เมื่อได้ยินคำนั้น เจียงชื่อกับเฉินดันถิงก็รู้ว่าเรื่องมันผิดปกติแล้ว
ถ้ารู้ว่า มันเป็นช่วงเวลาสั้นๆก่อนที่พวกเขาจะไล่ฟางซินหมิง และเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น ภายในระยะเวลาสั้นๆนี้ แม้แต่คนในของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ก็ยังไม่รู้เรื่องเลย ทำไมกงเฉิงถึงรู้ได้ล่ะ?
เจียงชื่อมีความคิดหนึ่งที่น่ากลัวมาก——แผนการต่อเนื่อง?
เป็นแผนการต่อเนื่องของโป๋สิ้นหง ที่จะทำให้อี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ล่มสลายโดยสิ้นเชิง
แม้ว่าการสูญเสียพิธีกรหลักมันหนักมากแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นพังจนไม่สามารถดำเนินการต่อได้ ก็เหมือนคนหนึ่งโดนตัดแขนสองข้าง แม้ว่าจะเจ็บปวดมาก แต่รักษาได้ทันเวลา ก็ยังคงมีชีวิตรอดต่อไปได้
แต่ถ้าเลือดของคนหมดลง แล้วจะอยู่อย่างไร?
เฉิงกงเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ที่สุดของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ ถ้าเขาปัดความรับผิดชอบ ไม่ทำ งั้นอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์ก็เท่ากับสูญเสียเลือดแล้ว ไม่สามารถอยู่ต่อไปได้เลย
เดิมทีก็สูญเสียอยู่แล้ว ยิ่งสูญเสียสปอนเซอร์รายใหญ่ที่สุดอีก งานคอนเสิร์ตของอี้โม่เอนเตอร์เทนเมนต์อาจจะ ‘ล้มเหลว’ไปต่อไม่ได้เลย
แล้วเงินเดือนพนักงานจะจ่ายอย่างไร?
ค่าตัวศิลปินอีกมากมายจะจ่ายอย่างไร?
ต้องบอกเลยว่า โป๋สิ้นหงมาไม้นี้โหดร้ายเกินไปแล้ว
เฉิงดันถิงยังคงต้องรักษาสถานการณ์ให้นิ่งสงบ “ผู้จัดการกง อันที่จริงเรื่องมันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป เราเองก็ไม่ทันได้เตรียมตัว ฟางซินหมิงมีเจตนาไม่ดี ‘บีบคั้น’ พวกเราเลยต้อง……”
“ฉันไม่สน!” เฉิงกงยิ้มอย่างเย็นและพูดว่า “ฉันรู้แค่ว่า ตอนนั้นที่ฉันเซ็นสัญญากับคุณมีการขอให้ฟางซินหมิงเป็นพิธีกรหลักอย่างชัดเจน ตอนนี้พวกคุณไล่ฟางซินหมิงไปแล้ว พวกคุณผิดสัญญาก่อน ฉันสามารถถอนการสนับสนุนได้โดยสมบูรณ์ ไม่ให้เงินพวกคุณแม้แต่แดงเดียว!”
“อย่า อย่าเพิ่ง มีอะไรก็ปรึกษากันดีๆก็ได้”
“ไม่มีอะไรให้ปรึกษาแล้ว เรียกฟางซินหมิงกลับมา หรือจะให้ถอนทุนออก คุณเลือกมาเลย!”
เผชิญหน้ากับท่าทีบีบคั้นของกงเฉิง เฉิงดันถิงทำอะไรไม่ถูก
เรียกฟางซินหมิงกลับมาเหรอ?
ฮ่าๆ งั้นก็ต้องจ่ายค่าตัวห้าล้าน อีกอย่างเมื่อกี้พวกเขาก็ทะเลาะกันรุนแรงขนาดนั้น ตอนนี้จะไปเรียกเขากลับมา จะเป็นไปได้เหรอ?
แต่ถ้าไม่เรียกกลับมา ก็อาจจะต้องสูญเสียสปอนเซอร์รายใหญ่ที่สุดไป
ไม่มีเงินแล้ว
งานคอนเสิร์ตก็จบเห่แล้ว
ไม่มีทางเลือก เหมือนว่าตอนนี้ดูทำได้เพียงดูงานคอนเสิร์ตจบเห่ และไม่มีวิธีกอบกู้สถานการณ์ใดๆเลย
ทำไมเรื่องมันมาถึงจุดนี้ได้นะ?
เฉิงดันถิงถอนหายใจยาวๆด้วยความสิ้นหวัง เกลียดโป๋สิ้นหงมากที่สุด ทั้งหมดนี้ก็เป็นเขาที่บงการเบื้องหลังทุกอย่าง
เดิมคิดว่าจะไล่ฟางซินหมิงอย่างไม่ตั้งใจ หาคนมาแทนใหม่อีกคนก็จบแล้ว ใครจะไปรู้แม้แต่สปอนเซอร์รายใหญ่ก็ถูกโป๋สิ้นหงซื้อตัวไปด้วย
แผนการต่อเนื่อง
ท้ายที่สุดเฉิงดันถิงเป็นเพียงมืออาชีพที่มีความสามารถทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง เรื่องปากหวานก้นเปรี้ยวแบบนี้ เธอจะไปต่อกรกับโป๋สิ้นหงได้อย่างไร
แพ้
แพ้โดยสิ้นเชิง
กงเฉิงมองไปที่ดวงตาที่สิ้นหวังของเฉิงดันถิงด้วยความพึงพอใจ เอามือไขว้หลัง พูดอย่างภาคภูมิใจว่า “อย่าหาว่าฉันไม่มีความเมตตานะ ถ้าภายใน 20 นาทีนี้ พวกคุณไปเรียกฟางซินหมิงกลับมาไม่ได้ ฉันก็ไม่ถอนทุน แต่ถ้าเรียกกลับมาไม่ได้ งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่ไว้หน้าใครก็แล้วกัน!”
ขณะที่พูด ก้นของเขาก็นั่งลงบนโซฟา และรออย่างสบายใจ
อันที่จริงเขาไม่ได้วางแผนที่จะลงทุนเลย
เพราะเขารู้ ถึงแม้เฉิงดันถิงต้องหาการฟางซินหมิงก็หาไม่ได้อีกต่อไป ตอนนี้ลำคอของฟางซินหมิงโดนพิษ นอนอยู่หน้าประตูโรงพยาบาล เป็นแค่คนไร้ค่าคนหนึ่ง
ถอนทุน เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว
เหตุผลที่ยังอยู่ต่อ เพียงเพราะเขายังคงต้องการเห็นว่าเฉิงดันถิงสิ้นหวังเพียงใด
งานอดิเรกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตกงเฉิง ก็คือมองคนอื่นดิ้นรนอย่างเจ็บปวดแต่ไม่มีความหวังที่จะรอดเลย
โรคจิตจนถึงขีดสุด
เป็นไปตามที่กงเฉิงคาดไว้เลย หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสีย เฉิงดันถิงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหาฟางซินหมิง
ผลสุดท้าย……