ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! – บทที่ 1449 การทำลายทีละนิดๆ

บทที่ 1449 การทำลายทีละนิดๆ

“เบื้องหลังของJRกรุ๊ปมันไม่เรียบง่ายเลย ข้อแนะนำของผมคืออย่าไปร่วมงานเลยครับ” อิ้งเทียนพูดออกมาอีกประโยคหนึ่ง

จิ้นเฟิงเฉินย่นคิ้วออกมา”ขอละเอียดหน่อย”

“เมื่อตอนนั้นที่ต่างประเทศมีบางบริษัทใช้การยกผลประโยชน์บางส่วนของโครงการให้ โดยพื้นฐานแล้วนี่ก็คือวิธีที่จะดึงเข้ามาเป็นพวกวิธีหนึ่ง มองดูจากภายนอกก็เย้ายวนใจอยู่หรอก แต่แท้จริงแล้วข้างในมันซ่อนพิษร้ายเอาไว้ บริษัทที่ถูกหลอกจนส่งผลให้ล้มละลายมันก็มีไม่น้อยเลย”

“แต่นี่มันเกี่ยวอะไรกับJRกรุ๊ป?” จิ้นเฟิงเหราถามออกไปด้วยความสงสัย

“คุณชายรอง หรือว่าคุณไม่ค้นพบว่านี่มันเหมือนกับวิธีการร่วมมือที่JRเสนอให้จิ้นกรุ๊ปมากเลยเหรอครับ?” อิ้งเทียนไม่ตอบแต่ได้ย้อนถามออกไป

“เหมือนจริงๆ” จิ้นเฟิงเหราพยักหน้าตอบออกมา”JRยกผลกำไรมาให้เยอะมาก”

“นั่นมันก็ถูกต้องแล้ว” อิ้งเทียนมองไปทางจิ้นเฟิงเฉิน เอ่ยออกไปด้วยสีหน้าที่จริงจัง”คุณชาย อุบายของJRกับบริษัทต่างชาติพวกนั้นเหมือนกันเลย ต้องระมัดระวังกันหน่อย พวกเราอย่าไปร่วมงานกับJRเลยดีกว่า”

จิ้นเฟิงเหราคิดไป แล้วถามออกมาว่า”เป็นไปได้ว่าจะเพียงแค่เรื่องบังเอิญหรือเปล่า?”

เพราะถึงยังไงในระดับนานาชาติJRเองก็มีชื่อเสียงที่มั่นคง ไม่เหมือนกับพวกบริษัทเล็กๆ

“ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า ก็ต้องหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นมา” จิ้นเฟิงเฉินเอ่ยพูดออกมา

“เหตุผลผมเข้าใจ แต่ถ้าJRไม่ร่วมงานกับจิ้นกรุ๊ป อย่างนั้นแล้วจะต้องเลือกซ่างกวนกรุ๊ปอย่างแน่นอน”

จิ้นเฟิงเหรากังวลว่าถ้าJRกับซ่างกวนเชียนพวกเขาได้ร่วมมือกัน อย่างนั้นแล้วอีกไม่นานก็จะเป็นศัตรูที่ยุ่งยากมากแน่

“ในเมื่อJRตั้งใจจะร่วมมือกับจิ้นกรุ๊ปให้ได้ อย่างนั้นแล้วภายในช่วงเวลาสั้นๆนี้ก็ไม่มีทางจะไปพิจารณาซ่างกวนกรุ๊ปหรอก”

ถึงแม้ว่าJRกับซ่างกวนกรุ๊ปจะร่วมมือกันจริงๆ จิ้นเฟิงเฉินก็ไม่เป็นกังวล

ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็รับมือได้ทั้งนั้น

ทุกอย่างมันมักจะมีหนทางที่จะรับมือเสมอ

จิ้นเฟิงเหราพยักหน้าออกมาเล็กน้อย”เอาเถอะ แต่ฉันจะส่งคนไปคอยสังเกตJRกรุ๊ปดูดีกว่า”

