บหลายคน คนพวกนี้ล้วนเป็นคนที่ฉันใช้เงินจำนวนมากจ้างมาก เมื่อได้รับบาดเจ็บแล้วก็ต้องมีคนรับผิดชอบ ที่จริงถ้าเมื่อกี้นี้หากคุณไปแล้ว ฉันยอมขาดทุน แต่ในเมื่อคุณมีใจจะอยู่ต่อ คิดว่าคงมีใจอยากขอโทษกับเรื่องที่ทำไป ใช่ไหม ”

จิ้นเฟิงเฉินเผยอยิ้ม ไม่รอเบอร์เกนต่อคำ เขายกมือขึ้นทำท่าตัวเลขอย่างช้าๆ “ดังนั้น ชดใช้ต่อคนเท่านี้นะ คุณเบอร์เกนฐานะร่ำรวย ตัวเลขนี้ คิดว่าคงไม่อยู่ในสายตา”

เมื่อเบอร์เกนเห็นตัวเลขที่เขาทำมือมา ทันใดนั้นสีหน้าซีดลง ไม่คิดว่าจิ้นเฟิงเฉินจะมาไม้นี้กับเขา

เขากัดฟันด้วยความเกลียดชัง ลุกขึ้นจากโซฟากะทันหัน วางมาดต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เปิดเผยหน้ากัน “ผมได้ทำร้ายคนของคุณแล้วอย่างไง ชดใช้หรือ หรือว่าบริษัทประธานจิ้นหมุนเงินไม่ทัน จึงต้องรีดไถเงินจากผมไปสักก้อน ”

เจิ้นเฟิงเฉินยิ้มอย่างเย็นชา เหลือบมองดูมือถือ พูดน้ำเสียงเรียบๆว่า “บวกกับเวลาที่คุณเข้ามาห้านาทียี่สิบสี่วินาที ทำให้งานของผมล่าช้า เห็นแก่ที่เรารู้จักกันมาหลายปี ฉันลบวินาทีไป แค่ห้านาทีก็พอ หนึ่งล้านยูโร คุ้มมาก”

เบอร์เกนโกรธจนสำลัก ชี้หน้าจิ้นเฟิงเฉิน อ้ำอึ้งอยู่หลายวินาที

จิ้นเฟิงเฉินราวกับมองไม่เห็น บนใบหน้าไม่มีแม้แต่อาการใดๆ พูดเสียงเข้ม “ กู้เนี่ยน ส่งแขก ”

“ครับ คุณชาย”

กู้เนี่ยนสีหน้าอมยิ้ม ยืดอกผายมือ พูดกับเบอร์เกนว่า “คุณเบอร์เกน ไม่ทราบว่าจะจ่ายเป็นเช็คหรือเงินสดครับ”

……

เบอร์เกนตกตะลึงไปเลย ในตาเต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อ

นี่ไม่ใช่การปล้นกันแบบซึ่งหน้าหรอกหรือ

“จิ้นเฟิงเฉิน คุณ คุณ………”

เบอร์เกนโกรธจนหอบ พูดตะกุกตะกัก………..

จิ้นเฟิงเฉินประสานนิ้วมือทั้งสิบไว้ กระตุกยิ้มเย็นชา “ทำไม ไม่มีปัญญาจ่ายหรือ งั้นเราแจ้งตำรวจจัดการเป็นไง ฉันคิดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะให้ความสนใจสิ่งที่คุณเบอร์เกนทำอย่างมาก ”

จิ้นเฟิงเฉินดันเอกสารตรงหน้าออก แล้วเอนกายพิงพนักเก้าอี้ จ้องมองเขาอย่างมีความหมาย

เบอร์เกนเองก็เป็นคนฉลาด ฟังความหมายในคำพูดของจิ้นเฟิงเฉินออกอยู่แล้ว

นี่เป็นการข่มขู่เขา

เขาอดไม่ได้ที่จะบึ้งตึง จ้องมองจิ้นเฟิงเฉินอย่างเขม่น ในตาเต็มไปด้วยความกดขี่

โดยทั่วไปแล้ว วิธีการจ้องมองคนมุมมองแบบนี้ สร้างความกดดันทางจิตใจให้กับคนได้ง่ายสุด

แต่กับคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

นั่นคือจิ้นเฟิงเฉิน

ถึงแม้จะเป็นการนั่ง ออร่าของจิ้นเฟิงเฉินก็ทรงพลังจนทำให้คนกลัว

ทันใดนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็ยิ้มเยาะ สองขาไขว้หากัน กล่าวอย่างสบายๆ “ คุณเบอร์เกนผู้มีทรัพทย์สินนับไม่ถ้วน ได้ขี้เหนียวขั้นนี้ ดูแล้ว พวกเราหาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคุยกันดีกว่า”

“คุณ………….”

จิ้นเฟิงเฉินไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดเลย เลิกคิ้วเล็กน้อย พูดอย่างช้าๆ“คุณว่า คุณตำรวจเขาจะตรวจสอบเจออะไรบางอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ออกมาหมดหรือไม่ ”

สีหน้าเบอร์เกนซีดลงทันที

แต่ว่า ไม่นาน เขาก็หัวเราะเยาะ แกล้งทำเหมือนฟังความหมายในคำพูดของจิ้นเฟิงเฉินไม่ออก “งั้นก็หาตำรวจเลย ผมแค่ทำร้ายคนไม่กี่คนก็เท่านั้นเอง จะตรวจสอบเจออะไรได้ ”

เห็นเขาเป็นเช่นนี้ จิ้นเฟิงเฉินสีหน้าไม่เปลี่ยน พยักหน้าอย่างครุ่นคิด “ทำร้ายคนเพียงไม่กี่คนหรือ ดูแล้ว คุณเบอร์เกนมั่นใจว่า ตำรวจจะตรวจไม่เจอสิ่งที่อยู่ในสถาบันวิจัยของคุณหรือ ”

น้ำเสียงหยุดไปชั่วคราว แล้วกล่าวอย่างไม่เร่งไม่รีบ “อย่างเช่น เชื้อไวรัส ”

เมื่อได้ยินสองคำสุดท้าย เบอร์เกนยืดตัวตรงทันที ม่านตาหดตัว สายตาอย่างกับแมงป่องมีพิษนั้นจ้องไปที่จิ้นเฟิงเฉิน

จิ้นเฟิงเฉินสบตาเขา สีหน้าดูเรียบ ราวกับว่าเมื่อกี้แค่พูดล้อเล่นเฉยๆ

อากาศในห้องทำงานเหมือนจะแข็งตัวเช่นนั้น

มุมปากกู้เนี่ยนเผยอยิ้มน้อยๆ ในตาเต็มไปด้วยความหมายที่ไม่ชัดเจน

ผ่านไปเนิ่นนาน เบอร์เกนค่อยๆผ่อนคลายลง หยีตาจ้องมองจิ้นเฟิงเฉิน แล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี

“ประธานจิ้นช่างชอบพูดเล่นจริงๆ ”

“ฉันไม่เคยพูดเล่น ” จิ้นเฟิงเฉินก็ยิ้ม แต่รอยยิ้มไม่ถึงหางตา “ที่สำคัญ เมื่อพูดออกมาแล้วต้องทำให้ได้”

……

ในเวลานั้น เบอร์เกนทั้งอดทนและอดกลั้นแล้ว แต่ก็ไม่สามารถระงับความโกรธของตัวเองลงได้ สองมือกำหมัดแน่น จ้องมองจิ้นเฟิงเฉินด้วยอารมณ์โกรธ

รู้มานานแล้วว่าจิ้นเฟิงเฉินไม่ใช่คนที่จะรุกรานได้ง่ายๆ และเขาก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเสียรู้ให้กับจิ้นเฟิงเฉิน

วันนี้ กลับยังไม่สามารถนั่งนิ่งๆได้ เห็นว่าจัดการได้ใกล้จะสำเร็จแล้ว ก็เลยรอไม่ไหวที่จะมาดูเรื่องตลก

ไม่เคยคิดว่า กลับเป็นการยกก้อนหินทุบขาตัวเอง

จิ้นเฟิงเฉินราวกับไม่รู้สึกถึงอารมณ์โกรธของเขา สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง แต่ความกดอากาศรอบตัวกลับยิ่งต่ำลง จนทำให้คนกลัว

เขาพยายามระงับอารมณ์โกรธ แล้วยิ้ม “ท่านประธานจิ้น สถาบันวิจัยของผมทำการรักษาพยาบาลช่วยเหลือชีวิตผู้คน ที่ทำนั้นเป็นโครงการด้านรักษาพยาบาลที่ยิ่งใหญ่ ตำรวจจะสนใจได้อย่างไร ท่านอย่ามาล้อเล่นกับผมเลยนะ ”

“ลองแล้วก็จะรู้เอง ” จิ้นเฟิงเฉินกล่าวอย่างเบาๆ

เบอร์เกนแทบจะอาเจียนเป็นเลือด สีหน้าของเขาเปลี่ยนแบบคาดเดาไม่ได้ ในที่สุดก็ทำได้เพียงยินยอม “ตำรวจไม่ว่าง พวกเราไม่ต้องไปรบกวนคุณตำรวจแล้ว เช็คใช่ไหม ผมให้ ”

