“พี่มนต์ มันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว เรื่องราวมากมายก็เปลี่ยนไป เช่นกัน” จารวีพูดอย่างโศกเศร้า
สีหน้าแววตาที่มีความผิดหวังของมนต์ตรีค่อยๆปรากฏเพิ่มมาก ขึ้น ใช่ สิบปีเป็นช่วงเวลาที่เนิ่นนาน กลัวว่าช่วงเวลานั้นจะกลายเป็น ความว่างเปล่าไป
เขาไม่ได้อยู่เคียงข้างเธอ อาจจะมีคนอื่น…
ผ่านไปนานมาก มนต์ตรีถึงถามอย่างเย็นชา หรือว่า มี แฟนแล้วน่ะ”
นี่อาจจะเป็นเหตุผลเดียวที่เธอใช้ปฏิเสธเข้าใกล้เขาได้
จารวีนิ่งไปสักพัก เป็นแฟนเหรอ น่าจะเป็นคู่อริ หรือไม่ก็ตาม ติดบังคับเหมือนเสีย
เธอในตอนนี้ เหมือนกับว่าติดอยู่ในกระแสน้ำวนอย่างสมบูรณ์ ไม่มีทางที่จะถอนตัวเองจากความชั่วร้ายได้อีกแล้ว
เห็นจารวี พยักหน้าเหมือนเครื่องจักร สีหน้าของเขาก็เหี่ยว เฉาเหมือนดอกไม้ที่ไม่มีสี
ผ่านไประยะเวลานาน มนต์ตรีก็ยิ้มอย่างอ่อนโยนดิ่งเคย แล้วก็ เดินอ้อมไปตรงหน้าของจารวี
“ไม่เป็นไรนะ วี เพียงแค่ชอบ วีสามารถจะมาเมื่อไหร่ก็ได้ ทุก อย่างของที่นี่ออกแบบมาเพื่อ โดยเฉพาะเลย
กลัวว่าจารวีจะปฏิเสธอีก มนต์ตรีพูดเสียงอ่อนลง แล้วเริ่มพูด ต่อ 1 สิบปีที่ผ่านมานี้ นี่เปียสิ่งเดียวที่พี่ทำเพื่อวี วีช่วยรับเอาไว้ได้
จาร สายหน้ารัวๆ “ขอโทษค่ะ มนต์ วีคิดว่าต้องไปแล้ว
จารวี ตัว เตรียมจะเดินลงไปข้างล่าง
มนต์ตา นมือออกไปต่งแขนของเธอ ” วีโกรธเหรอ”
เธอโกรธเหรอ เธอยังมีคุณสมบัติที่จะโกรธเขาเหรอ พี่มนต์ท่า กับเธอซะขนาดนี้ เธอมีคุณสมบัติที่จะรับมันไว้เหรอ
พินิจพิเคราะห์อยู่นาน จารวีจึงมองไปที่มนต์ตรี ยิ้มแล้วพูดว่า ได้ยินมาว่า มีคนต้องการจะปองร้ายโจมตีบริษัทน้องวีแห่งนี้ วีคิดว่า พีมนต์มาดูแลบริหารเองดีกว่า วีกลัวว่าจะรับภาระไว้ไม่ไหว”
ความจริงแล้ว ผู้หญิงที่เพิ่งออกจากรั้วมหาวิทยาลัยกลางคัน อย่างเธอจะไปมีความสามารถดูแลบริหารจัดการอะไรได้ล่ะ
พอมนต์ตรีได้ยินเธอพูดแบบนั้น ก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ก็ได้ รอให้พี่จัดการเรื่องนี้เถอะวิวางใจเถอะ เรื่องนี้ไม่สามารถมา โจมตีพี่ได้หรอก รอหลังจากให้เรื่องนี้ผ่านไป พี่จะโอนบริษัทให้วิ เมื่อ ถึงเวลานั้นวีห้ามปฏิเสธ อีกล่ะ”
จารวีแค ม ไม่ได้แสดงกริยาโต้ตอบอะไร
บางทีเธอในเวลานั้น คงไม่ได้เป็นแบบตอนนี้
หลังจากที่ออกจากบริษัทแล้ว มนต์ตรีก็ยืนอยู่หน้าประตูรถ ” พี่ไปลงวินะ!”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ พี่คงไม่สะดวก…
ใจ เธอมีแฟนแล้ว เขาควรจะรู้นานแล้ว โลกของเธอที่มีเขา ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง กลายเป็นความไม่สะดวกไปแล้ว
ในใจมีแต่ความจําใจที่ขมขื่นนองออกมาฉับพลัน
มนต์ตรี มอย่างอ่อนโยน เขาไม่ดื้อดึงอีกต่อไป “ก็ได้ งั้นพี่ เรียกรถให้นะ”
ในความทรงจำของจารวีนั้น พี่มนต์เป็นคนที่คอยเอาใจใส อบอุ่นเสมอ เขาไม่มีทางจะทำเรื่องอะไรให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
พี่หวังว่า…ก้าวมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ คน วินักถึงคนแรกคือ
จารยิ้มและพยักหน้า ในช่วงขณะที่รถแท็กซี่ขับออกไป จา ห็นตัวกลับไปมอง น้ำตาไหลรินอย่างไม่หยุด
เมนต์ ฉันขอโทษนะ
ผ่านไปนาน จารวจึงหันกลับมา มองอย่างเงียบๆ ร่างของมนต์ ตรีในชุดสีขาวเหมือนกับว่าเป็นป้ายข้างถนนที่ยืนนิ่งตลอดเวลา
จารไม่ได้กลับไปที่ Versail Villa แต่กลับไปที่มหาวิทยาลัย เธอคํานวณเวลาไว้ดีแล้ว แต่กลับมาก็เย็นมากแล้ว ไม่เจอ
อังคณา
ช่างเถอะ ไม่ต้องรอหล่อนแล้ว จารวีเดินตรงไปยังหน้าประตู ใหญ่ของมหาวิทยาลัย
มีรถยนต์สีแดงคันหนึ่งขับผ่านมา ร่างของยศพลก็ปรากฏ ขึ้นภายใต้สายตาที่ถูกจ้องมอง ร่างที่ดูคลุ้มคลั่งนั้นทำให้จารวีใจ เครงครัดขึ้นมา
ทําเรื่องที่น่าละอายใจมา ในใจก็ยิ่งรู้สึกทรมานใจ
“จารวี เธอหายไปไหนมาน่ะ ผมรอเธอที่นี่มาชั่วโมงนึงแล้ว…
หนึ่งชั่วโมง หนึ่งชั่วโมงก่อนเธอยังอยู่ข้างกายมนต์ตรี เธอคิด ไม่ถึงจริงๆว่า ยศพลจะมารับเธอถึงหน้ามหาวิทยาลัย แบบนี้มันเป็น สิ่งที่เหนือความคาดหมายมาก
มองยศพลที่ดุร้าย จารวีหันซ้ายทีขวาที โชคดีที่เวลานั้นเป็น เวลาเข้าเรียน แม้ว่าจะมีนักเรียนเดินผ่านไปมา แต่ก็มีจำนวนไม่มากเธอรับขึ้นรถเองอย่างรวดเร็ว รับออกจาก นี่ก่อน แล้วค่อย
คุยกันอีกที
พอเห็นใบหน้ายิ้มแย้มที่หวังผลประโยชน์ของจารยศพลที่หัว ร้อนก็เริ่มผ่อนคลายไปนิดหน่อย จากนั้นก็หักพวงมาลัยขับออกไป จากมหาวิทยาลัยอย่างรวดเร็ว
“เออ ฉันกินข้าวกับอังคณาและเพื่อนที่มหาลัยแล้ว ก็ต้องมีพิธี บอกลากันหน่อยปะละ
อยจารก็นึกถึงตัวเอง พออยู่กับยศพลนานเข้า แม้แต่การ
โกหก กลายเป็นเรื่องธรรมดา
น่ากลัวจริงๆ แบบนี้แปลว่าตกต่ำลง เปล่านะ
บนใบหน้าของยศพลไร้ความรู้สึก ทันใดนั้นก็ยิ้มุมปากขึ้นมา แล้วพูดออกมาอย่างเย็นชา คงไม่ได้ไปบอกลาเพื่อนชายมาใช่มั้ย
เปล่า ไม่เลย จารรอบอย่างระมัดระวัง
บอล อยู่ดีๆนายกพูดถึงฉันแบบนี้ นายคิดว่าฉันจะเจ้าชู้เหมือ นายไป ทั้งดาวรุ่ง มีนา แล้วก็ยังมีโครต่อใครที่มัลดีฟส์อีก…
อยศพล หยุดรถ ใช้ทั้งสองมือจับคางของเธอไว้ แล้วมอง เธอด้วยสายตาปิศาจร้าย