จิ้นเฟิงเฉินลังเลตัดสินใจไม่ได้อยู่สักพักหนึ่ง พูดออกไปกับอิ้งเทียน”สืบเรื่องเป้าหมายที่JRกรุ๊ปเข้าตลาดในประเทศมาต่อไป ฉันไม่อนุญาตให้มีใครมาสร้างความวุ่นวายในระเบียบข้อบังคับของที่มีอยู่ในตอนนี้”

“ถ้าเกิดว่าแน่ใจแล้วว่าJRมีเจตนาเหมือนกับบริษัทต่างชาติพวกนั้น จะต้องมารายงานฉัน”

อิ้งเทียนก้มหน้าลงไปด้วยความเคารพ”ครับ”

……

ภายใต้การตั้งใจจะอยู่เป็นเพื่อนอย่างเอาใจใส่ของเจียงสื้อสื้อนั้น อาการของเสี่ยวเป่าก็ดีขึ้นมาเยอะเลย

วันนี้เจียงสื้อสื้อตั้งใจจะพาเขากับเถียนเถียนไปเล่นกันที่สนามเด็กเล่นที่ศูนย์การค้า

เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวด้านนอก มองเงาร่างของเด็กทั้งสองคนที่กำลังเล่นสนุกสนานอยู่ในสนามเด็กเล่นไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

วันเวลาในช่วงนี้ค่อยๆสงบสุขลงไปช้าๆ ถ้าเป็นไปได้ ก็หวังว่าวันเวลาอย่างนี้จะสามารถเป็นอย่างนี้ต่อไปตลอดได้

ซูชิงหยิงหาได้ยากที่จะมาเดินห้างสักครั้งหนึ่ง แต่กลับนึกไม่ถึงว่าจะมาเจอกับคนรู้จักได้เสียได้

เธอยกมือขึ้นมาถอดแว่นกันแดดออก สายตามองตรงลงไปยังผู้หญิงที่กำลังนั่งอยู่บนม้านั่งยาวคนนั้น ในดวงตาได้ปรากฏความเกลียดชังออกมา

เจียงสื้อสื้อ!

เธอลืมไปหมดแล้วว่าตัวเองไม่ได้เจอเจียงสื้อสื้อมานานเท่าไหร่แล้ว?

เจอหล่อนอีกครั้งหนึ่ง ความเกลียดชังหลายปีไม่ได้ลดน้อยลงไปเลย แต่มันกลับเพิ่มมากขึ้น

“หม่ามี้!”

ซูชิงหยิงเห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกระโจนเข้าไปในอ้อมแขนของเจียงสื้อสื้อ

เด็กผู้หญิงเงยหน้าขึ้นมา

เธอนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย”เหมือนมากจริงๆ”

หน้าตาของเด็กผู้หญิงเหมือนกับใช้แม่พิมพ์เดียวกันกับจิ้นเฟิงเฉินพิมพ์ออกมา

ความรู้สึกที่ซับซ้อนระหว่างความรักกับความเกลียดผสมปนเปกันปะทุขึ้นมาในใจ

ซูชิงหยิงเบนร่างออกไป กำมือแน่น หลับตาลง ข่มกลั้นความรู้สึกที่ซับซ้อนนั้นเอาไว้

ลืมตาออกมา ในดวงตาแสดงความมืดครึ้มออกมา

มุมปากแสยะยิ้มเยาะหยันออกมาเล็กน้อย เธอจะยังรักจิ้นเฟิงเฉินอยู่ได้ยังไงกันล่ะ?

หลังจากที่ผู้ชายคนนั้นเลือกเจียงสื้อสื้อแล้ว ใจของเธอมันก็ได้ตายไปแล้ว!

เธอในตอนนี้มีเพียงความเกลียดต่อจิ้นเฟิงเฉินเท่านั้น!

เพียงแต่คนที่เธอเกลียดยิ่งกว่าก็คือเจียงสื้อสื้อ

คิดถึงตรงนี้แล้ว เธอก็หันหน้าไปมองเจียงสื้อสื้อ

เห็นเพียงเจียงสื้อสื้อก้มหน้าลงไป ไม่รู้ว่าพูดอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้นอยู่ เด็กผู้หญิงคนนั้นถึงได้ยิ้มอย่างมีความสุขออกมา

ถึงแม้ว่าจะเว้นระยะห่างที่แน่นอนออกมาแล้ว ก็ยังสามารถรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ปกคลุมไปรอบๆพวกเธอได้อย่างชัดเจน

สิ่งนี้เดิมทีแล้วควรจะเป็นของเธอ!

เมื่อตอนนั้นถ้าเธอกับจิ้นเฟิงเฉินแต่งงานกัน คนที่จะพาลูกมาเล่นนี้ ควรจะต้องเป็นเธอ!

“เจียงสื้อสื้อ รอก่อนเถอะ! ความสุขที่เธอครอบครองอยู่ในตอนนี้ ฉันจะทำลายมันทีละนิดๆไปอย่างช้าๆ!”

ซูชิงหยิงผันร่างออกไป พกพาความโหดเหี้ยมเดินออกไป

เจียงสื้อสื้อหันหน้าไป มองไปทางตำแหน่งที่จากเดิมซูชิงหยิงได้ยืนอยู่ คิ้วสวยได้ขมวดออกมาเล็กน้อย ทำไมถึงได้รู้สึกว่ามีคนจ้องขึ้นมาอีกนะ?

แต่ก็ไม่เห็นใครเลยสักคนนี่!

เจียงสื้อสื้อนึกถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาในอดีตขึ้นมาอีกครั้ง ไม่กล้าชะล่าใจ ถึงขนาดที่โทรหาจิ้นเฟิงเฉิน ให้เขาเลิกงานแล้วแวะมารับเธอกับลูกด้วยเลย

พอเลิกงานจิ้นเฟิงเฉินก็หยิบเสื้อสูทขึ้นมาแล้วเดินออกไป

กู้เนี่ยนเห็นว่าวันนี้เขาเลิกงานได้ตรงเวลาอย่างนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยเย้าหยอกออกไป”คุณชาย มีเพียงแค่คุณหญิงเท่านั้นที่จะสามารถให้คุณเลิกงานเร็วอย่างนี้ได้”

ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ฝีเท้าของจิ้นเฟิงเฉินก็ได้ชะงักลง หันหน้าไป สายตาหยุดอยู่ที่บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มนั้นของกู้เนี่ยนไปอย่างไม่ยี่หระเลยแม้แต่น้อย

ในใจของกู้เนี่ยนส่งเสียงดัง”ตึกตัก” ขึ้นมา จากนั้นก็ค่อยๆเก็บรอยยิ้มกลับไปช้าๆ

เขาปากมากเกินไปแล้วใช่มั้ย?

“แบบร่างแผนการของโครงการนั้นของTSกรุ๊ปจะต้องรีบทำออกมาในเย็นวันนี้”

พูดประโยคนี้จบลง จิ้นเฟิงเฉินเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย

กู้เนี่ยนนิ่งค้างอยู่นาน กว่าจะได้สติกลับมา จากนั้นคร่ำครวญออกมา”คุณชาย คืนเดียวจะไปรีบทำออกมาทันได้ยังไงกันครับ? จากนี้ไปผมจะไม่พูดสิ่งที่ไม่ควรพูดอีกแล้วครับ!”

เจียงสื้อสื้อดูเห็นเวลามันก็เย็นมากแล้ว จึงคิดว่าจะกินอาหารเย็นที่ข้างนอกเลย

รอจนจิ้นเฟิงเฉินมาหาพวกเธอ เธอยิ้มแล้วเอ่ยออกมา”พวกเราขึ้นไปหาร้านอาหารเพื่อกินมื้อเย็นกันมาสักร้านเถอะ”

เด็กทั้งสองคนพอได้ยินแล้ว เอ่ยออกมาเป็นเสียงเดียวกัน”ครับ/ค่ะ!”

มุมปากของจิ้นเฟิงเฉินฉีกยิ้มออกมาจางๆ”แล้วแต่คุณเลย”

กินมื้อเย็นแล้ว ระหว่างทางกลับไป เจียงสื้อสื้อพูดถึงเรื่องที่ตัวเองรู้สึกเหมือนกับถูกคนอื่นจ้องอยู่ขึ้นมา

“ครั้งนี้คงจะรู้สึกไปเองจริงๆ” เจียงสื้อสื้อเอ่ยออกมา

แต่จิ้นเฟิงเฉินไม่ได้คิดอย่างนี้เลย”จากนี้ไปออกจากบ้าน ต้องพาการ์ดมาสักสองสามคน อย่าพาลูกออกจากบ้านมาตามลำพัง”

“พาการ์ดไปศูนย์การค้าสถานที่จำพวกนี้มันจะแปลกเกินไป” เจียงสื้อสื้อไม่กล้าจินตนาการถึงภาพนั้นเลย อัตราการดึงดูดความสนใจมันจะต้องเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างแน่นอน

“งั้นก็รอผมว่างแล้วมาเป็นเพื่อนพวกคุณ”

เจียงสื้อสื้อรีบพยักหน้าตอบตกลงออกไปทันที”ได้ อย่างนี้โอเค”

จิ้นเฟิงเฉินส่ายหน้าหลุดยิ้มออกมา ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

……

ซูชิงหยิงหลังจากที่กลับมาจากข้างนอก ตัวเธอก็เหมือนกับกินระเบิดมาก็ไม่ปาน คนใช้ทำอะไรผิดไปสักนิดหนึ่ง ก็จะถูกเธอด่าว่าไปเสียยกใหญ่

“นังคนซุ่มซ่าม! แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆก็ทำได้ไม่ดี ไสหัวออกไปจากหน้าฉัน!”

คริสมินกลับมาพอดี เห็นทุกกระบวนการที่อาละวาดออกมากับตา หัวคิ้วอดไม่ได้ที่จะขมวดออกมา

“เธอลงไปเถอะ” คริสมินเดินเข้าไป ส่งสายตาให้คนใช้ที่ถูกด่าคนนั้น คนใช้จึงรีบออกไปทันที

“เป็นอะไรไป?” คริสมินจึงได้มองไปทางซูชิงหยิงที่มีใบหน้ามืดครึ้มออกมา

ซูชิงหยิงเงยหน้าขึ้นจ้องมองเขา พอได้อ้าปากพูดน้ำเสียงก็แข็งกร้าวออกมา”คุณหาคนใช้อะไรมา? ให้หล่อนไปรินน้ำให้ฉัน แต่ดันรินน้ำร้อนมาให้ คิดจะให้น้ำร้อนลวกฉันตายหรือไง?”

คริสมินเผยรอยยิ้มจนปัญญาออกมา เข้าไปนั่งลงข้างๆเธอ ยกมือขึ้นไปโอบไหล่ของเธอ แล้วเอ่ยปลอบออกไป”อย่าโกรธไปเลย ผมจะให้พวกเธอระวัง”

ซูชิงหยิงส่งเสียงเฮอะเสียงเย็นออกมา ไม่ได้พูดอะไรออกมา

คริสมินจ้องมองเธอไปอย่างกับคิดอะไรอยู่ไปสักพักหนึ่ง กว่าจะเอ่ยปากถามออกมา”วันนี้คุณอาละวาดออกมารุนแรงขนาดนี้ คงจะไม่ใช่แค่คนใช้รินน้ำร้อนให้หรอกมั้งใช่มั้ย?”

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?!

Status: Ongoing

เมื่อห้าปีก่อน เพื่อช่วยแม่ของเธอ เธอบังคับตัวเองทําเรื่องเสื่อมทราม และกําเนิด ลูกให้คนอื่น หลังคลอดลูกแล้ว ก็ไม่เคยเห็นลูกอีก ห้าปีต่อมา ซาลาเปาตัวน้อย กลับมาหาเขา และพัวพันอยู่กับเจียงสือสือ อยากจะจูบ อยากจะกอดและนอน ด้วยกัน เจียงซื้อซื้อก็เต็มใจและมีการตอบสนองด้วย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท