วันต่อมาเจียงสื้อสื้อก็ถูกเสียงดังของเด็กน้อยสองคนปลุกจนตื่น
เป็นเพราะจะไปสวนสนุก เด็ก ๆ เลยตื่นเต้นกันไม่หวาดไม่ไหว พอรุ่งเช้ามาก็รีบมาเคาะประตูกันให้วุ่น
” ถ้ารู้อย่างงี้ผมคงไม่บอกพวกเขาก่อนหรอก ” จิ้นเฟิงเฉินพูดอย่างซังกะตาย
ปลุกเขาคนเดียวคงไม่เป็นไร แต่เขาเป็นห่วงว่าเจียงสื้อสื้อจะนอนไม่พอมากกว่า
เจียงสื้อสื้อที่ถูกเขาพูดหยอก ” แค่เห็นเด็กน้อยทั้งสองมีความสุข ฉันก็มีความสุขไปด้วยค่ะ ”
พูดจบ เธอก็ลุกจากที่นอนไปเปิดประตู
เมื่อเปิดประตู เจ้าตัวเล็กตัวใหญ่ก็กรูกันเข้ามา
” แด๊ดดี้ หม่ามี๊ วันนี้พวกเราเป็นเด็กดีมาก ๆ เลยนะ แปรงฟัน ล้างหน้า เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยตัวเองเสร็จแล้วด้วย!”
เถียนเถียนพูดอย่างตื่นเต้น รอยยิ้มบนหน้าที่อ่อนเยาว์นั้นดูเจิดจ้าเสียยิ่งกว่าแสงอาทิตย์จากข้างนอกเสียอีก
” เก่งมากเลยจ้ะ ”
เจียงสื้อสื้อลูบหัวเด็กน้อยทั้งสอง ก่อนจะพูดเบา ๆ ถ้าพวกลูก ๆ ลงไปกินข้าวเช้าที่ชั้นล่างให้เสร็จ จะเก่งกว่าเดิมมาก ๆ เลยเนอะ ”
เมื่อได้ยิน เด็กน้อยทั้งสองก็หมุนตัววิ่งออกจากห้องไป
” ช้า ๆ หน่อยนะลูก ” เจียงสื้อสื้อตะโกนบอก ก่อนจะหัวเราะและส่ายหัวเบา ๆ
จิ้นเฟิงเฉินเดินไปปิดประตู แล้วกลับมานั่งข้าง ๆ เธอ จากนั้นก็ความตัวเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมอกของเขา ” ผมรู้สึกเสียดายจริง ๆ ถ้ามีแค่เราสองคนก็คงดี ”
เจียงสื้อสื้อเลิกคิ้ว ” คำพูดของคุณไม่สมกับเป็นพ่อคนเลยนะ อยากให้ลูกเสียความรู้สึกแบบนั้นไปตลอดชีวิตเหรอ ”
” ไม่อยาก ” จิ้นเฟิงเฉินคลายอ้อมกอดจากเธอ แล้วถอนหายใจ ” ผมก็เลยจำใจพาลูกไปเที่ยวไง ”
เจียงสื้อสื้อเหลือบไปมองเขา ” คุณคงเหนื่อยแย่เลยสิคะ ”
จิ้นเฟิงเฉินจ้องเธออย่างไม่ละสายตา แล้วก้มลงไปจูบปากของเธอ เขารีบถอนจูบแล้วลุกออกไปอย่างรวดเร็ว
” แค่นี้ผมก็ไม่เหนื่อยแล้วล่ะ ”
” คุณ…. ” เจียงสื้อสื้อเขินจนหน้าแดงไปหมด แล้วนิ่งไปชั่วขณะ
” ไปล้างหน้าล้างตาเถอะ เราต้องรีบเดินทาง เผื่อรถติดด้วย ” จิ้นเฟิงเฉินพูด
” ค่ะ ”
…..
