ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1441 มีความสุขอย่างนี้ได้ต่อไป

บทที่ 1441 มีความสุขอย่างนี้ได้ต่อไป

ก่อนมื้ออาหารเย็น ฟางยู่เชินกลับมาแล้ว

พอเถียนเถียนเห็นเขาแล้ว ก็รีบวิ่งเข้าไปหาเขาทันที

“น้าชาย!”

ฟางยู่เชินอุ้มเธอขึ้นมา พลางหยิกจมูกเธอไปเบาๆ บนใบหน้าอันหล่อเหลาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม”คิดถึงน้าหรือเปล่าครับ?”

“คิดถึง!” เถียนเถียนตอบกลับมาเสียงดัง

ฟางยู่เชินดวงตาหรี่เล็กลงด้วยความพึงพอใจ”ไม่เสียแรงที่น้าเอ็นดูหนู”

เขาอุ้มเถียนเถียนเดินไปยังห้องรับแขก เสี่ยวเป่ากับอานอานกำลังต่อจิ๊กซอว์กันอยู่ เห็นเขาเดินเข้ามาก็รีบวางจิ๊กซอว์ในมือลงไปทันที

“น้าชาย” เสี่ยวเป่าส่งเสียงเรียกออกมา

ฟางยู่เชินวางเถียนเถียนลง ยื่นมือออกไปแตะไปที่หัวของเขา”ช่วงนี้ได้ซื้อแบบใหม่มาบ้างหรือเปล่า?”

เสี่ยวเป่าพยักหน้าออกมา”มีครับ แด๊ดดี้กับคุณลุงซื้อแบบใหม่มาให้หลายแบบเลย”

ตั้งแต่ที่เขาไม่ได้ไปโรงเรียน จิ้นเฟิงเฉินกับจิ้นเฟิงเหรากังวลว่าเขาจะเบื่อ ก็เลยซื้อโมเดลมาวางไว้ที่บ้านไม่น้อยเลย เพื่อให้เขาฆ่าเวลา

“หลังจากนี้ไปมีเวลาก็ให้น้าชายดูโมเดลใหม่ของเธอหน่อยนะ”

เสี่ยวเป่าพอได้ยินแล้ว ก็ได้พยักหน้าออกมาอย่างแรง”ได้ฮะ”

ต่อจากนั้นมา ฟางยู่เชินมองไปทางอานอาน ยิ้มพลางถามออกไป”วันนี้หนูมีความสุขมากเลยใช่มั้ย? เพราะว่าเสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนมากัน”

“แน่นอนว่าต้องมีความสุขอยู่แล้ว” อานอานมองเสี่ยวเป่ากับเถียนเถียน”ผมชอบเสี่ยวเป่ากับเถียนเถียนที่สุด”

“หนูก็ชอบพี่อานอานที่สุดเหมือนกัน” เถียนเถียนวิ่งเข้าไป จับมือเขาเอาไว้

อานอานมองเธอ ตัวเขาเปลี่ยนมามีความอ่อนโยนออกมามากยิ่งขึ้น

ฟางยู่เชินมองเขาไปเหมือนกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่สักพักหนึ่ง มองออกไปรอบๆ พลางถามออกไป”เสี่ยวเป่า หม่ามี้ของหนูกับน้าสะใภ้เล็กล่ะ?”

“พวกท่านกำลังเตรียมมื้อเย็นอยู่ในครัวกัน”

“เตรียมมื้อเย็น?” หัวคิ้วของฟางยู่เชินขมวดเข้าหากัน ก้าวเท้าเดินไปยังห้องครัว

เจ้าตัวยังไม่ได้เดินไปถึงห้องครัว ก็มองเห็นเจียงสื้อสื้อยกถ้วยน้ำซุปถ้วยหนึ่งออกมาจากห้องครัวเสียก่อน

ตอนที่เห็นเขา เจียงสื้อสื้อก็ยิ้มออกมาทันที”พี่ชาย พี่กลับมาได้เวลามากเลยจริงๆ”

หางคิ้วของฟางยู่เชินเลิกขึ้นมา”ว่าไงนะ?”

เขาเดินเข้าไปรับถ้วยซุปในมือของเธอชามนั้นไป ช่วยเธอยกไปวางบนโต๊ะรับประทานอาหารให้เรียบร้อย

“เพราะว่าเวยเวยเพิ่งจะผัดกับข้าวทั้งหมดเสร็จพอดีเลย”

บนโต๊ะอาหารวางอาหารเอาไว้หลากหลายเมนูมากเอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และยังแผ่ความร้อนออกมาอยู่ สีสันมองดูเย้ายวนใจเป็นอย่างมาก

ฟางยู่เชินรู้สึกประหลาดใจอยู่บ้าง”สิ่งพวกนี้ล้วนแล้วแต่จะเป็นเวยเวยทำคนเดียวทั้งหมด?”

“หรือว่าพี่จะไม่เคยกินอาหารที่เวยเวยทำมาก่อน” เห็นใบหน้าแปลกใจของเขาแล้ว เจียงสื้อสื้ออดที่จะรู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาเสียไม่ได้

“ฉันต้องเคยกินสิ เพียงแต่ไม่รู้ว่าฝีมือของเธอจะดีขนาดนี้ ถ้าไม่เพราะพวกเธอมา ฉันคงจะไม่ได้ลาภปากอย่างนี้”

ได้ยินเสียงของเขาแล้วก็เหมือนกับจะอิจฉาอยู่บ้าง

เจียงสื้อสื้ออดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา พลางเอ่ยเย้าแหย่ออกมา”พี่ชาย พี่คงไม่ได้กินน้ำส้มฉันกับลูกหรอกใช่มั้ย?”

“ฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้นแน่” ฟางยู่เชินเลื่อนสายตาออกไปอย่างร้อนตัว พลางเอ่ยเสียงเบาออกมา”อย่างมากก็หลังจากนี้ไปฉันจะให้เวยเวยทำให้ฉันกินทุกวันเลย”

แต่พอได้ย้อนกลับไปคิดๆดูแล้ว ถ้าเวยเวยลงครัวทุกวัน อย่างนั้นแล้วจะต้องเหนื่อยแย่เลย

เขาจึงรีบเปลี่ยนคำพูดออกมาทันที”สัปดาห์หนึ่งทำครั้งหนึ่ง”

เจียงสื้อสื้อส่ายหน้าออกมาอย่างพลางไม่ได้ที่จะหลุดยิ้มออกมา

คนใช้ได้เอาถ้วยชามและตะเกียบมาวางเอาไว้เรียบร้อย เจียงสื้อสื้อไปเรียกเด็กๆมากินข้าวกัน

รอจนคนทั้งครอบครัวเข้ามานั่งกันเรียบร้อยแล้ว ฟางเถิงก็ได้เป็นคนเอ่ยพูดออกมาก่อนเป็นคนแรก”สื้อสื้อ หายากที่เวยเวยจะลงครัวสักครั้ง คุณกับเด็กๆจะต้องกินให้เยอะๆหน่อยนะ”

เจียงสื้อสื้อยิ้มพลางพูดออกมา”น้าชาย น้าวางใจเถอะ ฉันจะกินให้มันเยอะๆหน่อย ตอนที่ฉันดูเวยเวยทำกับข้าวอยู่ที่ในครัว ได้กลิ่นหอมนั้นก็หิวสุดๆขึ้นมา”

พอคำพูดนี้ได้พูดออกมาแล้ว ทำเอาทุกคนพากันขบขันกันขึ้นมา

“เวยเวย น้องเขยไม่ทำกับข้าวให้กินเหรอ?” ฟางยู่เชินเอ่ยเย้าออกมาประโยคหนึ่ง

เจียงสื้อสื้อรู้ว่าเขากำลังโจมตีเธออยู่ ใครใช้ให้เมื่อกี้นี้เธอมาเอ่ยเย้าเขากันล่ะ

“ฉันแค่ไม่เคยได้กินอาหารที่เวยเวยทำดีๆเลย” เจียงสื้อสื้อถลึงตาใส่เขาไปอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก

“เวยเวย อย่าไปสนใจเขาเลย กินเนื้อซี่โครงชิ้นนี้” ซ่างหยิงคีบเนื้อซี่โครงชิ้นหนึ่งมาวางลงไปในชามของเธอ และก็ได้คีบน่องไก่ไปให้เด็กน้อยทั้งสามคนกันคนละน่อง

“ขอบคุณคุณย่า”

“ขอบคุณยาย”

เด็กน้อยทั้งสามคนพูดขอบคุณกันเสร็จ ต่างก็พากันก้มหน้าก้มตาเริ่มกินข้าวกัน

เจียงสื้อสื้อกัดเนื้อซี่โครงไปคำหนึ่ง ดวงตาเป็นประกายออกมา มองไปทางเหลียงซินเวย”อร่อยมากเลย”

เหลียงซินเวยพอได้ยินแล้ว ก็ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอกออกมาทันที พลางเอ่ยยิ้มๆออกมา”งั้นก็ดี”

เธอยังกังวลอยู่เลยว่าตัวเองทำกับข้าวมามากมายอย่างนี้ คงไม่มีทางจะรับประกันได้ว่ามันจะอร่อยทุกเมนู แค่ได้ยินคำชมของพี่สื้อสื้อแล้ว หัวใจที่เป็นกังวลอยู่นั้นก็ได้คลายกังวลขึ้นมา

“ฝีมือการทำอาหารของเวยเวยมันไม่ได้เป็นเรื่องปิดบังเลย แน่นอนว่ามันอร่อยมากอยู่แล้ว” ฟางยู่เชินคีบเนื้อปลาชิ้นหนึ่งเข้าไปในปาก คางเชิดขึ้นเล็กน้อย แสดงท่าทีภาคภูมิใจออกมา

เจียงสื้อสื้อเลิกคิ้วขึ้นมา”ฝีมือการทำอาหารของเวยเวยดีมากจริงๆ แต่พี่เองก็ไม่ได้กินอาหารที่เธอทำเป็นประจำด้วยนี่”

ฟางยู่เชินได้ยินประโยคนี้แล้ว ก็ไม่ยินยอมขึ้นมาทันที”สื้อสื้อ วันนี้เธอมีความแค้นกับฉันเหรอ?”

เจียงสื้อสื้อยักไหล่ออกมาเล็กน้อย พลางเอ่ยยิ้มๆออกมา”คงจะถูกเฟิงเหราแพร่เชื้อมาให้ ชอบพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดออกมา”

“พวกคุณอย่าทะเลาะกันสิ” เหลียงซินเวยกลัวว่าพวกเขาจะทะเลาะกันขึ้นมา จึงรีบส่งเสียงพูดเกลี้ยกล่อมออกมาทันที

“พวกเราจะทะเลาะกันได้ยังไงกันน่ะ?” ฟางยู่เชินหลุดหัวเราะออกมาด้วยความจนใจ”พวกเราก็แค่ปะทะฝีปากกันแค่ไม่กี่คำเอง ไม่ได้ทะเลาะกันจริงๆเสียหน่อย”

เหลียงซินเวยวางใจขึ้นมา”งั้นก็ดี”

ต่อจากนั้น เธอก็ได้อธิบายให้กับเจียงสื้อสื้อ”อันที่จริงก็เป็นเพราะว่าฉันยุ่งอยู่กับงานที่ร้าน ไม่มีเวลาลงครัวเลย วันนี้รู้ว่าเธอจะต้องมา ฉันก็เลยตั้งใจลาให้ตัวเองวันหนึ่งโดยเฉพาะ ไม่อย่างนั้นแล้วก็ไม่มีเวลาว่างหรอก”

“งานที่ร้าน?” เจียงสื้อสื้อขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย”เธอกลับไปทำงานที่ร้านอาหาร?”

“ฉันกับน้าชายของเธอได้ซื้อร้านอาหารเอาไว้แล้ว ตอนนี้เวยเวยเป็นเถ้าแก่ร้าน” ซ่างหยิงพูดออกมา

เจียงสื้อสื้อประหลาดใจอย่างมาก”น้าชาย น้าสะใภ้เล็ก นึกไม่ถึงว่าพวกคุณจะซื้อร้านทั้งร้านมาแล้ว? สุดยอดเกินไปแล้ว!”

เธอชูนิ้วโป้งขึ้นมา ใบหน้าแสดงความชื่นชมออกมา

ฟางเถิงหลุดยิ้มออกมา”นี่มันเป็นเพียงแค่ของขวัญแต่งงานที่เรามอบให้เวยเวยเท่านั้น มันไม่ได้มีอะไรสุดยอดเลย”

“แต่นี่มันก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าพวกคุณให้ความสำคัญกับเวยเวยมาก” เจียงสื้อสื้อวางตะเกียบลง เอ่ยอย่างเอาจริงเอาจังออกมา”ไม่ปิดบังพวกคุณ ตั้งแต่แรกฉันกังวลมากเลยว่าเวยเวยมาที่ตระกูลฟางแล้วจะไม่ชิน แต่ว่าดูจากตอนนี้แล้วฉันกังวลไปโดยเปล่าประโยชน์เสียแล้ว”

“พ่อแม่ปฏิบัติกับฉันเหมือนกับลูกสาวแท้ๆ ฉันจะไปไม่ชินได้ยังไงกัน”

สำหรับฟางเถิงกับซ่างหยิง ในใจของเหลียงซินเวยนอกจากความเคารพแล้ว สิ่งที่มากกว่านั้นเป็นความรู้สึกขอบคุณ

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเคยไม่เห็นด้วยที่เธอคบหากับยู่เชิน แต่หลังจากที่ตัดสินใจที่จะยอมรับเธอแล้ว ก็ได้ปฏิบัติกับเธอเหมือนกับลูกสาวแท้ๆจริงๆ ทำดีกับเธอต่างๆนานา

นี่มันทำให้เธอหลายปีที่ผ่านมานี้จึงได้สัมผัสถึงความรักของพ่อแม่และความอบอุ่นของครอบครัวอีกครั้ง

ฟางยู่เชินจับมือของเธอเอาไว้”ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังมีฉันอยู่ เธอจะต้องชินอยู่แล้ว”

“ใช่แล้ว” เจียงสื้อสื้อยิ้มพลางอวยพรออกมา”หวังว่าพวกเธอจะสามารถมีความสุขอย่างนี้ต่อไป”

“แน่นอนอยู่แล้ว”

ฟางยู่เชินกับเหลียงซินเวยสบตาแล้วยิ้มให้กัน

ข้าวมื้อหนึ่งกินกันไปชั่วโมงกว่าๆเต็มๆ ถ้าไม่เป็นเพราะว่าเถียนเถียนงอแงออกมาว่าอยากจะขึ้นตึกไป ผู้ใหญ่สองสามคนนี้คงจะยังกินข้าวอยู่อีกนาน

สิ่งที่สำคัญที่สุดของการพูดคุยกันของคนทั้งครอบครัว บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท