หวางควางยี่นั่งลงเพื่อสงบสติอารมณ์และจากนั้นก็โทรหาเซี่ยเมิ่งจื้อทันที
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด สายโทรติด
ฮัลโหล ว่าไงครับรองเจ้ากรมหวาง?
หวางควางยี่กุมขมับแล้วด่าว่า อะไรว่าไง? เซี่ยเมิ่งจื้อ คุณทำงานยังไงกันแน่? คุณกล้าจับคนของตระกูลจ้าวเลยเหรอ คุณมันบ้าไปแล้ว!
ตอนนี้ผมขอสั่งคุณ ให้ปล่อยคนเดี๋ยวนี้ จากนั้นนำทีมกลับมา แล้วผมจะคิดบัญชีกับคุณอีกที
ฟังชัดเจนแล้วใช่ไหม?
เดิมทีคิดว่าคำพูดสองสามคำก็เอาอยู่แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่ามันจะเหนือความคาดหมาย
เซี่ยเมิ่งจื้อในปลายสายพูดอย่างไม่เกรงกลัวว่า รองเจ้ากรมหวางครับ ผมจับคนตามกฎหมาย ไม่มีข้อบกพร่องอะไร แต่คุณต่างหากที่ทำตามอำเภอใจ โทรมาก็สั่งผมให้ปล่อยคนเลย เหอะๆ คุณคิดอะไรอยู่ครับ?
หวางควางยี่โกรธจนแทบจะเป็นลม
ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขากล้าพูดแบบนี้กับเขาได้อย่างไร?
เขาจึงตวาดด้วยความโมโห วันนี้คุณเป็นบ้าอะไรกันแน่?
ผมไม่ได้เป็นบ้าครับ ก็แค่สงสัยว่าคนของตระกูลจ้าวจะก่ออาชญากรรม พวกเขาจะลักพาตัวคนคนหนึ่ง ผมจึงทำการจับกุมอาชญากรเหล่านี้ตามกฎหมาย และผมคิดว่าผมไม่ได้ทำผิดนะครับ แต่ถ้าคุณคิดว่าผมทำผิด คุณพาคนมาที่เกิดเหตุได้ ผมจะรอคุณ
เมื่อพูดจบ เซี่ยเมิ่งจื้อก็ตัดสายทิ้งทันที
หวางควางยี่ได้แต่จ้องมองไปที่โทรศัพท์ในมือและไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลย เขาไม่อยากเชื่อด้วยซ้ำว่านี่เป็นพฤติกรรมของเซี่ยเมิ่งจื้อที่มีต่อเขา
แม้ว่าเซี่ยเมิ่งจื้อจะมีนิสัยค่อนข้างตรงไปตรงมา และอารมณ์อาจจะร้อนไปหน่อย
แต่เขาไม่เคยแข็งกร้าวขนาดนี้มาก่อน!
เป็นแค่ผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่ง กล้าขัดคำสั่งของผู้นำก็แล้วไป แต่นี่กลับเรียกผู้นำไปหาถึงที่ ช่างไร้มารยาทสิ้นดี
ไล่ออก ต้องไล่ออกเท่านั้น!
เซี่ยเมิ่งจื้อ แกไปเอาความกล้าของใครมา ถึงกล้าพูดจาแบบนี้กับข้า?
จะให้ข้าไปหาถึงที่แกถึงจะยอมปล่อยคนใช่ไหม ได้สิ งั้นข้าจะไปหาแกเอง ถึงเวลาอย่าตกใจจนฉี่ราดกางเกงก็แล้วกัน!
จากนั้นหวางควางยี่ก็ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจนับร้อยนายในทันทีเพื่อจะไปที่เกิดเหตุ
ซึ่งเขาไม่เพียงแต่จะไปปล่อยคนเท่านั้น แต่เขาจะจัดการกับเซี่ยเมิ่งจื้อและคนอื่นๆ ที่ ‘กบฏ’ ต่อเขาด้วย
ระยะทางไม่ไกลนัก
ภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที หวางควางยี่ก็นำคนมาถึงโรงแรม เขาได้มอบหมายให้กับลูกน้องคอยเฝ้าประตูทุกด้านเพื่อไม่ให้ใครเข้าออกอีก
จากนั้นเขาก็พาทีมเข้าไปในร้านอาหารเป็นการส่วนตัว
ืทันทีที่เข้าไป เขาก็เห็นเหล่าจ้าวและคนอื่นๆ นั่งคุกเข่าเป็นแถวอยู่ที่มุมห้องพร้อมกับถูกใส่กุญแจมือไว้
และยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกลุ่มหนึ่งกำลังเฝ้าเหล่าจ้าวและคนของเขาอย่างใกล้ชิด
ส่วนเซี่ยเมิ่งจื้อกลับนั่งจิบชาอยู่บนเก้าอี้ในห้องโถงโดยไม่ได้รู้สึกกังวลอะไรเลย
เหอะๆ ชิลล์จริงๆ เลยนะ
หวางควางยี่เดินเข้าไปแล้วพูดอย่างเย้ยหยัน เซี่ยเมิ่งจื้อ คุณให้ผมมาปล่อยคนไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้คุณก็เห็นผมแล้ว ว่าไง คุณจะปล่อยคนเองหรือจะให้ผมบังคับคุณปล่อยพวกเขา?
เซี่ยเมิ่งจื้อได้แต่จิบชาแล้วมองไปที่หวางควางยี่อย่างเงียบๆ
รองเจ้ากรมหวาง ผมมีเพียงประโยคเดียวจะบอกคุณ……คุณกลับเนื้อกลับตัวยังทันนะ
กลับตัว?
ฮ่า ๆ ๆ ๆ! หวางควางยี่หัวเราะจนท้องแข็ง เซี่ยเมิ่งจื้อ คุณมันจะได้ใจเกินไปแล้ว แต่เมื่อก่อนผมไม่เคยเห็นคุณได้ใจขนาดนี้มาก่อนเลยนะ? ยังจะให้ผมรั้งม้าตรงหน้าผาอีกเหรอ ผมว่าคุณต่างหากที่ต้องรั้งม้าตรงหน้าผา แล้วกลับตัวกลับใจ!
เซี่ยเมิ่งจื้อได้แต่ถอนหายใจ ดูเหมือนว่าเขาจะช่วยหวางควางยี่ไม่ได้แล้ว
เขาอุตส่าห์เตือนขนาดนี้แล้ว แต่ยังรนหาที่ตาย ช่างเป็นการหวังดีแต่ไม่ได้ดีจริงๆ
เขาจึงชี้ไปในห้องอาหาร
รองเจ้ากรมหวาง คนที่พวกเหล่าจ้าวจะจับอยู่ข้างในนี้
คุณเข้าไปดูสิครับ
ถ้าคุณคิดว่ามันสมเหตุสมผลที่เหล่าจ้าวกับคนของมันจะจับคนนี้ได้ คุณไม่ต้องทำอะไรผม ผมจะจับตัวเองแล้วส่งตัวเองกลับไปให้คุณ ส่วนคนของตระกูลจ้าวผมจะปล่อยกลับไปให้หมด
ตกลงไหมครับ?
หวางควางยี่ขมวดคิ้ว เป็นคำพูดที่ฟังดูแปลกๆ มันหมายความว่ายังไงกันแน่?
เขารู้สึกสับสนมาก
แต่เท่าที่รู้จักเซี่ยเมิ่งจื้อคนนี้ เขาจะไม่พูดอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า และจะไม่ทำอะไรโดยไร้เหตุผล
ทุกสิ่งที่เซี่ยเมิ่งจื้อทำในวันนี้มันเหนือความคาดหมายไปแล้ว
มันต้องมีอะไรในกอไผ่แน่นอน
บางทีคนในห้องอาหารนี้อาจจะเป็นคนสนิทของเซี่ยเมิ่งจื้อ จึงทำให้เซี่ยเมิ่งจื้อจำเป็นต้องทำแบบนี้
หรือจะเป็นแม่ของเซี่ยเมิ่งจื้อ? หรือว่าพ่อ? หรือว่าญาติพี่น้อง?
เดาอยากจริงๆ
หวางควางยี่พยักหน้า ได้ ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าใครกันแน่ ที่ทำให้คนของตระกูลจ้าวต้องการตัว ทำให้คุณขัดทุกคำสั่ง แม้กระทั่งยอมเป็นศัตรูกับตระกูลจ้าว และยอมเป็นศัตรูกับผม
หนึ่งคือเขาสงสัยมาก และสองคือเขาอยากยืนยันความจริง หวางควางยี่จึงสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินผ่านด้านข้างของเซี่ยเมิ่งจื้อและตรงไปที่ห้องอาหาร
เมื่อมาถึงประตู เขาเหลือบมองไปที่เซี่ยเมิ่งจื้อแล้วพูดอีกครั้งว่า แต่ผมจะพูดในแง่ลบก่อนนะ ไม่ว่าคนข้างในจะเป็นใคร เซี่ยเมิ่งจื้อ วันนี้คุณไม่ได้รับการอภัยแน่นอน คุณรอถูกลงโทษทางกฎหมายได้เลย!
จากนั้นหวางควางยี่ก็ยื่นมือผลักประตู เมื่อก้าวเท้าก้าวเดียว เขาก็ค่อยๆ แหงนมองไปข้างหน้า
มีชายคนหนึ่งนั่งอยู่ในห้องอาหาร
ด้วยรูปร่างที่ดูแข็งแรง ใบหน้าคมคาย และยังมีแววตาที่แหลมคมซึ่งดูเหมือนจะสามารถมองทะลุทุกสิ่งในโลกนี้ได้
ผู้บริหารระดับ……
ในชั่วพริบตานั้น หวางควางยี่ถึงกับเข่าอ่อนและล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง