“ฉันไม่ต้องการ ฉันจะออกไปเดี๋ยวนี้!”ซ่างกวนหยวนลุกขึ้น แล้วก็ตะคอกใส่สารวัตรเฉิน “ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าเกิดว่าคุณไม่ยอมปล่อยฉันไปวันนี้ ฉันจะสร้างเรื่องจนคุณยอมปล่อยฉันไป”
พอพูดจบ เธอก็หยิบแก้วกาแฟบนโต๊ะแล้วปาลงที่พื้น เก็บเศษแก้วขึ้นมา แล้วก็จ่อไปที่คอของตัวเอง
“ถ้าเกิดว่าคุณไม่ยอมปล่อยฉันไป ฉันจะตายให้คุณดู!”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำขู่ของเธอ สารวัตรเฉินก็ขมวดคิ้วเข้าหากัน
“หยวนหยวน เธออย่าเพิ่งใจร้อน เดี๋ยวพี่จะคิดวิธีช่วยเธอไปเอง”
ซ่างกวนเชียนอยากจะเข้าไปแย่งเศษแก้วมา แต่ว่าเพราะก้าวเข้าไปหนึ่งก้าว ซ่างกวนหยวนกไก่ตื่นออกมา “อย่าเข้ามานะ ถ้าเข้ามาฉันจะแทงจริงๆ ด้วย!”
สีหน้าของซ่างกวนเชียนเปลี่ยนไปในทันที เราก็รีบหยุดฝีเท้าของตัวเอง
สารวัตรเฉินมองหน้าเธอด้วยสีหน้าเย็นชา แล้วก็ตำหนิด้วยน้ำเสียงที่โมโห “ซ่างกวนหยวน คุณรู้ไหมว่าที่นี่ที่ไหน!”
“ฉันรู้” ซ่างกวนหยวนตั้งใจที่จะไปจากที่นี่ให้ได้ แล้วก็พูดคำว่า “ถ้าเกิดว่าคุณยอมปล่อยฉันออกไป ฉันก็จะไม่ก่อเรื่อง!”
“เรื่องทุกเรื่องมันมีหลักฐานอยู่แล้ว ถ้าเกิดว่าคุณสามารถพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของคุณได้ พวกเราก็จะปล่อยคุณไป”
“ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะตายอยู่ที่นี่แหละ!”
ซ่างกวนหยวนออกแรงที่มือ และส่วนปลายแหลมของเศษแก้วนั้นก็จิ้มตรงที่เนื้อของเธอ เลือดก็ไหลออกมา
“หยวนหยวน!”ซ่างกวนเชียนไม่ทันได้สนใจอะไรมากมาย รีบพุ่งเข้าไปจับมือของเธอไว้แล้วก็แย่งเศษแก้วนั้นมา
เธอก็แค่อยากจะขู่สารวัตรเฉินให้ตกใจเพียงเท่านั้น ก็เลยไม่ได้ออกแรงอะไรมาก แค่เป็นแผลนิดหน่อย
แต่ว่าซ่างกวนเชียนก็โกรธมาก เขาตะคอกใส่เธอด้วยเสียงที่ดังมาก “เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ? ก่อนจะทำอะไรช่วยพินิจพิเคราะห์หน่อยได้ไหม?”
“พี่ก็บอกแล้วไงว่าจะคิดวิธีช่วยเธอออกไป หรือว่ารอไม่ได้แม้แต่คืนเดียวเลยหรือไง?”
“ใช่ ฉันรอไม่ได้!”ซ่างกวนหยวนหันหน้ามา แล้วก็พูดอย่างมั่นใจ “ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรแม้แต่นิดเดียว มีสิทธิ์อะไรมาขังฉันไว้ที่นี่? ”
ซ่างกวนหยวนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นอย่างมาก ฉันก็แค่อยากจะให้จิ้นเฟิงเฉินกลับมาอยู่กับเธออีกครั้งเท่านั้นเอง
เธอทำอะไรผิดอย่างนั้นเหรอ?
ไม่มี!
ไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียว!
เพราะเห็นว่าตาแดง หัวใจซ่างกวนเชียนก็รู้สึกเหมือนถูกบีบรัด เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ น้ำเสียงเบาลง “ก็แค่คืนเดียวเท่านั้น เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มารับเธอกลับบ้าน”
เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว ซ่างกวนหยวนรู้ว่าไม่ว่าตัวเองจะก่อเรื่องแค่ไหน ตำรวจก็ไม่มีทางประนีประนอม
ดังนั้น เธอก็เลยยอมประนีประนอม
“ได้ แค่คืนเดียวเท่านั้นนะ”
ซ่างกวนเชียนหันหน้าไปมองสารวัตรเฉิน “รบกวนคุณไปเรียกคนมาใส่ยาให้เธอหน่อยครับ”
สารวัตรเฉินพยักหน้า “ครับ”
หลังจากซ่างกวนหยวนทำแผลเสร็จ ซ่างกวนเชียนก็พูดปลอบใจเธอ แล้วก็พาทนายกลับออกมา
……
พวกอิ้งเทียนพยายามหาที่คฤหาสน์ของซ่างกวนหยวนทุกมุม ไม่ยอมปล่อยไปแม้แต่มุมเดียว แต่ว่าก็ยังหาฟางเสว่มั่นไม่เจอ
“พี่ พี่ว่าซ่างกวนหยวนจะซ่อนคุณน้าไว้ที่ไหนกัน?”จิ้นเฟิงเหราคิดไม่ออก คนตัวใหญ่คนหนึ่งจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไรกัน
“ตอนนี้สถานการณ์ของซ่างกวนหยวนเป็นอย่างไรบ้าง?”จิ้นเฟิงเฉินไม่ตอบ แต่ว่าถามกลับแทน
“ถูกจับตัวไว้แล้ว”
จิ้นเฟิงเฉินคุณคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ไปลองหาจากสถานที่ที่ซ่างกวนหยวนกับลูกน้องเดินทางไป บางทีอาจจะเจอก็ได้”
จิ้นเฟิงเหรานึกขึ้นได้ในทันที “พี่ ผมรู้แล้วว่าต้องทำยังไง”
เขารีบติดต่ออิ้งเทียนในทันที ให้เขาทำตามวิธีของจิ้นเฟิงเฉิน
หลังจากได้รับคำสั่ง อิ้งเทียนก็เริ่มตรวจสอบกล้องวงจรปิดในคฤหาสน์ พบว่าวันที่ฟางเสว่มั่นกับแม่จิ้นถูกลักพาตัวไปนั้น ลูกน้องของซ่างกวนหยวนกลับมาที่คฤหาสน์ดึกมาก
เมื่อตรวจสอบจากเงื่อนงำนี้แล้ว ไม่นาน อิ้งเทียนก็พบว่าสถานที่ที่รถคันนี้ไปเป็นตึกแห่งหนึ่งที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง
ย่านที่พักอาศัยเดิมในเขตนั้นกำลังถูกรื้อถอน และมีฝุ่นเต็มไปหมด
หลังจากกลุ่มของพวกเขาตามไปถึงนั้น จิ้นเฟิงเฉินก็มองไปรอบๆ แล้วก็หรี่ตาลง พร้อมกับออกคำสั่งด้วยเสียงที่ทุ้มต่ำ “ไปหา!”
“ครับ!”
อิ้งเทียนพาคนไปตามหาในแต่ละบ้าน พอมาถึงหลังสุดท้าย ก็เหลือเพียงแค่บ้านหลังหนึ่งที่สูง 3 ชั้นเท่านั้นที่ยังไม่ได้ไปหา
พอมองดูบ้านหลังนี้ สีหน้าของจิ้นเฟิงเฉินก็ดูเคร่งขรึม เขารู้ดีว่าถ้าเกิดว่าครั้งนี้ยังหาไม่เจอ เบาะแสนี้ก็จะถูกตัดออกอีกครั้ง
แต่ว่าความเป็นจริงนั้นโหดร้าย
พวกเขาตามหาทั้งบนและล่างอยู่หลายครั้ง ก็ยังคงไม่พบแม้แต่ร่างของฟางเสว่มั่น
บรรยากาศดูเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่พวกเขากำลังยอมแพ้และจะกลับนั้น ก็มีคนเจอประตูลับโดยบังเอิญ
“นี่คืออะไรกัน?”
อิ้งเทียนตอบสนองเป็นคนแรก แล้วก็ตะโกนว่า “ยังไม่รีบเข้าไปดูอีก”
เขามีลางสังหรณ์ที่หนักแน่น ว่าเขากำลังจะเจอเธอแล้ว
คนบางส่วนเดินเข้าไป แล้วก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าบ้านหลังนี้มีห้องใต้ดินจริงๆ
เพราะว่ากำลังถูกรื้อถอน น้ำและไฟถูกตัด ด้านล่างมีแต่ความมืดสนิท
พวกเขาเปิดไฟฉายจากมือถือ อาศัยแสงไฟ พวกเขาก็เห็นเงาดำตรงมุมห้อง ทันใดนั้นก็รีบเดินเข้าไปและส่องแสงไปที่เธอทันที
“แม่ของคุณหญิง” มีคนอุทานออกมา
ฟางเสว่มั่นนอนอยู่ที่พื้น มือทั้งสองข้างถูกมัดอยู่ด้านหลัง ปากถุงสก๊อตเทปปิดไว้ ดวงตาทั้งสองข้างปิดสนิท ดูเหมือนไม่มีลมหายใจอยู่แล้ว
อิ้งเทียนก้มตัวลง แล้วก็เอานิ้วยื่นไปตรงจมูกของเธอ
“คุณชายครับ เธอน่าจะหมดสติไป” อิ้งเทียนยืนขึ้น แล้วก็รายงานกับจิ้นเฟิงเฉิน
จิ้นเฟิงเฉินถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แล้วก็อุ้มฟางเสว่มั่นขึ้นมา พร้อมกับก้าวเดินออกไปด้านนอก และออกคำสั่ง “เรียกรถพยาบาล”