บทที่ 840 ราตรีสวัสดิ์
ในห้องจัดเลี้ยงเต็มไปด้วยเสียงครึกครื้น เซเลบคนดังอายุน้อยต่างพากันดิ้นรนค้นหาชายในฝันของพวกเขาในงานเลี้ยงนี้ให้เจอ
ไม่ได้หวังว่าจะดีเหมือนกับสองพี่น้องตระกูลจิ้น แต่อย่างน้อยก็ขอให้รักภรรยา
พิจารณาถึงส้งหวั่นชีงกำลังตั้งครรภ์ เจียงสื้อสื้อจึงพาเด็กน้อยสองคนกับเธอไปนั่งอยู่ข้างๆ เธอถือขนมเค้กหนึ่งชิ้นป้อนเถียนเถียนกินอยู่
เสี่ยวเป่าถือจานผลไม้ส่งไปตรงหน้าส้งหวั่นชีงอย่างรู้ความ ท่าทางเหมือนเด็กโต ช่างรู้ความจริงๆ “คุณป้า กินผลไม้หน่อย”
“ตอนที่หม่ามี๊ของผมท้องน้องสาวอยู่ก็จะกินผลไม้เยอะมาก จากนั้นก็คลอดน้องสาวน่ารักหนึ่งคนให้เสี่ยวเป่า”
“เสี่ยวเป่าของเราช่างรู้ความจริงๆ ป้าขอบคุณหนูมากนะ”
ส้งหวั่นชีงยิ้มชอบใจ ขณะที่รับจานผลไม้มาก็ดึงเสี่ยวเป่าเข้ามาในอ้อมกอดด้วย
เด็กประพฤติดีและรู้ความอย่างนี้ใครจะไม่ชอบ ยิ่งไปกว่านั้นเสี่ยวเป่ายังน่ารักด้วย
แม่จิ้นคุยกับพวกคุณหญิงทั้งหลายสักพักแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะมาเล่นกับหลานบ้านตัวเอง
งานเลี้ยงดำเนินการมาถึงช่วงครึกครื้นที่สุด และก็คือขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ที่สุด
ชายหนุ่มและหญิงสาวหลายคู่ที่ต่างมีความรู้สึกดีให้กัน ก็ได้มายืนอยู่ด้วยกันแล้ว
คราวนี้จิ้นเฟิงเฉินสองคนพี่น้องเดินเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง ยังคงดึงดูดสายตาของเซเลบคนดังหลายคน
ทั้งสองใส่ชุดสูทสีดำสั่งตัดพิเศษ ใบหน้าหล่อเหลา ร่างกายสูงใหญ่ ทำให้พวกเขากลายเป็นจุดสนใจของผู้คนอย่างง่ายดาย
ตอนที่เห็นภรรยาของบ้านตัวเอง ทันใดนั้นสายตาอ่อนโยนจนทำให้คนจมน้ำตายได้
พวกเซเลบคนดังในงานต่างพากันอุทาน ทำไมไม่ใช่ตัวเองที่เป็นเจียงสื้อสื้อหรือส้งหวั่นชีง
“เมียจ๋า”
จิ้นเฟิงเหราก้าวเท้าใหญ่ไปตรงหน้าส้งหวั่นชีง รับจานผลไม้จากมือเธออย่างคุ้นเคย จากนั้นหยิบลิ้นจี่ลูกหนึ่งมาปอกเปลือกออก เผยให้เห็นเนื้อขาวแล้วป้อนเธอกิน
ธรรมชาติของทาสเมียถูกเปิดเผยโดยไม่ต้องสงสัย
จิ้นเฟิงเฉินเดินเข้าไปตรงหน้าเจียงสื้อสื้อด้วยสีหน้าอ่อนหวาน ยื่นมือขวาให้เธออย่างสง่างาม น้ำเสียงอบอุ่น เหมือนพระอาทิตย์ต้นฤดูหนาว “คุณเจียงสื้อสื้อ ให้เกียรติเต้นรำกับผมสักเพลงได้ไหมครับ”
เจียงสื้อสื้อเผยยิ้ม แล้ววางมือน้อยไปที่ฝ่ามือแข็งแรงของเขา หมุนตัวลุกขึ้น “ถ้าคุณไม่กลัวถูกฉันเหยียบเท้า ฉันก็ยินดีค่ะ” จิ้นเฟิงเฉินอมยิ้ม จูงมือเจียงสื้อสื้อไปกลางห้องจัดเลี้ยง
