“เบื้องหลังของJRกรุ๊ปมันไม่เรียบง่ายเลย ข้อแนะนำของผมคืออย่าไปร่วมงานเลยครับ” อิ้งเทียนพูดออกมาอีกประโยคหนึ่ง
จิ้นเฟิงเฉินย่นคิ้วออกมา”ขอละเอียดหน่อย”
“เมื่อตอนนั้นที่ต่างประเทศมีบางบริษัทใช้การยกผลประโยชน์บางส่วนของโครงการให้ โดยพื้นฐานแล้วนี่ก็คือวิธีที่จะดึงเข้ามาเป็นพวกวิธีหนึ่ง มองดูจากภายนอกก็เย้ายวนใจอยู่หรอก แต่แท้จริงแล้วข้างในมันซ่อนพิษร้ายเอาไว้ บริษัทที่ถูกหลอกจนส่งผลให้ล้มละลายมันก็มีไม่น้อยเลย”
“แต่นี่มันเกี่ยวอะไรกับJRกรุ๊ป?” จิ้นเฟิงเหราถามออกไปด้วยความสงสัย
“คุณชายรอง หรือว่าคุณไม่ค้นพบว่านี่มันเหมือนกับวิธีการร่วมมือที่JRเสนอให้จิ้นกรุ๊ปมากเลยเหรอครับ?” อิ้งเทียนไม่ตอบแต่ได้ย้อนถามออกไป
“เหมือนจริงๆ” จิ้นเฟิงเหราพยักหน้าตอบออกมา”JRยกผลกำไรมาให้เยอะมาก”
“นั่นมันก็ถูกต้องแล้ว” อิ้งเทียนมองไปทางจิ้นเฟิงเฉิน เอ่ยออกไปด้วยสีหน้าที่จริงจัง”คุณชาย อุบายของJRกับบริษัทต่างชาติพวกนั้นเหมือนกันเลย ต้องระมัดระวังกันหน่อย พวกเราอย่าไปร่วมงานกับJRเลยดีกว่า”
จิ้นเฟิงเหราคิดไป แล้วถามออกมาว่า”เป็นไปได้ว่าจะเพียงแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า?”
เพราะถึงยังไงในระดับนานาชาติJRเองก็มีชื่อเสียงที่มั่นคง ไม่เหมือนกับพวกบริษัทเล็กๆ
“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า ก็ต้องหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นมา” จิ้นเฟิงเฉินเอ่ยพูดออกมา
“เหตุผลผมเข้าใจ แต่ถ้าJRไม่ร่วมงานกับจิ้นกรุ๊ป อย่างนั้นแล้วจะต้องเลือกซ่างกวนกรุ๊ปอย่างแน่นอน”
จิ้นเฟิงเหรากังวลว่าถ้าJRกับซ่างกวนเชียนพวกเขาได้ร่วมมือกัน อย่างนั้นแล้วอีกไม่นานก็จะเป็นศัตรูที่ยุ่งยากมากแน่
“ในเมื่อJRตั้งใจจะร่วมมือกับจิ้นกรุ๊ปให้ได้ อย่างนั้นแล้วภายในช่วงเวลาสั้นๆนี้ก็ไม่มีทางจะไปพิจารณาซ่างกวนกรุ๊ปหรอก”
ถึงแม้ว่าJRกับซ่างกวนกรุ๊ปจะร่วมมือกันจริงๆ จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่เป็นกังวล
ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็รับมือได้ทั้งนั้น
ทุกอย่างมันมักจะมีหนทางที่จะรับมือเสมอ
จิ้นเฟิงเหราพยักหน้าออกมาเล็กน้อย”เอาเถอะ แต่ฉันจะส่งคนไปคอยสังเกตJRกรุ๊ปดูดีกว่า”
จิ้นเฟิงเฉินลังเลตัดสินใจไม่ได้อยู่สักพักหนึ่ง พูดออกไปกับอิ้งเทียน”สืบเรื่องเป้าหมายที่JRกรุ๊ปเข้าตลาดในประเทศมาต่อไป ฉันไม่อนุญาตให้มีใครมาสร้างความวุ่นวายในระเบียบข้อบังคับของที่มีอยู่ในตอนนี้”
“ถ้าเกิดว่าแน่ใจแล้วว่าJRมีเจตนาเหมือนกับบริษัทต่างชาติพวกนั้น จะต้องมารายงานฉัน”
อิ้งเทียนก้มหน้าลงไปด้วยความเคารพ”ครับ”
……
ภายใต้การตั้งใจจะอยู่เป็นเพื่อนอย่างเอาใจใส่ของเจียงสื้อสื้อนั้น อาการของเสี่ยวเป่าก็ดีขึ้นมาเยอะเลย
วันนี้เจียงสื้อสื้อตั้งใจจะพาเขากับเถียนเถียนไปเล่นกันที่สนามเด็กเล่นที่ศูนย์การค้า
เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวด้านนอก มองเงาร่างของเด็กทั้งสองคนที่กำลังเล่นสนุกสนานอยู่ในสนามเด็กเล่นไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
วันเวลาในช่วงนี้ค่อยๆสงบสุขลงไปช้าๆ ถ้าเป็นไปได้ ก็หวังว่าวันเวลาอย่างนี้จะสามารถเป็นอย่างนี้ต่อไปตลอดได้
ซูชิงหยิงหาได้ยากที่จะมาเดินห้างสักครั้งหนึ่ง แต่กลับนึกไม่ถึงว่าจะมาเจอกับคนรู้จักได้เสียได้
เธอยกมือขึ้นมาถอดแว่นกันแดดออก สายตามองตรงลงไปยังผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่บนม้านั่งยาวคนนั้น ในดวงตาได้ปรากฏความเกลียดชังออกมา
เจียงสื้อสื้อ!
เธอลืมไปหมดแล้วว่าตัวเองไม่ได้เจอเจียงสื้อสื้อมานานเท่าไหร่แล้ว?
เจอหล่อนอีกครั้งหนึ่ง ความเกลียดชังหลายปีไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย แต่มันกลับเพิ่มมากขึ้น
“หม่ามี้!”
ซูชิงหยิงเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของเจียงสื้อสื้อ
เด็กผู้หญิงเงยหน้าขึ้นมา
เธอนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย”เหมือนมากจริงๆ”
หน้าตาของเด็กผู้หญิงเหมือนกับใช้แม่พิมพ์เดียวกันกับจิ้นเฟิงเฉินพิมพ์ออกมา
ความรู้สึกที่ซับซ้อนระหว่างความรักกับความเกลียดผสมปนเปกันปะทุขึ้นมาในใจ
ซูชิงหยิงเบนร่างออกไป กำมือแน่น หลับตาลง ข่มกลั้นความรู้สึกที่ซับซ้อนนั้นเอาไว้
ลืมตาออกมา ในดวงตาแสดงความมืดครึ้มออกมา
มุมปากแสยะยิ้มเยาะหยันออกมาเล็กน้อย เธอจะยังรักจิ้นเฟิงเฉินอยู่ได้ยังไงกันล่ะ?
หลังจากที่ผู้ชายคนนั้นเลือกเจียงสื้อสื้อแล้ว ใจของเธอมันก็ได้ตายไปแล้ว!
เธอในตอนนี้มีเพียงความเกลียดต่อจิ้นเฟิงเฉินเท่านั้น!
เพียงแต่คนที่เธอเกลียดยิ่งกว่าก็คือเจียงสื้อสื้อ
คิดถึงตรงนี้แล้ว เธอก็หันหน้าไปมองเจียงสื้อสื้อ
เห็นเพียงเจียงสื้อสื้อก้มหน้าลงไป ไม่รู้ว่าพูดอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้นอยู่ เด็กผู้หญิงคนนั้นถึงได้ยิ้มอย่างมีความสุขออกมา
ถึงแม้ว่าจะเว้นระยะห่างที่แน่นอนออกมาแล้ว ก็ยังสามารถรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ปกคลุมไปรอบๆพวกเธอได้อย่างชัดเจน
สิ่งนี้เดิมทีแล้วควรจะเป็นของเธอ!
เมื่อตอนนั้นถ้าเธอกับจิ้นเฟิงเฉินแต่งงานกัน คนที่จะพาลูกมาเล่นนี้ ควรจะต้องเป็นเธอ!
“เจียงสื้อสื้อ รอก่อนเถอะ! ความสุขที่เธอครอบครองอยู่ในตอนนี้ ฉันจะทำลายมันทีละนิดๆไปอย่างช้าๆ!”
ซูชิงหยิงผันร่างออกไป พกพาความโหดเหี้ยมเดินออกไป
เจียงสื้อสื้อหันหน้าไป มองไปทางตำแหน่งที่จากเดิมซูชิงหยิงได้ยืนอยู่ คิ้วสวยได้ขมวดออกมาเล็กน้อย ทำไมถึงได้รู้สึกว่ามีคนจ้องขึ้นมาอีกนะ?
แต่ก็ไม่เห็นใครเลยสักคนนี่!
เจียงสื้อสื้อนึกถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีตขึ้นมาอีกครั้ง ไม่กล้าชะล่าใจ ถึงขนาดที่โทรหาจิ้นเฟิงเฉิน ให้เขาเลิกงานแล้วแวะมารับเธอกับลูกด้วยเลย
พอเลิกงานจิ้นเฟิงเฉินก็หยิบเสื้อสูทขึ้นมาแล้วเดินออกไป
กู้เนี่ยนเห็นว่าวันนี้เขาเลิกงานได้ตรงเวลาอย่างนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยเย้าหยอกออกไป”คุณชาย มีเพียงแค่คุณหญิงเท่านั้นที่จะสามารถให้คุณเลิกงานเร็วอย่างนี้ได้”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ฝีเท้าของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้ชะงักลง หันหน้าไป สายตาหยุดอยู่ที่บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มนั้นของกู้เนี่ยนไปอย่างไม่ยี่หระเลยแม้แต่น้อย
ในใจของกู้เนี่ยนส่งเสียงดัง”ตึกตัก” ขึ้นมา จากนั้นก็ค่อยๆเก็บรอยยิ้มกลับไปช้าๆ
เขาปากมากเกินไปแล้วใช่มั้ย?
“แบบร่างแผนการของโครงการนั้นของTSกรุ๊ปจะต้องรีบทำออกมาในเย็นวันนี้”
พูดประโยคนี้จบลง จิ้นเฟิงเฉินเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย
กู้เนี่ยนนิ่งค้างอยู่นาน กว่าจะได้สติกลับมา จากนั้นคร่ำครวญออกมา”คุณชาย คืนเดียวจะไปรีบทำออกมาทันได้ยังไงกันครับ? จากนี้ไปผมจะไม่พูดสิ่งที่ไม่ควรพูดอีกแล้วครับ!”
เจียงสื้อสื้อดูเห็นเวลามันก็เย็นมากแล้ว จึงคิดว่าจะกินอาหารเย็นที่ข้างนอกเลย
รอจนจิ้นเฟิงเฉินมาหาพวกเธอ เธอยิ้มแล้วเอ่ยออกมา”พวกเราขึ้นไปหาร้านอาหารเพื่อกินมื้อเย็นกันมาสักร้านเถอะ”
เด็กทั้งสองคนพอได้ยินแล้ว เอ่ยออกมาเป็นเสียงเดียวกัน”ครับ/ค่ะ!”
มุมปากของจิ้นเฟิงเฉินฉีกยิ้มออกมาจางๆ”แล้วแต่คุณเลย”
กินมื้อเย็นแล้ว ระหว่างทางกลับไป เจียงสื้อสื้อพูดถึงเรื่องที่ตัวเองรู้สึกเหมือนกับถูกคนอื่นจ้องอยู่ขึ้นมา
“ครั้งนี้คงจะรู้สึกไปเองจริงๆ” เจียงสื้อสื้อเอ่ยออกมา
แต่จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้คิดอย่างนี้เลย”จากนี้ไปออกจากบ้าน ต้องพาการ์ดมาสักสองสามคน อย่าพาลูกออกจากบ้านมาตามลำพัง”
“พาการ์ดไปศูนย์การค้าสถานที่จำพวกนี้มันจะแปลกเกินไป” เจียงสื้อสื้อไม่กล้าจินตนาการถึงภาพนั้นเลย อัตราการดึงดูดความสนใจมันจะต้องเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน
“งั้นก็รอผมว่างแล้วมาเป็นเพื่อนพวกคุณ”
เจียงสื้อสื้อรีบพยักหน้าตอบตกลงออกไปทันที”ได้ อย่างนี้โอเค”
จิ้นเฟิงเฉินส่ายหน้าหลุดยิ้มออกมา ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
……
ซูชิงหยิงหลังจากที่กลับมาจากข้างนอก ตัวเธอก็เหมือนกับกินระเบิดมาก็ไม่ปาน คนใช้ทำอะไรผิดไปสักนิดหนึ่ง ก็จะถูกเธอด่าว่าไปเสียยกใหญ่
“นังคนซุ่มซ่าม! แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ทำได้ไม่ดี ไสหัวออกไปจากหน้าฉัน!”
คริสมินกลับมาพอดี เห็นทุกกระบวนการที่อาละวาดออกมากับตา หัวคิ้วอดไม่ได้ที่จะขมวดออกมา
“เธอลงไปเถอะ” คริสมินเดินเข้าไป ส่งสายตาให้คนใช้ที่ถูกด่าคนนั้น คนใช้จึงรีบออกไปทันที
“เป็นอะไรไป?” คริสมินจึงได้มองไปทางซูชิงหยิงที่มีใบหน้ามืดครึ้มออกมา
ซูชิงหยิงเงยหน้าขึ้นจ้องมองเขา พอได้อ้าปากพูดน้ำเสียงก็แข็งกร้าวออกมา”คุณหาคนใช้อะไรมา? ให้หล่อนไปรินน้ำให้ฉัน แต่ดันรินน้ำร้อนมาให้ คิดจะให้น้ำร้อนลวกฉันตายหรือไง?”
คริสมินเผยรอยยิ้มจนปัญญาออกมา เข้าไปนั่งลงข้างๆเธอ ยกมือขึ้นไปโอบไหล่ของเธอ แล้วเอ่ยปลอบออกไป”อย่าโกรธไปเลย ผมจะให้พวกเธอระวัง”
ซูชิงหยิงส่งเสียงเฮอะเสียงเย็นออกมา ไม่ได้พูดอะไรออกมา
คริสมินจ้องมองเธอไปอย่างกับคิดอะไรอยู่ไปสักพักหนึ่ง กว่าจะเอ่ยปากถามออกมา”วันนี้คุณอาละวาดออกมารุนแรงขนาดนี้ คงจะไม่ใช่แค่คนใช้รินน้ำร้อนให้หรอกมั้งใช่มั้ย?”