บทที่48 ซีเหมินจุ้น
ในห้อง ติงเมิ่งเหยนนอนโมโหบนเตียง
เจียงชื่อยิ้มเดินเข้ามา :”ทำไมถึงโมโหขนาดนั้นล่ะ? จริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
ติงเมิ่งเหยนมองบน :”ที่ฉันโกรธก็เพราะนายไง นายยังมาพูดพล่อย ๆ ตรงนี้อีก นายอยากให้ฉันไปนัดบอดกับเสี่ยวเมิ่งอะไรนั้นเหรอ?:
เจียงชื่อนั่งลง:”ไม่อยาก แต่ผมก็ไม่อยากเห็นเธอกับพ่อโกรธกัน ยังไงเขาก็คือพ่อของเธอ”
“หึ เขารู้แต่ตัวเองเลื่อนตำแหน่ง ไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของฉันหรอก”
พูดไป จู่ ๆ ติงเมิ่งเหยนก็กุมไหล่ ร้องเจ็บ”อ๊า……”
“เป็นอะไร?”
“ไม่รู้สิ เจ็บไหลมากปวดมาก”
เจียวชื่อยื่นมือจับไล่เธอ เปิดเสื้อออกทีละนิด เผยผิวขาวออกมา
“ช่วงนี้เธอทำงานหนักเกินไป เหนื่อยเกินไป กล้ามเนื้อไม่ผ่อนคลาย ดังนั้นถึงได้ปวดเมื่อย”
“ผมนวดให้นะ กระตุ้นการทำงานของเลือด เดี๋ยวก็ไม่เป็นไรแล้ว”
ติงเมิ่งเหยนลังเลเล็กน้อย จริง ๆ แล้ว เธอไม่เคยให้ผู้ชายแตะต้องเลย จนตอนนี้ก็ยังบริสุทธิ์อยู่
เธออ่อนไหวกับเพศตรงข้ามมาก
แต่ว่า จะว่าไปเจียงชื่อก็คือสามีของเธอ และจริง ๆ แล้วในใจของเธอไม่รังเกียจเจียงชื่อ ดังนั้น……
เธอไม่ปฏิเสธ
มือของเจียงชื่อตั้งบนไหล่ติงเมิ่งเหยน กดลงไปแรง ๆ เจ็บจนติงเมิ่งเหยนต้องร้องออกมา
“นายเบา ๆ หน่อยสิ ! ”
เจียงชื่อยิ้ม:”นี่มันเบาไม่ได้ ถ้าไม่ใช่แรง กดไปก็ไม่ได้อะไร เธอกัดฟันอดทนหน่อย ผมจะนวดให้ทั้งตัว จะทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายลงมา”
“ทั้งตัว?”
ติงเมิ่งเหยนหน้าแดงทันที ในสมองมีภาพที่ไม่ดีผ่านมากมาย
แต่ไม่รู้ทำไม เธอถึงรู้ถึงคาดหวังเล็กน้อย
“อ๊า ~ ~ ”
“เจ็บ เจ็บ นายเบา ๆ หน่อย ! ”
“อย่าจับตรงนั้น อ๊า ทำไม่ไหวแล้ว อ๊า ~ ~ ”
ในระหว่างที่เจียงชื่อนวด ติงเมิ่งเหยนเจ็บจนร้องออกมาเป็นช่วง ๆ ทะลุผ่านประตูห้อง มาถึงห้องรับแขก
ในห้องรับแขก
ซูฉินกับติงฉี่ซานได้ยินเสียงร้องของติงเมิ่งเหยน สีหน้าเปลี่ยนทันที
ซูฉินไอกระแอม :”ยัยเมิ่งเหยนนี่มันจริง ๆ เลย ไม่อายบ้างเลย เป็นผู้หญิงไม่สง่าเลยแม้แต่นิด ร้องดังขนาดนั้น
ติงฉี่ซานเหล่มองเธอ:”แค่นี้เอง สังคมตอนนี้ ให้ความสำคัญกับการแสดงบุคลิก เปิดเผยร่าเริง ผมมีความคิดเห็นมากมายกับคุณ ทุกครั้งที่พวกเราทำเรื่องแบบนั้นกัน เธอจะอายจนไม่กล้าร้อง ทำเอาเหมือนกับว่าผมกำลังทำปลาเค็ม น่าเบื่อมาก”
ซูฉินทั้งอายทั้งโกรธ:”เฮ้ ไอแก่นายกำลังพูดอะไรนะ? นายนั้นแหละปลาเค็ม ! ”
เธอพูดแล้วก็ทุบบนตัวติงฉี่ซาน
ทั้งสองกอดอยู่ด้วยกันโดยไม่รู้ตัว ซูฉินหน้าแดงทันที
……
ณ ตอนนี้ กลางเมืองเจียงหนาน พื้นที่สำนักงานรุ่งเรือง
อาคารบริษัทเทียนติ่ง ชั้น23 ห้องทำงานประธานกรรมการ มีผู้ชายสามคนนั่งอยู่ข้างใน
สองคนในนั้นคือผู้รับผิดชอบบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งในตอนนี้ เหอเย่าหลง และหลานชายของเขาเหอเจียหมิง และผู้ชายคนที่สามในนั้นก็คือประธานกรรมการของบริษัทเทียนติ่งซุนหย่งเจิน
เหอเย่าหลงกับเหอเจียหมิงก้มหน้า ไม่กล้าหายใจแรง
ซุนหย่งเจินคีบบุหรี่ไป พลิกดูเอกสารไป พูดด้วยน้ำเสียงไม่ใยดี:”เหอเย่าหลง นายนี่เก่งจริง ผมพยายามทุกวิถีทางได้บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งมา ให้นายจัดการ สุดท้ายหนึ่งเดือนนายเสียไปห้าสิบกว่าล้าน?”
เหอเย่าหลงกลืนน้ำลาย ตดยังไม่กล้าตด
ซุนหย่งเจินพูดต่อ:”แล้วก็ หนึ่งอาทิตย์ก่อนนายพาสมาชิกหลักทั้งบริษัทไปเฝ้าศพให้ผีบ้าเจียงโม่นั้น คุกเข่าหน้าหลุมศพทั้งคืนนี่มันยังไงกัน?คนมีความสามารถของบริษัทโมโหจนออกไปหมดแล้ว !”
เหอเย่าหลงพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ:”ประธานซุน เรื่องนี้ไม่โทษผิดจริง ๆ เป็นเพราะเจียงชื่อมันทำทั้งนั้น เขาเก่งมาก พวกเราสู้เขาไม่ไหว ประธานซุน คุณช่วยผมด้วยเถอะครับ”
“ถุ้ย ! ” ซุยหย่งเจินด่า:”มึงมันของเศษสวะ กูตาบอดถึงได้ให้มึงขยะอย่างมึงมาจัดการบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง”
สักพัก เขาถามขึ้น:”มึงบอกว่าเจียงชื่อเป็นใคร?”
เหอเย่าหลงพูด:”ผมตรวจสอบดูแล้วเขาเป็นพี่ชายแท้ๆของเจียงโม่ ไปเป็นทหารที่เวสเตอร์แลนด์ห้าปี ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร จนตอนนี้ก็ยังพักอาศัยอยู่ที่บ้านภรรยา เป็นลูกเขยไม่ได้เรื่องคนหนึ่ง”
“ลูกเขยไม่ได้เรื่องมึงก็ยังจัดการไม่ได้?”
“ไม่ใช่ครับ……เจียงชื่อนั้นเคยเป็นทหาร สู้เก่ง และผมได้ยินมาว่าเขาช่วยนายพลคนหนึ่งด้วย ครั้งก่อนที่เราไปที่คุกเข่าหน้าหลุมศพ ก็ตกใจเพราะคนกับม้าของนายพลคนนั้น”และคุกเข่าลงเรากลัวคนทั่วไปและม้า
ซุนหย่งเจินร้องหึ :”เจียงชื่อคนนี้มันขวางอยู่ข้างหน้าบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง ก็คือขวางทางรวยของพวกเรา ต้องกำจัดทิ้ง”
เหอเย่าหลงถาม:”ประธานซุน คุณจะบอกว่าให้หาคนไปฆ่าเขาเหรอครับ?”
“พ่อง ไสหัวไปซะ ! ”
ซุนหย่งเจินพูดด้วยความโกรธ :”ตอนนี้มันเป็นสังคมภายใต้หลักนิติธรรมเราเป็นพลเมืองตามกฎหมาย ฆ่าฆ่าฆ่า ฆ่าพ่องมึงสิ ? ใช้สมองหมูของมึงหน่อย คิดวิธีที่มันใช้ได้หน่อยสิ ? ”
“เจ้าเจียงชื่อนั้นเป็นทหารของเวสเตอร์แลนด์ ถึงจะไม่มีอำนาจ แต่สถานะอยู่ตรงนั้น เป็นตัวแทนของเวสเตอร์แลนด์ ตอนนี้ผู้บริหารระดับสูงของเขตเจียงหนานก็มาจากเวสเตอร์แลนด์ มึงหาคนไปฆ่าเขา งั้นก็หมายความว่าหาเรื่องผู้บริหารระดับสูงไม่ใช่รึไง?มึงมีกี่หัว?”
ซุนหย่งเจินสูบบุหรี่หนึ่งคำ:”เหอเย่าหลง มึงอยู่กับกูมาตั้งหลายปีแล้ว ไม่ได้พัฒนาเลยแม่แต่นิด วัน ๆ รู้แต่ใช้ความรุนแรง พอมีเรื่องอะไรก็ใช้หมัดแก้ มันเหมือนคนหยาบจากศตวรรษที่แล้ว ยิ่งเห็นยิ่งโมโห”
เหิอย่าหลงไม่กล้าพูดเลย ก้มหน้าเงียบ
จากนั้น เลขาเดินเข้ามาพูด:”ประธานซุน ผู้จัดการซีเหมินกลับมาแล้ว”
ได้ยินประโยคนี้ ซุนหย่งเจินยิ้มพูด:”เจ้าปัญญาของกูกลับมาสักที เร็ว เรียกซีเหมินมาเร็ว”
“ครับ ประธานซุน”
หลังจากนั้นไม่นาน ประตูห้องทำงานเปิดออก เลขาพาผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา
ผู้ชายคนนี้สูง185 หุ่นสูงยาว แว่นตาขอบหนาสีดำคู่หนึ่งกับชุดสูทแบบตะวันตก ทำให้ทั้งตัวดูสะอาดและสดชื่น อ่อนโยนและสง่างาม
คนนี้ คือเจ้าปัญญาที่หนึ่งของซุนหย่งเจิน ซีเหมินจุ้น
“ประธานซุน คุณหาผมเหรอครับ?”
“อืม”ซุนหย่งเจินชื้อเหอเย่าหลง เหอเจียหมิง :”ช่วงที่นายไม่อยู่ สวะสองคนนี้ทำบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งของผมพังหมดแล้ว โดนทหารจน ๆ คนหนึ่งจัดการจนทำอะไรไม่ได้เลย ซีเหมิน นายคิดวิธีให้ผมหน่อย กำจัดไอบ้าที่ชื่อเจียงชื่อให้หน่อย”
“จริงสิ ต้องใช้วิธีการที่สมเหตุสมผลและถูกกฎหมาย อย่าไปใช้กำลังเหมือนไอ้โง่สองคนนี้ ผมเกลียดวิธีนี้ที่สุด ไม่มีสมองซะเลย”
ซีเหมินจุ้นยิ้มอ่อน แล้วถามว่า:” เจียงชื่อคนนี้ เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของประธานกรรมการคนก่อนเจียงโม่ที่ตายไปใช่ไหมครับ?”
“ใช่”
“งั้นผมเข้าใจแล้ว”ซีเหมินจุ้นดันแว่นขึ้น พูดอย่างมั่นใจ:”ให้เวลาผมห้าวัน จะให้ผลลัพธ์ที่พอใจกับคุณแน่”
ซุนหย่งเจินถามอย่างตกใจ:”นายมีวิธีเหรอ?”
“แน่นอนครับ”
“วิธีอะไร?”
“พูดออกมาก็ไม่สนุกสิ”ซีเหมินจุ้นยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย :”แต่ว่าผมบอกได้เล็กน้อย ตอนนั้นเจียงโม่ตายยังไง ผมก็จะให้เจียงชื่อตายแบบนั้น !