บทที่727 เจ้านายกับลูกน้อง
ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเด็กๆ เป็นช่วงที่กู้ฮอนสามารถปล่อยวางภาระทั้งหมดได้มากที่สุด โดยฉะเพราะในสถานการณ์เช่นนี้ ที่เธอต้องการใครสักคนเป็นที่เพิ่งปล่อยวางความหดหู่ที่บอกไม่ถูกในใจ
แสงไฟสว่างไสวภายในคฤหัสถ์อาคารDของเกาะหูซิน ผู้อำนวยการนั่งอยู่บนโซฟาเพียงลำพัง ด้วยทีท่าง้างขาออกกว้าง มือหนาที่ดูมีอำนาจวางลงบนโซฟา พร้อมหลับตาลงทิ้งตัวลงกับเบาะ ดูผ่อนคลายอย่างยิ่ง
เสียงดนตรีอันแปลกประหลาดดังขึ้นภายในห้อง เพียงแต่ข้างกายเขาขาดบุคคลที่คอยโค้งคำนับ รับคำสั่งอย่างเสี่ยวเฉิน
หลายวันมานี้เขาไม่ค่อยได้ออกไปไหน แก้นิสัยชอบเที่ยวเด็ดดอกไม้ริมทาง เขาอดใจละเลิกอย่างเด็ดขาด
แม้เรื่องราวคราวก่อนจะดูมีบางสิ่งแอบแฝง แต่หลายวันมานี้ผ่านการตรวจสอบกลับไม่พบร่องรอยใดๆทั้งสิ้น
ต้องยกความดีความชอบให้กับผู้อยู่เบื้องหลังของเขา ช่วงที่เขาเกิดเรื่อง เขาได้รับการชี้แนะ เขาทำตามคำชี้แนะนั้นอย่างเคร่งครัด เขาจึงสามารถรอดพ้นการแผนการเล็กๆนี้อย่างฉิวเฉียด
เขาสั่งให้เสี่ยวเฉินหาข้ออ้างออกห่างจากเรื่องวุ่นวายพวกนี้
ในตอนนี้ เขาอยู่เพียงลำพังในคฤหัสถ์อันกว้างใหญ่ รู้สึกหนาวเหน็บเล็กน้อย แต่กลับผ่อนคลายเสียยิ่ง
“ก๊อกก๊อก…” เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เสี่ยวเฉิน ไปเปิด…..” ผู้อำนวยการโกวคุ้นชินกับการมีคนคอยรับใช้ เขายังคงไม่คุ้นเคยนักกับชีวิตเพียงลำพัง
ยังไม่ทันขาดคำ เขาลืมตาขึ้น กระทั่งเขารู้สึกตัวว่าในนี้ไร้ปฏิกิริยาจากผู้อื่นอีกต่อไปแล้ว
คิดได้เช่นนั้นเขาดีดตัวลุกขึ้นจากโซฟา เขาจัดเสื้อผ้าตนให้เข้าที่ก่อนมุ่งตรงไปยังประตู
เมื่อเขาเปิดประตู พบเพียงชายปริศนายืนอยู่ด้านนอก
มือข้างหนึ่งของเขายันขอบประตูเอาไว้อย่างเป็นกันเอง อีกข้างหยิบไฟเช็กขึ้นจุดบุหรี่ที่คีบไว้มุมปาก
ผู้อำนวยการไม่สะทกกับการมาเยือนของแขกที่ไม่ได้รับเชิญ แต่กลับทำสีหน้าราวหนุ่มน้อยไร้เดียงสา : “คุณถัง ลมอะไรพัดให้คุณมาที่นี่ได้ ทำไมไม่แจ้งก่อนล่วงหน้า ผมจะได้จัดการเตรียมการต้อนรับคุณ เชิญเข้ามาก่อน เชิญครับ”
ถังเทียนจื๋อไม่รีบเร่งเข้าไปด้านใน เพียงแค่สูบเอาควันบุหรี่เข้าปอดช้าๆ เขาส่ายหน้าพร้อยเผยสีหน้าหยิ่งทะนงเพ่งไปที่ผู้อำนวยการโกว : “เห็นสีหน้าที่ฉายแสงสีแดงฉาน หลายวันมานี้ชีวิตคุณคงไม่เลว”
ผู้อำนวยการเผยสีหน้าลำบากใจ : “คุณถัง หลายวันมานี้ แค่พวกนักตรวจสอบก็มาหลายรอบแล้ว คำพูดเดิมซ้ำไปซ้ำมา แถมคุณยังให้ผมจัดการส่งตัวเสี่ยวหลี่ไปที่อื่น ตอนนี้ในบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ มีเพียงผมอยู่คนเดียวเท่านั้น”
เขาเอ่ย พลางมุ่งตรงไปข้างหน้า พาถังเทียนจื๋อเดินเข้าไปด้านใน
“คุณอยู่คนเดียวอย่างสงบที่นี่ได้หรือ? สงสัยที่นี่คงเต็มไปด้วยเสียงเพลงทุกคืนสินะ” ถังเทียนจื๋อเอ่ย พร้อมขยี้บุหรี่กับพื้นหิน
“ขนาดนี้แล้ว ผมกล้าทำอะไรแบบนั้นซะที่ไหน ฟ้าดินเป็นพยาน หลายวันมานี้ผมอึดอัดจะแย่” ผู้อำนวยการโกวหยุดฝีเท้าลง หันหลังส่งสายตาเศร้าหมองใส่ถังเทียนจื๋อ“คุณถัง ผมต้องรอไปอีกนานแค่ไหน?”
