บทที่ 1085 จะเป็นราชากินข้าวนิ่ม (ราชาแห่งการเกาะผู้หญิงกิน)
“คุณเจ็บครั้งนี้ เหมือนโชคร้ายในโชคดี จมูกที่เหมือนหมาตำรวจเลย”
เป่หมิงโม่ขณะที่พูด ก็ได้เอาช่อดอกไม้วางไว้บนเตียงของเธอ
กู้ฮอนมองเขา “คุณด่าฉันหรือว่าชมฉันกันนะ ดูไปแล้ววันนี้คุณอารมณ์ดีไม่น้อยเลย หรือว่าไปดื่มเหล้ากับพวกป่ายมู่ซี แล้วก็เกลือกกลั้วอีกแล้วล่ะ ? ”
“คุณนายเป่หมิง ระวังคำพูดของคุณด้วยนะ อะไรเรียกว่าพวกเขา ฉันไม่ได้เจอพวกเขามาหลายเดือนแล้วนะ แล้วอะไรเรียกว่า เกลือกกลั้ว ฟังคำที่คุณพูดออกมา ก็รู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรเรื่องไม่ดีอย่างแน่นอน ”
“คุณชายท่านนี้ ฉันยังไม่ได้ยอมแต่งงานกับคุณเลยนะ ฉันไม่อาจจะยอมรับสถานะคุณนายเป่หมิงได้หรอก เมื่อสักครู่นี้ฉันแค่พูดเรื่อยเปื่อยเท่านั้นเอง ดูคุณสิท่าที่ที่ระวังอะไรบางอย่าง พอพูดเสร็จหนึ่งประโยค ก็ถูกคุณเถียงกลับมาเยอะแยะมากมาย”
เป่หมิงโม่ได้เอาแอปเปิลที่ล้างแล้วออกมาจากตะกร้า หลังจากนั้นเท้าเกี่ยวเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ ๆ เตียงเธอ
แล้วก็เอามีดเล็ก ๆ ออกมาปอกแอปเปิล “ตอนแรกฉันรอคุณมาตั้งครึ่งค่อนวัน แต่คุณไม่อาจจะเอามันออกมาได้”
“คุณดูสภาพฉันสิจะทำอะไรได้ล่ะ ต่อให้อยากจะเอาออก มือมันจะไปทำได้หรือ หากพูดอีก ตอนนั้นฉันไม่มีแรงที่จะทำอะไรเลย เลยถูกคุณทำแบบนี้ไงล่ะ จะบอกให้รู้นะ รอฉันสามารถขยับได้แล้ว เรื่องแรกที่จะทำก็เอามันออกมา หลังจากนั้นก็เอาไปทิ้งที่ห้องน้ำ”
เป่หมิงโม่มองไปยังเธอ แล้วก็ยิ้มออกมา แล้วก็เอามีดปาดไปยังแอปเปิลแล้วก็เอาเข้าใกล้ ๆ ปากของเธอ “อ้าปาก”
กู้ฮอนเม้มปากอย่างแน่น ๆ ไม่ฟังคำสั่งของเขา
“พูดคุณนิดหน่อย ก็มีแรงเลยนะ เมื่อกี้ไม่ใช่คุณมีแรงพูดหรอกหรือ ทำไมตอนนี้ไม่ใช้มันแล้วล่ะ ดูแล้วฉันจะต้องให้ฉิงฮัวเอาเครื่องปั่นมาให้แล้วล่ะ ” เขารู้ว่าเธอนั้นตั้งใจที่จะทำให้ตัวเองเห็น
นี่เรียกว่าหนึ่งสิ่งลดลงอีกหนึ่งสิ่ง เป่หมิงโม่ไหนเลยจะยอมให้เธอทำให้ตัวเองลำบากขนาดนั้นล่ะ
เขาได้วาดไปวาดมาตรงใบหน้าของเธอและก็พูดว่า “เอาสิ่งพวกนี้ปั่นให้เป็นน้ำ คุณไม่กินก็ให้มันกลืนลงไป”
พอพูดเสร็จก็เหล่ตาไปอีกข้างหนึ่ง เห็นปากเธอยิ่งเม้มแน่นกว่าเดิม
