ระบบเจ้าสำนัก – ตอนที่ 1979 : ปฏิกิริยา

ตอนที่ 1979 : ปฏิกิริยา

    พวกเจ้ายอมแพ้แล้วรึ ?  เมื่อเห็นท่าทีสลดของทั้งสาม จางหยูก็พูดขึ้นมาอย่างช้าๆ  ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะไม่อยากเป็นจ้าวแห่งทะเลโกลาหล… 

  ซื่อเซียวสีหน้าเปลี่ยนไปทันที   ใครบอกว่าเรายอมแพ้ ! 

  เย่าหยางและอู่หมิงเองก็ไม่คิดยอมแพ้

  จางหยูยักคิ้ว   งั้นรึ ? งั้นพวกเจ้าจะทำอะไรได้อีก ? 

  แม้ว่าจะคาดการณ์อยู่แล้วว่าทั้งสามจะล้มเหลวแต่จางหยูก็ยังรู้สึกผิดหวังในใจ

  เขาคาดหวังกับคนเหล่านี้ แต่โชคร้ายที่ความคาดหวังนั้นไม่ได้หมายความว่าพวกนี้จะเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้

  เมื่อได้ยินคำถามของจางหยู ซื่อเซียวกลับชะงักไปทันที

  วิธีรุนแรงไม่ได้ผล พวกเขาลองกันมาแล้ว

  หากต้องการเปิดมิติของมันงั้นก็ต้องคิดหาทางอื่น

  แต่กล่องกระบี่นั้นเป็นตัวตนหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์กับมิติไม่มีช่องว่างแม้แต่น้อย จึงไม่รู้เลยว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี

    เมื่อจ้าวแห่งทะเลโกลาหลสร้างมันขึ้นมา งั้นมันก็ต้องมีทางเปิดออกได้แน่  อู่หมิงพูดขึ้น   บางทีอาจจะมีบางอย่างซ่อนอยู่ในกล่องกระบี่นี้ 

  ซื่อเซียวได้ยินแบบนั้นก็บินเข้าไปหากล่องกระบี่และพยายามหากลไกของมัน แต่โชคร้ายที่ถึงจะตรวจสอบทุกส่วนของมันแล้ว แต่ก็ไม่พบกลไกใดๆเลย

  เย่าหยางเองก็ตรวจสอบกล่องกระบี่เช่นกันแต่ก็ไม่พบกลไกใดๆ

    ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ภายใน  เย่าหยางพูดขึ้น   ข้าคิดว่าน่าจะเป็นอย่างอื่น 

  อู่หมิงคิดสักพักแล้วพูดขึ้น   ทำไมไม่ฉีดพลังจิตเข้าไป ? 

  ซื่อเซียวและเย่าหยางมองหน้ากัน พวกเขากดมือลงไปที่กล่องกระบี่และโคจรพลังจิตเข้าไปในกล่องทันที

  ต่อมากล่องกระบี่กลับเปล่งแสงออกมาราวกับตื่นขึ้น พลังจิตที่ไหลอยู่ในกล่องกระบี่เหมือนทำงานขึ้นมา คลื่นพลังอันน่ากลัวปะทุออกมาจนทำให้พวกเขาใจสั่น

  ซื่อเซียวตาเป็นประกายขึ้นมา   ดูเหมือนว่า…จะได้ผล ! 

  เย่าหยางและอู่หมิงอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น สายตาพวกเขาแสดงความแปลกใจออกมา

  หลังจากที่พยายามมานานสุดท้ายกล่องกระบี่ก็มีปฏิกิริยาแล้วถึงจะแค่เล็กน้อยก็ตาม

  พวกเขาเหมือนคว้าฟางเส้นสุดท้ายได้ พวกเขาเริ่มเพิ่มพลังจิตเข้าไปทันที !

