ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1253 ไปหาเฟิงเฉินยังไง?

บทที่ 1253 ไปหาเฟิงเฉินยังไง?

หลังจากที่เย่เฉินหยุนกลับไป เหลียงซินเวยก็ได้เดินเข้าไปในห้องของอานอาน

เธอก็แค่อยากจะดูว่าอานอานได้ห่มผ้าห่มไว้ดีหรือยัง คิดไม่ถึงว่าอานอานยังไม่นอน

ได้ยินเสียงเปิดประตู อานอานก็ได้ลุกขึ้นมาจากเตียง

“เราทำไมยังไม่นอนคะ?”

เหลียงซินเวยก็ได้รีบเดินมา

“แม่ครับ แม่กับคุณลุงฟางคบหากันเหรอครับ?” อานอานได้มีท่าทางผู้ใหญ่ตัวน้อยแบบนั้น

เหลียงซินเวยอึ้งไป จากนั้นก็ได้รีบตั้งตัว แกล้งทำเป็นพูดอย่างไม่พอใจว่า “เป็นเด็กเป็นเล็กถามเรื่องนี้ทำไม? รีบเข้าหน่อยเถอะ”

อานอานมองเธอเงียบๆ สักพัก ก็ได้นอนลงอย่างว่าง่าย

“ต่อไปไม่ต้องนอนดึกขนาดนี้นะคะ รู้หรือยัง?” เหลียงซินเวยลากผ้าห่มมาห่มดีๆ

อานอานก็ได้พูด “อืม” เบาๆ

เธอปิดไฟ เหลือไฟดวงหนึ่งสว่างอยู่

ตอนที่หันตัวเดินออกไปนั้น ข้างหลังอยู่ๆ ก็ได้มีเสียงเล็กๆ ดังขึ้น

“แม่ครับ ผมชอบคุณลุงฟาง ผมเต็มใจให้เขามาเป็นคุณพ่อของผม”

เหลียงซินเวยอึ้ง หันไปมอง ก็เห็นแค่อานอานลากผ้าห่มมาปิดหัวไว้

อายแล้ว

แล้วก็เป็นเด็กดีจนเธอปวดใจ

“ค่ะ แม่รู้แล้ว”

พูดจบ เหลียงซินเวยเดินออกไป ก็ได้ปิดประตูเบาๆ

เธอก็ได้เดินไปนั่งที่ห้องนั่งเล่น เอาโทรศัพท์ออกมา เปิดไปยังบันทึกสายโทรเข้าออก มองเบอร์ของฟางยู่เชิน ลังเลว่าจะโทรไปหาเขาดีไหม

ถามว่าเขาไปถึงบ้านหรือยัง?

ตอนที่เธอลังเลไม่ตกนั้น อยู่ๆ โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้น ทำเอาเธอตกใจไปหมด

เป็นฟางยู่เชิน

เธอก็ได้รีบรับสาย “ฮะโหลค่ะ”

“ยังไม่นอน?”

เสียงที่ต่ำของฟางยู่เชินก็ได้ดังในหู ก็เหมือนกับก้อนหินก้อนเล็กๆ ที่ตกอยู่ในบ่อของหัวใจ ทำให้มีระลอกคลื่นตื้นๆ

เหลียงซินเวยก็ได้ออกแรงจับโทรศัพท์อย่างไม่รู้ตัว ตอบออกไปเสียงเบาว่า “เตรียมที่จะนอนแล้วค่ะ”

“ต่อไปไม่กี่วันนี้ฉันอาจจะยุ่งหน่อย อาจจะไม่มีเวลาอยู่เป็นเพื่อนเธอ”

“ไม่เป็นไรค่ะ” เหลียงซินเวยก็หวังว่าเขาจะมาอยู่เป็นเพื่อนเธอทุกวัน แต่ก็เข้าใจดีว่าตัวเองจะเอาแต่ใจมากไม่ได้

ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นถึงประธานบริษัท มีภาระและหน้าที่ของเขา

“รอฉันยุ่งเสร็จแล้ว ถึงเวลาก็ลาพัก พาเธอกับอานอานออกไปเที่ยว”

“ดีค่ะ” เหลียงซินเวยก็ได้เริ่มรอคอยขึ้นมา

ทั้งสองก็ได้คุยไปอีกไม่กี่คำ ถึงได้วางสายไปอย่างทำใจไม่ได้

ฟางยู่เชินเดินไปที่ระเบียง มองไปยังแสงไฟเล็กๆ ด้านล่าง สายได้หรี่เล็กน้อย

พรุ่งนี้เขาจะนัดซ่างกวนหยวนออกมา หวังว่าทางสื้อสื้อนั้นจะราบรื่น

……

วันต่อมา เจียงสื้อสื้อก็ได้รับข้อความจากฟางยู่เชิน

——วันนั้นฉันจะนัดซ่างกวนหยวนออกมา ที่เหลือก็พึ่งตัวเธอเองแล้ว

ดูเสร็จ เธอก็ได้ลบข้อความไป แล้วก็กำโทรศัพท์ไว้ในมือแน่น

วันนี้ต้องเจอกับเฟิงเฉินให้ได้

ใกล้พักเที่ยง ซ่างกวนหยวนก็ได้รับสายจากฟางยู่เชิน

อีกฝ่ายบอกว่าอยากจะเลี้ยงข้าวเธอ มีเรื่องจะคุยกับเธอ

เธอก็ได้ปฏิเสธไปเลยทันที

“หยวนหยวน เพราะเรื่องของน้องสาวฉันและน้องเขยฉัน พวกเราจะมาเป็นศัตรูกันเหรอ ฉันก็แค่อยากที่จะเลี้ยงข้าวเธอเฉยๆ เห็นแก่ว่าฉันเคยชอบเธอมาก่อน ให้หน้ากันหน่อยเถอะ”

ซ่างกวนหยวนคิดถึงเรื่องที่ตอนนี้ทั้งสองตระกูลได้ยุติการร่วมงานไป ถ้าเกิดไปทานข้าวเป็นเพื่อนเขา สามารถที่จะเริ่มร่วมงานใหม่ได้ ก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้

เพราะงั้น เธอก็ได้ตกลง

ก่อนออกบ้าน เธอก็ได้สั่งจิ้นเฟิงเฉินว่า นอกจากกินมื้อเที่ยงแล้ว เวลาอื่นก็ให้อยู่บนชั้นสองตลอด ไม่ต้องออกมาเดินเล่นไปมั่ว

จิ้นเฟิงเฉินเข้าใจความหมายของเธอดี ถึงแม้ว่ารู้สึกไม่เหมาะ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ

“เธอวางใจเถอะ”

ซ่างกวนหยวนก็ได้รู้สึกผิดอย่างช่วยไม่ได้ “อีกไม่กี่วันฉันพานายออกไปเดินเล่น เลี่ยงที่จะไม่ให้นายเบื่อจนเกินไป”

“ได้”

จิ้นเฟิงเฉินยืนอยู่ที่ระเบียง มองรถที่ซ่างกวนหยวนขับห่างออกไป มองจนกระทั่งมองไม่เห็นถึงเก็บสายตา

เขาก็ได้กลับเข้าห้อง หางตาก็ได้มองไปยังร่างที่คุ้นเคยอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ก็ได้หยุดเดินอัตโนมัติ หันไปดู

เจียงสื้อสื้อได้เอากรรไกรตั้งใจตัดแต่งดอกไม้ เป็นเพราะว่าร้อนจนออกเหงื่อ เธอก็ได้ยกมือมาเช็ดหน้าผาก

มุมปากของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้ชี้ขึ้นอย่างไม่รู้ตัว มองเธอเงียบๆ

ไม่กี่นาทีต่อมา เจียงสื้อสื้อรู้ว่าซ่างกวนหยวนออกประตูแล้ว ก็ได้วางกรรไกรลง เงยหน้าไปยังชั้นสอง

ร่างสูงที่คุ้นเคยก็ได้ตกมาอยู่ในการมองเห็น

เธอก็ได้นิ่งไป

คิดไม่ถึงว่าจิ้นเฟิงเฉินอยู่ที่ระเบียง

ไม่นาน เธอก็ตั้งสติได้ ยิ้มออกมา

พระเจ้าก็ได้ช่วยเธอจริงๆ ด้วย

……

เจียงสื้อสื้อก็ได้รีบวิ่งไปที่คฤหาสน์

เป็นเวลามื้อกลางวันพอดี จิ้นเฟิงเฉินต้องลงมา

เพราะงั้น เธอก็ได้กลับไปที่ห้องของตัวเอง เปลี่ยนเสื้อที่สะอาด ไปที่ห้องครัว

ตอนที่พ่อบ้านเห็นเธอนั้น ใบหน้าก็ได้เต็มไปด้วยความไม่พอใจ พูดเสียงดุว่า “เธอไม่อยู่ตัดแต่งพุ่งดอกไม้ที่ลานหน้าบ้าน มาที่นี่ทำไม?”

“ลุงจาง ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว อากาศร้อนไปหน่อย ต้องให้ฉันพักหน่อยจริงหรือเปล่าคะ”

ใบหน้าของเจียงสื้อสื้อก็ได้เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ประจบ เธอได้ทำใจไว้เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวถ้าพ่อบ้านได้ไล่เธอออกไป ก็หน้าด้านอยู่ต่อไปไปไหน

กว่าซ่างกวนหยวนจะไม่อยู่บ้านได้ เธอจะเสียโอกาสที่จะอยู่กับเฟิงเฉินแบบส่วนตัวไปอย่างเปล่าประโยชน์ไม่ได้

“ออกไป” พ่อว่าด่า

เจียงสื้อสื้อทำเหมือนไม่ได้ยิน “ลุงจาง มีอะไรให้ฉันช่วยไหม?”

“ฉันบอกให้ออกไป!” สีหน้าของพ่อบ้านก็ได้เย็นชาลง

เจียงสื้อสื้อไร้หนทาง ตอนที่กำลังจะหันตัวออกไปนั้น เสียงที่คุ้นเคยก็ได้ดังขึ้นจากประตู

“ลุงจาง”

คือเฟิงเฉิน

เจียงสื้อสื้อก็ได้รีบหันไป เห็นจิ้นเฟิงเฉินเดินเข้ามา

สายตาของเขามองข้ามเจียงสื้อสื้อ ไปอยู่บนหน้าของพ่อบ้าน พูดเรียบๆ “ลุงจาง ผมหิวแล้ว”

พ่อบ้านไม่กล้าให้เขารอนาน ก็ไม่สนเจียงสื้อสื้อ รีบไปสั่งในคนใช้ไปเสิร์ฟอาหารที่ห้องครัว

เจียงสื้อสื้อก็ได้ถอนหายใจเบาๆ มองไปทางจิ้นเฟิงเฉิน เห็นว่าเขามองเธอเหมือนยิ้มแต่ก็ไม่

ตอนที่ได้สบตากันนั้น เจียงสื้อสื้อก็เข้าใจแล้ว

ที่แท้เขามาช่วยเธอ

“ขอบคุณ” เธอก็ได้พูดขอบคุณไปเบาๆ

จิ้นเฟิงเฉินยิ้มไม่ได้พูดอะไร

แต่เจียงสื้อสื้อก็ยังถูกไล่ออกไปข้างนอก

“คุณหนูบอกแล้วว่าเธอไม่สามารถที่จะมาปรากฏตัวต่อหน้าคุณชายเฟิงเฉิน!” พ่อบ้านก็ได้มองไปทางเจียงสื้อสื้ออย่างไม่รู้จะทำยังไง

“พ่อบ้านคะ คุณหนูไม่อยู่ ลุงก็หลับตาข้างหนึ่งลืมตาข้างหนึ่งเถอะค่ะ” เจียงสื้อสื้อก็ได้ขอร้อง

“ไม่ได้!” พ่อบ้านได้ปฏิเสธ “ถ้าให้คุณหนูรู้เข้า คนที่ซวยมันเป็นฉัน!”

“ลุงไม่พูด ฉันไม่พูด คุณหนูจะรู้ได้ยังไง?” เจียงสื้อสื้อก็ได้ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

ท่าทางของพ่อบ้านหนักแน่น “ไม่ได้ก็คือไม่ได้”

“ก็ได้ค่ะ” เจียงสื้อสื้อไหล่ตก เดินออกไปข้างนอก

มองแผ่นหลังของเธอ พ่อบ้านก็ได้ถอนหายใจ ไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมเธอถึงได้อยากที่จะโผล่ตัวต่อหน้าคุณชายเฟิงเฉิน

คุณหนูได้โมโหไปหลายรอบแล้วแท้ๆ เธอก็ยังไม่ยอมแพ้

เดินไปถึงข้างนอก เจียงสื้อสื้อก็ได้มองไปยังในบ้าน หรี่ตา เธอไม่มีทางที่จะยอมแพ้หรอก

แต่ว่า……จะไปหาเฟิงเฉินยังไงเนี่ย

จิ้นเฟิงเฉินทานข้าวเสร็จ ในการ “จับตามอง” ของพ่อบ้าน ก็ได้ขึ้นไป

ระหว่างนั้น เขาก็ไม่เห็นซูหยุน

เขาสามารถที่จะเข้าใจในความระวังตัวของซ่างกวนหยวน แต่ว่าไม่จำเป็นที่จะระวังคนใช้ขนาดนี้นี่นา

กลับไปในห้อง เขาก็ได้เดินไปที่ระเบียงอย่างไม่รู้ตัว

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท