ตอนที่23 ฝันร้าย
จารวีรับรู้ได้ถึงรอบเอวที่ถูกยศพลโอบด้วยความร้อนรนและที่น กระหายอย่างชัดเจน เธอขัดขืนดิ้นรนอย่างอึดอัดเอามาก “ปล่อยนะ เดี๋ยวพี่ก็กลับมาแล้ว..”
ยศพลกระซิบเสียงต่ำด้วยความชั่วร้าย”ตอนนี้ฉันต้องการเธอ แล้ว…”ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น ยศพลปล่อยจารวีออกไปด้วย อารมณ์ที่หงุดหงิดดุเดือด ยุพินปรากฏตัวอยู่หน้าสายตาของทั้งสองคน
“มื้อเช้ามาแล้ว วีรีบไปล้างมือแล้วมาทานได้แล้ว”
สายตาของเธอมองไปที่ยศพลด้วยน้ำใจที่อบอุ่น”พี่ยศ ทานข้าวเข้า
ค่ะ”
ยศพลเดินออกไปอย่างหงุดหงิด “ไม่หิว…
จารวีมองพี่สาวที่สีหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวัง จึงตะโกนเรียกยศ พลอย่างรีบร้อน “ถ้าทานข้าวเช้าแล้วพาฉันไปห้องทะเลทรายดูขวด แก้วได้รึเปล่า?”
ยศพลหยุดอยู่ที่หน้าประตู หันกลับไปมองจารวี ในมุมที่ยุพินมองไม่ เห็น เขาชำเลืองมองไปที่จารวีด้วยความโกรธเป็นค่าตอบแทนและ ชดใช้ เขาหันไปยิ้มให้กับยุพินด้วยรอยยิ้มที่อ่อนหวาน “วันนี้กระโปรง เธอสวยจัง ! ”
จารวีจ้องเขา”ตาถั่วเหรอ พี่พินใส่กระโปรงตัวนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วย่ะ”
“ยัยวี อย่าโทษ พี่ยศ สิบ เมื่อวานพี่ใส่ได้แบ๊บเดียวเอง ตอนนั้นเขาก็ไป แล้ว…” พอเห็นพี่พูดให้เป็นกลาง จารวีก็ยักไหล่แล้วนั่งทานข้าวเช้า โดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ พอทานข้าวเข้าเสร็จ ยุพินก็ใช้ประโยชน์ที่ว่า ตนเองร่างกายไม่สมบูรณ์พักผ่อนอยู่ในห้องต่อ ยังไงซะอยู่ในห้องนี้ก็ มองเห็นวิวชายทะเลที่สวยงามทั้งหมดได้เช่นกัน ยศพลเดินบนชายฝั่งโดยมีจารวีเดินตาม ต้นมะพร้าวสูงใหญ่บนหาด ทรายให้ร่มเงาเป็นอย่างดี จารวีสวมกระโปรงยาวสไตล์โบฮีเมียนที่ยาว ไปถึงตาตุ่ม สวมแว่นกันแดดทับหมวกจักสานปีกกว้างบนหัว ลมพัดมาก ระทบใบหน้า
“จารวี เธอรู้รึเปล่าว่ายิ้มแบบนี้มันน่าเกลียดมากน่ะ?” ในใจของยศพล เดือดพล่าน เขาไม่ชอบที่เธอยิ้มให้ผู้ชายคนอื่น
จารวีทำตัวไม่ปกติ”นายอิจฉาฉันละสิ ! เพราะคนที่ถูกฟ้าสร้างมาให้ มีใบหน้างดงามอย่างฉัน ตอนยิ้มถึงจะขี้เหร่นะ !”
“จารวี เดี่ยวนี้กล้าต่อปากต่อคำกับฉันละ เธออยากตายใช่มั้ย?ยศพล
ระเบิดอารมณ์ออกมาอีกครั้ง
จารวี พูดเสียงต่ำว่า”ปีศาจ ! ”
“เมื่อกี้เธอว่าไงนะยศพลคำรามออกมา
จารวีเงยหน้าไปมอง พูดอย่างยิ้มๆ ว่า”ฉันกำลังบอกว่า บ้านชายหาด อยู่ข้างหน้าแล้ว”ข้างหน้าเป็นถนนเส้นหนึ่งที่มีความเป็นระเบียบ เรียบร้อย สองข้างทางมีร้านกาแฟ ผับ และยังมีร้านขายของขวัญ ปกติ ยศพลไม่เดินดูของในร้านของขวัญอย่างน่าเบื่ออยู่แล้ว เขายืนข้างนอก เริ่มเอามือถือออกมาเปิด
จารวีเข้าไปเลือกขวดคนเดียว เธอเดินตรงไปหาเถ้าแก่ของร้าน แล้ว ใช้ภาษาอังกฤษที่ไม่คุ้นเคยถาม”เถ้าแก่คะ ขวดแบบนี้ที่นี่มีขายใช่มั้ย
คะ?
เถ้าแก่ต่างชาติวัยชราที่มีเครายาวหยิบขวดจากมือของจารวีไปดู แล้ว พูดด้วยความมั่นใจว่า “YES ! ที่นี่มีขาย ขวดนี่เป็นขวดทำมือ มีคุณค่า ต่อการนำไปเป็นของที่ระลึก คุณหนู หากว่าหนูมีความสนใจละก็ พวก เราผลิตได้ตามความต้องการที่หนูอยากให้สั่งทำได้เลยนะ…” ชาวต่างชาติเครายาวพูดมาซะยาว แต่จารวีฟังเข้าใจแค่ครึ่งหนึ่ง ทันใดนั้นต่างชาติเครายาวคนนี้ก็ขึ้นนิ้วไปที่ด้านนอก “เขา ใช่ เขานี่ แหละที่สั่งทำ”
จารวีหันไปมองอย่างทันทีทันใด ในตอนนั้น เงาของมนต์ตรีอันหล่อ เหลาก็สะท้อนเข้ามาในสายตาของเธอ เขาสวมชุดสูทสีขาว ดูสง่างาม ชวนผู้คนหลงใหล ประสาทสัมผัสทั้งห้าที่อ่อนโยนละมุนละไมดั่งหยก ท่าทางตอนที่ขยับไปมาก็เหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด
คือเขาจริง ๆ ถึงจะไม่ได้พบเจอกันมาสิบปี หน้าตาของก็ยังเหมือน เดิม รูปร่างสูงใหญ่กว่าเมื่อก่อนเยอะเลย แต่ว่าถึงจะเห็นรูปร่างใบหน้า ของเขาอย่างเลือนราง แต่ก็ยังสามารถดูออก มีกระแสที่แข็งแรง แทรกซึมเข้าไปในหัวใจของจารวี และมีช่องว่างสั้น ๆ ในใจ มันคือการ รอคอยเขามานานแสนนาน! ดวงตาสั่นไหวและมองเขาอย่างไม่กระ พริบตา
เหมือนกับว่าเขาจะรู้สึกถึงแววตาของจารวี จึงหันกลับไปมองช้า ๆ เกือบจะมองเห็นเธอแล้ว ในตอนนั้นก็มีชายร่างใหญ่เดินเข้ามาจากข้าง นอกมากั้นอยู่ตรงกลางสายตาของจารวี
ยศพลพูดออกมาอย่างหมดความอดทนว่า”เลือกเสร็จรึยัง?”ทันใดนั้น จารวีก็ไม่ได้เลือกขวดที่ตนปรารถนาแล้ว
“อ้อ ขวดพวกนี้ไม่สวยเลย พวกเราไปกันเถอะ ! “การปรากฏตัวของ ยศพล กวนใจเธออย่างสิ้นเชิง
หนึ่งนาทีก่อนหน้านั้น เธอยังตื่นเต้นดีใจอย่างมากที่จะเดินเข้าไป ทักทายมนต์ตรีคนที่เธอคิดถึงและโหยหา แต่ว่าตอนนี้เธอไม่มีความคิด นั้นแล้วอย่างสิ้นเชิง เธอสำเหนียกสถานะของตนในตอนนี้อย่างชัดเจน เธอเป็นเพียงหญิงชู้ที่สกปรกพอๆกับผู้หญิงที่ขายตัวขายเรือนร่างที่ ต่ำช้า เธอไม่คู่ควรที่จะปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของมนต์ตรี
เธอไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขา ยิ่งไปกว่านั้นก็คือนิสัยที่หยิ่งยโสของยศ พล ไม่แน่ว่าอาจจะพูดอะไรออกไป พี่มนต์ พี่พิน ล้วนแต่เป็นคนที่เธอ แคร์ เธอทำร้ายจิตใจพวกเขาทั้งคู่ไม่ได้เป็นอันขาด
หลังจากเดินออกจากห้องชายหาด จารวีจงใจที่จะควงแขนของยศ พล แล้วก้มหัวอย่างหวาดผวา ไม่ให้เขาดูออก บนถนนไหล่ของเธอได้ สัมผัสกับเขาอย่างเบาๆ เฉียดไหล่ฝานไป
กลิ่นน้ำหอมทะเลสีฟ้าจาง ๆ บนร่างกายของเขาแทรกซึมเข้าไปในรูจ มูกของเธอเบา ๆ และถูกตราตรึงลงไปในความทรงจำของเธอ ในเวลานี้ เธอสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามันเป็นรสนิยมของผู้ชาย พี่มนต์ของ เธอในตอนนี้กลายเป็นชายร่างใหญ่ที่โตแล้วไม่ใช่เด็กผู้ชายละอ่อนใน ปีนั้นอีกต่อไป หัวใจของเธอเต้นแรงและพุ่งไปเขา ใบหน้าของจารวี ทำให้เขาหลงใหล
มนต์ตรีมองเห็นด้านหลังของจารวี แม้ว่าหมวกจะกดลงต่ำจนเห็นหน้า ของเธอไม่ชัดเจน แต่กลับมีความรู้สึกที่คุ้นเคย เขาพูดด้วยเสียงต่ำที่ อ่อนโยน “คุณครับ.ร่างกายของจารวีหยุดชะงักไปเล็กน้อย เธอไม่ กล้าหันมา แม้ว่าได้ยินเสียงฝีเท้าของมนต์ตรีที่เดินตามมาอยู่
ยศพลพูดถากถางเสียงต่ำ”เธอนี่ช่างมีเสน่ห์ล้นเหลือจริง ๆเลยนะ ! ”
ทันทีที่พูดจาด้วยความหยิ่งยโสเขาก็มองไปที่มนต์ตรี แสดงสีหน้าที่ ไม่รู้จักโอภาปราศรัยด้วยความไม่เกรงใจ”นี่นายเป็นคนยังไงกัน มาเดิน ตามผู้หญิงของฉันทำไม?”
มนต์ตรียิ้มอ่อนๆอย่างเป็นมารยาท”ขอโทษที่รบกวนทั้งสองคนนะ ครับ คือผมแค่เห็นว่าหมวกของคุณคนนี้สวยมากเลย ผมอยากจะซื้อ กลับไปให้เพื่อนผมน่ะครับ แต่ไม่รู้ว่าคุณไปซื้อมาจากไหน?”มนต์ตรี ลองหยั่งเชิงดู เขาอยากจะเห็นใบหน้าที่อยู่ภายใต้หมวกใบนี้มาก
จารวีกุมกำปั้นของตนที่เหงื่อท่วมไปหมดไว้แน่น
ใจเต้นอย่างรุนแรง จะให้เขาเห็นไม่ได้ จะให้เขาเห็นไม่ได้..ทันใดนั้น เอง มีลมแรงพัดเข้ามา จารวีไม่มีที่ปกปิดใบหน้าแล้วโดยสิ้นเชิง หมวก ใบนั้นเดิมที่ก็อ่อนแอและบอบบางมาก แค่ถูกลมพัดไปทีหนึ่งก็ปลิวลอย ไปไกล
จารวียืนนิ่งฉงน…จารวีนึกไม่ถึงเลยว่าหมวกจะถูกลมพัดไปแล้ว เธอ นิ่งไปเล็กน้อย มนต์ตรีก้มลงไปช่วยเธอเก็บหมวกขึ้นมา ใช่แล้ว เธอลืม ไป ว่ามนต์ตรีเป็นคนที่มีมารยาทและอ่อนโยน เขาไม่มีทางที่จะรีบมอง หน้าเธอโดยไม่อดทนรอ
ในขณะที่มนต์ตรีกำลังก้มลงเก็บหมวกขึ้นมา จารวีก็ผลักยศพลออก ทันที แล้วสาวเท้าก้าวใหญ่วิ่งไปที่ห้องน้ำสาธารณะที่อยู่ข้างถนน “ฉัน ไปเข้าห้องน้ำ ขอตัวนะ…”ยศพลมองจารวีที่วิ่งไปอย่างเลินเล่อไม่คิด หน้าคิดหลัง แววตาเปลี่ยนเป็นมีความลึกซึ้ง จารวีเหมือนสติหลุดลอย หายไปในวินาทีนั้น
มนต์ตรีถือหมวกพลางมองไปที่จารวีซึ่งยืนนิ่งฉงนอยู่ในที่ไกล ๆ ยศ พลคว้าหมวกไปจากมือของเขา แล้วชำเลืองตามองโดยไร้ซึ่งความ เกรงใจ แม้แต่คำขอบคุณสักคำก็ไม่มี ยศพลเดินก้าวเท้ายาวจากไป จารวีอยู่ในห้องน้ำเป็นเวลานานมากจึงจะออกมา
ในตอนนั้น มนต์ตรีได้หายตัวไปตั้งนานแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่ายศพล ชายที่หยิ่งยโสจะยังคงยืนรอเธออยู่ที่หน้าประตู ตอนที่เห็นจารวีเดิน ออกมาก็มีสีหน้าที่ไม่ค่อยดีตามที่คิดเอาไว้
เขาจ้องจารวีแล้วอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “มานี่.”