พูดไปพร้อมกับหยิบเช็คออกมาจากกระเป๋า หยิบปากกามาหนึ่งด้าม แล้วกรอกตัวเลขยาวๆลงไป

แอบกัดฟัน ห้าหมื่นยูโรต่อพนักงานหนึ่งคน และค่าเสียเวลาหนึ่งล้านยูโร

เชอะ เวลาของเขาจิ้นเฟิงเฉินช่างมีค่ามากเสียจริง พนักงานก็ไม่รู้ว่าจ้างก้อนทองจากที่ไหนมา

แต่ว่า ถึงแม้จะไม่เต็มใจ เบอร์เกนก็ทำได้เพียงกัดฟันกลืนยอมเสียเปรียบไป

แต่……

วันข้างหน้า จิ้นเฟิงเฉินก็อย่าคิดจะได้อยู่ดี เขาจะเอาคืนจนได้

เมื่อเบอร์เกนกรอกเช็คเสร็จแล้ว ยื่นให้กู้เนี่ยน ไม่แสร้งทำผิวเผินแล้ว จ้องมองจิ้นเฟิงเฉินอย่างดุร้าย แล้วหันหลังเดินออกไปข้างนอก

เมื่อเดินถึงประตู เขาหยุดเดิน หันกลับมาพูดว่า “การต้อนรับของประธานจิ้นในวันนี้ เป็นสิ่งที่น่าจดจำ ถ้ามีโอกาส ผมจะตอบแทนอย่างแน่นอน”

กัดฟันพูดทิ้งท้ายประโยคนี้ แล้วก็จากไป

บนใบหน้าจิ้นเฟิงเฉินไม่แสดงอาการอื่นใด หยิบเอกสารบนโต๊ะอย่างสงบ แล้วดูอย่างจริงจัง

กู้เนี่ยนที่ถือเช็คไว้“………….. ”

ตอนนี้ในใจเขาสับสนมาก ใครสามารถบอกเขาได้ว่า เมื่อกี้นี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่

เขารู้สึกว่า เขาใกล้จะตามความคิดของคุณชายในบ้านไม่ทันแล้ว

“คุณชาย ”ในที่สุดกู้เนี่ยนก็อดไม่ได้ มีความไม่เข้าใจเล็กน้อยจึงถามว่า “ปล่อยเบอร์เกนไปแบบนี้หรือ”

“ ไม่อย่างนั้น แกคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ”จิ้นเฟิงเฉินเหลือบตามองเขาแล้วกล่าวเรียบๆ

กู้เนี่ยนนำเช็คในมือวางลงบนโต๊ะ สีหน้าสับสน ยิ่งน้ำเสียง ยากจะอธิบาย

“หรือว่าเขาตั้งใจ………….นำเงินมาให้พวกเราหรือ”

นี่มันกุมารแจกเงินอะไรเนี่ย

ตอนที่บุกเข้ามาบริษัทด้วยท่าทางดุเดือด เหมือนกับนกยูงหยิ่งผยอง เขายังคิดว่าเบอร์เกนจะทำการเคลื่อนไหวใหญ่อะไร

ใครจะคาดคิดว่า แค่คำพูดสองสามคำของจิ้นเฟิงเฉิน ก็ยกมือยอมจำนน แล้วยังเขียนเช็คไว้หนึ่งใบเช่นนี้

แต่ว่า เงินแค่นี้ ย่อมไม่อยู่ในสายตาของคุณชายของพวกเขาอยู่แล้ว

ริมฝีปากบอบบางของจิ้นเฟิงเฉินซึมซาบไปด้วยความเย็นชา กระตุกยิ้มที่มุมปาก “แน่นอนว่า เขาไม่ได้มาเพื่อนำเงินมาให้ แต่ว่าเขามีแผนชั่วอยู่ในใจก็เท่านั้นเอง”

เมื่อบอกเท่านี้ กู้เนี่ยนก็รู้ได้ทันที “คุณชาย ท่านว่า ที่บริษัทเกิดปัญหาคราวนี้ เป็นไปได้ไหมว่าจะเกี่ยวกับเบอร์เกน”

คนคนนั้นช่างกะล่อนปลิ้นปล้อนนัก อำนาจก็ยิ่งใหญ่ รากจะขดกิ่งก้านพันกัน การจะลงมือบ้างเล็กน้อย ไม่มีอะไรง่ายไปกว่านี้อีกแล้ว

จิ้นเฟิงเฉินเหลือบตามองเขา กล่าวอย่างใจเย็นว่า“ไม่ใช่ปัญหาที่เป็นไปได้ แต่มีความเกี่ยวข้องกับเขาอย่างแน่นอน”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท