นายท่านหญิงผลักซ่างกวนเชียนออกไป ต่อให้ถือไม้เท้าอยู่แต่เธอก็พยายามที่จะเดินเร็วๆ กลัวซ่างกวนเชียนจะมาห้ามเธอไว้อีกครั้ง
ครั้งนี้ ซ่างกวนเชียนไม่ได้ห้ามเธอไว้ แต่กลับเดินตามหลังเธอเข้าไปในศาลบรรพบุรุษ
ซ่างกวนหยวนนอนราบอยู่ในโลงศพ ใบหน้าสงบเยือกเย็น ถ้าไม่รู้ว่าเธอตายไปแล้ว มันเหมือนคนนอนหลับเฉยๆ มาก
พอเห็นซ่างกวนหยวน นายท่านหญิงก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง “หยวนหยวน ฉันเป็นคุณย่านะ หนูรีบลืมตาขึ้นมามองฉันสิ……”
ร่างกายของนานท่านหญิงโยกไปมา เกือบจะเป็นลมอีกครั้ง
ยังดีที่ซ่างกวนเชียนมาช่วยพยุงเธอไว้ทัน “คุณย่า คุณต้องดูแลสุขภาพดีๆ หยวนหยวนก็ไม่อยากเห็นคุณเป็นแบบนี้”
“หยวนหยวน หนูกล้าทิ้งคุณย่าไว้แล้วจากไปแบบนี้ได้ยังไง? หยวนหยวน หยวนหยวนของฉัน……” นายท่านหญิงทุบหน้าอกตัวเอง โศกเศร้ามาก
พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆ ก็หันตัว แอบเช็ดน้ำตา
ซ่างกวนเชียนกอดนายท่านหญิงไว้แน่น ใต้ตาเริ่มแดง
ทั้งศาลบรรพบุรุษถูกปกคลุมไปด้วยความโศกเศร้า
ผ่านไปเนิ่นนาน เสียงร้องไห้ค่อยๆ หยุด ตาของนายท่านหญิงร้องไห้จนบวมไปหมด
“คุณย่า คุณไปพักผ่อนเถอะ ที่นี่มีฉันเฝ้าไว้อยู่” ซ่างกวนเชียนพูด
“นายท่านหญิงส่ายหน้า “ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนกับหยวนหยวนที่นี่”
“คุณย่า……”
ซ่างกวนเชียนอยากไปโน้มน้าวเธออีก แต่ยังไม่ทันพูดออกมาจากปาก ก็โดนเธอพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดตัดบทไปก่อน “อย่ามาโน้มน้าวใจฉัน ร่างกายเก่าแก่ของฉัน ตัวฉันเองรู้ดีมากที่สุด คืนสุดท้ายแล้ว ฉันต้องอยู่เป็นเพื่อนหยวนหยวน ไม่อย่างนั้น……”
ต่อไปอาจจะไม่มีโอกาสได้เจออีกแล้วจริงๆ
นึกได้แบบนี้ ทันใดนั้นก็เสียใจขึ้นมาทันที น้ำตาเริ่มไหลลงมาอีกครั้ง
เธอยึดมั่นขนาดนี้ ซ่างกวนเชียนก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงกับเธอ
พรุ่งนี้เป็นก็เป็นพิธีฝังศพแล้ว
สายตาของซ่างกวนเชียนมองไปทางซ่างกวนหยวนที่อยู่ในโลงศพ ปิดตาด้วยความเจ็บปวด ร้องตะโกนออกไป “พ่อบ้าน ปิดผนึกโลงศพ!”
“ครับ” พ่อบ้านมองไปทางนายท่านหญิงแวบเดียว จากนั้นก็รีบออกมาไปเรียกคน
“ปิดผนึกโลงศพ?!” นายท่านหญิงแปลกใจ “พรุ่งนี้ถึงเป็นพิธีฝังศพไม่ใช่หรือไง? ทำไมถึงปิดผนึกโลงศพล่วงหน้า?”
ซ่างกวนเชียนไม่ได้ตอบ แต่กลับเรียกคนรับใช้มา ให้พวกเขาช่วยพยุงนายท่านหญิงไปด้านข้าง
เพื่อที่ไม่อยากไปสะเทือนจิตนายท่านหญิงเพิ่มอีก เขาก็เลยตัดสินใจที่จะปิดผนึกโลงศพก่อน
พ่อบ้านพาคนเข้ามา หลายคนนั้นรีบปิดโลงศพอย่างรวดเร็ว
“ไม่ได้!” นายท่านหญิงพยายามขัดขืนอยากพุ่งไปข้างหน้าเพื่อห้ามพวกเขา
แต่กลับโดนคนรับใช้จับตัวไว้แน่น เธอได้แต่เบิกตามองพวกเขาปิดโลงศพกับตา
“หยวนหยวน!” เธอร้องไห้ออกมาอย่างเสียงแหลม ทั้งตัวล้มลงไปกับพื้น “หยวนหยวน หลานสาวที่รักของฉัน……”
ซ่างกวนเชียนกำหมัดแน่น เจ็บปวดหัวใจจนทั้งตัวสั่นคลอไปหมด ผู้หญิงที่เขารักที่สุดได้จากเขาไปแล้วจริงๆ จากไปจากโลกใบนี้ ไม่วันที่จะได้เจออีก
คืนนั้น
ซ่างกวนเชียนส่งนายท่านหญิงกลับไปพักผ่อนที่วิลล่า ในศาลบรรพบุรุษมีเพียงคนรับใช้เฝ้าอยู่คนเดียว
จู่ๆ มีร่างเงาดำปีนข้ามกำแพง เข้าไปใกล้ศาลบรรพบุรุษอย่างรวดเร็ว
คนรับใช้เฝ้าอยู่ตรงหน้าประตูศาลบรรพบุรุษ
คนนั้นรีบเข้ามาใกล้เขา ฝ่ามือฟาดเข้าไปตรงคอของเขา
ไม่มีเสียงดังขึ้นมา คนรับใช้เป็นลมทันที
คนนั้นเดินเข้าไปในศาลบรรพบุรุษ เดินไปยืนอยู่ข้างโลงศพ เอาอุปกรณ์เครื่องมือออกมา งัดเปิดโลงศพที่ปิดไว้สนิท อุ้มซ่างกวนหยวนที่อยู่ข้างในออกมาไว้ด้านข้าง
จากนั้นกลับไปปิดโลงศพอีกครั้ง ค่อยอุ้มซ่างกวนหยวนหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
รอบบริเวณเงียบไปหมด ราวกับว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
ยามดึกเย็นราวกับน้ำ
ซ่างกวนเชียนมาถึงที่ศาลบรรพบุรุษ ก็พบว่าคนรับใช้ล้มลงไปกับพื้น เดินเข้าไปเตะเบาๆ “ตื่น ตื่น!”
คนรับใช้ลืมตาขึ้นมาพอเห็นว่าเป็นเขา ก็รีบลุกขึ้นมาจากพื้น และก้มตัวลงอย่างเกรงกลัว “คุณชาย”
“เหนื่อยก็กลับไปพักเลย ฉันเฝ้าตรงนี้เอง”
เห็นเขาไม่ได้โทษตัวเอง คนรับใช้ก็โล่งอก รีบโค้งตัวให้เขาหันหลังเดินไปทางวิลล่า
คนรับใช้หันไปมองทางศาลบรรพบุรุษ ยกมือขึ้นมาเกาหัว เขาหลับไปได้ยังไง?
และอีกอย่าง……ทำไมถึงรู้สึกปวดเมื่อยคอ?
ซ่างกวนเชียนเดินเข้าไปในศาลบรรพบุรุษ มายืนอยู่ข้างโลงศพ ยกมือขึ้นมาลูบไล้โลงศพแล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “หยวนหยวน คุณไปได้อย่างสบายใจเลย ตระกูลซ่างกวนและคุณย่าฉันจะดูแลให้ดีเอง”
เขาชะงักไปสักพัก สายตาดูตระหนัก “ความแค้น ฉันจะช่วยคุณแก้แค้นเอง”
……
วันต่อมา พิธีฝังโลงศพของซ่างกวนหยวนจัดได้อลังการมาก
คนที่รู้จักตระกูลซ่างกวนก็มาร่วมพิธีงานศพ
ซ่าวกวนเชียนเป็นคนรับผิดชอบตลอดทั้งงาน นายท่านหญิงทนต่อแรงสะเทือนจิตไม่ไหว เลยนอนพักอยู่ในบ้าน น้ำตาไหลลงมาไม่หยุด ทั้งตัวขมุกขมัวและง่วง
มีสื่อมาถ่ายทอดสดทั้งพิธีของงานศพ เพราะคนเสียชีวิตคือคุณหนูของตระกูลซ่างกวน งานศพจัดได้หรูหราและอลังการมาก
จนกระทั่งเรื่องนี้ขึ้นสื่อข่าว
ครอบครัวตระกูลจิ้นเห็นข่าว หลังจากที่ดูเสร็จ สีหน้าทุกคนก็ไม่ค่อยดี บรรยากาศอึดอัด
ผ่านไปเนิ่นนาน ส้งหวั่นชีงเปิดปากพูดก่อน “คนตายไปแล้วจริงๆ ใช่ไหม? ทำไมฉันรู้สึกว่ามันเหมือนไม่ใช่ความจริง?”
ตั้งแต่ที่ได้ข่าวว่าซ่างกวนหยวนตาย เธอก็รู้สึกมาตลอดเลยว่ามันเหมือนไม่ใช่ความจริง
คนที่ชั่วร้ายแบบนั้น ไม่ได้รับบทเรียนหรือโดนสั่งสอนก็ตายไปแบบนี้
เอาตามตรง เธอได้เปรียบมากเกินไป
“คนก็ถูกฝังเข้าไปแล้ว ยังจะมีปลอบอีกหรือไง?” จิ้นเฟิงเหราถอดหายใจ “ก็ถือว่าตระกูลซ่างกวนให้เกียรติกับเธอมากแล้ว”
“ชีวิตต่อจากนี้คงจะสงบสุขแล้วสินะ” ส้งหวั่นชีงหันไปมองเจียงสื้อสื้อแล้วยิ้ม “พี่สะใภ้ ต่อไปนี้คุณกับพี่ใหญ่คงไม่ต้องมาคอยระแวงแล้วสิ”
เจียงสื้อสื้อยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร
ที่จริงเธอก็รู้สึกว่ามันเหมือนไม่ใช่ความจริง
ทีแรกขอแค่ซ่างกวนหยวนยอมแก้ตัวดีๆ เชื่อว่าตระกูลซ่านกวนคงจะช่วยเธอได้ในเร็วๆ นี้ สุดท้ายกลับเดินไปทางจบ
ถึงแม้จะเสียใจด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เธอไม่เห็นใจด้วยกับซ่างกวนหยวนจริงๆ
สิ่งที่ซ่างกวนหยวนทำกับจิ้นเฟิงเฉินและคุณแม่แล้วยังมีคุณแม่ยายอีก ทุกอย่างยังปรากฏอยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจน เธอคิดว่าชาตินี้เธอก็คงลืมไม่ลง
จิ้นเฟิงเฉินโอบกอดไหล่เธอแล้วพูดเสียงเบา “อย่าคิดมาก”
“ฉันไม่ได้คิดมาก ว่าแต่คุณต่างหาก อย่าโทษตัวเองล่ะ” เจียงสื้อสื้อกันหน้าขึ้นมามองเขา
จิ้นเฟิงเฉินยิ้ม “ไม่หรอก เธอเป็นคนเลือกเดินทางจบเอง ส่วนเรื่องที่เธอเคยช่วยฉัน ฉันก็จะหาวิธีอื่นมาชดใช้คืนตระกูลซ่างกวนเอง”
“พี่ชาย อย่าคิดที่จะชดใช้คืนตระกูลซ่างกวนเลย” พูดถึงตระกูลซ่างกวน จิ้นเฟิงเหราก็ทำหน้าโมโห
“เกิดอะไรขึ้น?” เจียงสื้อสื้อถามอย่างกลุ้มอกกลุ้มใจ
นี่ตระกูลซ่างกวนไปทำอะไรให้เขาอีก ทำไมถึงต้องโมโหขนาดนี้?
“ไม่มีอะไร แค่รู้สึกว่าตระกูลไม่ใช่พวกที่อยู่เฉยๆ จัดการง่าย ต่อไปนี้พวกเราต้องเลี่ยงที่จะติดต่อกับพวกเขาให้น้อยที่สุดดีกว่า” จิ้นเฟิงเหราไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ตระกูลซ่างกวนร่วมมือกับคนอื่นมาใส่ร้ายจิ้นกรุ๊ป
“ต่อไปนี้ก็คงไม่ติดต่ออยู่แล้ว” เจียงสื้อสื้อพูด “ตอนนี้ซ่างกวนหยวนก็ตายไปแล้ว ไม่แน่ตระกูลซ่างกวนมาเกลียดตระกูลพวกเราอีก ก็เลยอยู่ห่างกันมันถูกแล้ว”
แม่จิ้นที่เงียบอยู่ตลอดก็ถอดหายใจแรงๆ แล้วพูด “นายท่านหญิงตระกูลซ่างกวน คนผมขาวส่งคนผมดำ คงจะรู้สึกแย่แน่เลย”
“คุณแม่ เธอจะเศร้าก็เพราะตัวเธอหาเรื่องเอง ถ้าตอนนั้นเธอห้ามหลานสาวตัวเองไว้ ซ่างกวนหยวนก็คงจะไม่ตกอับกลายเป็นสภาพแบบนี้” สำหรับตระกูลซ่างกวน ส้งหวั่นชีงไม่แม้แต่จะเห็นใจด้วยเลยสักนิด
“จะพูดแบบนี้มันก็ถูกต้อง แต่มันก็สมเหตุสมผล เพราะยังไงนั่นเป็นหลานสาวของเธอ ถ้าเธอไม่ช่วยหลานสาวตัวเองแล้วจะช่วยใครล่ะ?”
ได้ยินที่แม่จิ้นช่วยพูดแก้ตัวให้กับนายท่านหญิง จิ้นเฟิงเหราเบะปาก “คุณแม่ ลองกลับไปนึกเรื่องที่คุณถูกลักพาตัว คุณยังรู้สึกว่านายท่านหญิงน่าสงสารอยู่หรือเปล่า?”