ถังเทียนจื๋อจับจ้องใบหน้าของเขา พร้อมส่ายหน้าอย่างไร้หนทาง เขาเบื่อกับการต้องเข้าสังคมกับคนแบบนี้ที่สุด มีใจโจรแต่กลับไร้ความกล้าเยี่ยงโจร ทำอะไรก็กลัวหน้ากังวลหลังไปเสียหมด คนแบบนี้ยากนักที่จะทำการใหญ่
เขาเดินผ่านผู้อำนวยการโกว มุ่งตรงไปยังห้องโถงรับแขก นั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกับที่ผู้อำนวยการโกวนั่งเมื่อครู่
ผู้อำนวยการเสมือนสุนัขตัวหนึ่ง ที่เดินตามหลังเขาเข้าไปในห้องโถงรับแขก พร้อมนั่งลงบนโซฟาอีกด้าน
“ผู้อำนวยการโกว ที่ผมมาในวันนี้ เพื่อมาบอกอะไรบางอย่างกับคุณ ช่วงเวลาอันแสนเข็ญของคุณกำลังจะสิ้นสุดลง” ถังเทียนจื๋อเอ่ย พร้อมขยี้บุหรี่กับที่เขี่ยบุหรี่
เมื่อผู้อำนวยการโกวได้ยินเช่นนั้น สายตาของเขาระยับส่องแสง เขาขยับเคลื่อนกายไปทางถังเทียนจื๋อ เขาแทบยกโซฟาไปด้วย : “คุณถัง นี่คุณพูดจริงหรือ เมื่อไหร่กัน?”
ถังเทียนจื๋อเพ่งสายตาไปยังเขา ราวคนไม่เอาถ่าน : “วันศุกร์หน้า เพื่อหลีกเลี่ยงฝันร้ายอีกยาวนาน เราตัดสินใจเปิดศาลพิจารณาคดีก่อนกำหนด”
ผู้อำนวยการโกวขมวดคิ้วเป็นปม : “อืม…..คุณถัง นี่มันเพราะอะไร? ยื้อคดีนี้ไปเรื่อยๆเป็นแผนการของด้านบนตั้งแต่แรกไม่ใช่หรือ? ทำไมกลับ…..”
“ผู้อำนวยการโกว การรู้เยอะไม่ได้ดีต่อตัวคุณหลอกนะ ทุกก้าวที่เราเดินผ่านการไตร่ตรองอย่างละเอียดถี่ถ้วน คุณมีหน้าที่ทำตามก็พอ”
“ครับ ครับ” ผู้อำนวยการโกวเห็นว่าน้ำเสียงถังเทียนจื๋อปะปนไปด้วยความไม่พอใจ เขาพยักหน้ารับอย่างร้อนรน
เผชิญหน้ากับนายท่านนี้ ตนกล้าทำตัวเป็นผู้สูงศักดิ์เหมือนเก่าที่ไหน เขาทำได้เพียงโค้งคำนับเป็นผู้ต่ำต้อยเท่านั้น
“ตืดตืด…..”เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ตรงข้ามกับเครื่องชงน้ำชาข้างหน้าถังเทียนจื๋อดังขึ้น
ผู้อำนวยการโกวยกโทรศัพท์ขึ้นอย่างรีบเร่ง พร้อมเอ่ยกับถังเทียนจื๋อด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “คุณถัง ต้องขอโทษด้วย”
จบคำเขายกโทรศัพท์ขึ้นดูข้อความที่แสดงบนหน้าจอ คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้ากันเป็นปม จากนั้นจึงกดปุ่มวางสาย ก่อนวางกลับไปยังที่เดิม
ถังเทียนจื๋อ เพ่งพินิจผู้อำนวยการ : “คุณต้องใช้เวลาในช่วงนี้…..”
ยังไม่ทันที่เขาได้เอ่ยจบประโยค เจ้าโทรศัพท์เกิดสั่นสะเทือนขึ้นมาอีกครั้ง
ผู้อำนวยการโกวรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้น ตัวอักษรที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ยังคงเป็นดั่งเก่า ในขณะที่เขาเอื้อมมือเตรียมปัดทิ้งนั้น ถังเทียนจื๋อเอ่ยขึ้น : “ผมว่าคุณรับโทรศัพท์ก่อนเถอะ ไม่อย่างนั้นผมว่าคุณไม่มีกะจิตกะใจฟังในสิ่งที่ผมพูดหลอก แถมโทรศัพท์ยังจะดังต่อเนื่องอีก”
ผู้อำนวยการโกวพยักหน้า ก่อนรับโทรศัพท์ พร้อมหันหลังเดินออกจากบริเวณโซฟา ท่าทีเสมือนทาสผู้ต่ำต้อย เปลี่ยนไปราวผู้กุมบังเหียนทันที : “โทรมาทำไม รู้ไหมว่าฉันยุ่งมาก”
ถังเทียนจื๋อจับจ้องมองทีท่าที่เปลี่ยนไปไวอย่างกับอะไรดี ที่แสดงทีท่าเบื่อหน่าย
ขณะเดียวกัน เขาได้ยินเสียงของผู้หญิงที่ดังเล็ดลอดออกจากโทรศัพท์ : “ผู้อำนวยการโกว หากฉันไม่มีเรื่องอะไรฉันก็ไม่อยากรบกวนคุณหลอกนะ…..”
สำหรับถังเทียนจื๋อ เขาไม่มีความทรงจำทรงดีๆเกี่ยวกับผู้หญิงอยู่เลย ยกเว้นกู้ฮอนเพียงคนเดียวเท่านั้น
สำหรับเขาแล้ว การปรากฏตัวของผู้หญิงคือปัญหา แถมยังทำให้ทุกอย่างพังทลายลงได้
อีกด้าน ผู้อำนวยการโกวยังคงถือโทรศัพท์พร้อสตอบรับประโยค : “ อืม…..อืม…..ฉันรู้แล้ว อะไรนะ! เธอจะบอกว่า…..”
ถังเทียนจื๋อไม่อยากได้ยินอีกต่อไป เขาหยิบรีโมทที่วางบนโต๊ะขึ้น ก่อนกดเปิดโทรทัศน์
เวลาผ่านไปสักพัก น้ำเสียงของผู้อำนวยการโกวอ่อนลง : “ดี ดี เรื่องนี้เธอจัดการได้ดีมาก ช่วงนี้ไม่ต้องมาหาฉันสักพัก แล้วฉันจะหาเวลาว่างไปปลอบใจเธอ ฮ่าฮ่า…..”
ประโยคชวนอ้วกเสียจริง ถังเทียนจื๋อขมวดคิ้วเข้าหากันอีกครั้ง
ผู้อำนวยการโกววางหูโทรศัพท์ พร้อมปิดเครื่องด้วยความเกรงใจก่อนวางลงบนโต๊ะ : “คุณถัง ต้องขอโทษด้วยจริงๆ”
“ผมว่านะเหล่ากัว ทางที่ดีช่วงนี้คุณควรอยู่เฉยๆนะ ไม่อย่างนั้นผมไม่รับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น” ขณะนี้ถังเทียนจื๋อดูไม่พอใจเอาอย่างมาก
“ผมจะระวัง แต่ว่า จากสายนี้ผมได้ข้อมูลน่าเชื่อถือมา : “กู้ฮอนเจ้าของบริษัทเป่หมิงโม่และทนายความของเป่หมิงโม่หยินปู้ฝันได้ไปที่เมืองC” ผู้อำนวยการโกวหรี่เสียงลง เพื่อให้ได้ยินเพียงสองคน เสมือนกลัวว่าอักษรไม่กี่ตัวนั้นจะทะลุกำแพงจนคนอื่นได้ยินเข้า
ได้ยินข่าวคราวของกู้ฮอน ถังเทียนจื๋อปิดโทรทัศน์ทันที “ว่ายังไงนะ?”
ผู้อำนวยการทวนเรื่องราวที่เขาเอ่ยเมื่อครู่อีกครั้ง
“นี่มันเรื่องจริงหรือ?”
“ไม่ผิดแน่ คนที่โทรมาเมื่อครู่คือคนที่ผมอยู่เป็นผู้อำนวยการที่เมืองC คนที่ผม…..” ถึงตรงนี้ ผู้อำนวยการชะงักชั่วครู่ ก่อนเอ่ยต่อ “ข่าวของเธอแม่นยำมากเลยทีเดียว”
ถังเทียนจื๋อหัวเราะด้วยความเย็นชา : “ดูท่าพวกเขาคงไฟรนก้นแล้วเป็นแน่ คุณไปที่เมืองC สืบข่าวกับลูกน้องเก่าคุณ คิดได้ยังไงกัน ว่าแต่เรื่องวุ่นวายของคุณจัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”.
“คุณถัง คุณวางใจได้ ผมจัดการเรียบร้อยแล้วก่อนที่จะมาที่นี่” ผู้อำนวยการโกวแสดงทีท่าโอ้อวด ราวได้รับการแต่งตั้ง
“เรียบร้อยดี? หากเป็นเช่นนั้น ทำไมพวกเขายังสืบเรื่องคุณอยู่อีก? แถมยังมีคนคาบข่าวมาให้คุณอีก? ผู้หญิงคนนั้นมันอะไรกัน?” ในสายตาถังเทียนจื๋อรับไม่ได้กับเม็ดทรายขี้ฝุ่นแม้แต่น้อย
“เธอหรือ คุณวางใจเถอะเธอเก็บความลับได้อยู่หมัดแน่นอน ความสัมพันธ์มิตรภาพของเราลึกซึ้งนัก ส่วนเรื่องอื่นคุณสบายใจได้เลย”
“ผมสบายใจได้อย่างงั้นหรือ? สภาพคุณในตอนนี้ก่อเรื่องแล้วยังต้องให้ผมเก็บกวาด ส่วนผู้หญิงคนนั้นผมคิดว่าเพิ่งพาไม่ได้ ทางที่ดีคุณควรจัดการเรื่องราวของคุณกับเธอให้เรียบร้อยจะดีกว่า ผมไม่อยากเห็นเรื่องราวทั้งหมดพังทลายลงเพราะเธอ”
ผู้อำนวยการโกวได้ยินประโยค เขารู้สึกเสียดายขึ้นมาในใจ”คุณถัง นี่เป็นไปไม่ได้หลอก ความสัมพันธ์ของผมกับเธอผ่านการทดสอบแล้ว แถมตอนนี้เสี่ยวหลี่ก็ไปแล้วด้วย ยังมีการเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก?”
ถังเทียนจื๋อหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา : “การเปลี่ยนแปลง? ไม่ว่าสถานการณ์ไหนก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นได้ทั้งนั้น เพียงแต่อย่างคุณค้นพบได้ยากเท่านั้นเอง จะบอกอะไรให้ วันนี้ที่ผมมาที่นี่เพื่อบอกกับคุณสองอย่าง เรื่องแรกเรื่องขึ้นศาล คุณรู้แล้ว ส่วนเรื่องที่สอง เกี่ยวกับผู้ติดตามของคุณ”
ผู้อำนวยการเกิดความหวาดหวั่นเมื่อได้ยินประโยค : “คุณถัง คุณหมายถึงเสี่ยวเฉิน? เขาเป็นอะไร เพื่อเรื่องนี้ ผมสั่งให้เสี่ยวเฉินกลับบ้านเก่าไปซ่อนตัวหลายวันแล้ว คุณวางใจเถอะ เขาเป็นคนสนิทของผม ไม่มีปัญหาอะไรหลอก”
“ไม่มีปัญหา? หากไม่มีปัญหาใดๆจริง สองคนนั้นคงเป็นไปไม่ได้ที่จะตามไปลากคอถึงรังเก่าหลอกนะ ยังดี ที่ผมเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า ทำการตัดสินพวกเขาแทนคุณเป็นที่เรียบร้อย” ขณะที่ถังเทียนจื๋อเอ่ยประโยคนี้ เขาหันมองไปที่ผู้อำนวยการอย่างมีเลศนัย
สายตาคู่นั้นทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั่วร่าง : “คุณ คุณถัง คุณทำอะไรลงไป?”
ก็ช่วยคุณจัดการกับพวกตัวถ่วงยังไงหละ ไม่เช่นนั้นคราวนี้พวกเขาคงได้ลากคุณลงมาจากตำแหน่งแล้ว ผลลัพธ์เช่นนี้พวกเราต่างไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น แน่นอนคุณไม่อยากให้มันเกิดขึ้นที่สุด
ตามคาด นี่เป็นลางสังหรณ์ที่ไม่สู้ดีนัก แม้คนผู้อำนวยการจะไม่ใช่คนดี แต่กับลูกน้องนั้นเขามีความสัมพันธ์อันดีมาโดยตลอด ที่จริงแล้วเขาไม่ใช่คนใจกล้านัก ทนมองเลือดสาดไม่ไหว
“คุณถัง คุณหมายความว่าเสี่ยวเฉินเขา…..