บทที่ 857 ผู้ช่วยพิเศษ
แต่ตอนนี้ เขาทำได้เพียงแต่อดทนเอาไว้
……
ถังเทียนจื๋อกำลังมองเป่หมิงยี่เฟิงด้วยสายตาที่หรี่เล็กลง หลังจากนั้นก็ได้ทำตัวอ่อนโยนขึ้น “คุณชายยี่เฟิง ความจริงฉันก็ไม่อยากที่จะต้องมากดดันควบคุมคุณหรอกนะ เพียงแต่ภายภาคหน้าคุณทำให้พวกเราพอใจ พวกเราจะให้คุณให้สิ่งที่คุณอยากได้ ทำการค้าจะต้องสมัครสมานกัน ไม่งั้นทั้งสองฝ่ายก็คงจะต้องแตกเป็นเสี่ยง ๆ”
พอพูดเสร็จ แล้วก็ได้มองไปรอบ ๆ ห้องทำงานของเป่หมิงยี่เฟิง “ฉันเพิ่งมาที่นี่ครั้งแรก ดูไปแล้วห้องทำงานคุณนี่สง่างามจริง ๆ หุ้นรายใหญ่รายที่สองยังมีความงดงามเช่นนี้ หากเทียบกับเป่หมิงโม่แล้วคงจะสุดยอดกว่านี้แน่นอน”
เป่หมิงยี่เฟิงไม่มีเวลาที่จะต้องมาคุยไร้สาระกับเขา ก็เหมือนกำลังคิดอยู่ว่าจะเอาตำแหน่งอะไรให้เขาดี หลังจากนั้นก็ค่อยไล่เขาออกไป
“ฉันไม่รู้ว่าคุณมาครั้งนี้มีจุดประสงค์อะไร ดังนั้นฉันก็เลยไม่ชัดเจนว่าจะให้ตำแหน่งอะไรกับคุณ ไม่รู้ว่าคุณชัดเจนในจุดประสงค์ของคุณแล้วหรือยัง ”
ถังเทียนจื๋อก็ได้เดินไปรอบ ๆ ห้องทำงาน “ฉันดูไปแล้วที่นี่ก็ดีมากเลยนะ ห้องกว้างดี และยังเห็นบรรยายกาศข้างล่างอีกด้วย”
เป่หมิงยี่เฟิงฟังถึงตรงนี้ สายตาก็บีบเล็กลง แล้วก็ได้กำมือแน่น ๆ ของเขา พร้อมกับกัดฟัน พูดออกมาทีละคำว่า “คุณชอบห้องทำงานของผมรึ ?”
ถังเทียนจื๋อมองออกมา หากเขาทำการเสียดสีอีกสักนิดหน่อย ก็ยากที่จะมั่นใจว่าเขาจะไม่พุ่งเข้ามาจากทางด้านหลัง มาต่อยตีกับตัวเอง ต่อให้ตัวเองไม่กลัวเขา แต่ดูท่าทางที่อ่อนแออย่างเขา ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตัวเองเลย
“เหอะ ๆ ประธานเป่หมิงอย่าเพิ่งโมโห ฉันเพียงแต่ล้อเล่นกับคุณแค่นั้นเอง ต่อให้คุณอยากจะให้ฉันเอง ฉันก็ไม่เอาหรอก ฉันไม่ชอบการพูดคุยกับพวกนักธุรกิจที่จะจ้องเอาแต่ผลประโยชน์ ฉันได้ยินมาว่าเป่หมิงโม่ไม่ใช่มีผู้ช่วยพิเศษสองคนหรือ ? งั้นฉันก็เป็นผู้ช่วยพิเศษให้กับคุณก็แล้วกัน” ถังเทียนจื๋อพูดออกมา
ผู้ช่วยพิเศษตำแหน่งนี้เหมาะสมกับเขามากมาย สบาย ๆ ดูจากภายนอกแล้วเหมือนจะถูกเป่หมิงยี่เฟิงควบคุมอยู่ แต่ความจริงแล้วเป่หมิงยี่เฟิงนั่นเองที่อยู่ในการควบคุมดูแลของเขา
และตำแหน่งนี้ ทำให้เขาไปมาในบริษัทอย่างสะดวกไร้การปิดกั้น และยังสามารถติดสินบนกับคนในบริษัทได้ด้วย
เป่หมิงยี่เฟิงพยักหน้า “ในเมื่อคุณชัดเจนในตำแหน่งของคุณ ฉันก็ไม่มีเหตุผลอะไรไม่ให้คุณ สักครู่ฉันจะให้คนมาจัดการเรื่องโต๊ะทำงานของคุณ”
เขาพูดกับถังเทียนจื๋อเหมือนจะไม่ค่อยพอใจ ไม่อยากจะเจอเขา แต่ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ยังจะให้เขาอยู่ในสายตาของตัวเอง จุดประสงค์ก็คือจะได้เห็นการกระทำของเขาอย่างตลอดเวลา ไม่อยากจะให้เขามาทำอะไรไม่ดีไม่ร้ายกับตัวเอง
ถังเทียนจื๋อพยักหน้า “เอาล่ะ ในเมื่อประธานเป่หมิงจัดการให้แล้ว ฉันก็จะไม่อ้อมค้อมอะไรมากมาย” ขณะที่พูด เขาก็ได้ชี้มือไปยังจุดตรงที่ติดกับหน้าต่าง “ถึงตอนนั้นก็จัดที่ตรงนั้นให้ผมก็แล้วกัน ฉันชอบเวลาที่ว่าง ๆ มองดูวิวทิวทัศน์น่ะ”
หลังจากที่เรื่องราวจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถังเทียนจื๋อก็ได้เดินมายังด้านหน้าของเป่หมิงยี่เฟิง “ประธานเป่หมิง ฉันมาที่นี่ครั้งแรก ควรจะต้องไปที่ห้องทำงานของประธานก่อนไหม เพื่อไปรายงานก่อน เพราะว่าฉันกับเธอก็มีความสัมพันธ์กับเขาอยู่บ้าง หากไม่พอทักทายก่อน ก็คงจะดูไม่เหมาะหรอกนะ”
เป่หมิงยี่เฟิงโบกมือให้กับเขา “หลังจากนี้คุณอยากจะทำอะไร ไม่ต้องมาขออนุญาตจากฉัน ภายนอกดูเหมือนฉันจะเป็นผู้นำคุณ แต่ฉันก็ยังถูกคุณควบคุมอยู่ดี หากไม่มีคนอื่นอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น”
……
เช้าขึ้นมา กู้ฮอนก็รู้สึกถึงใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว รู้สึกเหมือนจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา
ตอนที่อยู่ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นแอนนิ ลั่วเฉียวและลูกอีกสามคน ก็เหมือนแปลก ๆ ไป
แต่ดูไปแล้วทุกอย่างก็เหมือนเดิมทุกอย่าง
……
ห้องทำงานประธานบริษัทตระกูลเป่หมิง
ต่อกับเอกสารที่เยอะแยะมากมาย ถึงแม้ส่วนใหญ่จะเป็นฉิงฮัวที่จัดการให้ทุกอย่าง แต่กู้ฮอนก็รู้สึกว่าอยากจะช่วยแต่ก็ไม่ไหว
ตอนนี้ ฉิงฮัวก็ได้ถือกาแฟเข้ามา แล้วก็วางไว้บนโต๊ะของกู้ฮอน “คุณหญิง วันนี้เห็นสีหน้าของคุณไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก วันนี้ก็พักผ่อนก่อนเถอะ เรื่องต่าง ๆ ให้ผมมาจัดการเถอะ”
กู้ฮฮนหยิบกาแฟมา เงยหน้ายิ้มให้กับฉิงฮัว “ฉันเพิ่งจะมาทำงานแทนประธาน และยังมีคุณคอยช่วยเหลือ ฉันก็ยังยุ่งมากมายขนาดนี้ ดูไปแล้วฉันนี่ไม่ควรจะมาเป็นประธานเลยนะ ไม่งั้นคุณก็หาเวลาไปถามเขาสักหน่อย ให้เขารีบหาคนมาแทนที่ฉัสักที”
