มิลาน เมืองแห่งแฟชั่นระดับนานาชาติ
ที่นี่ เมืองแห่งโลกแฟชั่นและการออกแบบ เมืองที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลกแห่งแฟชั่น
ที่นี่เป็นสวรรค์ของผู้หญิง
อัญมณี เสื้อผ้า เครื่องประดับ ศิลปะ วัฒนธรรม
ท่ามกลางที่ลุ่มหลงในความฟุ้งเฟ้อ เต็มเปี่ยมไปด้วยบรรยากาศแห่งศิลปะมากมาย ไม่มีผู้หญิงบนโลกนี้คนไหนไม่ชอบที่นี่
เดินบนถนนใหญ่ ตึกอาคารที่เก่าแก่กับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย ผสมผสานกันอย่างลงตัวมาก
เห็นทุกๆใบหน้าล้วนแตกต่างไม่เหมือนใครมากมายขนาดนั้น
คนที่นี่ พูดภาษาจากทั่วทุกมุมโลก มาจากทั่วประเทศทุกมุมโลก
ซูสวนอ้าแขน เพลิดเพลินไปกับเมืองที่ถือว่าเป็นของผู้หญิง เมืองแห่งแฟชั่น เมืองแห่งศิลปะ
ทุกที่ที่เธอเดินไปถึงล้วนแต่กรีดร้องอย่างมีความสุข
ระหว่างทางก็ไม่รู้ว่าเจียงชื่อถ่ายรูปให้เธอไปเท่าไหร่แล้ว เปลี่ยนแบตเตอรี่ไปกว่าหลายก้อนแล้ว
เขาฝืนยิ้มพร้อมส่ายๆหน้า มิลาน เป็นเมืองที่ทำให้เด็กผู้หญิง ‘ฟั่นเฟือน’ได้จริงๆ
จริงๆแล้วตัวของเจียงชื่อเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนะ
ถึงอย่างไรเจียงชื่อก็เป็นผู้ชายที่น่ากลัวที่ทำตัวค้อมต่ำ ถึงแม้ว่าในบัตรจะมีเงินหลายหมื่นล้านสามารถใช้ได้ตามอำเภอใจ แต่ชอบสวมใส่เสื้อ ‘มอมแมม’ข้างทางไม่กี่สิบหยวน
นี่ก็ทำให้หลายคนคิดว่าเขาเป็นพวกคนจน
ซูสวนเที่ยวเล่นจนเหนื่อยแล้ว นั่งพักลงครู่หนึ่ง เหลือบมองไปที่เจียงชื่ออย่างไม่ตั้งใจแต่จริงๆตั้งใจ อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแล้ว
“พี่เขย ทำไมพี่ถึงเป็นแบบนี้ล่ะ?”
“ห๊ะ?ฉันทำไมเหรอ?”
“ทำไมเหรอ?คุณดูเสื้อผ้าที่คุณใส่สิ เป็นการดูถูกเมืองแห่งแฟชั่นเลยนะ!”
ดังนั้น ซูสวนใช้เงินตัวเองจ่าย ลากเจียงชื่อไปร้านเสื้อผ้าใหญ่สามสี่แห่ง ช่วยเขาซื้อเสื้อผ้าของผู้ชายที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่งตัวใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้ว
เสื้อผ้าบนตัวมีมูลค่ามากกว่าหมื่นหยวน
พูดตามตรง เจียงชื่อสวมใส่แล้วไม่คุ้นเคยจริงๆ รู้สึกว่าหายใจเข้าออกลำบากนิดหน่อย ใส่ไม่สบายเท่ากับเสื้อผ้า “มอมแมม”ในราคาไม่กี่สิบหยวนเลย
แต่มาแล้วก็จงอยู่อย่างมีความสุข
ในเมื่อมาถึงเมืองระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ ปรับความคิดของตนให้เข้ากับคนอื่นให้เหมาะสมก็ไม่ได้เป็นอะไรมากมาย
ทั้งสองคนยิ่งเดินก็ยิ่งไปไกล เที่ยวเล่นไปพลางซื้อของไปพลาง
เจียงชื่อพบว่าซูสวนเป็นผู้หญิงที่ใช้เงินแบบไม่คิดเลยจริงๆ เงินที่เธอนำมาไม่ถึงครึ่งวันก็หมดเกลี้ยงแล้ว แต่เธอกลับว่าไม่กังวลใจแม้แต่น้อย เพราะเธอรู้ว่าเจียงชื่อมีเงินมาก
พาเจียงชื่อมาด้วย ก็เท่ากับว่าพาธนาคารเคลื่อนที่มาด้วย
นี่ก็ทำให้เจียงชื่อหมดคำพูดแล้วจริงๆ
หลังจากที่เที่ยวเล่นไปครึ่งวัน ทั้งสองคนก็ถือถุงเล็กถุงใหญ่ เดินไปทางโรงแรม
เดินมาถึงครึ่งทาง จู่ๆซูสวนก็ชี้ไปยังร้านเครื่องประดับที่อยู่ไม่ไกลว่า “พี่เขย คุณดูนั่นคืออะไร?”
เจียงชื่อมองดูแวบหนึ่ง เห็นแค่เพียงชื่อของร้านเครื่องประดับ เครื่องประดับดาวฤกษ์
เครื่องประดับดาวฤกษ์?
เจียงชื่อคิดถึงท่านทวดคนนั้นที่เจอบนเครื่องบิน ตอนนั้นเธอมอบบัตรVIPหนึ่งใบ บอกว่าครอบครัวของพวกเขาทำธุรกิจเครื่องประดับ
น่าจะเป็นร้านที่อยู่ตรงหน้านี้
ซูสวนพูดกล่าวว่า “พี่เขย ถ้าหากที่ท่านทวดคนนั้นพูดเป็นความจริง บัตรVIPของคุณที่สามารถรับเครื่องประดับฟรีได้ทุกวัน ก็ไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ไปกัน เราไปลองดูกัน”
“ห๊ะ?กลับโรงแรมไม่ใช่เหรอ?”
“ไอ้หยา ทำไมคุณถึงได้ชักช้าขนาดนี้?เร็วหน่อยสิ”
จำใจ เจียงชื่อเดินตามหลังซูสวน วิ่งเหยาะๆเข้าไปในร้านเครื่องประดับดาวฤกษ์แล้ว
เท้าเพิ่งจะย่างเดินเข้าไป ก็มีพนักงานมายืนต้อนรับอยู่ที่ประตู “ยินดีต้อนรับ”
พนักงานที่นี่เชี่ยวชาญด้านภาษาต่างประเทศถึงหกภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษและภาษาจีนจะต้องพูดได้ เมื่อเห็นเจียงชื่อและคนอื่นเดินมาถึง ก็ใช้ภาษาจีนพูดต้อนรับ
ทำแบบนี้จะทำให้ลูกค้าที่เข้ามาช้อปปิ้งมีความรู้สึกเสมือนอยู่ที่บ้าน
ซูสวนเดินเข้าไปในร้าน ภายใต้การแนะนำของคนขาย ค่อยๆเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องประดับดาวฤกษ์แล้ว ที่ไม่พูดเกินจริงเลยก็คือ ที่นี่คือร้านเครื่องประดับระดับนานาชาติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ตั้งอยู่ในมิลาน