งานเลี้ยงจัดขึ้นที่โรงแรมหกดาวแห่งหนึ่งในเมืองเมืองจิ่น แล้วยังตั้งใจวางพรมแดงและผนังเซ็นชื่อเอาไว้เป็นพิเศษ
รถจอดอยู่ที่จุดเริ่มต้นของพรมแดง เจียงสื้อสื้อเห็นทั้งสองข้างของพรมแดงแล้วก็นึกไม่ถึงว่าจะเป็นสื่ออยู่เต็มไปหมด สภาพจิตใจอดไม่ได้ที่จะตื่นกังวลขึ้นมา
“ทำไมคุณไม่บอกฉันว่ามีสื่อมวลชนมาด้วย?” เจียงสื้อสื้อหันหน้าไปมองจิ้นเฟิงเฉิน
ตรงระหว่างคิ้วของจิ้นเฟิงเฉินได้ขมวดออกมาเล็กน้อย”ผมเองก็ไม่รู้ชัดเจนเหมือนกัน”
ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นแค่งานเลี้ยงธรรมดาทั่วๆไปเท่านั้น แต่นึกไม่ถึงว่าจะใหญ่โตอย่างนี้
ขนาดสื่อมวลชนก็ยังเชิญมาหมด
“พวกเรากลับกัน” จิ้นเฟิงเฉินพูด
เขาไม่ชอบการได้รับสัมภาษณ์จากสื่อมาโดยตลอด ยิ่งไปกว่านั้นวันนี้ยังมีหลายสื่ออย่างนี้อีก ถึงตอนนั้นแล้วจะต้องมีการรายงานข่าวเหลวไหลออกมาเป็นกองๆอีกแน่ๆ
“ในเมื่อไหนๆมากันแล้ว ทำไมจะต้องกลับไปอีก?” เจียงสื้อสื้อสูดหายใจเข้าลึกๆ กุมมือของเขาเอาไว้แน่น”ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบ แต่มีฉันอยู่เป็นเพื่อน ไม่เป็นไรหรอก”
“ผมกลัวว่าคุณจะรู้สึกอึดอัดต่างหาก” จิ้นเฟิงเฉินมองลึกไปที่เธอ
เจียงสื้อสื้อส่ายหน้าออกมา”มีคุณอยู่ ฉันไม่มีทางรู้สึกอึดอัดได้หรอก”
“งั้นก็ได้ พวกเราลงจากรถกัน”
จิ้นเฟิงเฉินเป็นฝ่ายเปิดประตูลงจากรถไปก่อน ทันทีที่เขาปรากฏตัวสื่อทั้งหมดก็ได้ตื่นตัวกันขึ้นมา
แชะแชะ!
เสียงกดชัตเตอร์ได้ดังขึ้นมาเรื่อยๆ
เห็นเพียงจิ้นเฟิงเฉินโค้งตัวลง ยื่นมือออกไปทางด้านในรถ
เจียงสื้อสื้อยิ้มให้เขา เอามือวางลงไปบนฝ่ามือของเขา แล้วลงจากรถไป
พวกเขาสามีภรรยาไม่ได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนมานานมากแล้ว ยากที่จะหลีกเลี่ยงการดึงดูดความสนใจจากสื่อไปได้
เจียงสื้อสื้อคล้องแขนของจิ้นเฟิงเฉิน สายตาจริงจังไม่มองออกไปข้างๆ เหยียบพรมแดงเดินเข้าโรงแรมไปทีละก้าวๆ
ในเวลานั้นเอง ที่ห้องรับรองที่อยู่ชั้นบนโรงแรม หลี่ซีมองภาพฉากนี้ผ่านทางหน้าต่างที่ยาวจรดพื้น มือที่จับแก้วอยู่ได้กำแน่นขึ้นมาทันที ข้อนิ้วขาวซีดไปหมด
บนใบหน้าที่แต่งแต้มมาอย่างประณีตได้ปกคลุมไปด้วยความมืดมนอย่างหนาแน่น
เจียงสื้อสื้อ!
คนที่เธอเกลียดที่สุดในชีวิตนี้!
ถ้าเป็นไปได้เธออยากจะเข้าไปบีบคอหล่อนให้ตายจริงๆเลย!
“เป็นอะไรไปหรือเปล่า?”
เจี่ยงฉือสังเกตได้ถึงสีหน้าของเธอได้ดูโหดเหี้ยมออกมา จึงลุกขึ้นเดินเข้าไปข้างๆเธอ มองตามสายตาของเธอออกไป ไม่ได้เห็นจุดที่ไม่ถูกต้องอะไรเลย
“คุณเป็นอะไรไปกันแน่เนี่ย?” เจี่ยงฉือถามออกมาซ้ำอีกครั้ง
“ไม่มีอะไร” หลี่ซีข่มความคิดทั้งหมดเอาไว้ วางผ้าห่มลง ยกมือขึ้นไปเอาเสื้อคลุมที่อยู่บนไหล่ออกไป ลุกขึ้น สายตามองไปทางประตูห้อง”พวกเราลงไปกันเถอะ”
คนที่สามารถทำให้เธอผิดปกติไปมีเพียงแค่จิ้นเฟิงเฉินกับเจียงสื้อสื้อเท่านั้น
เธอจะต้องเห็นสองคนนั้นแน่ๆ
ในดวงตาของเจี่ยงฉือปรากฎความโหดเหี้ยมออกมา จิ้นเฟิงเฉินยังคงสามารถส่งผลต่อความรู้สึกของเธอขึ้นมาได้ง่ายๆอยู่
งั้นจิ้นเฟิงเฉินก็จำเป็นต้องกำจัดทิ้งไป
เธอถึงจะอยู่ข้างกายเขาด้วยความมุ่งมั่นเดียวได้
สถานที่จัดงานเลี้ยงประดับตกแต่งได้หรูหราอย่างมาก ในทุกๆที่สามารถมองออกถึงความหรูหราโอ่อ่าที่JRลงทุนไปอย่างใจป้ำ ไม่มีขี้เหนียวเลยสักนิดเดียว
“ท่านประธานJRคนนี้ให้ความสำคัญกับหลี่ซีลูกเลี้ยงคนนี้มากเลยทีเดียวนะเนี่ย” เจียงสื้อสื้อมองไปรอบๆ คนที่มาทั้งหมดเป็นกลุ่มคนที่ร่ำรวยเป็นที่นับหน้าถือตา ทั้งหมดเป็นบุคคลที่อยู่ในแวดวงเซเลปกันทั้งนั้น
“งานเลี้ยงครั้งนี้จัดขึ้นมาได้อย่างยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้ เพียงแค่อยากจะบอกกับทุกคนว่าJRแข็งแกร่งมาก หลี่ซีสำคัญมาก”
พูดถึงตรงนี้แล้ว จิ้นเฟิงเฉินเอ่ยพูดออกมานิ่งๆ”งานเลี้ยงวันนี้สิ้นสุดลง คนที่อยากจะร่วมงานกับJRก็จะต้องมากขึ้นแน่ๆ”
บางคนที่จากเดิมยังคงเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ เห็นภาพงานเลี้ยงในวันนี้แล้ว จะต้องหวั่นไหวกันแน่ๆ
“แล้วคุณล่ะ? อยากจะร่วมงานกับหลี่ซีหรือเปล่า?” เจียงสื้อสื้อถาม
จิ้นเฟิงเฉินเอี้ยวหน้าไปมองเธอ”คุณคิดว่าไงล่ะ?”
“ไม่มีทาง” เจียงสื้อสื้อพูดออกมาอย่างมั่นใจ
“ทำไม?” จิ้นเฟิงเฉินผันร่างไป มองเธอไปอย่างสนอกสนใจ
“เพราะว่า…” เจียงสื้อสื้อคิดขึ้นมา”ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าJRแข็งแกร่งมาก ถ้าสามารถร่วมงานกับจิ้นกรุ๊ปได้ นั่นก็จะเป็นการที่ผู้แข็งแกร่งกับผู้แข็งแกร่งมาร่วมมือกัน แต่ว่า…”
ในทันใดนั้นเองเธอก็ได้เปลี่ยนประเด็นไปทันที”ก่อนหน้านี้หลี่ซีเป็นฝ่ายเข้ามาขอความร่วมมือกับคุณด้วยตัวเอง คุณไม่ได้ตอบตกลงกับเขาไป จะต้องรู้สึกกลัวว่าจะเกิดผลลัพธ์ไม่ดีขึ้นมาแน่ๆ คุณเป็นคนระมัดระวังคนหนึ่ง ไม่มีทางจะเปลี่ยนความคิดของตัวเองไปเพียงเพราะว่างานเลี้ยงหรอก”
“คุณว่าฉันวิเคราะห์ได้ถูกต้องหรือเปล่า?” เจียงสื้อสื้อเงยหน้าไปทางเขา เหมือนกับนักเรียนที่สอบได้คะแนนดีแล้วรอให้คุณครูชมอยู่ก็ไม่ปาน
จิ้นเฟิงเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย”วิเคราะห์ได้ถูกต้องมาก”
เจียงสื้อสื้อยิ้มออกมาด้วยความดีใจ
เห็นเธอเหมือนกับเด็กคนหนึ่งก็ไม่ปาน ในดวงตาของจิ้นเฟิงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะเผยความหลงใหลออกมาเต็มไปหมด
หลี่ซีปรากฏตัวออกมา สถานที่จัดงานเลี้ยงที่เสียงดังอึกทึกได้เงียบสงบลงทันที นอกจากจิ้นเฟิงเฉินสองพี่น้องแล้วก็เจียงสื้อสื้อ คนอื่นๆต่างก็เคลื่อนสายตาไปมองสาวสวยที่กำลังเดินอยู่บนพรมแดง
“หลี่ซีคนนี้สวยเสียจนไม่เหมือนคนเลย” จิ้นเฟิงเหรากระซิบเสียงเบาออกมา
เจียงสื้อสื้อได้ยินแล้ว ก็เห็นด้วยอยู่บ้าง
หน้าของหลี่ซี สวยก็สวยอยู่ แต่ก็เหมือนกับหน้าปลอมๆ ไม่เป็นธรรมชาติเลย ให้ความรู้สึกที่น่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก
“ครั้งก่อนฉันกินข้าวกับเธอ เคยสังเกตจากระยะใกล้ๆมาก่อน มันทำให้แผ่นหลังฉันเย็นเฉียบขึ้นมาจริงๆ” นึกย้อนไปถึงสถานการณ์เมื่อตอนนั้นแล้ว จิ้นเฟิงเหราก็อดไม่ได้ที่จะสั่นกลัวขึ้นมา
ตรงระหว่างคิ้วของจิ้นเฟิงเฉินได้ย่นออกมาเล็กน้อย ปกปิดสีหน้าเอาไว้ไม่ได้แสดงอะไรออกมา
“เฟิงเฉิน คุณเป็นอะไรไป?” เจียงสื้อสื้อถามเสียงเบาออกไป
“ผมมักจะรู้สึกอยู่เสมอว่าหลี่ซีคนนี้ค่อนข้างที่จะคุ้นเลย”
ได้ยินแล้ว เจียงสื้อสื้อก็มองไปทางหลี่ซี
บนใบหน้าสวยนั้นของหลี่ซีเต็มไปด้วยรอยยิ้ม พยักหน้าเป็นเชิงทักทายให้กับแขกเป็นครั้งคราว
หน้าตา เป็นคนแปลกหน้า
แต่ท่วงท่าการเดิน ในทุกๆท่วงท่ามันให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยจริงๆ
เหมือนกับว่าเป็น…
ภายในหัวได้มีเงาร่างของคนคนหนึ่งแวบขึ้นมา เจียงสื้อสื้อสลัดมันออกไป”ซ่างกวนหยวน”
จิ้นเฟิงเหราพอได้ยินแล้วก็ประหลาดใจออกมาเล็กน้อย”พี่สะใภ้ ทำไมอยู่ดีๆพี่ก็พูดถึงซ่างกวนหยวนขึ้นมา?”
