เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาเวลาสองเดือนก็ผ่านไป
หลายสิ่งหลายอย่างก็ค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในช่วงเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทลี่ซื่อ บริษัทLG และบริษัทเจียงหย่วนฯลฯ แต่สิ่งเดียวที่ทำให้ผู้คนรอคอยเป็นเวลานานก็คือซูย้าว
เธอเกี่ยวข้องกับคดีของอานเจียเย้น และตัวตนของเธอในฐานะอานหว่านชิงซึ่งมีหลายสัญชาติ ทำให้เธอยากที่จะกลับไปประเทศจีน
ไม่เพียงแค่นั้น เมื่อคดีของอานเจียเย้นคลี่คลายแล้ว ซูย้าวยังได้ชี้ตัวอาชญากรหลายสิบคนรวมถึงลุงไชลด์ ในฐานะ ‘พยานที่เปื้อนสี’ ที่ในชั้นศาล หลังจากทุกอย่างคลี่คลายแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการสืบสวนเธอเป็นการส่วนตัว
โดยทั่วไปแล้ว ทุกคนล้วนต้องรับผิดร่วมกัน และตัวเธอก็ตกเป็นเหยื่อของการเข้าไปพัวพันนี้ด้วย ดังนั้น โทษทางกฎหมายอาญาจะไม่หนักหนาเกินไป แต่เรื่องการลงโทษอย่างไรนั้นคงต้องรอให้จัดการกับเรื่องสัญชาติของเธอเรียบร้อยก่อนจึงจะระบุได้
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ทางตำรวจเสนอแผนคุ้มครองพยานให้กับเธอ
แม้ว่าอานเจียเย้นเสียชีวิตไปแล้ว ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดของเขาถูกจับกุม แต่ก็ยังมีคู่หูหลายคนที่ยังคงหลบหนีไปได้ คนเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องเพราะjokeและประสบความสูญเสียอย่างหนัก ดังนั้นการที่ซูย้าวปรากฏตัวในศาลเพื่อชี้ตัวคนร้ายทั้งหมดนี้ เธอจึงกลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่คนเหล่านี้จับตามอง
อันตราย เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
การที่ตำรวจทำเช่นนี้ก็เพื่อปกป้องเธอ
เมื่อซูย้าวอ่านเอกสารที่ส่งมาเรียบร้อยแล้ว เธอก็เงียบไปครู่หนึ่ง
เธอก้มศีรษะและเอามือลูบท้องน้อยเบาๆ ขณะนี้ไม่มีวี่แววว่าจะโปนออกมาเลย อายุครรภ์ประมาณสามเดือนเท่านั้น คงต้องรอไปก่อน เด็กก็เป็นเหมือนเมล็ดพืชเล็กๆ ที่เติบโตทีละเล็กทีละน้อยจนคลอดออกมาในที่สุด
ครั้งหนึ่งเขาเคยบอกว่าอยากอยู่เคียงข้างดูการเติบโตของลุกในทุกๆ วัน เขาไม่อยากพลาดมันอีกต่อไป แต่ตอนนี้……
ซูย้าวครุ่นคิดอยู่เนิ่นนาน ในที่สุดก็ลืมตาขึ้นมองทั้งสองคนข้างหน้าแล้วยิ้มเล็กน้อย “ฉันต้องการคุยกับสามีและลูกๆ”
“สามี?” เจ้าหน้าที่ตำรวจผงะไปครู่หนึ่ง และมองดูประวัติของซูย้าวอีกครั้ง “ในประวัติข้อมูลส่วนตัวของคุณ คุณหย่าแล้วไม่ใช่เหรอ? หรือว่าคุณแต่งงานใหม่?”
เธอพยักหน้า “ค่ะ นั่นมันเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ฉันอยากแต่งงานใหม่อีกครั้ง”
“แล้วสามีที่คุณหมายถึงคือ……”
“ลี่เฉินซี” เธอเอ่ยชื่อที่รอคอยมานาน
ตำรวจเข้าใจในทันทีว่า “งั้นเหรอครับ แต่เพราะตัวตนของคุณลี่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ดูเหมือนเขาจะไม่ยอมรับแผนคุ้มครองนี้ด้วย ดังนั้น……”
เมื่อยอมรับแผนการคุ้มครองแล้ว จะต้องเปลี่ยนชื่อและนามสกุลเดิม ภายใต้การคุ้มครองมากมายหลายชั้น ท้ายที่สุดแล้วต้องตัดขาดจากเพื่อน ญาติ หรือแม้แต่คนรัก
“เอาล่ะ เราจะปกป้องคุณเป็นระยะเวลาหนึ่ง หากเราแน่ใจว่าทุกอย่างเรียบร้อย เราจะถอนกำลังกลับ หากเกิดเรื่องขึ้นกับคุณในอนาคต จะถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของคุณ คุณยินดีจะรับมันไหม?”
ซูย้าวพยักหน้า “ฉันเชื่อว่าสามีของฉันสามารถปกป้องฉันได้”
ทางตำรวจก็หัวเราะเช่นกัน “พวกเราก็เชื่อในตัวคุณลี่เช่นกัน แต่เมื่อพิจารณาจากสัญชาติและตัวตนสองสถานะของคุณ อาจจะต้องรออีกสักหน่อย จากนั้นเราจะจัดการส่งคุณกลับไปที่เมือง A ด้วยตนเอง”
หลังจากที่รออยู่ประมาณสิบวัน ในที่สุดเอกสารการอนุมัติทั้งหมดก็อนุมัติ ซูย้าวยังสามารถกำจัดชื่อและตัวตนของอานหว่านชิงทิ้งไปได้อย่างสมบูรณ์แล้วฟื้นฟูสัญชาติของเธอ นอกจากนี้ด้วยความช่วยเหลือและให้ความร่วมมืออันมีประโยชน์ เธอจึงได้รับการยกเว้นโทษจากกฎหมายอาญา จ่ายเพียงส่วนหนึ่งของค่าปรับเท่านั้น จากนั้นภายใต้การคุ้มกันของหน่วยงาน ก็ได้พาเธอขึ้นเครื่องบินกลับบ้าน
หลังจากบินไปกว่า 10 ชั่วโมง ในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงเมือง A อีกครั้ง ซูย้าวมีความรู้สึกมากมายในใจ เธอไม่เคยคิดว่าเมืองนี้จะดึงดูดใจคนได้มากขนาดนี้
หรืออาจเป็นเพราะใครบางคน!
ภายใต้หลายสิ่งหลายอย่างเหล่านี้ เขาก็ยังคงเชื่อในตัวเธอ ปกป้องเธอและรักเธอดังเคย การที่มีคนดีๆ อยู่ข้างกายเธอแบบนี้แล้วเธอจะไปขออะไรอีก?
หลังออกจากด่านศุลกากร ซูย้าวยังคงยืนอยู่ที่นั่นและสูดหายใจเข้าลึกๆ คราวนี้ในที่สุดเธอก็สามารถกำจัดห่วงโซ่ทั้งหมดทิ้ง และเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเองได้สักที!
เมื่อเธอลืมตาขึ้น ก็มีร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มอันกล้าหาญสง่างามยืนอยู่ข้างหน้า เขาสวมชุดสูทรองเท้าหนัง มองลงมาที่เธอและยิ้มเบาๆ “คุณหญิงซู ไม่ได้เจอตั้งนานนะครับ”
ซูย้าวมองมาที่เขาและยิ้ม “คุณลี่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”
เขาไม่ได้ก้าวออกมาข้างหน้า แต่หยิบช่อดอกไม้ขนาดใหญ่จากข้างหลังออกมาราวกับเวทมนตร์แล้วยื่นให้กับเธอ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมเสียงดัง เขาคุกเข่าข้างหนึ่งลงแล้วพูดว่า “แต่งงานกับผมอีกครั้งได้ไหม?”
ซูย้าวตกใจ “อีกครั้ง?”
“ครับ แต่งงานกับผมอีกครั้ง เราคืนดีกันนะครับที่รัก”
คำว่า “ที่รัก” อันอบอุ่นนั้นอยู่เหนือการควบคุมได้ ราวกับว่ามันทำให้หัวใจของซูย้าวละลาย
เธอยิ้มและพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นจึงรับช่อดอกไม้มาไว้ที่ปลายจมูกของเธอแล้วสูดดม กลิ่นกุหลาบช่างหอมอบอวล
ลี่เฉินซีลุกขึ้นจับมือเธอและสวมแหวนที่นิ้วนางอย่างรวดเร็ว ราวกับว่ากลัวว่าเธอจะวิ่งหนีไป จากนั้นจับมือเธอไว้แน่น “งั้นเราไปจดทะเบียนกันเดี๋ยวนี้เลย!”
“หา?” ซูย้าวไม่ทันได้สติกลับคืนมา เธออุทานด้วยความประหลาดใจ “ตอนนี้เหรอคะ?”
ชายหนุ่มก็ไม่อธิบายให้มากความ เขาจับมือเธอแล้วเดินออกไปทันที หลังจากขึ้นรถหวางอี้ก็ขับรถพาทั้งสองไปที่สำนักงานกิจการพลเรือน
พิธีการจดทะเบียนเสร็จสิ้นอย่างรวดเร็ว เพียงในช่วงเวลาสั้นๆ หนังสือสีแดงสองเล่มใหม่ก็ถูกส่งมอบให้ทั้งสองอีกครั้ง แต่ลี่เฉินซีรีบฉวยทั้งสองเล่มแล้วเอาใส่ไว้ในกระเป๋าของเขาทันที “เราจะไม่หย่ากันอีกแล้ว คุณจะเป็นของผมตลอดไปในชีวิตนี้!”
ซูย้าวพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างควบคุมไม่ได้ “ค่ะ ถือว่าคุณถูกเกลี้ยกล่อมให้ขึ้นเรือโจรสลัดอีกครั้งแล้วกัน!”
เขาค่อยๆ กุมมือเธอเอามาไขว้กัน เขาเอามือข้างหนึ่งลูบแก้มเธอเบาๆ แล้วโน้มตัวเข้ามายิ้มกระซิบที่ข้างหู “ภรรยาที่รักของผม กลับบ้านกันเถอะ! มันนานมากแล้วนะ เราควรจะชดเชยสิ่งที่ควรทำในช่วงเวลาที่ผ่านมาให้ครบ!”
ซูย้าวมองมาที่เขาอย่างพูดไม่ออก เธอมอบชีวิตที่เหลือให้กับคนเจ้าเล่ห์คนนี้……มันดีจริงๆ แล้วหรือ?!
ลี่เฉินซีอุ้มเธอขึ้นมาอย่างไม่รอคำตอบ เขาก้าวออกจากสำนักกิจการพลเรือนอย่างรวดเร็ว
ระหว่างทางกลับบ้านเขายังรบกวนเธออย่างต่อเนื่อง มือของเขาไม่อยู่นิ่งทำให้หวางอี้ที่เป็นคนขับรู้สึกเขินอาย แต่เขากลับทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
ซูย้าวผลักเขาออกไปอย่างเบื่อหน่าย “อย่าทำเป็นเล่นไป ฉันยังไม่ได้คุยกับคุณเรื่องลี่หมิงเลย! เรามาคุยเรื่องอื่นกันก่อน คุณกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“เร็วกว่าคุณประมาณสิบวัน!” เขาพูดแล้วจับแก้มเธออีกครั้ง ก่อนจะจูบลงไป ผ่านไปสักพักจึงพูดขึ้นว่า “ไม่มีอะไรมาก แค่ให้ความร่วมมือกับการสอบสวนเพื่อให้ทางตำรวจได้ข้อมูลชัดเจนขึ้น”
ซูย้าวพยักหน้า ราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างได้อีกครั้งจึงรีบผลักเขาออกไป “อ้อ ฉันเกือบลืมไปเลย ตอนที่ฉันกลับมา ตำรวจบอกว่าคนพวกนั้นอาจจะหาทางแก้แค้น ให้ฉันระมัดระวังตัวเป็นพิเศษ คุณ……”
ก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอถูกลี่เฉินซีหยุดไว้ “ไม่เป็นไร คุณจะไม่มีอันตรายใดๆ”
“ทำไมคุณถึงมั่นใจนัก?” เธอถามกลับ
เขาไม่ได้ตั้งใจจะอธิบายเรื่องนี้กับเธอ ได้แต่ยักไหล่อย่างไม่เกรงกลัว “ผมเดาดู ไม่ใช่หรือไง? หรือว่าคุณไม่ไว้ใจสามีของคุณ ผมจะปล่อยให้คุณเกิดเรื่องได้ยังไง?”
ซูย้าวขมวดคิ้วขึ้นอย่างสงสัย แล้วปล่อยให้ลี่เฉินซีทำตามใจเขา ในขณะที่ความคิดในใจของเธอกำลังล่องลอย ไม่สิ! มีบางอย่างผิดปกติไป!
สิ่งที่เธอกังวลมากที่สุด นอกเหนือจากสิ่งที่อานเจียเย้นทำแล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่ง
ยังเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมให้ลี่เฉินซีเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้ อีกตัวตนหนึ่งของอานเจียเย้นคือ joke ราชาในอำนาจต่างๆ แม้ว่าอานเจียเย้นเองจะถูกกำจัดออกไปแล้ว แต่ก็ยังมีใครบางคนสืบทอดตำแหน่งต่อจากเขา กลายเป็นหัวหน้าของคนเหล่านี้
และตามสัญญา โดยทั่วไปจะเป็นคนที่มีความสามารถซึ่งอาศัยอยู่ที่นั่น เป็นไปได้ไหมว่า……
ในใจของเธอเกิดการคาดเดาขึ้นมา แต่ซูย้าวก็ลบมันไปอย่างรวดเร็ว ไม่ เป็นไปไม่ได้ แม้ว่าลี่เฉินซีจะมีความสามารถและมีคุณธรรมพอ แต่การเข้ารับตำแหน่งนี้มันอันตรายเกินไป เขาคงไม่ทำอย่างนี้แน่
แต่ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะ?
ในช่วงเวลานั้น เขาเต็มใจเสียสละตัวเองเพื่อเป็นโล่กำบังอานเจียเย้นโดยไม่คำนึงถึงตัวเขาเอง และเพื่อที่จะเข้ามาปกป้องเธอและลูกๆ แลกมากับการแทนที่ตำแหน่ง……joke คนต่อไป!