“อะไร?”จารวีเคลื่อนตัวไปหาอย่างช้า ๆ
โดยไม่คาดคิด ยศพลนั่งยอง ๆ ช่วยเธอผูกเชือกรองเท้า เพิ่งจะวิ่งหนี มาแบบไม่คิดชีวิตจึงทำให้เชือกรองเท้าหลุดลุ่ยหมด เธอไม่เคย ตระหนัก ไม่เคยคิดมาก่อนเลยจริง ๆ ว่าคนที่ดุร้ายโหดเหี้ยมราวกับ ปีศาจจะก้มหัวให้กับเธอ ในใจรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นที่แปลกประหลาด บางทีเขาอาจจะไม่ได้ ดุร้ายเลวทรามอย่างที่เห็นอยู่ก็ได้ ความคิดของจารวีผุดขึ้นมาในสมอง ยศพลผูกเชือกรองเท้าเสร็จก็ยืนขึ้นมาแล้วจับไหล่ที่อ่อนแอของเธอไว้ แน่น
“จำไว้ด้วย ทีหลังอย่าไปอ่อย ผู้ชายคนอื่นอีก ดูซะ ฉันจะลงโทษเธอ ยังไง..”
จารวีโกรธจนชำเลืองมองเขาไปที่หนึ่ง “อ่อยตรงไหนยะ”
ยศพลยื่นมืออกไปบีบคางที่เล็กจิ๋วของเธอ จ้องเธอด้วยสายตาที่ร้อน แรงดั่งไฟลุก “ฉันบอกว่ามีก็มีสิ เธอไม่ได้รับอนุญาตให้เถียง..
“นายพูดอะไรก็ตามนั้นแหละ นายคิดว่าตัวเองเป็นฮ่องเต้ไง เป็นเด็ก ไร้ประสีประสาซะจริง..”จารวีต่อต้าน
“จารวีเธอนี่เยี่ยมจริง ๆ นับวันก็ยิ่งกล้ามากขึ้นแล้วนะ ดูท่าฉันคงไม่ ทำให้เธอฟินนานมากแล้วใช่มั้ย…
วิธีการลงโทษของยศพลคือโน้มตัวลงแล้วจุมพิตไปที่ริมฝีปากของ
เธอ
“อุ้… “จูบที่ยาวนานได้สูดลมหายใจของเธอไปจนหมด
ในตอนที่เขาค่อยๆคลายจูบ ใบหน้าเล็ก ๆของเธอแดงฝาด ภายใต้ หน้าม้าที่ยุ่งเหยิง เหมือนเป็นฤดูใบไม้ผลิและขี้อาย แววตาส่อง ประกายระยิบระยับราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า
“ฉันต้องการเธอ…”น้ำเสียงเต็มไปด้วยกามารมณ์ที่ไร้เสียง
จารวีตกใจจนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ผู้ชายคนนี้เป็นคนยังไงกัน พอ หมดวันอาทิตย์ตกดิน ไม่เพียงแค่จูบเธออย่างรุนแรง นึกไม่ถึงเลยว่ายัง คิดถึงเรื่องพวกนี้อีก ไร้ยางอายเกินไปแล้วนะ”ยศพล นายมันไม่มี มารยาทจริง ๆ ที่นี่คนเยอะขนาดนี้..”
“งั้นเหรอ งั้นพวกเราไปหาที่ที่ไม่มีคน…”ยศพลเดินหน้าไปก้าวหนึ่ง ดึง จารวีมาไว้ในอ้อมอกราวกับเหยี่ยวที่จับลูกเจี๊ยบ สายตาอันมีความ ต้องการทางเพศนั้นยิ่งเข้มข้นขึ้นทุกที
จารวีรู้สึกเสียใจภายหลังไปชั่วขณะ มาเที่ยวมัลดีฟส์ครั้งนี้ต้องเจอแต่ ฝันร้ายแน่เลย