เมื่อกินข้าวเช้าเสร็จ ทั้งสี่คนก็รีบไปยังสวนสนุก
” พี่สะใภ้ ฉันก็อยากไปด้วยเหมือนกันนะ ”
ก่อนไป ส้งหวั่นชีงก็พูดด้วยน้ำเสียงอิจฉาเล็ก ๆ
ตอนนี้ท้องเธอโตแล้ว ไม่เหาะที่จะไปที่นั่นเลย ดังนั้นก็เลยอิจฉาเจียงสื้อสื้อกับคนที่ได้ไป
เจียงสื้อสื้อบีบมีเธอเบา ๆ แล้วหัวเราะ ” รอเธอเอาสินค้าออกจากคลังก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวฉันจะไปเป็นเพื่อนเธอเอง ”
” เนี่ย พี่สะใภ้ดีกับฉันจริงด้วย ”
ส้งหวั่นชีงเอาหัวพิงไปที่ไหล่ของเธออย่างซึ้งใจ ก่อนจะเหลือบสายตาไปมองจิ้นเฟิงเหรา ” ไม่เหมือนใครบางคน ห้ามฉันทำโน่นทำนี่ ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว ”
” ไม่ใช่เพราะผมกลัวคุณเป็นอะไรไปหรือไงล่ะ ” จิ้นเฟิงเหราเริ่มน้อยใจ
” รู้หน่า คุณน่ะใส่ใจฉันที่สุดเลย พอใจรึยัง ” ส้งหวั่นชีงไม่อยากเห็นสีหน้าน้อยใจของเขา เหมือนเธอไปรังแกเขายังไงอย่างงั้น
เจียงสื้อสื้อที่เห็นพวกเขาโยนมุขกันไปมาก็ขำ ” พอแล้ว ๆ หวั่นชิง เดี๋ยวพวกเราไปก่อนนะ ”
” เดินทางปลอดภัยนะคะ ”
พอส่งพวกเขาเสร็จ ส้งหวั่นชีงกับจิ้นเฟิงเหราก็กลับเข้าบ้านไป
ส้งหวั่นชีงมองไปรอบ ๆ เมื่อไม่มีเสียงโหวกเหวกของเด็กน้อยสองคนชั่วคราวที่นี่ก็ดูเงียบเชียบไปหน่อย เธอถอนหายใจอย่างซังกะตาย
” ฉันก็อยากออกไปเที่ยวเหมือนกัน ”
เธอกลอกตาไปมองจิ้นเฟิงเหรา ทำหน้าประจบประแจงแล้วยิ้ม ” เฟิงเหรา พวกเราออกไปบ้างดีไหม ”
” ไปไหน ” จิ้นเฟิงเหราถาม
” สวนสนุก…คุณคงไม่ยอม งั้นไปเดินเล่นสวนสาธารณะนะ ”
จิ้นเฟิงเหราพยักหน้ารับ ” เอาสิ งั้นเป็นสวนสาธารณะแถวบ้านแล้วกัน ”
ส้งหวั่นชีงหุบยิ้มทันที ” จิ้นเฟิงเหรา คุณมันน่าเบื่อจริง ๆ เลย!”
พูดจบ เธอก็หันหลังแล้วเดินตึงตังขึ้นห้องไป
” น่าเบื่องั้นเหรอ ผมน่าเบื่อตรงไหน ” จิ้นเฟิงเหรางง
แต่ส้งหวั่งชิงไม่สนใจเขา ไม่หันกลับมามองเลยสักนิด
…..
ระหว่างทางไปสวนสนุก เสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนก็นั่งบนคาร์ซีทอย่างเรียบร้อย
เห็นเด็กน้อยนั่งนิ่ง เจียงสื้อสื้อก็แปลกใจ
” ทำไมลูก ๆ เรียบร้อยจังเลยจ้ะ ” เจียงสื้อสื้อถามอย่างฉงนใจ
เสียวเป่ากับเถียนเถียนมองตากัน จากนั้นเสี่ยวเป่าก็พูดขึ้นว่า ” แด๊ดดี้บอกว่า ถ้าพวกเรานั่งเรียบร้อยบนรถ ไม่ส่งเสียงดัง ถึงสวนสนุกแล้วแด๊ดดี้จะซื้อลูกโปร่งสวย ๆ ให้พวกเราครับ ”
คำตอนนี้ทำเอาคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
เจียงสื้อสื้อมองไปที่จิ้นเฟิงเฉิน ” คุณตกลงกับเด็ก ๆ แล้วเหรอ ”
” อื้ม ” จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้า
” ทำไมไม่ให้เด็ก ๆ เสียงดังล่ะคะ ” จริง ๆ เธอชอบที่เด็ก ๆ คึกคักกันมากกว่า
” กลัวจะรบกวนคุณ ”
เจียงสื้อสื้อถึงกับพูดไม่ออก
เหตุผลที่แท้จริง คือทำเพื่อเธออีกแล้วสินะ
เธอยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้ ” ฉันไม่รำคาญที่เด็ก ๆ เสียงดังหรอกนะ ”
จิ้นเฟิงเฉินเงียบไป
เขากลัวว่าลูก ๆ เสียงดัง เธอจะใช้พลังไปกับพวกเขาเกินไป แบบนั้นจะเหนื่อยเธอเปล่า ๆ และมันก็ไม่ดีต่อสุขภาพของเธอ
