วันถัดมา เสี่ยวเป่าเป็นปกติเหมือนที่ผ่านมา ไปรับการรักษาที่ห้องทำงานของเซิ่นมู่ป๋ายตรงตามเวลา
เซิ่นมู่ป๋ายเห็นสภาพจิตใจของเขาไม่เลว จึงให้เขาทำการทดสอบทางด้านจิตวิทยา
ผลการทดสอบก็คือสภาพจิตใจของเสี่ยวเป่าเริ่มดีขึ้นแล้ว
หลังจากเจียงสื้อสื้อรู้ ก็ตื้นตันจบเกือบจะร้องไห้ออกมา ยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่หางตา ริมฝีปากโค้งเป็นรอยยิ้ม “หลายวันที่คอยอยู่เพื่อนในที่สุดก็เห็นผลอยู่บ้าง แล้วก็ลำบากคุณด้วยนะมู่ป๋าย”
หลายวันมานี้ พอเธอเลิกงานก็กลับบ้านมาอยู่เป็นเพื่อนเสี่ยวเป่า
อ่านหนังสือเป็นเพื่อนเขา ต่อเลโก้เป็นเพื่อนเขา
จะอยู่กับเขาทุกคืน จนกระทั่งเขานอนหลับ
สายตาจิ้นเฟิงเฉินมองเธอด้วยความสงสัย พูดเบาๆว่า “นี่เป็นเรื่องน่ายินดี ทำไมยังร้องไห้อีก”
“ฉันดีใจนี่!” เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมา ขนตายังมีหยดน้ำตาเกาะอยู่
มุมปากจิ้นเฟิงเฉินยกขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ มองเธอด้วยสายตาที่ทั้งรักใคร่เอ็นดูทั้งจนปัญญาเล็กน้อย
ตอนบ่าย เสี่ยวเป่าถูกรับมาที่บริษัท
“หม่ามี๊ วันนี้ที่โรงเรียนเลิกเรียนเร็ว” เสี่ยวเป่ายังไม่รู้ว่าเจียงสื้อสื้อรู้เรื่องที่เขากำลังรับการบำบัดสภาพจิตใจ ดังนั้นระหว่างทางที่มาเขาจึงคิดหาเหตุผลมาปิดบังเธอ
เธอเข้าใจความคิดของเขา เจียงสื้อสื้อจึงไม่ได้ถามอะไรมาก ยิ้มแล้วส่งเสียงตอบว่า “อืม” จากนั้นก็พาเขาไปกินขนมที่โรงอาหารบริษัท
“เสี่ยวเป่า ไปรับเถียนเถียนกับหม่ามี๊มั้ย” เจียงสื้อสื้อมองเสี่ยวเป่าที่กำลังดื่มนมเปรี้ยวอยู่ ถามหยั่งเชิงเขาดู
“ได้ครับ” เสี่ยวเป่าพยักหน้า
ความจริงแล้วในใจเสี่ยวเป่ารู้สึกผิดต่อเถียนเถียนอยู่บ้างเล็กน้อย
เพราะว่าช่วงหลายวันมานี้เจียงสื้อสื้อคอยอยู่เป็นเพื่อนเขาตลอด ไม่ค่อยได้สนใจเถียนเถียน
แต่ว่า เขาก็แอบตัดสินใจในใจแล้วว่า รอจนเขาหายดีแล้ว จะต้องดีต่อเถียนเถียนให้มากยิ่งกว่าเมื่อก่อน
“งั้นอีกเดี๋ยวพวกเราไปรับเถียนเถียนด้วยกันนะจ๊ะ”
เสี่ยวเป่าไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ตอบตกลงเลย เจียงสื้อสื้อพึงพอใจมาก สายตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน
พลบค่ำ เจียงสื้อสื้อขับรถพาเสี่ยวเป่าไปที่โรงเรียนอนุบาลที่เถียนเถียนเรียน
ที่โรงเรียนอนุบาลเพิ่งจะเลิกเรียน ตรงประตูมีแต่ผู้ปกครองมารอรับลูก คึกคักอย่างมาก
เจียงสื้อสื้อมองแวบเดียวก็เห็นคุณครูประจำชั้นของเถียนเถียน เธอจูงมือเสี่ยวเป่าเดินไป
มองเห็นเธอมา คุณครูประหลาดใจมาก “คุณแม่เถียนเถียน วันนี้ทำไมมารับเถียนเถียนด้วยตัวเองเลยเหรอคะ”
“มีเวลาว่างพอดีค่ะ”
เจียงสื้อสื้อมองไปยังแถวที่อยู่ด้านหลังคุณครู ไม่เห็นเถียนเถียนเลย คิ้วเรียวก็ขมวดมุ่นโดยไม่รู้ตัว “เถียนเถียนล่ะคะ”
“เถียนเถียนไม่ได้อยู่ด้านหลังเหรอคะ” คุณครูหันไปมอง ก็พบว่าเถียนเถียนไม่อยู่ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
“เถียนเถียนล่ะ” เธอคว้าแขนของเด็กที่อยู่ข้างๆ ถามด้วยความร้อนใจ
เด็กน้อยส่ายหน้า “ไม่รู้ค่ะ”
คุณครูถามเด็กๆอีกสองสามคน ต่างก็บอกว่าไม่รู้ว่าเถียนเถียนไปไหน
“อาจ อาจจะไปห้องน้ำ ฉันลองไปดูก่อนนะคะ”
พูดจบ คุณครูหมุนตัววิ่งเข้าไปในโรงเรียน
เสี่ยวเป่าสัมผัสได้ว่ามือของเจียงสื้อสื้อที่จูงมือตนเองอยู่นั้นจับแน่นขึ้น เขาเงยหน้ามองไปที่เธอ “หม่ามี๊ เถียนเถียนไม่มีทางเป็นอะไรหรอกครับ”
ได้ยินดังนั้น เจียงสื้อสื้อก้มหน้า ฝืนยิ้มออกมา “อืม”
ความจริงแล้วในใจเธอตื่นตระหนกมาก จนถึงขั้นเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่าง
ไม่นาน คุณครูวิ่งออกมา พูดอย่างหืดหอบว่า “เถียนเถียนไม่ได้อยู่ที่ห้องน้ำ ฉันยั้ง……”
เธอกลืนน้ำลาย พูดอีกว่า “ไปหาที่อื่นมาแล้ว ก็หาเถียนเถียนไม่เจอค่ะ”
เจียงสื้อสื้อหน้ามืด ร่างเซถลา
“หม่ามี๊!”
“คุณแม่เถียนเถียน!”
คุณครูไปประคองเธอไว้ได้ทัน
“เถียนเถียนยังเล็กขนาดนั้น ถ้าไม่อยู่ที่โรงเรียนจะไปอยู่ที่ไหนได้” เจียงสื้อสื้อมืดแปดด้านขึ้นมาเล็กน้อย
คุณครูก้มหน้า “ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ดูแลเด็กให้ดี ฉัน……”
“คำขอโทษคำเดียวนี้ก็แก้ปัญหาได้เหรอคะ” เจียงสื้อสื้อมองไปโดยรอบ มองเห็นผู้ปกครองพาลูกจากไปอย่างร่าเริงสบายใจ ภายในใจก็โกรธและร้อนใจ
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาซักไซ้ไล่เลียงคุณครู
เธอใจเย็นลง “ลองหาอย่างละเอียดอีกรอบ เถียนเถียนเด็กขนาดนั้นน่าจะไปได้ไม่ไกล”
“ค่ะ ฉันจะรีบให้คุณครูท่านอื่นมาช่วยกันหาเดี๋ยวนี้”
ผู้อำนวยการโรงเรียนพอได้ยินว่าเถียนเถียนหายตัวไป ก็ตกใจรีบสั่งให้คุณครูคนอื่นๆช่วยกันหา
เจียงสื้อสื้อเองก็ไม่ได้รออยู่เฉยๆ เธอให้เสี่ยวเป่ารอตัวเองอยู่ที่เดิม จากนั้นก็วิ่งเข้าไปในโรงเรียน
คนนับสิบคนมาช่วยกันค้นหาแทบจะพลิกโรงเรียนอนุบาลทั้งหลังแล้ว แต่ก็ยังหาเถียนเถียนไม่เจอ
“คุณนายจิ้น ขอโทษด้วยนะคะ เป็นความสะเพร่าของพวกเรา” ผู้อำนวยขอโทษขอโพยเจียงสื้อสื้อไม่หยุด
เจียงสื้อสื้อไม่มีกะจิตกะใจจะสนใจเธอ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาจิ้นเฟิงเฉิน
ทันใดนั้นห้องทำงานที่เงียบสงบก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นมา จิ้นเฟิงเฉินเหลือบมอง เห็นว่าเป็นเจียงสื้อสื้อ ก็รีบรับสายทันที “สื้อสื้อ……”
เขาที่เพิ่งจะเอ่ยปาก เจียงสื้อสื้อที่อยู่ปลายสายนั้นก็ร้องไห้ออกมาทันที
จิ้นเฟิงเฉินถามอย่างตื่นตระหนกว่า “เกิดอะไรขึ้น”
“เถียนเถียนหายตัวไป……”
……
ระหว่างทาง จิ้นเฟิงเฉินแทบจะเหยียบคันเร่งจนมิด ระยะทางที่ใช้เวลาประมาณสามสิบนาทีก็ย่นเหลือเพียงสิบกว่านาที
“เฟิงเฉิน!” พอเห็นเขามา เจียงสื้อสื้อก็รีบเดินไปหาทันที พูดพลางร้องไห้พลางว่า “เถียนเถียนหายตัวไป คุณว่าเด็กตัวเล็กๆขนาดเธอนั้น จะไปไหนได้”
จิ้นเฟิงเฉินตบหลังเธอเบาๆ สายตาคมกริบมองไปทางผู้อำนวยการโรงเรียนและบรรดาคุณครู พูดด้วยเสียงเข้มว่า “เด็กหายตัวไปจากโรงเรียน ผมหวังว่าพวกคุณจะให้คำตอบกับผมได้”
“ขอโทษด้วยค่ะ ขอโทษค่ะ”
นอกจากคำขอโทษ ผู้อำนวยการกับบรรดาคุณครูก็ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
เวลานี้เอง กู้เนี่ยนพาคนพรวดพราดเข้ามา “คุณชายครับ”
“เอาคนไปค้นหาบริเวณนี้ให้ทั่ว เถียนเถียนเล็กขนาดนั้นไปได้ไม่ไกลหรอก” จิ้นเฟิงเฉินสั่งด้วยเสียงแข็งกร้าว
“ครับ!”
มองเห็นพวกของกู้เนี่ยนแบ่งคนเป็นสองกลุ่ม ซ้ายกลุ่มขวากลุ่มแยกย้ายกัน เริ่มค้นหาคน
น้ำตาเจียงสื้อสื้อไหลลงมาไม่หยุด “เฟิงเฉิน เถียนเถียนจะเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีทาง เถียนเถียนจะไม่เป็นอะไร” จิ้นเฟิงเฉินโอบเธอไว้แน่น
บรรดาคุณครูเองก็กระจายกันไปช่วยค้นหา ผู้อำนวยการพาคนไปตรวจดูกล้องวงจรปิด
ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว จึงรู้ว่าเพราะลูกบอลยางในมือของเถียนเถียนหล่นแล้วกลิ้งออกไปนอกโรงเรียน เธอวิ่งตามออกไปเก็บจึงได้หายตัวไป
ลูกบอลยางก็ไม่น่าจะกลิ้งไปไหนไกล อย่างมากก็หนึ่งถึงสองเมตร คนจะหายตัวไปได้อย่างไร
พวกของกู้เนี่ยนแทบจะพลิกแผ่นดินหาแล้ว แต่ก็ยังไม่เจอคน
“แจ้งตำรวจ!” จิ้นเฟิงเฉินกำหมัดแน่น ใบหน้าหล่อเหลาปกคลุมด้วยเมฆหมอก
เถียนเถียนคงยังไม่น่าไปไหนไกล นอกเสียจากว่าถูกคนเอาตัวไปแล้ว
“สื้อสื้อพวกเรากลับบ้านกันก่อนเถอะ ถ้าทางตำรวจหาคนเจอแล้วก็จะส่งเธอกลับบ้านเอง”
น้ำตาของเจียงสื้อสื้อไม่ได้หยุดไหลเลย ถ้าไม่ใช่ว่าจิ้นเฟิงเฉินคอยประคองอยู่ คนคงล้มพับไปกองอยู่ที่พื้นนานแล้ว
จิ้นเฟิงเฉินเห็นก็รู้สึกสงสารมาก
“ฉันไม่ไป ฉันจะอยู่รอเถียนเถียนที่นี่ เธอตัวคนเดียวต้องกลัวมากแน่นอน”
คิดถึงข้อนี้แล้ว น้ำตาเจียงสื้อสื้อก็ยิ่งไหลหนักขึ้น “ฉันจะไปตามหาเถียนเถียน”
พูดพลาง เธอก็ผลักจิ้นเฟิงเฉินออก ก้าวขาจะเดินไปข้างหน้า
ทันใดนั้นก็หน้ามืด เสียงร้องอย่างตกใจของจิ้นเฟิงเฉินดังอยู่ข้างหู
“สื้อสื้อ!”
จากนั้น เธอก็ตกอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น
จิ้นเฟิงเฉินอุ้มเจียงสื้อสื้อที่เป็นลมหมดสติไปเอาไว้ เขาที่สงบนิ่งดั่งขุนเขามาโดยตลอด ร้องอย่างตื่นตระหนกว่า “กู้เนี่ยน ขับรถมา!”
กู้เนี่ยนรีบวิ่งไปขับรถมา
จิ้นเฟิงเฉินอุ้มคนไปวางไว้ในรถ สั่งกู้เนี่ยนว่า “นายลงไป เปลี่ยนคนขับ นายรับผิดชอบพาเสี่ยวเป่าไปส่งที่บ้าน จากนั้นค่อยกลับมาจับตาที่โรงเรียนอนุบาลนี่”
“ครับ” กู้เนี่ยนลงจากรถอย่างรวดเร็ว เปลี่ยนคนขับรถไปส่งจิ้นเฟิงเฉินที่โรงพยาบาล