“ไม่ใช่ ฉันรู้สึกว่าหลี่ซีกับซ่างกวนหยวนคล้ายกันนิดหน่อย” คิ้วของเจียงสื้อสื้อขมวดเข้าหากันแน่น ดวงตาทั้งสองข้างมองสำรวจหลี่ซีอยู่แป๊บหนึ่ง
จิ้นเฟิงเฉินกับจิ้นเฟิงเหราสบตากัน สีหน้าของทั้งสองคนเปลี่ยนเป็นจริงจังขึ้นมาเล็กน้อย
นึกไม่ถึงว่าพวกเขาต่างก็คิดว่าหลี่ซีกับซ่างกวนหยวนคล้ายกันทั้งหมดเลย
คนหนึ่งคิดว่าคล้าย คงจะเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ
แต่สามคนมันก็ไม่แน่
ซ่างกวนหยวนตายไปแล้วจริงๆ แล้วยังตายอยู่ที่เรือนจำอีกด้วย
วันที่ฝังศพวันนั้นยังมีสื่อถ่ายทอดสดออกมา คนตั้งเท่าไหร่กันที่เห็นเธอถูกฝังไปแล้ว ไม่มีทางจะเป็นของปลอมหรอกมั้ง
“พี่ชาย ต้องการให้ส่งคนไปตรวจสอบให้ชัดเจนหรือเปล่า?” จิ้นเฟิงเหราถามเสียงเบาออกมา
จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้าออกมา
“เฟิงเฉิน คุณสงสัยว่าเธอจะเกี่ยวข้องกับซ่างกวนหยวนเหรอ?” เจียงสื้อสื้อถาม
“รูปลักษณ์ภายนอกไม่เหมือน บุคลิกภายนอกเหมือน ทำให้คนอื่นยากที่จะไม่สงสัย” จิ้นเฟิงเฉินหันหน้าไปมองเธอ
จู่ๆเจียงสื้อสื้อก็นึกถึงเรื่องที่ตัวเองเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์หน้าตาเข้าตระกูลซ่างกวนเมื่อตอนนั้นขึ้นมาได้ ระหว่างคิ้วขมวดเข้าหากัน”เฟิงเฉิน คุณว่าเธอจะใช่ซ่างกวนหยวนหรือเปล่า?”
“เป็นไปได้”
วิชาการแพทย์ในตอนนี้พัฒนาไปเสียขนาดนี้แล้ว ใครจะรู้ว่าเมื่อตอนนั้นซ่างกวนหยวนตายปลอมหรือเปล่า
บางทีตระกูลซ่างกวนอาจจะก็แค่เล่นละครฉากหนึ่งให้เหล่ามวลชนได้ดูกันเท่านั้น
ซ่างกวนหยวนตายไป ก็สามารถไม่ต้องรับโทษทางกฎหมาย ถึงตอนนั้นแล้วก็ค่อยเปลี่ยนไปเป็นอีกตัวตนหนึ่งกลับมาอีกที
คิดถึงตรงนี้แล้ว จิ้นเฟิงเฉินอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา”ถ้าพวกเขาเอาความคิดนี้มาลงที่งาน บางทีซ่างกวนกรุ๊ปก็อาจจะพัฒนาได้ดีกว่าตอนนี้ก็ได้”
เจียงสื้อสื้อได้ยินเขาพูดมาอย่างนี้ ก็ได้พยักหน้าอย่างเห็นด้วยออกมา”คุณพูดถูก ไม่ว่าจะเป็นความคิดของซ่างกวนเชียนหรือว่าซ่างกวนหยวนมันก็ไม่ถูกต้องทั้งนั้น ซ่างกวนกรุ๊ปก็คงจะไปได้ไม่ไกลเหมือนกัน”