เมื่อถึงสวนสนุกแล้ว จิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อต่างคนต่างช่วยกันจูงมือเด็ก ๆ ไปเป็นกลุ่ม ๆ
ครอบครัวของพวกเขาทั้งสี่คน เด่นจนสะดุดสายตาใคร ๆ ไม่น้อย
” หม่ามี๊ หนูอยากนั่งชิงช้าสวรรค์ค่ะ ” เถียนเถียนชี้นิ้วไปที่ชิงช้าสวรรค์ที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก
เจียงสื้อสื้อยิ้ม ” ได้จ้ะ อีกสักพักพวกเราไปนั่งกันเนอะ ”
” เสี่ยวเป่าล่ะ อยากเล่นอะไรจ๊ะ “เจียงสื้อสื้อมองไปที่ลูกชาย แล้วถาม
เสี่ยวเป่ามองไปรอบ ๆ ครุ่นคิดอยู่สักพักก็ตอบว่า ” ผมอยากเล่นทุกอย่างเลย ”
เจียงสื้อสื้อได้ยินก็ส่ายหัว ” ไม่ได้นะ อันที่อันตรายเกินไปลูกเล่นไม่ได้นะคะ ”
เขายังเด็กเกินไป
เสี่ยวเป่าตอบว่า ” ครับ ” อย่างผิดหวัง ” ก็ได้ครับ ”
ถึงแม้วันนี้จะไม่ใช่วันหยุด แต่คนก็ยังเยอะเต็มสวนสนุกอยู่ดี
จิ้นเฟิงเฉินต่อแถวรอสิบกว่านาทีถึงจะได้นั่งชิงช้าสวรรค์
ชิงช้าสวรรค์ค่อย ๆ เลื่อนสูงขึ้น มองทะลุกระจกไปทำให้เห็นทิวทัศน์ของเมืองจิ่นเกือบทั้งหมด
” หม่ามี๊ หม่ามี๊ หนูมองเห็นปราสาทด้วยแหละ ” เถียนเถียนพูดขณะที่สีหน้าดูตื่นเต้น
เจียงสื้อสื้อตอบ ” อื้ม ” เบา ๆ ” หม่ามี๊ก็เห็นเหมือนกันจ้ะ ”
ถ้าเทียบกับความตื่นเต้นของเถียนเถียน เสี่ยวเป่ากลับมองอย่างเงียบ ๆ แต่เห็นได้ชัดว่าหน้ามีความตื่นเต้นแอบซ่อนอยู่
เมื่อลงมาจากชิงช้าสวรรค์ เถียนเถียนก็ลากเจียงสื้อสื้อไปนั่งม้าหมุน
ทั้งช่วงเช้า เด็กทั้งสองก็เล่นเครื่องเล่นไปไม่น้อย สุดท้ายเล่นไปเล่นมาจนหิว
จิ้นเฟิงเฉินเลยพาทุกคนไปกินร้านอาหารแห่งหนึ่งที่แต่งเป็นธีมต่าง ๆ ในสวนสนุก
เมื่อสั่งอาหารเสร็จ เถียนเถียนกับเสี่ยวเป่าก็วิ่งไปเล่นกับพวกพี่ ๆ ที่แต่งคอสเพลย์อยู่แถวนั้น
เสี่ยวเป่าไม่ระวังจึงเผลอไปชนเข้ากับใครบางคน เด็กน้อยรีบขอโทษ ” พี่สาว ขอโทษครับ ”
คู่กรณีเป็นสาววัยรุ่นที่แต่งตัวสวยงามพอตัว
ก่อนหน้าที่เธอชนกับใครบางคนทำให้เธอรู้สึกโมโหมาก แต่พอเห็นว่าเป็นเสี่ยวเป่า พวกกับที่เด็กน้อยขอโทษ ทำให้ความโกรธหายไป
” เด็กน้อย วันหลังต้องระวังหน่อยนะจ๊ะ รู้ไหม ” หญิงสาวพูดยิ้ม ๆ แล้วลูบหัวเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่าพยักหน้า ” ผมรู้แล้วครัว วันหลังผมจะระวังกว่านี้ครับ ”
” หนุ่มน้อยน่ารักจังเลย ” หญิงสาวหยิกแก้มเขาเบา ๆ “แด๊ดดี้ของหนูต้องหล่อแน่ ๆ เลยใช่ไหมจ๊ะ ”
เถียนเถียนที่อยู่ข้าง ๆ ก็รีบชี้ไปที่จิ้นเฟิงเฉินที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก ” คนนั้นคือแด๊ดดี้ของหนูเอง เขาหน้าตาดีเหมือนหม่ามี๊เลย ”
หญิงสาวมองไปตามนิ้วที่เธอชี้ ก็เห็นจิ้นเฟิงเฉิน เธอก็จ้องอย่างไม่วางตา
เธอยิ้มกรุ้มกริ่ม ” หน้าตาดีจริงด้วย ”
” หนูค่อย ๆ เล่นกันนะจ๊ะ น้าขอตัวก่อนนะ ” หญิงสาวลูบหัวของเด็ก ๆ แล้วเดินจากไป
เสี่ยวเป่ามองไปตามทางที่เธอเดินออกไป สีหน้างงงวยผุดขึ้นบนใบหน้ารูปไข่น้อย ๆ นั้น ทำไมเขารู้สึกว่าน้าสาวคนนี้ถึงทำตัวแปลก ๆ กันนะ