ในเวลาเดียวกัน เสียงดนตรีคลาสสิกไพเราะดังขึ้น แสงไฟส่องสว่างสาดอยู่บนร่างทั้งสองคน เหมือนกับจะนำความรุ่งโรจน์มาสู่พวกเขา
จิ้นเฟิงเฉินมือหนึ่งจับมือเจียงสื้อสื้อไว้ อีกมือหนึ่งโอบเอวบางเธอไว้ เขาก้มหน้าจ้องมองเธอ ในตาดำเต็มไปด้วยความหลงใหลอย่างมาก
ถูกสายตาหลงใหลของเขาจ้องมองเช่นนี้ ใบหน้าสีขาวของเจียงสื้อสื้อก็เปื้อนไปด้วยสีแดงเข้มราวกับผลไม้แรกสุกที่รอวันเก็บ
สองร่างซ้อนกัน ก้าวไปตามจังหวะเพลง ดูไปแล้วเหมือนภาพวาดที่สวยงาม
ใบหน้าของคนในงานเต็มไปด้วยความอิจฉา
นี่แหละถึงเรียกได้ว่าหนุ่มหล่อสาวสวยแท้จริง สมกับเป็นคู่กันจริงๆ
หนึ่งเพลงจบลง เสียงปรบมือดังกึกก้อง จิ้นเฟิงเฉินก็เริ่มดูแลแขกเหรื่อในงาน
เจียงสื้อสื้อเห็นว่าลูกทั้งสองกำลังเล่นอยู่กับแม่จิ้น ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง จึงเดินตามหลังเขาดูแลแขกเหรื่อในงาน
เมื่อเจียงสื้อสื้อเดินไปมากับจิ้นเฟิงเฉินอยู่หลายรอบ ก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย
สังเกตเห็นสะใภ้ข้างกายทำท่าทางขยี้ตา จิ้นเฟิงเฉินก็สงสารขึ้นมาทันที
“สื้อสื้อ ไป ”
หลังจากอธิบายแขกรอบกายอย่างสุภาพอยู่สองสามคำ แล้วจิ้นเฟิงเฉินก็จูงมือพาเจียงสื้อสื้อเดินไปข้างกายแม่จิ้น
เสี่ยวเป่าหาวนอนอยู่หลายครั้ง เถียนเถียนก็เล่นจนเหนื่อยไปนานแล้ว ตอนนี้กำลังฟุบหลับอย่างสบายบนบ่าแม่จิ้น
“แม่ ฉันจะพาเถียนเถียนกลับไปนอนที่ห้อง ท่านก็รีบไปพักผ่อนเถอะ ”
เจียงสื้อสื้ออุ้มเถียนเถียนมาจากอกแม่จิ้นอย่างเบามือ ย้ำหนึ่งประโยค พร้อมกับจิ้นเฟิงเฉินที่อุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นบนไหล่แล้วเดินไปทางห้องนอนชั้นสอง
เมื่อต่างเอาเด็กทั้งสองวางลงบนเตียง แล้วจิ้นเฟิงเฉินก็กอดเจียงสื้อสื้อไว้ในอ้อมกอดทันที
“สื้อสื้อ คืนนี้คุณเหนื่อยแย่เลย”
มองดูหว่างคิ้วที่มีความเหนื่อยล้าของคนในอ้อมกอด จิ้นเฟิงเฉินก็ยิ่งรู้สึกสงสารมาก
“ฉันไม่เป็นอะไร คุณรีบกลับไปดูแลแขกในห้องจัดเลี้ยงเถอะ อย่าทำให้แม่เหนื่อย ”
เจียงสื้อสื้อเป็นเด็กดีให้จิ้นเฟิงเฉินกอดไว้ เงยหน้ามองเขา ยกมือขึ้นลูบแก้มเขา
คนที่เหนื่อยสุดควรจะเป็นเขาถึงจะถูก ถ้าเป็นไปได้ เธอก็อยากอยู่เคียงข้างเขาไปตลอดจนงานเลี้ยงเลิกรา
ทั้งสองกอดกันสักพัก แล้วจิ้นเฟิงเฉินก็ลงชั้นล่างกลับไปที่ห้องจัดเลี้ยง
แต่เสี่ยวเป่ายังไม่ทันได้หลับ
เขาอิงแอบอยู่ข้างกายเจียงสื้อสื้อ จนกระทั่งเธอเล่านิทานจบสองเรื่อง ถึงสะลึมสะลือหลับไป
เมื่อเจียงสื้อสื้อกลับถึงห้องนอน อาบน้ำอุ่น เพื่อขับไล่ความเหนื่อยล้าทั่วกายแล้ว ถึงกลับไปนอนลงบนเตียง
ตอนที่งานเลี้ยงเลิกรา เป็นเวลาดึกมากแล้ว
เสียงเปิดประตูห้องดังมา เจียงสื้อสื้อวางนิตยสารในมือลง ลุกขึ้นไปรับ
จิ้นเฟิงเฉินดื่มจนเมามาย เท้าลอยตั้งแต่เดินเข้ามาแล้ว
“ทำไมคุณถึงดื่มเหล้ามากขนาดนี้”
เจียงสื้อสื้อไม่รู้จะพูดอย่างไรและสงสารเขา จึงประคองเขาพาเดินเข้าไปข้างใน
“ดู ดูแลแขก ก็ต้องดื่มมากหลายแก้ว ”
จิ้นเฟิงเฉินถูกประคองไปนั่งข้างเตียง ท่าทางตอบเธอแบบตะกุกตะกักดูน่ารักเป็นพิเศษ
ท่านประธานที่เอาแต่ใจในวันปกติ จู่ๆก็น่ารักแบบนี้ จี้ถูกจุดอ่อนโยนที่สุดในใจเจียงสื้อสื้อพอดี
“คุณนั่งตรงนี้ก่อน อย่าขยับ ฉันจะไปตักน้ำมาเช็ดตัวให้ ”
เจียงสื้อสื้อย้ำจิ้นเฟิงเฉินด้วยน้ำเสียงกระซิบ แล้วหันไปตักน้ำอย่างรวดเร็ว
พอเธอวางกะละมังน้ำลง มือใหญ่ของจิ้นเฟิงเฉินก็จับต้นแขนเธอไว้
ดึงเบาๆ พาเธอเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา พลิกตัว ทับบนตัวหญิงสาวไว้
ท่าทางรักใคร่นี้ทำให้เจียงสื้อสื้อหน้าแดงขึ้นมาทันที ลมหายใจเขามีกลิ่นเหล้าบางๆ และพ่นใส่ปลายจมูกของเธอ
จนเธอรู้สึกจะเมาแล้วเหมือนกัน
“เฟิงเฉิน………”
สายตาจิ้นเฟิงเฉินพร่ามัวเล็กน้อย ก้มหน้าจูบปิดไปที่ริมฝีปากเผยอเล็กน้อยที่มองเห็นรางๆ
กลิ่นแอลกอฮอล์เต็มจมูก พร้อมกับกลิ่นกายสดชื่นที่คุ้นเคยของเขา
มันทำให้เธอเมาตามเล็กน้อย
“ สื้อสื้อ สื้อสื้อ”
จิ้นเฟิงเฉินเรียกชื่อเธอเสียงแหบต่ำ เซ็กซี่ชะมัด
เจียงสื้อสื้อต้านเสียงเรียกอ้อนของเขาได้ที่ไหน ถูกเขาจูบจนเธอสับสน แล้วยื่นแขนไปกอดคอเขาไว้เอง
ห้องที่อบอวลไปด้วยความรัก
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดจิ้นเฟิงเฉินก็นอนลงข้างๆเจียงสื้อสื้อแล้วหลับไป
เจียงสื้อสื้อพยุงร่างที่ถูกจิ้นเฟิงเฉินทำจนปวดเมื่อยขึ้น แล้วเข้าห้องน้ำไปเอาน้ำร้อนใหม่
ช่วยจิ้นเฟิงเฉินเช็ดไปทั่วทุกจุดของร่างกาย
เจียงสื้อสื้อพินิจพิจารณาดูจิ้นเฟิงเฉินที่กำลังหลับอย่างสนิท ราวกับว่าในใจเต็มไปด้วยอะไรบางอย่าง เต็มมากๆ
มองดูสักพัก แล้วเธอค้นชุดนอนของจิ้นเฟิงเฉินออกมาจากตู้เสื้อผ้า แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เขาอย่างเบาไม้เบามือ
ถึงแม้จะเป็นคนเมาที่ไม่อาจปลุกตื่นง่าย เธอก็ไม่อยากใช้แรงขนาดนั้น
ในที่สุดก็จบงานวุ่นๆลง เจียงสื้อสื้อเองก็ง่วงจนจะลืมตาไม่ขึ้นแล้ว
เธอมุดเข้าไปในอ้อมกอดของจิ้นเฟิงเฉินเอง จากนั้นเงยหน้าจูบที่คางสวยของเขา
“ราตรีสวัสดิ์”
กระซิบราตรีสวัสดิ์ แล้วไม่นาน เจียงสื้อสื้อกอดเอวจิ้นเฟิงเฉินหลับไป