  จากพลังจิตที่ไหลเข้ามา แสงของกล่องกระบี่ก็เริ่มที่จะสว่างขึ้น พลังจิตที่ไหลอยู่ภายในเริ่มเข้มข้นกว่าเก่า  จางหยู แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา   พวกนี้…หากทางเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้จริงๆรึ ? 

  แต่การฉีดพลังจิตเข้าไปนั้นเขาเคยลองมาแล้ว มันเหมือนไม่ได้ผลใดๆ กล่องกระบี่ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบโต้แม้แต่น้อย เมื่อเปลี่ยนเป็นพวกนี้แล้วทำไมกล่องกระบี่ถึงมีปฏิกิริยาเช่นนี้ได้ ?

    เพราะพวกนี้เป็นจักรพรรดิของทะเลโกลาหลรึ ?  จางหยูคิด

  แม้ว่าเขาจะไม่อาจจะเดาเหตุผลเรื่องนี้ออก แต่จางหยูก็ยังคาดหวัง หากพวกนี้เปิดมิติของกล่องกระบี่ได้จริงๆ งั้นก็ถือว่าดี

  จางหยูยืนรออยู่ข้างๆคอยให้กำลังใจพวกนี้

  มันแค่ว่า….เมื่อเวลาผ่านไปแม้ว่าแสงจากกล่องกระบี่จะสว่างขึ้นพร้อมกับพลังจิตด้านในที่ผันผวนอย่างรุนแรงแต่ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอื่นเลย มิติในกล่องกระบี่ยังเงียบงันไม่มีท่าทีว่าจะเปิดออกแม้แต่น้อย    เกิดอะไรขึ้นกัน ?  จางหยูสงสัย

  ผ่านไปสักพักซื่อเซียว, เย่าหยางและอู่หมิงก็หยุดมือ พวกเขาดึงมือกลับมาพร้อมเหงื่อที่ชุ่มไปทั้งตัว ก่อนจะพากันหอบหายใจ

  จางหยูบินเข้าไปหาแล้วถามขึ้น   ทำไมถึงหยุดมือ ? 

  ซื่อเซียวและคนอื่นๆมองหน้ากัน พวกเขาเองก็ไม่พอใจแต่ก็หมดหนทาง

    ข้าใช้พลังจิตแทบจะหมดแล้ว  อู่หมิงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วตอบกลับ   หากเป็นแบบนี้ต่อไป มันจะส่งผลเสียต่อแก่นจิตได้ 

  ซื่อเซียวหงุดหงิดอย่างมาก เขาไม่อยากจะหยุดแต่ปัญหาคือพลังจิตเขาแทบหมดแล้ว เขาได้แต่ต้องหยุด ที่สำคัญกว่านั้นคือกล่องกระบี่เหมือนกับหลุมที่ไร้ก้น ไม่ว่าจะถ่ายเทพลังจิตไปแค่ไหนแต่มิติของกล่องกระบี่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเปิดออกเลย ราวกับความพยายามของพวกเขาไร้ค่า

  เมื่อได้ยินแบบนั้นจางหยูก็อุทานออกมา  น่าเสียดายจริงๆ ข้าคิดว่าพวกเจ้าจะเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้เสียอีก 

    กล่องกระบี่นี่เหมือนกับหลุมที่ไร้ก้น  เย่าหยางพูดขึ้น   ด้วยความแข็งแกร่งของเราสามคนแล้วไม่อาจจะพอเพียงได้  

  ซื่อเซียวมองไปที่จางหยู   เจ้าไม่คิดจะลองหน่อยรึ ? 

  เย่าหยางและอู่หมิงพากันมองไปที่จางหยู

  พวกเขาสงสัยว่าจางหยูเคยใช้วิธีนี้กับการเปิดมิติของกล่องกระบี่ไปแล้ว

    ข้าเคยลองมานานแล้วแต่มันดีดพลังจิตของข้าออกมา  จางหยูถอนหายใจออกมา   หากไม่เป็นเช่นนั้นข้าคงไม่ให้พวกเจ้าลอง 

    ดีดออกรึ ?  ซื่อเซียวสงสัยขึ้นมา   ทำไมกัน ? 

  จางหยูมองไปยังทั้งสามคน   พวกเจ้าไม่เชื่อรึ ?    ซื่อเซียวกับคนอื่นๆไม่ได้พูดอะไรแต่สีหน้าก็เพียงพอที่จะบอกความคิดได้

    ก็ได้ เมื่อพวกเจ้าไม่เชื่อ ข้าจะพิสูจน์ให้เห็น   จางหยูกดมือลงบนกล่องกระบี่แล้วโคจรพลังจิตเข้าไป

  แต่ตอนที่พลังจิตของเขาสัมผัสกับกล่องกระบี่ พลังจิตกลับโดนดีดออกมาราวกับจนกับกำแพงที่มองไม่เห็น

  จางหยูดึงมือกลับมาและพูดขึ้น   ตอนนี้พวกเจ้าเชื่อรึยัง ? 

  เมื่อเห็นแบบนั้นทั้งสามคนก็พากันตกใจ ไม่คิดเลยว่ากล่องกระบี่จะดีดพลังจิตของจางหยูออกมาได้

    บางทีอาจจะเป็นตามที่เจ้าบอกมา กล่องกระบี่นี้เป็นของทะเลโกลาหล ข้าเป็นจักรพรรดิทะเลบรรพกาล ดังนั้นมันจึงปฏิเสธพลังจิตของข้า  จางหยูพูดขึ้น   หากไม่เป็นเช่นนั้น ข้าเกรงว่าข้าคงเปิดมันได้นานแล้ว 

    งั้น…เจ้าไม่ได้เปิดมิติของกล่องกระบี่รึ ?  ซื่อเซียวอึ้ง

  เย่าหยางตะลึง   ความแข็งแกร่งของเจ้าไม่ใช่เพราะไขความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลรึถึงได้แกร่งแบบนี้ได้ ? 

  พวกเขาเชื่อว่าที่จางหยูแข็งแกร่งก็เพราะไขความลับของจ้าวแห่งทะเลโกลาหลได้

  เมื่อได้ยินแบบนั้น ซื่อเซียวและคนอื่นๆก็พากันได้สติ

  กลับเป็นว่ามันไม่ใช่พวกเขาโชคดีรึ จางหยูโง่ที่จางหยูให้โอกาสพวกเขาเพราะไม่อาจจะเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้

  ไม่แปลกเลยที่จางหยูไม่ปฏิเสธอะไรตั้งแต่แรก

    ข้าคิดว่าเขาคิดจะยืมมือเรามากกว่าที่เราต้องการให้เขาร่วมมือเสียอีก ?  ซื่อเซียวคิด เขาราวกับมองความคิดของ จางหยูออก

  เย่าหยางและอู่หมิงมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าซับซ้อน พวกเขารู้สึกว่าพวกเขาโดนจางหยูจูงจมูกมาตั้งแต่แรกแล้ว    เป็นยังไง พวกเจ้าอยากจะลองกันอีกรึไม่ ?  จางหยูถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม

  แม้ว่าทั้งสามจะล้มเหลวและไม่อาจจะเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้แต่พลังจิตของพวกนี้ก็ทำให้กล่องกระบี่ตอบสนองได้ ดังนั้นจางหยูจึงเห็นความหวังที่จะเปิดมิติของกล่องกระบี่ออกได้ บางทีมิติของกล่องกระบี่อาจจะไม่จำเป็นต้องเปิดโดยสายเลือดตระกูลซุน ตราบใดที่มีพลังจิตมากพองั้นก็เป็นไปได้ที่จะเปิดมิติของกล่องกระบี่ออกได้

  แม้ว่าจะเปิดมิติของมันไม่ได้แต่ก็ยังส่งผลดีต่อกล่องกระบี่ได้อยู่

  เมื่อได้ยินคำพูดของจางหยู ทั้งสามก็มองหน้ากันก่อนจะยิ้มออกมาด้วยรอยยิ้มขมขื่น

  มันไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากจะลองต่อ แต่พลังจิตของพวกเขานั้นแทบจะหมดแล้วไม่อาจจะทำอะไรต่อได้

  ยิ่งไปกว่านั้นกล่องกระบี่นี่ก็เหมือนหลุมที่ไร้ก้น พวกเขาไม่มั่นใจว่าจะเปิดมิติของมันได้รึไม่    เราต้องการเวลา  อู่หมิงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น   เมื่อพลังจิตของเราฟื้นฟูกลับมา เราถึงจะลองอีกได้ 

  ซื่อเซียวมองไปที่จางหยู   แม้ว่าเราไม่อาจจะเปิดมิติของมันออกได้ในครั้งนี้แต่ก็ไม่ใช่ว่าเสียแรงเปล่า สหายคังเฉียงคงไม่ปฏิเสธเราในครั้งหน้าหรอกนะ ? 

  จางหยูยิ้มออกมา  ตามที่เราตกลงกันไว้ หากพวกเจ้าไม่อาจจะเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้ พวกเจ้าก็ห้ามยุ่งเรื่องนี้อีกแต่ครั้งนี้ข้าให้เป็นกรณีพิเศษ ข้ารับปากว่าจะให้พวกเจ้าทดสอบจนกว่าจะเปิดมิติของกล่องกระบี่ได้ นอกจากนี้แล้วพวกเจ้าก็บอกหว่านเก่อและเรนไนมาช่วยได้เช่นกัน 

  แรงงานดีๆแบบนี้แน่นอนว่าจางหยูไม่คิดที่จะปฏิเสธ

  ซื่อเซียวลังเลสักพักก่อนจะถามขึ้น   เจ้าให้เราดูแลกล่องกระบี่นี้ได้รึไม่ ? 

    ให้พวกเจ้ารึ ?  รอยยิ้มของจางหยูหายไป สายตาของเขาสะท้อนความเย็นชาออกมา  ข้าพูดดีไปจนพวกเจ้าเข้าใจผิดคิดว่าข้าใจดีรึไง ? 

 

ระบบเจ้าสำนัก

ระบบเจ้าสำนัก

จางหยู ชายหนุ่มจากมนุษย์โลก ได้บังเอิญทะลุมิติมายังทวีปป่า  ดินแดนแห่งการบ่มเพาะที่เกรียงไกร
มิหนำซ้ำยังได้เป็นเจ้าสำนักที่ใกล้จะเจ๊งอยู่รอมร่อ
      ทั้งสำนักมีเพียงสุนัขหนึ่งตัว ดังนั้นเขาต้องพึ่งวิธีหลอกลวงเพื่อรับสมัครลูกศิษย์
หลังจากลำบากลำบนกับการรับสมัครลูกศิษย์คนแรก จางหยูก็ได้รับความสามารถมองทะลุจาก “ระบบเจ้าสำนัก”
     เมื่อเปิดใช้ความสามารถมองทะลุ จางหยูก็สามารถมองเห็นคุณสมบัติของคนอื่นได้ ไม่ว่าจะเป็นเพศ อายุ พรสวรรค์ หรือแม้แต่การบ่มเพาะ
ด้วยความสามารถนี้ จางหยูจึงมองเห็นข้อผิดพลาดในทักษะและเคล็ดวิชาต่างๆ ทำให้เขาสามารถแก้ไขทักษะและเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้สมบูรณ์แบบได้
    ด้วยความสามารถมองทะลุ จางหยูจึงมองเห็นข้อบกพร่องของทักษะและเคล็ดวิชาที่ศัตรูฝึกฝน รวมไปถึงจุดอ่อนของศัตรู
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โชคชะตาของจางหยูก็มาถึงจุดเปลี่ยน…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท