บทที่72 เช้า บ่าย เย็น อย่างละชุด
ผู้หญิงถ้าได้เปรียบเทียบกันขึ้นมาล่ะก็ นั่นเป็นเรื่องที่น่ากลัวทีเดียว
อย่ามองว่าเฉิงดันถิงเย็นชาและถือตัว โดยพื้นฐานแล้วเป็นผู้หญิง เธอคือผู้หญิงคนหนึ่งจึงไม่สามารถสลัดลักษณะเฉพาะของผู้หญิงออกไปได้
เฉิงดันถิงและหยางย่าหมิ่นทั้งสองคนต่างเลือกเสื้อผ้าไม่หยุด เธอหยิบมาชิ้นหนึ่ง ฉันจะหยิบชิ้นที่แพงกว่าเธอ
หลังจากที่หยิบมาเปรียบเทียบกันและกันหลายๆชิ้นเช่นนี้ เสื้อผ้าในมือของพวกเธอก็อยู่มาถึงขั้นชิ้นหนึ่งไม่ต่ำกว่าแสนหยวนแล้ว เสื้อผ้ายังมีราคาแพงกว่าเพชรเสียอีก
ถึงแม้เฉิงดันถิงจะนับว่ามีเงิน แต่ก็ไม่สามารถใช้จ่ายได้ขนาดนี้
แต่ด้วยนิสัยที่หยิ่งผยองของเธอในเวลานี้ย่อมไม่ยอมขายหน้าโดยเด็ดขาด ยังไงก็ต้องซื้อกองเสื้อผ้าที่อยู่ในมือ หยางย่าหมิ่นเองก็ไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เธอกอดกองเสื้อผ้าไว้ แต่ละตัวหลายหมื่นหยวน ถูกที่สุดก็สองหมื่นกว่าหยวนแล้ว เสื้อผ้ากองนั้นรวมแล้วเจ็ดถึงแปดแสนหยวน
สามีของเธอขมวดคิ้วขึ้นแล้วเอ่ยกระซิบว่า “หมิ่นหมิ่น นี่…เยอะจนใส่ไม่หมดหรอก นั่นมันกี่ตัวแล้ว?”
หยางย่าหมิ่นจ้องเขาเขม็ง “ไม่ซื้อให้ใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นฉันจะไม่คลอดเด็กคนนี้!”
“ซื้อ ซื้อๆๆๆ ซื้อทั้งหมดเลยจ้ะ!” เขากลัวกลอุบายนี้ที่หยางน่าหมิ่นใช้ข่มขู่เขามากที่สุด
หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนก็เลือกเสื้อผ้าจนใกล้จะเสร็จแล้วไปต่อคิวจ่ายเงิน
พนักงานเห็นในมือของเฉิงดันถิงและหยางย่าหมิ่นกอดเสื้อผ้าจำนวนขนาดนั้น บนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ตื่นเต้นจนทนไม่ไหว
พวกเขานำเสื้อผ้าเฉิงดันถิงและหยางย่าหมิ่นไปนับที่ด้านข้างด้วยความสุภาพอย่างยิ่ง
ผลสรุปคือ เสื้อผ้าของเฉิงดันถิงรวมทั้งหมดแล้วเก้าแสนแปดหมื่นหยวน และเสื้อผ้าของหยางย่าหมิ่นรวมทั้งหมดแล้วมีจำนวน เก้าแสนสี่หมื่นหยวน
เฉินดงนถิงมีความสุขอย่างที่สุด “หึ สุดท้ายแล้วเสื้อผ้าของฉันก็ยังแพงกว่าใช่ไหมล่ะ?”
หยางย่าหมิ่นร้องออกมาด้วยความโกรธว่า “ผิดพลาดหรือเปล่า เสื้อผ้าที่ฉันซื้อจะถูกกว่าของเธอได้ยังไง? พวกคุณพนักงานให้ส่วนลดฉันใช่ไหม? ฉันไม่ต้องการส่วนลด!”
พนักงานต่างมองหน้ากันและกัน ขายเสื้อผ้ามานานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินคำขอเช่นนี้
เฉิงดันถิงยิ้มแล้วขณะที่หยิบบัตรเครดิตในกระเป๋าออกมาจากกระเป๋าก็พูดว่า “เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอจะพูดอะไรก็ไม่มีประโยชน์หรอก แพ้ก็คือแพ้”
“เธอ!!!”
เฉิงดันถิงหยิบบัตรเครดิตออกมาแล้วยื่นให้พนักงาน ผลคือเมื่อส่งให้แล้วถึงกับงงงันไปในทันที
บัตรเครดิตของเธอขาดเป็นสองท่อน!
“เป็นไปได้ยังไง?”
เธอย้อนคิดทันที น่าจะเป็นบทที่ถูกคนร้ายจี้เมื่อกี้นี้ เพราะว่าคนร้ายใช้แรงกดตรงกระเป๋าเงินมากเกินไปจึงกดทับจนบัตรหัก
แล้วนี่จะทำยังไงดี?
เธอรีบกลับมาเลยไม่ได้เอาบัตรเครดิตมามากนัก นี่รูดไม่ได้แล้วจะทำยังไงดี?
พนักงานยิ้มเล็กน้อยแล้วเอ่ยถามว่า “คุณผู้หญิง มีบัตรอื่นหรือเปล่าคะ?”
เฉิงดันถิงกระดากอายอย่างมาก “มีค่ะมี แต่ว่าไม่ได้อยู่กับตัว”
“ไม่อยู่กับตัว?” หยางย่าหมิ่นหัวเราะชอบใจแล้วเดินเข้ามา “ดันถิง เธอยังเป็นอย่างนี้เหมือนเดิมเลยนะ ยังคงชอบวางท่า เห็นอยู่ชัดๆว่ายากไร้จนไม่มีข้าวกิน ยังจะตีหน้าตัวเองให้บวมเพื่อปลอมเป็นคนอ้วน”
“เธอว่าเธอจะเอาอะไรมาสู้ฉัน?”
“สามีของฉันเป็นเจ้าของอุตสาหกรรมสัตว์น้ำขนาดใหญ่ รายได้แต่ละปีหลายล้านหยวน การซื้อชุดพวกนี้มันเป็นเรื่องง่ายๆ แล้วดูเธอสิ เอาคนยากจนทำไร่ไถนามาทำแฟน ถ้ามีเงินสิถึงจะแปลก”
“ดูความอวดเก่งของเธอเมื่อกี้นี้ ฉันเกือบจะคิดว่าเธอรวยมากจริงๆเสียแล้ว เหอะๆ ท้ายที่สุดก็เป็นแค่เสือกระดาษ ได้แต่ดูใช้ทำอะไรไม่ได้”
“ดันถิง ดูเหมือนว่าเธออยู่ต่างประเทศมานานขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้อยู่ดีมีสุขเลยสินะ”
เฉิงดันถิงโกรธจนตับใกล้จะระเบิดแล้ว
บัตรของเธอหักแล้วไม่มีบัตรอื่นอยู่บนตัวเลยจริงๆ แต่ตอนนี้พูดออกมาแล้วใครจะเชื่อ?