“คุณเม้มปากแน่นขนาดไหนก็ไม่เป็นไร ฉันเคยฟังว่ามีบางคนก็เป็นแบบนี้แหละ ปากเปิดไม่ได้ คุณเดาซิว่าทำเอาอาหารพวกนี้เข้าไปได้ยังไง ? จมูกปากเป็นสิ่งที่เชื่อมกันและกัน เอาหลอดสายยางผ่านทางจมูก จนถึงคอ หลังจากนั้นก็ใช้ของจำพวกเข็ม นำอาหารเหลวใส่ในเส้นยาง……” ขณะที่พูด เขาก็ได้ขมวดคิ้ว แล้วก็ส่ายหัวเรื่อย ๆ
ดูสภาพของเขาเช่นนั้น กู้ฮอนเหมือนได้รับความรู้สึกสายยางที่ลอดผ่านจมูก
“ไม่เคยเห็นคนที่ไร้คุณธรรมแบบคุณเลย” ในที่สุด เธอก็อดทนไม่ไหวที่จะต้องพูดออกมา
“ฉันทำเพื่อคุณเลย ไม่ยินยอมก็ช่างเถอะ ยังมาว่าคนอื่นอีก ทำคุณบูชาโทษจริง ๆ” เป่หมิงโม่ถอนหายใจ
******
วิธีการของเป่หมิงโม่คนนี้สุดท้ายก็ทำให้กู้ฮอนอ้าปากอย่างยินยอม
เขาได้เอาแอปเปิลป้อนเข้ามาเธออย่างช้า ๆ
หลังจากที่กินแอปเปิลไปหลายชิ้น กู้ฮอนก็ส่ายหัว เพื่อบอกว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว แต่เป่หมิงโม่ก็ไม่ได้บังคับเธอ ตัวเองก็เลยเอาสิ่งที่เหลือกินให้หมด
“วันนี้ฉันรู้ว่าคุณดื่มเหล้าเพราะเรื่องอะไร” กู้ฮอนมองเขา ซึ่งสามารถมองเขาได้อย่างชัดเจน ท่าทางเหมือนกำลังอ่านใจอยู่
“ใช่ไหม ? ฉันคุณคิดดสิว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่” เป่หมิงโม่ได้เช็ดมีดแล้วก็เก็บไป แล้วก็มองเธอด้วยสายตาที่ค่อนข้างดี
“เป็นเพราะคุณกำลังฉลอง ฉลองให้กับตัวเองที่กำลังจะเป็นอิสระ ในที่สุดก็ออกมาจากทะเลทุกข์”
“ดูแล้วคุณจะรู้แล้ว ไม่คิดว่าคุณนอนอยู่บนเตียงยังรู้อะไรขนาดนี้ บอกมาสิว่าใครเป็นคนบอกคุณ เป็นฉิงฮัวใช่ไหม ”
มองเป่หมิงโม่ที่มีท่าทางลึกลับ เหมือนกับทำสงครามจิตวิทยา เหมือนกับการสอบปากคำในค่ายทหารแบบนั้น
กู้ฮอนมองหน้าของเขาแล้วก็หัวเราะออกมา “ฉันไม่ได้เหมือนคุณที่มีเงินมากมาย แล้วใช้เงินนี้มาสืบเสาะหาหรอกนะ แต่ว่า หากมีแล้วล่ะก็ ก็คงจะเป็นสิ่งนั้น” ขณะที่พูด เธอก็ได้เอารีโมทที่อยู่บนหัวเตียง แล้วเปิดทีวี
ตอนนี้ ในตรงนั้นกำลังก็ได้มีตัวอักษรที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เนื้อเรื่องก็คือเป่หมิงโม่ไม่ได้เป็นประธานบริษัทเป่หมิงแล้ว และหุ้นของตัวเองที่เป็นสิทธิ์พิเศษทั้งหมดก็ได้ให้เป่หมิงยี่เฟิงประธานคนใหม่ทั้งหมด
“คิดไม่ถึงว่าคุณก็ยังมีความกล้าหาญนะ เหมือนกับออกมาแล้วไม่ได้อะไรเลย เห้ออ ฉันมีความสนใจอยากจะสัมภาษณ์คุณสักหน่อย อะไรก็ไม่มีแล้วไม่รู้สึกกังวลใจบ้างหรือ หรือว่าคุณจะบอกว่าหลังจากนี้จะไม่หิวจนตาย ?”
นี่ไม่ได้เป็นการเยาะเย้ยเขา แต่เป็นการถามเขาอย่างจริงใจ เพียงแต่เวลาการอยู่ร่วมกับเขานับว่าไม่น้อยแล้ว ระหว่างตัวเองกับเขาก็ไม่ได้จะต้องแสดงออกอะไรมากมายขนาดนั้น คงจะนับได้ว่ากลายเป็นความเคยชินแล้วล่ะ
และเธอยังรู้ว่า เป่หมิงโม่ไม่โกรธหรอก
ผลก็ตามที่คาด เขาไม่ได้มีความโกรธอะไร เหมือนกับปัญหานี้เธอก็ไม่ได้คิดมันให้ดีดี
เขาได้ขมวดคิ้ว “ถึงแม้ฉันไม่มีเงินแล้ว แต่นอกจากเงินแล้วอย่างอื่นก็ยังเหลืออยู่ ญาติ เพื่อน ลูก ๆ แน่นอนว่ายังมีคุณ มีเพียงแต่คุณที่ผมจะต้องรักษาให้ดีที่สุด”
กู้ฮอนถึงแม้จะมีความคัดค้านและรู้สึกไม่เห็นด้วยเล็กน้อย แต่แท้ที่สุดแล้วเธอก็ยังเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
ไม่ว่าเมื่อก่อนเป่หมิงโม่จะอย่างไรกับเธอก็ตาม แต่ตอนนี้ไม่อาจจะไม่ยอมรับได้ว่าเขากำลังเปลี่ยนไป นับได้ว่าเป็นผู้ชายที่ดี
สามารถได้นับการเชยชม โดยเฉพาะคำชมจากชายที่ดี จะมีหญิงคนไหนไม่ดีใจล่ะ แน่นอนว่าในใจของเธอก็มีความดีใจอยู่ลึก ๆ
แต่ความสุขของเธอนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน ก็ถูกเป่หมิงโม่เอาน้ำเย็นสาดเข้าไป
เป่หมิงโม่ดูออกมาเธอกำลังมีความสบาย ๆ ริมฝีปากของเขาก็มีรอยยิ้มเล่ห์เหลี่ยมซ่อนอยู่ “ถึงแม้คุณจะไม่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ยังก็เป็นนักเขียน และทั้งยังเป็นทนายอีกด้วย หากทำเป็นอาชีพเสริมแล้วล่ะก็ ถึงแม้จะมีเงินเก็บในระดับที่น่าสงสาร แต่หากมาเลี้ยงฉันและลูกอีกสามคน และรถอีกหลายคันแล้วล่ะก็……ก็น่าจะพอแล้วกระมัง”
คำนี้ ทำให้กู้ฮอนแทบจะอ้วกออกมาเป็นเลือด “เป่หมิงโม่ คุณจะมาอาศัยเกาะผู้หญิงกินงั้นหรือ ”
***
ข้าวนิ่ม
ให้คำนี้มาบรรยายกาศเป่หมิงโม่ ซึ่งเป็นคำเสียดสีที่น่ากลัวมากที่สุด
เมื่อก่อนถึงแม้เขาจะไม่ถึงขนาดที่ว่าชายโสดที่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายนะ แต่ก็ไม่ต่างอะไรมากมาย
แต่ตอนนี้กลับถูกกู้ฮอนมองเป็นคนกินข้าวนิ่ม ซึ่งเป็นความแตกต่างอย่างมากมาย
