ณ วิลล่าเรียบง่ายในริมแม่น้ำสายเล็กแห่งหนึ่ง
รถเก๋งสีดำคันหนึ่งขับเข้ามาจอดอยู่หน้าประตูวิลล่า จากนั้นประตูรถเปิดออก ชายในเสื้อโค้ทเดินออกมาและไออย่างไม่หยุด ซึ่งเขาคนนี้ก็คือกระดูก ชายผู้ที่เพิ่งช่วยเหลืออัคคีภัยเมื่อครู่นี้
ทันทีที่เขาเดินไปที่สวนหน้าบ้าน พ่อบ้านของเขาก็มาเปิดประตูและพูดว่า “เจ้านายครับ คุณซุนกับคุณซีเหมินมารอท่านที่ห้องรับแขกแล้วครับ”
คุณซุน?
คุณซีเหมิน?
กระดูกรู้ทันทีว่าใครมาหา เขาได้แต่ขมวดคิ้วและแสดงอาการไม่พอใจเป็นอย่างมาก
“ให้พวกเขากลับไป”
พ่อบ้านตอบอย่างลำบากใจ “นายท่านครับ ดูเหมือนว่าคุณซุนมีธุระสำคัญถึงมาในวันนี้นะครับ เขาจำเป็นต้องเจอนายท่านก่อน ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ยอมไปไหนเลยครับ”
“เหอะ!!!”
กระดูกสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินเข้าไปในสวนหน้าบ้านและเดินตรงเข้าไปยังห้องรับแขกในบ้าน
ทันทีที่เข้าไปในบ้าน เขาก็เห็นซุนหย่งเจินกับซีเหมินจุ้นที่นั่งอยู่บนโซฟา ทั้งสองกำลังสูบบุหรี่และพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลินอยู่
กระดูกเดินเข้าไปด้วยสีหน้าเย็นชา “ที่นี่ไม่ต้อนรับพวกคุณ เชิญพวกคุณกลับไปครับ”
ซุนหย่งเจินได้เตรียมใจไว้แล้ว เขารู้ว่ากระดูกต้องไม่ยินดีที่จะเจอเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีปฏิกิริยาพิเศษใดๆ ได้แต่ดับบุหรี่ในมือ
จากนั้นยิ้มพูดว่า “จ้ายเย้น ไม่ง่ายเลยนะที่เราสองคนพี่น้องจะได้เจอกัน แล้วนายจะรีบไล่พี่ชายกลับไปทำไมล่ะ?”
“พี่ชาย? คุณยังมีหน้ามาบอกว่าคุณเป็นพี่ชายผมเหรอ?! บ้านผมไม่ต้อนรับคุณ รีบกลับไปซะ!”
เห็นได้ชัดว่าซุนจ้ายเย้นกับซุนหย่งเจินนั้นมีความขัดแย้งซึ่งกันและกัน
และเมื่อสองพี่น้องในสายเลือดต้องมีความขัดแย้งที่รุนแรงแบบนี้ แน่นอนว่าต้องเกิดจากปัญหาที่หนักหนาพอสมควร
แต่ซุนหย่งเจินไม่ได้ใจร้อน เขาค่อยๆ พูดอย่างใจเย็นว่า “พอได้แล้วๆ อย่าเจอหน้ากันก็จะตีรันฟันแทงกันสิ เรายังเป็นพี่น้องกันอยู่นะ จะทะเลาะกันทำไม?”
“พี่ก็จะไม่อ้อมค้อมกับนายก็แล้วกันนะ ที่พี่มาวันนี้ พี่อยากให้นายช่วยจัดการกับคนคนหนึ่ง”
ซุนจ้ายเย้นที่ได้ยินคำนี้ก็หัวเราะเยาะขึ้นมาทันที
“คุณยังมีหน้ามาขอให้ผมช่วยเหรอ?”
“คุณลืมไปแล้วเหรอว่าเคยทำกับผมยังไง?”
“ผมเคยเห็นคนหน้าด้านนะ แต่ไม่เคยเห็นใครที่หน้าด้านเท่าคุณมาก่อนจริงๆ! ผมไม่มีพี่ชายอย่างคุณ”
“รีบไสหัวไปให้พ้น อย่ามาเกะกะลูกตาผม”
ซุนหย่งเจินส่ายหัวตอบ “น้องเล็กเอ๋ย