นอกจากนี้ถ้าไม่มีบัตรแล้วจะซื้อเสื้อผ้าเยอะขนาดนี้ได้ยังไง ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกหยางย่าหมิ่นมองด้วยสายตาดูถูกดูแคลน ที่สำคัญก็คือเพราะเหตุนี้อีกฝ่ายจึงปฏิเสธความสำเร็จที่ต่างประเทศของเธออย่างสิ้นเชิง
เป็นไปได้อย่างมากว่าเรื่องนี้จะถูกหยางย่าหมิ่นแพร่กระจายไปในกลุ่มเพื่อนร่วมชั้น จะต้องพูดทั้งวันว่าเฉิงดันถิงหลอกลวง อย่าคิดว่าชีวิตของเธอที่จะต่างประเทศจะมีความสุขมากนัก ในความเป็นจริง มันคือของปลอมทั้งหมด
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉิงดันถิงก็กังวลมากไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เมื่อเห็นท่าทางเจ็บปวดของดันถิง หยางย่าหมิ่นก็มีความสุขมาก แถมในตอนนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เป็นฝ่ายครอบครองการได้เปรียบมากกว่าเฉิงดันถิง
เธอโบกมือ “เฮ้ ถ้าไม่มีเงินจ่ายก็หลบไปเลย เธอขวางการจ่ายเงินของฉันอยู่ไม่รู้หรือไง?”
“เธอ!!!” เฉิงดันถิงกำหมัดทั้งสองข้างแน่น
มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็คงต้องจากไปแล้ว
ในตอนนี้เอง…
เธอได้ยินเสียงเจียงชื่อกระแอมเบาๆแล้วหยิบบัตรทองม่วงมังกรฟีนิกซ์ออกจากกระเป๋ายื่นให้เฉิงดันถิง
“แน่นอนว่าผู้ชายจะต้องจ่ายเงินค่าเสื้อผ้าให้กับผู้หญิง ถิงถิง คุณใช้บัตรของผมก็ได้”
“คุณ?” เฉิงดันถิงมองเจียงชื่ออย่างตกตะลึง
อย่างไรก็ตามการที่หยางย่าหมิ่นที่เข้าใจผิดว่าเจียงชื่อเป็นแฟนของเฉิงดันถิงมาตลอด เพื่อฉวยโอกาสแก้ไขวิกฤตให้กับเฉิงดันถิง เจียงชื่อเองก็ไม่ได้อธิบายเลย ผิดไปแล้วก็เลยตามเลย
อันดับแรกหยางย่าหมิ่นอึ้งไปสักพักแล้วหัวเราะลั่นทันที “เฮ้ นายชาวนาบ้านนอก อย่ามาทำตัวหลอกลวงที่นี่ได้รึเปล่า? บัตรใบนั้นของนายคือบัตรเครดิตงั้นเหรอ? เห็นอยู่ชัดๆว่าเป็นบัตรผ่านประตูห้องอาบน้ำมากกว่า! นายไปอาบน้ำเถอะ อย่ามาทำตัวเป็นหมาป่าอวดหางที่นี่ เพื่อที่ว่าพอถึงเวลาสะบัดไม่ออกแล้วจะได้ไม่ต้องอับอายผู้คนมากยิ่งขึ้น”
เจียงชื่อยิ้มเยาะแล้ววางบัตรลงไปบนมือของเฉิงดันถิง
เฉิงดันถิงไม่เคยเห็นบัตรทองม่วงมังกรฟีนิกซ์ประเภทนี้มาก่อน เธอส่งบัตรให้กับพนักงานอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
บัตรประเภทนี้ถือว่าเป็นบัตรชั้นยอดที่สุดของธนาคารสวิส ทั้งโลกมีไม่เกินห้าคนที่มีไว้ในครอบครอง เธอไม่เคยเห็นหรอก เพียงแค่สามารถบอกได้ว่าระดับของพวกเขาเหล่านี้ยังมีเกรดไม่พอ
พนักงานรับบัตรมาแล้วลองรูดทันที มีเสียงดังปี๊บเป็นการแสดงผลว่าชำระเงินสำเร็จ
จ่ายเงิน 980,000 หยวนในครั้งเดียว!
หยางย่าหมิ่นตกตะลึง ภายในบัตรที่ไม่เคยเห็นมาก่อนกลับมีถึงหนึ่งล้านเลยเหรอ?
ในบทที่เธอเกิดความงุนงงอยู่นั้น เจียงชื่อก็พูดอย่างสบายๆว่า “เสื้อผ้าเหล่านี้ จัดให้ผมอีกสองเซตเหมือนกันทุกอย่างด้วยครับ”
“อ๋า?”
ทุกคนพากันงงไปหมดแล้ว นี่มันคืออะไร?
เจียงชื่อพูดเรียบๆว่า “ชุดนี้ใส่มานานทั้งยับยู่ยี่และสกปรก ดังนั้นผมจะซื้อสามชุดให้ถิงถิง เช้ากลางวันเย็นอย่างละชุด แบบนั้นแล้วคุณจะได้สวยทุกช่วงเวลาไง”
นี่มัน…
นี่คือคนรวยที่ชอบซื้อของแพงไร้สาระที่บวกเข้าไปอีกสามระดับ คนรวยที่อยู่ท่ามกลางการต่อสู้!
พนักงานรู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาคลอ “คุณผู้ชาย คุณดีกับคนรักของคุณมากจริงๆ ฉันขอให้ความรักของพวกคุณคงอยู่จนชั่วฟ้าดินสลายนะคะ”
“เร็ว รีบไปเตรียมเสื้อผ้าที่เหมือนกันมาสองเซต นั่นมันไม่ใช่เสื้อผ้า นั่นคือพยานแห่งความรัก!”
หลังจากนั้นไม่นาน ก็หยิบเอาเสื้อผ้าอีกสองเซตเข้ามา เจียงชื่อรูดบัตรอย่างใจกว้าง
เสียงปี๊บ ปี๊บ ดังสองครั้ง ล้านเก้าแสนหกหมื่นหยวนก็ถูกรูดไปเรียบร้อย การซื้อทั้งหมดรวมกันเท่ากับสองล้านเก้าแสนสี่หมื่นหยวน แม้แต่เศรษฐีที่ชอบอวดรวยก็ไม่ซื้อเสื้อผ้าขนาดนี้
เจียงชื่อมองดูเสื้อผ้าที่อยู่เต็มเคาน์เตอร์และทิ้งนามบัตรเอาไว้
“บนนี้คือที่อยู่ของผม พวกคุณแค่ส่งเสื้อผ้าไปก็พอ”
“โอเคค่ะ คุณผู้ชาย!”
สุดท้ายแล้วเฉิงดันถิงเลือกเสื้อผ้าที่จำเป็นเปลี่ยนชั่วคราวเพียงชิ้นเดียว ชิ้นอื่นๆทั้งหมดจะถูกส่งไปที่บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง
ก่อนที่จะไป เฉิงดันถิงยิ้มเล็กน้อยและพูดกับหยางย่าหมิ่นว่า “แฟนหนุ่มทำไร่ไถนาของฉันคนนี้รักฉันมากจริงๆ มันทำให้ฉันไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีเลยล่ะ”
หยางย่าหมิ่นเครียดจนแทบจะร้องไห้แล้วลากสามีไปซื้อเสื้อผ้าสามชุดเช่นกัน
แต่สามีของเธอกลับทำหน้าตาบูดบึ้งและไม่ยอมซื้อให้
“หมิ่นหมิ่น ไม่ใช่ว่าฉันไม่ซื้อให้เธอนะ ฉันซื้อไม่ไหวจริงๆ มันแพงเกินไป”
“ฉันไม่สน ฉันไม่สน ฉันอยากจะซื้อมัน ฮือๆๆ…”
“หมิ่นหมิ่นเด็กดี อย่าร้องไห้เลยนะ”
“ซื้อให้ฉันเลยนะ!!!”
เมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของหยางย่าหมิ่นแล้ว เฉิงดันถิงก็ออกจากห้างพร้อมยิ้มที่เอาแต่ใจ
เรื่องในวันนี้สามารถอธิบายด้วยคำสองคำคือ ความสุข!