เดิมทีคิดว่าเธอพูดออกไปแล้วจะทำให้เป่หมิงโม่ไม่พอใจ
แต่กลับเห็นเขาไม่มีท่าทีที่ไม่เสียอารมณ์เลย แต่กลับเห็นท่าทีที่ธรรมดีที่สุด
เป่หมิงโม่ก็นับว่ามีทฤษฎีเป็นของตัวเอง “นี่ไม่ใช่การกินข้าวนิ่มหรือเกาะผู้หญิงกิน แต่เป็นการให้เวลาว่าง ๆ กับตัวเองที่เมื่อก่อนยุ่ง ๆ เท่านั้นเอง”
เพียงแต่ เขาอธิบายแบบนี้ ถูกกู้ฮอนตอบโต้ว่า “ฉันเลี้ยงลูกสามคนนี่หน้าที่ของคนเป็นแม่ ทำไมจะต้องมาเลี้ยงคุณอีก คุณก็ยังมีรถนี่ หากเลี้ยงไม่ไหว ก็ขายรถไปสิ หากไม่เคยชินกับชีวิตที่ไม่มีรถ ก็สามารถซื้อ QQ หรือ Altoก็ได้ ก็สามารถเป็นการกันแดด กันลม กันฝนได้”
สองมือของเป่หมิงโม่ได้ค้ำอยู่ที่ด้านขวาซ้ายของเธอ ทั้งร่างกายเหมือนกับจำดันเธอเอาไว้
กลิ่นสะระแหน่ที่มีกลิ่นเย็น ๆ ทำให้กู้ฮอนรู้สึกไม่มีความสบาย
“คุณอย่ามาทำอะไรไร้สาระที่นี่นะ จะบอกคุณนะว่า ตอนนี้ฉันเป็นคนป่วยนะ หากเกิดอะไรขึ้นมา แล้วอยู่ที่นี่เพิ่มอีกหนึ่งวัน คุณก็จะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกหนึ่งวัน”
ตอนนี้เธอพูดอะไรออกมาอย่างสับสนไปหมด
ใบหน้าของเป่หมิงโม่และเธอห่างกันไม่ถึงสิบเซนติเมตร ปากของเขายังคงมีรอยยิ้ม “หรือว่าคุณลืมไปแล้ว ฉันไม่ใช่ประธานบริษัทเป่หมิงแล้ว หุ้นในมือก็ได้แบ่งให้กับพี่ชายเรียบร้อยแล้ว ฉันคือคนที่ไม่มีอะไรเลย หลังจากนี้จะกินอะไรก็น่าจะต้องมาหาคุณไงล่ะ และค่ารักษาพยาบาลต่อจากนี้ทำไมจะต้องให้ฉันมาจ่ายล่ะ ไม่เพียงแต่วันหลังนะ แม้กระทั่งช่วงวันเวลาที่ผ่านมาก็จะต้องมีคุณมาดูแลไงล่ะ”
กู้ฮอนฟังแล้ว เกลียดจนอยากจะเอาหัวตัวเองโขกไปที่เขาสักหนึ่งที แต่ก็เป็นเพียงสิ่งที่เธอคิดเท่านั้นเอง
แน่นอน จุดประสงค์ของเธอก็คืออยากจะอ้าปากแล้วกัดที่เขาแรง ๆ หนึ่งที
ไม่เคยเห็นคนประเภทนี้เลย
เสียดายที่เฝือกตรงคอของเธอยังเอาออกมาไม่ได้ ดังนั้นก็ได้เพียงแค่คิด หลังจากนั้นก็พูดออกมาหกคำ “ออกไปจากฉันเดี๋ยวนี้”
“อู้ววววววววว…..”
พอพูดเสร็จ เป่หมิงโม่ก็จูบกู้ฮอนเรียบร้อยแล้ว
เธออยากจะขัดขืน อยากจะต่อต้าน แต่คอของตัวเอง ร่างกายของตัวเองไม่อาจจะขยับได้เลย มีเพียงแต่มือ แต่น่าเสียดายคือมือของเธอถูกเขากดไว้อยู่
ณ ตอนนี้ ประตูห้องก็ได้ถูกเปิดออกมา ลั่วเฉียวและแอนนิเข้ามาอย่างรีบร้อนใจ
“กู้ฮอน วันนี้ได้ดูข่าวหรือเปล่า เป่หมิงเอ้อเขา…….” ลั่วเฉียวพูดถึงครึ่งประโยค ก็ได้เห็นสภาพ ณ เวลานี้
ทันใดนั้นก็ทำให้เธอกับแอนนิหน้าแดงเข้าไปใหญ่ “พวกคุณยุ่งไปก่อนนะ ฉันจะไปรอข้างนอก” ขณะที่พูด เธอก็ได้หันหลังแล้วพาแอนนิออกไป
แน่นอน แอนนิก็เห็นทั้งหมด เธอก้มหัวแล้วรีบเดินออกไป
ถึงแม้ทุกคนจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว และเรื่องแบบนี้ก็เคยผ่านมาทั้งนั้น ถ้าพูดไปอีกก็คือพวกเขาสองคนก็ไม่ได้ทำเรื่องน่าละอาย ไม่จำเป็นจะต้องแอบอะไรกันเลย
แต่หากจะมองแบบนั้น ก็คงจะรู้สึกไม่ดีนัก และทั้งยังรู้สึกว่าตัวเองน่าจะเป็นตัวทำลายบรรยายกาศแห่งการปรองดอง
******
กู้ฮอนถูกจับทั้งหมด หากมีโอกาสสักหนึ่งช่องว่าง เธอจะต้องเข้าไปอย่างไม่ลังเล ให้ตัวเองแอบไว้ในที่ที่ดีที่สุด
แต่ช่องว่างกลับไม่มีเลย
ถึงแม้เป็นเพื่อนสนิท แต่ให้ถูกเด็ก ๆ เห็นเขาก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร
แต่ในความคิดของเธอ ตัวเองและเป่หมิงโม่ยังไม่ได้ดำเนินความสัมพันธ์ไปถึงขั้นนั้น ในเมื่อยังไม่ถึงขั้นนั้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ผิดประเพณีไม่ถูกหลักครรลอง
“รีบออกไปจากฉันซะ” เธอนำเอาความอึดอัดและโมโหไปใส่บนเรือนร่างของเป่หมิงโม่
แอนนิและลั่วเฉียวที่ยืนอยู่หน้าห้องผู้ป่วย พวกเธอมองหน้ากันแล้วก็ยิ้มออกมา
“แอนนิ คุณพูดซิว่าพวกเขาผ่านเรื่องราวอะไรมามากมาย จะสามารถกลับมาอยู่ด้วยกันได้อีกไหม”
เธอเอามือเคาะปากตัวเอง ใบหน้าที่แสดงออกมาไม่ได้แสดงถึงความหมายที่ดีงาม เต็มไปด้วยข้อมูลและเหตุผลต่าง ๆ “พูดยากมากเลยนะ ถึงแม้ฉันกับกู้ฮอนจะรู้จักกันมานานที่สุด ก็เพราะเหตุผลนี้ ก็เลยเข้าใจเธอมาก ๆ หากคาดการณ์ตามเมื่อก่อนแล้วล่ะก็ เธอจะไม่ยินยอมอยู่กับเป่หมิงโม่เป็นอันขาด”