ฉิงฮัวได้ยินเธอพูดเหมือนกับจะไปต่อไม่ไหว แต่นี่ก็คือส่วนที่คาดการณ์เอาไว้ “คุณหญิง ขอโทษที่ผมต้องพูดออกมา เรื่องนี้หากให้ผมไปพูดแล้วล่ะก็ เจ้านายคงจะไม่เห็นด้วยเลย มีเพียงแต่คุณไปเองเท่านั้น ไม่แน่อาจจะยอมรับก็ได้นะ”
คิดไปคิดมา ฉิงฮัวก็พูดไม่มีผิด เรื่องนี้ก็จะต้องเป็นตัวเองเท่านั้น เขาพยักหน้า “เอาล่ะ ฉันก็จะไปพูดกับเขา”
พอพูดเสร็จ เธอลุกขึ้นแล้วก็จัดการกับของขวัญ สะพายกระเป๋าแล้วกำลังจะเดินออกไปจากห้องทำงาน
ตอนนี้ เปิดประตูห้องทำงานก็เปิดขึ้นมา มีคนเข้ามาจากข้างนอก “ประธานกู้ คุณเตรียมตัวจะไปไหนน่ะ ?”
กู้ฮอนขมวดคิ้ว ตอนแรกไม่ชัดเจนว่าเขาเป็นใคร แต่ฟังเสียงแล้วรู้สึกคุ้นหูมากมาย
เธอเงยหน้ามองดีดีอีกหนึ่งครั้ง แล้วก็เห็นคนที่มานั้นรู้สึกถึงความตกใจเป็นอย่างยิ่ง “ทำไมเป็นคุณ คุณมาที่นี่ทำไม ?”
ถังเทียนจื๋อเห็นกู้ฮอนแล้วยิ้มออกมา “ประธานกู้ ฉันมาที่นี่ก็มาเป็นพนักงานใหม่ในตระกูลเป่หมิงนั่นแหละ ก็จะต้องมารายงานตัวต่อประธาน ”
กู้ฮอนและฉิงฮัวก็รู้สึกตกใจที่สุด
“ขอโทษด้วยนะคะคุณชายถัง ฉันไม่รู้ว่าบุคลากรในบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง คุณเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า?”
ถังเทียนจื๋อยิ้มออกมา “ประธานกู้ฮอนทำงานเยอะแยะมากมายทุกวัน เรื่องเล็กแบบนี้จะต้องรบกวนทำไมล่ะ คนอื่นก็ย่อมทำงานแทนกันได้ จุดประสงค์ที่ฉันมาฉันก็พูดให้กับคุณแล้ว ฉันมารายงานตัวเฉย ๆ ไม่มีความหมายอื่นใด ในเมื่อประธานกู้ฮอนยังมีงานอื่นที่จะต้องทำ ฉันก็ไม่รบกวนแล้ว ขอลาก่อน”
พอพูดเสร็จ เขาหันกลับไปและเปิดประตูเดินออกไป แต่เมื่อเขาเพิ่งจะเดินออกจากห้องทำงานไป เขาก็ได้หันกลับมาพูดกับกู้ฮอนว่า “อ๋อ ฉันลืมบอกคุณไป เป่หมิงยี่เฟิงเป็นหัวหน้าของผมนะ ฉันเป็นคนที่เขาเชิญให้มาเป็นผู้ช่วยพิเศษ หากมีเรื่องอะไรแล้วล่ะก็ คุณหรือผู้ช่วยฉิงฮัว ก็สามารถมาหาฉันได้เลย ”
หลังจากที่ถังเทียนจื๋อไปแล้ว กู้ฮฮนและฉิงฮัวก็ได้ทำการขมวดคิ้ว การปรากฏตัวถังเทียนจื๋อในตระกูลเป่หมิงก็มีสองด้าน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งอยู่ยิ่งร้อนแรงมากยิ่งขึ้น
“คุณหญิง ตอนนี้เขาและเป่หมิงยี่เฟิงเป็นพวกเดียวกันแล้ว เขามาที่นี่มีจุดประสงค์อะไรกัน ฉิงฮัวเหมือนจะมองไม่ออกถึงความคิดของเขา”