“จารวี เธออย่าพื้นฝอยหาตะเข็บจะได้มั้ย เรื่องพวกนี้มันนานมาก แล้วเธอยังจำได้อีกรีไม่
ผู้หญิงที่รนหาที่คนนี้ ทำไมถึงไม่จำเรื่องดีๆที่เขาเคยทํา แต่กลับ จำแต่เรื่องที่ไม่ดีที่เขาทำได้ และยังขุดมาหยิบมาพูดอย่างละเอียด ชัดเจน ยังไงเขาก็ไม่ได้ติดต่อกับผู้หญิงพวกนั้นมากนานมากแล้ว
ไม่สิ ยศพลยิ้มแสยะที่มุมปากอย่างดุร้าย ยื่นแขนไปฟังกับเบาะยังบอกว่าไม่รักผมอีก ทั้งที่ผมซะขนาด
เพื่อที่จะเปลี่ยนเรื่องยศพลยกขึ้นมา จารวีก็ทําเสียงกระแอม ออกมาสอง เพื่อแสดงความไม่พอใจ
“จูบผม" ยศพลออกคำสั่งอย่างเผด็จการ
จารลมหายใจเข้าไป แล้วยื่นหน้าไปใกล้ยศพลอย่างลวกๆ
ยศพลจะปล่อยให้เธอหลุดมือไปได้ยังไง เขาใช้มือจับหน้าเธอ จูบอย่างดูดดื่ม แล้วปล่อยลมหายใจร้อนแรงของเขาออกมา
จูบที่เร่าร้อนของเขาเหมือนว่าจะดูดเอาความหอมหวานในปาก ของเธอไปหมด
แล้ว แต่ยศพลก็ใช้แขนเกี่ยวกันทันทีแล้วกดกับที่
เขาได้ลิ้มรสกลิ่นหอมระหว่างริมฝีปากและฟันของเธอ แล้ว อีก ทำให้ที่ลับของเธออ่อนนุ่มไปทั่วทุกบริเวณ
"มะ ไม่ได้นะ ตรงนี้คนเยอะ
แม้ว่ากระจกรถจะปิด แต่ที่นี่คือกลางถนน จารวีไม่หน้าหนา พอที่จะเรื่องแบบนี้ เธอหายใจและกระซิบด้วยใบหน้าที่แดง
ยศลงที่ร้อนแรงไปที่หูของเธอ
” รัก เธอจะยั่วยวนมากเกินไปแล้ว มาลองทำกันบนรถก็
ไม่เลวนะ
จารจนอยากจะมุดไปหลบที่ไหนสักแห่ง ยกแขนมา ตอกที่แข็งแกร่งของยศพล
มือใหญ่ของยศพลเอื้อมไปที่ด้านหลังของกระโปรงของ150
จบของเขาก่อนหน้า นี้ทำให้จารวีอ่อนปวกเปียก จนต้องพิงไหล่ แขนของเขา แล้วพูดออกมาเบาๆ พวกเรากลับไป….
ดูเหมือนว่ายศพลกำลังยุ่งอยู่ชิปด้านหลังของเธออยู่ จารก้ม ตัวเพื่อจะขัดขืน ทันใดนั้นก็เย็นหลังวูบวาบเพราะชิปของเธอถูกยศ
พลรูดลงมาอย่างรุนแรง
อีตาบ้านี
ศพ พ่นลมหายใจที่ร้อนแรงไปที่แผ่นหลังของเธอ พ่นยาว ตลอดไปจนถึงหัวไหล แล้วหยุดลงที่ไหปลาร้าของเธอ มือใหญ่ค่อยๆ ดึงกระโปรงออกจากแขนที่บอบบางของเธอ
ร่างกายเย็นวูบ กระโปรงถูกดึงไปกองอยู่ที่พื้น จารวีเอามือปิด หน้าอย่างอับอาย
“ฟินมั้ย” ยศพลกดเธอบนที่นั่งแล้วถามอย่างร้อนแรง
จารวีละเอียดเป็นผุยผงไปนานแล้ว ทั้งร่างอ่อนระทวย เปล่ง เสียงเล็กแหลมออกมาจากริมฝีปากแดงสีกุหลาบขอความเห็นใจจาก ยศพล
พอเสร็จภารกิจ จารวี ผล็อยหลับไปด้วยความสับสนและ
เหนื่อยล้า
ตอนลงจากรถ เธอรู้สึกได้ว่ามีแขนที่แข็งแรงของยศพลอุ้มเธอ ลงมาจากรถ แล้วตรงไปที่คฤหาสน์
เสื้อสูทตัวนอกของเขาคลุมอยู่บนร่างของเธอ กลิ่นที่แตะ ปลายจมูกเธอมีแต่กลิ่นกายของเขา
“Annu!”
ระหว่างทางคนใช้ งอตัวและโค้งคํานับด้วยความเคารพ
บศพลถอนหายใจอย่างแผ่วเบาแล้วอุ้มจารเข้าไปห้องนอน
เราอุ้มเธอตรงไปที่ห้องอาบน้ำ น้ำอุ่นค่อยๆ ท่วมตัวของจารวี ความรู้สึกสบายแผ่จากรูขุมขนและยังแพร่กระจายไปทั่วแขน
ใหญ่
จารวีลืมตาที่มองสลัวขึ้นมา ภาพของยศพลก็สะท้อนอยู่ใน สายตาของเธอ
ก้าคนคนนี้ คือ มนต์ของเธอ คงจะดีกว่านี้
เสียงมือถือดังขึ้น ยศพลเห็นว่าจารวีลืมตาแล้ว เขาก็ยืนขึ้น แช่น้ำ ฟองไปสักพักนะ”
จาร พยักหน้าแล้ว ยศพลถือมือถือเดินออกไป
“ท่านประธานยศพล เกิดเรื่องไม่ค่อยดีค่ะ..”เสียงของ ทศนีย์ดังลอดออกมา
" ;อะไรนะ"
“เอ๋อ ดิฉันส่งคนเข้าไปทำงานที่บริษัทสีสันจารวี แต่นึกไม่ถึงว่า พอเข้าไปบริษัทยังไม่ข้ามวัน ก็ถูกเด้งไปที่อื่นอย่างไม่รู้สาเหตุค่ะ”
“เธอจะบอกว่าพวกมันสงสัยอยู่เหรอ
“ใช่ค่ะ ดิฉันสงสัยว่ามีใครบางคนเปิดเผยความลับของพวกเรา
“จะเป็นไปได้ยังไง เรื่องนี้มีแค่ผมกับเธอที่รู้นะ ไปสืบมาเดี๋ยวนี้”
ยศพลตวาดอย่างโมโห มนต์ตรีคนนั้นดูท่าจะจัดการได้ยาก ไม่ นึกว่าจะรู้แผนของเขาได้ทะลุปรุโปร่งขนาดนี้“อ้อ บางทีพวกมันอาจนจะระแวงและไหวตัวทันมากกว่านี้! ฉัน ได้ยินมาว่าประธานบริษัทจะคัดเลือกพนักงานของบริษัทน้อง ด้วย ตนเอง ผู้ออกแบบทั้งหมดก็ถูกประธานบริษัทเอาออกเองค่ะ…
แววตาของยศพลมีประกายออกมาอย่างเยือกเย็น
เขา ยศพลคนนี้เป็นผู้กำหนดกฎของเกมในตลาดมาโดยตลอด นักลงทุนรายใหม่ที่เพิ่งเข้ามาลงทุนในตลาดในประเทศน้อยกว่าครึ่ง หนึ่ง จะสามารถก้าวกระโดดได้กี่วัน?
“ไปตรวจสอบเรื่องนี้มาให้แน่ชัด แล้วก็ ไม่ต้องส่งคนไปแล้ว เรา จะชื่อบริษัทนี้
ท่านประธานคะ ราคาหุ้นของพวกเขาสูงมากเลยนะคะ
“คิดวิธีสิ ใช้สมองซะสิ พรุ่งนี้ก่อนเริ่มงาน ผมต้องเห็นแผนการที่ สมบูรณ์แบบสามแผนการขึ้นไป
“ค่ะ รับทราบค่ะ ฉันจะไปทําเดี๋ยวนี้ค่ะ” ทัศนีย์ตัดสายโทรศัพท์
บริษัทของเขาเป็นบริษัทอินเตอร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่รวม นักออกแบบชั้นยอดของโลกเอาไว้และมีผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุด เธอจะโจมตีบริษัทนี้ได้ยังไงล่ะ
ใช่แล้ว นักออกแบบ ทัศนีย์ตาเป็นประกาย ในขณะนี้มีเพียง ทางนี้เท่านั้นที่สามารถผ่านไปได้
ยศพลวางหู แล้วเดินก้าวเท้ายาวไปที่ห้องอาบน้ำ นึกไม่ถึงว่า จารวีจะนอนพิงขอบอ่างน้ำ
ใบหน้าเล็ก ๆ ยังเต็มไปด้วยร่องรอยหลังการร่วมรัก คอก็เต็มไป ด้วยรอยดูด น่าสะดุดตาเป็นอย่างมาก
บศพลยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย นับผู้หญิงคนนี้ง่วงมากขนาดนั้น
เลย ไงนะ
เจ็บเท้า
ท่ามกลางการหลับฝัน ปากของจารฟ้มฟ้าออกมาอย่างแผ่วเบา
ร่างสูงของยศพลนั่งยองลงอย่างช้า ๆ มือขนาดใหญ่จับเท้า ขาวนวลเล็ก ๆ ของเธอ บีบนวดไปมาช้าๆด้วยแรงที่พอเหมาะกำลังดี และเต็มไปด้วยความรัก
จารวี เธอนี่โง่มากจริงๆ แม้แต่ตัวเองก็ยังดูแลไม่ได้
แค่ออกไปบอกลาเพื่อนร่วมชั้น ก็ไม่นึกว่าเท้าจะบาดเจ็บได้ ดู แล้วคงปล่อยเธอให้ไปไหนอย่างง่ายดายไม่ได้แล้ว