ซีเหมินจุ้นตกตะลึงและชี้ปืนไปที่ศีรษะของเจียงชื่อ “แกพูดไร้สาระอะไรอยู่?”
เจียงชื่อตอบเบาๆ ว่า “ปืนของคุณฆ่าผมไม่ได้ แล้วคุณจะหันปืนมาที่ผมทำไม? ถ้าคุณไม่เชื่อ คุณลองไปดูก่อนสิว่าสองพี่น้องตระกูลซุนยังอยู่ไหม?”
ซีเหมินจุ้นได้แต่กลืนน้ำลายแล้วมองไปที่ห้องมืดนั้น
หรือว่า ซุนหย่งเจินทิ้งเราไปแล้วจริงๆ?
ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย
ซีเหมินจุ้นครุ่นคิดในใจและกำลังคิดจะเข้าไปดูในห้องมืดนั้น แต่ทันใดนั้น ประตูโกดังก็ถูกเตะจนพังลง และลูกน้องของเขาสองคนก็กระเด็นเข้ามาล้มลงตรงหน้าเขาจากคนละทิศ
กันต์กับเมถุน เทพกับมารได้มาถึงโกดังพร้อมกัน
ซีเหมินจุ้นตกใจจนใบหน้าซีดเซียวและหันปืนไปแล้วลั่นไกทันที
เมถุนเคลื่อนตัวเหมือนสายลมและได้มาถึงตรงหน้าซีเหมินจุ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาผลักซีเหมินจุ้นไปติดกับกรงเหล็กด้วยมือข้างเดียว ส่วนมืออีกข้างก็พร้อมที่จะบีบคอของเขา
ถ้าโดนการโจมตีครั้งนี้ ซีเหมินจุ้นต้องตายอย่างแน่นอน
เจียงชื่อแกล้งไอเบาๆ “ไว้ชีวิตมันก่อน”
ดวงตาของเมถุนเป็นประกาย เขาจับศีรษะของซีเหมินจุ้นแล้วเหวี่ยงออกไปเหมือนกับโยนขยะทิ้ง
จากนั้นสองมือจับที่กรงเหล็กเพื่อจะยกมันออก
แต่เจียงชื่อส่ายหัวพูดว่า “นี่เป็นกรงเหล็กที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษนะ ถ้ายกมันทิ้งได้ผมทำไปนานแล้ว คงไม่ต้องลำบากคุณอีก”
กันต์ยิ้มแล้วเดินไปกดสวิตช์เพื่อยกกรงเหล็กขึ้น
“ลูกพี่ จะเอายังไงต่อคะ?” กันต์ถาม
เจียงชื่อชี้ไปที่ซีเหมินจุ้น “พามันกลับไปขังไว้ แล้วรอคำสั่งจากผมอีกที”
“รับทราบค่ะ!”
กันต์จึงเดินเข้าไปจับตัวซีเหมินจุ้นไว้
จากนั้นเจียงชื่อก็เดินเข้าไปในห้องมืดขนาดเล็กนั้นแล้วเปิดไฟในห้อง
ในห้องที่ว่างเปล่านี้ ของทุกอย่างทุกเคลียร์อย่างสะอาดแล้ว ซุนจ้ายเย้นเป็นคนระมัดระวังอย่างมาก ดังนั้นก่อนออกจากห้องนี้เขาจึงไม่ทิ้งหลักฐานใดๆ ให้กับเจียงชื่อเลย
แต่เขาได้ทิ้งที่สิ่งเจียงชื่อต้องการที่สุด นั่นก็คือกล่องเถ้ากระดูก
เจียงชื่อรีบหยิบโกศไว้ในอ้อมแขนของเขา
“เจียงโม่ พี่ขอโทษ พี่ทำให้นายต้องใจหายแล้ว”
“พี่ขอสัญญากับนายว่าเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นกับนายอีก”
แน่นอนว่าคนฉลาดอย่างเจียงชื่อต้องรู้ว่านี่เป็นพฤติกรรมในการประนีประนมของซุนจ้ายเย้นอยู่แล้ว เพราะเขาทิ้งซีเหมินจุ้นไว้ และยังคืนเถ้ากระดูกให้กับเจียงชื่อ เขารู้ว่าเจียงชื่อไม่มีเหตุผลที่จะไล่ล่าเขาอีก
และตามที่คาดคิดไว้ ความอาฆาตแค้นของเจียงชื่อก็ได้สงบลง
ปฏิเสธไม่ได้ว่าซุนจ้ายเย้นนั้นเป็นคนเดาใจคนได้แม่นมาก แม้แต่ความสุขและความทุกข์ของเจียงชื่อก็อยู่ในการคาดเดาของเขา
ซึ่งการพ่ายแพ้ในครั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวเดียวเท่านั้น
ถือว่าเขาแพ้อย่างไม่น่าเกลียด
เจียงชื่อมองออกไปที่นอกหน้าต่างแล้วพูดอย่างกังวลใจว่า “ซุนจ้ายเย้นช่างเป็นศัตรูที่น่ากลัวจริงๆ ถ้ามีคนแบบนี้มาคอยช่วยซุนหย่งเจิน อนาคตต้องเป็นปัญหาใหญ่ของเราแน่นอน”
“ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้จะทำให้ซุนจ้ายเย้นในครั้งต่อไประมัดระวังขึ้น คงรับมือกับมันได้ยากขึ้นแน่”
“แต่……”
เจียงชื่อเลียริมฝีปากแล้วพูดด้วยความตื่นเต้นว่า “ตั้งแต่กลับมาจากเวสเตอร์แลนด์ เราไม่เคยรู้สึกตื่นเต้นขนาดนี้มาก่อนเลย ซุนจ้ายเย้น คุณจะเก่งแค่ไหน แสดงออกมาให้เต็มที่เลยละกันนะ อย่าทำให้ผมผิดหวังเชียวล่ะ”
การที่ต้องต่อสู้กับยอดฝีมือนั้น เป็นความตื่นเต้นและความท้าทายของเจียงชื่อมาโดยตลอด