แต่สำหรับข้อสงสัยของฉิงฮัว ในใจของกู้ฮอนชัดเจนมากมาย
……
กู้ฮอนรู้สึกว่าการปรากฏตัวของถังเทียนจื๋อ เบื้องหลังของเขาน่าจะเป็นฝีมือของหลี่เชิน ถึงไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของพวกเขาคืออะไร แต่แน่นอนว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของแม่อย่างแน่นอน
เดิมทีเธอคิดจะไปหาเป่หมิงโม่ แต่ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา เธอก็ได้แต่เปลี่ยนความคิดของตัวเอง
หันหลังกลับมานั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเอง หลังจากนั้นพูดกับฉิงฮัวว่า “คุณไปเชิญเป่หมิงยี่เฟิงให้ฉันหน่อย ฉันมีเรื่องจะคุยกับเขา”
ฉิงฮัวพยักหน้า แล้วก็ออกไป
……
ถังเทียนจื๋อออกไปแล้ว เป่หมิงยี่เฟิงก็นับว่าสบายใจไปอีกขั้น
แต่ไม่ได้นานสักเท่าไหร่ เสียงเคาะประตูห้องทำงานก็ดังขึ้นมาอีก ฉิงฮัวเดินเข้ามา
เป่หมิงยี่เฟิงได้จัดการกับความรู้สึกตัวเอง แล้วก็ทำตัวเหมือนไม่มีอะไร “ผู้ช่วยฉิงฮัว วันธรรมดาไม่ค่อยจะเห็นเงาของคุณเลยนะ ทำไมวันนี้ถึงมาหาถึงที่ได้เลยล่ะ ? หากฉันจำไม่ผิดแล้วล่ะก็ ที่นี่เหมือนกับไม่ใช่ขอบเขตในการจัดการดูแลของคุณใช่ไหม ”
“คุณชายยี่เฟิง ฉันมาที่นี่คือเชิญให้คุณไปพบกับคุณหญิงสักรอบหนึ่ง” ฉิงฮัวไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ถังเทียนจื๋อไปหา
“ที่แท้กู้ฮอนอยากจะพบฉันหรือ งั้นฉันจะต้องไปแล้วล่ะ” เป่หมิงยี่เฟิงลุกขึ้นมา แล้วก็จัดการเสื้อผ้าตัวเอง พูดกับฉิงฮัวว่า “เชิญนำทางเลย”
ตลอดระหว่างทาง ของคนไม่ได้พูดอะไรกันมากมาย
รวดเร็วมาก ก็ได้มาถึงห้องทำงานของประธาน
ฉิงฮัวได้เคาะประตูเบา ๆ สองครั้ง แล้วเปิดประตูออกมา “คุณหญิง คุณชายยี่เฟิงมาแล้ว”
พอพูดเสร็จ เขาก็ได้ใช้ภาษามือในการเชิญเป่หมิงยี่เฟิงเข้ามา
เป่หมิงยี่เฟิงพกร อยยิ้มแล้วเดินเข้ามา “สวัสดี ประธานกู้ฮอน ไม่ทราบว่าที่ให้ผู้ช่วยพิเศษฉิงฮัวเรียกผมขึ้นมา มีเรื่องอะไรหรือ ? ”
กู้ฮอนใช้มือชี้ไปยังที่โซฟา “เชิญหัวหน้าเป่หมิงนั่งก่อน”
เป่หมิงยี่เฟิงส่ายมือ “ประธานกู้ พวกเรารู้จักกันมานานแล้ว ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้หรอก”
กู้ฮอนเห็นเขาพูดเช่นนี้ ก็ไม่จำเป็นจะต้องมีอะไรปิดบังกันอีกแล้ว “หัวหน้าเป่หมิง ได้ยินมาว่าคุณรับสมัครผู้ช่วยพิเศษ มีเรื่องนี้ใช่ไหม ?”
เป่หมิงยี่เฟิงฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว แต่เขาก็ยังคงรอยยิ้มอยู่ “ไม่คิดว่าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ ก็ต้องตกใจไปถึงประธานกู้ เดิมทีเรื่องนี้ฉันไม่มีความคิดที่จะบอกคุณ เพราะว่าฉันรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องของแผนกเรา และก็ไม่ได้ส่งผลกระทบให้กับทั้งบริษัท ก็เหมือนกับคุณอาสองและฉิงฮัวในตอนแรก เพื่อให้ตัวเองไม่ถูกเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มาส่งผลกระทบกับเรื่องใหญ่ ๆ น่ะ”
คำพูดของเป่หมิงยี่เฟิง ทำให้ฉิงฮัวไม่อยากจะฟังเลย “คุณชายยี่เฟิง ความหมายของคุณคือสิ่งที่ผมและคุณหญิงทำมันคือเรื่องเล็กน้อยหรือ ? ”
“ผู้ช่วยฉิงฮัว คุณเข้าใจผิดแล้ว คนที่ฉันหาจะมาเปรียบเทียบอะไรกับพวกคุณได้ล่ะ พวกคุณคือคนหนึ่งดูแลบริษัทGT อีกคนหนึ่งก็ดูแลบริษัทตระกูลเป่หมิง ก็ล้วนเป็นส่วนสำคัญต่อตระกูลเป่หมิงทั้งหมด หากพวกคุณคิดว่ามันคือเรื่องเล็กแล้วล่ะก็ งั้นพวกเราที่เป็นหัวหน้างานต่าง ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องที่เล็กมาก ๆ เลยสิ หากเป็นเช่นนี้ ตระกูลเป่หมิงยังจะต้องการเราไปเพื่ออะไรล่ะ ? ก็ลาออกไปเลยเสียจะดีกว่า ใช่ไหมล่ะ ประธานกู้ ?”
เป่หมิงยี่เฟิงกับวาทศิลป์ที่ล้ำเลิศ ทำให้กู้ฮอนไม่อยากจะพูดอะไรกับเขาอีก แต่เรื่องของถังเทียนจื๋อ จะต้องพูดคุยกับเขาให้ชัดเจน
“ยี่เฟิง ฉันคิดว่าพวกเรามีเรื่องที่จะต้องคุยกับสักหน่อย อย่าทำท่าทางที่คนระดับสูงคุยกับระดับล่างเลย เพียงแต่อยากจะถามอะไรบางอย่างจากคุณ คุณเข้าใจผู้ช่วยของคุณคนใหม่แค่ไหนกัน ?”
……
เมื่อเผชิญกับคำถามของกู้ฮอน เป่หมิงยี่เฟิงก็ชัดเจนยิ่งกว่าอื่นใดเสียอีก เขาเข้าใจมากกว่าที่กู้ฮอนเข้าใจว่าถังเทียนจื๋อคนนี้มีคนที่เป็นเบื้องหลังให้กับเขา
แต่ตอนนี้เขากลับกลายเป็นคนใบ้ มีความทุกข์ที่พูดออกมาไม่ได้เลย
