ตอนที่ 44 ทำไมว่าที่สามีของคุณหนูยินถึงเปลี่ยนไป
สิ่งที่เกิดขึ้นกับยินเสี้ยวเสี้ยวในวันนี้ล้วนเป็นไลฟ์สด มีบางคนรอดูเพื่อความสะใจของตนเอง มีบางคนรอดูด้วยท่าทีเฉยๆ ทว่าไม่ว่าพวกเขาจะรอให้ผลตรวจออกมาเป็นยังไงนั้น ตอนสุดท้ายที่ทุกคนรู้ผล ก็ถึงกับนิ่งค้าง
ปีนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวอายุยี่สิบสามปี ข่าวที่ได้ยินมานั้นตอนที่เธอเรียนมหาวิทยาลัยได้คบกับผู้ชายคนหนึ่งนานสี่ปี แต่ทุกวันนี้เธอยังคงบริสุทธิ์ เด็กสาวแบบนี้ทำให้ดึงดูความสนใจของทุกคน มีคนที่รู้สึกสงสัย แต่เมื่อพยานทั้งสามคนออกมารบับรองนั้น ความสงสัยก็หายไป……
ตอนที่ผลตรวจออกมานั้น หัวใจของยินเสี้ยวเสี้ยวเต็มไปด้วยความรู้สึกเปรี้ยวหวานขมเผ็ด ไม่รู้ว่าควรจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
จนกระทั่งยินไป่ฝันและหลี่หมึ้งมาถึง ยินเสี้ยวเสี้ยวรู้สึกว่านี่คือเรื่องตลกร้ายบนโลกใบนี้
หลี่หมึ้งร้องไห้แล้วมาโอบกอดยินเสี้ยวเสี้ยว ปกป้องยินเสี้ยวเสี้ยวคล้ายกับปกป้องไข่ในหิน หันหน้าไปหากล้องแล้วต่อว่าเสียงดัง：“พวกคุณบีบบังคับจนทำให้เสี้ยวเสี้ยวต้องทำถึงขนาดนี้ยังไม่พออีกหรือไงคะ? เธอต้องมาทำถึงจุดนี้ พวกคุณยังไม่ยอมปล่อยเธอไปอีกหรอ? ฉันบอกอะไรให้พวกคุณฟังนะคะ นับตั้งแต่วันนี้ถ้าฉันเห็นข่าวเสียๆหายๆที่ทำลายชื่อเสียงของเสี้ยวเสี้ยวอีก พวกเราตระกูลยินจะไม่มีวันนิ่งดูดาย！”
ถ้าหากไม่เกิดเรื่องก่อนหน้านี้ขึ้น ยินเสี้ยวเสี้ยวจะต้องรู้สึกตื้นตันใจแน่ๆ เพราะนี่เป็นครั้งแรก ที่หลี่หมึ้งปกป้องเธออย่างชัดเจนแบบนี้ ถึงขั้นใช้ชื่อตระกูลยินในการปกป้องเธอ
ยินไป่ฝันยืนขมวดคิ้วเป็นปมอยู่ข้างๆ เอื้อมมือไปตบบ่าของยินเสี้ยวเสี้ยวเบาๆ แววตาเต็มไปด้วยความรักและทะนุถนอมลูกสาวของตน วินาทีนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวแทบจะร้องไห้ แต่ไม่ได้เป็นเพราะรู้สึกตื้นตันใจ…..
เธอรู้ดี ถ้าในใจของยินไป่ฝันมีเธออยู่สักน้อยนิด เขาก็คงไม่ยอมให้เธอต้องอับอายถึงขนาดนี้！อีกทั้งเธอยังรู้ดี คนที่ปล่อย่าวลือพวกนั้น อีกทั้งยังใส่สีตีไข่เข้าไปต้องมีคนของตระกูลยินเกี่ยวข้องแน่ๆ วันนี้ การปรากฏตัวของยินไป่ฝันล้วนเป็นเพราะความจำยอม อีกทั้งเขายังได้ชื่อเสียงในด้านดีๆกลับไปด้วย！
ตอนนี้ ในสายตาของเธอทุกการกระทำของยินไป่ฝัน เป็นเพียงการจำยอมก็เท่านั้น…….
“เสี้ยวเสี้ยว พ่อไม่ดีเอง พ่อไม่สามารถปกป้องลูกได้” พูดจบ ยินไป่ฝันก็เผชิญหน้ากับพวกนักข่าว พูดด้วยความโมโห：“ผมยินไป่ฝันนับตั้งแต่วันนี้จะขอพูดทิ้งท้ายเอาไว้ว่า หลังจากวันนี้เป็นต้นไปถ้าใครกล้าทำลายชื่อเสียงลูกสาวผมเอง ผมยินไป่ฝันและครอบครัวของเราจะเรียกร้องทวงคืนความยุติธรรมให้กับลูกสาว！”
ช่างเป็นพ่อแม่ที่ดีจริงๆ เหตุเพราะการปรากฏตัวของยินไป่ฝันและหลี่หมึ้ง จู่ๆยินเสี้ยวเสี้ยวก็กลายเป็นเพียงตัวประกอบ ยืนอยู่ตรงนั้น ไม่พูดสิ่งใด และวันที่สองหุ้นของ‘บริษัทจื่อยิน’ก็ขึ้นเป็นครั้งแรก ทำให้ยินไป่ฝันบอกกับยินเสี้ยวเสี้ยวว่าสิ่งที่เธอทำในครั้งนี้มันดีจริงๆ
หลังจากให้ยินไป่ฝันจัดการทุกอย่างแล้วนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวอยากจะกลับบ้าน ลูกที่ถูกรังแกมานานหลายปีวินาทีนี้จะกลับบ้าน ก็คงไม่มีใครห้ามปรามอีก เพราะอย่างไรเสียในสายตาของทุกคน ยินเสี้ยวเสี้ยวคือคนที่ถูกรังแก แต่ว่ายินไป่ฝันกลับทำให้ความรู้สึกดีๆที่เหลือเพียงน้อยนิดของยินเสี้ยวเสี้ยวหายไป
ยินไป่ฝันมองดูแผ่นหลังของยินเสี้ยวเสี้ยว จู่ๆก็พูดขึ้นกับยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่ไกลออกไป：“เสี้ยวเสี้ยว กลับไปนอนพักผ่อน ไม่ต้องคิดเรื่องอะไรทั้งนั้น ทำใจให้สบายรอการแต่งงานกับผู้จัดการจาง พ่อจะไม่ยอมให้ลูกต้องเสียใจอีก
คำพูดนั้น ทุกอย่างอื้ออึงขึ้นมาในทันที ยินเสี้ยวเสี้ยวนิ่งค้าง หันไปมองยินไป่ฝันอย่างไม่เชื่อสายตา
——คุณยินคะ ไม่ทราบว่าสิ่งที่คุณพูดคือความจริงหรอคะ? คุณหนูยินจะแต่งงานกับผู้จัดการของบริษัทจางซื่อหรอคะ?
——คุณยินคะ ไม่ทราบว่าผู้จัดการจางใช่คนเดียวกันกับที่วันนั้นพยายามจะขืนใจคุณหนูยินแต่ไม่สำเร็จหรือเปล่าคะ?
——คุณยินคะ ได้ยินมาว่าว่าที่สามีของคุณหนูยินคือคุณหมอในโรงพยาบาลหนันหยูไม่ใช่หรอคะ? ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนไปแบบนี้ละคะ?
…….
พวกนักข่าวถามคำถามไปที่ยินไป่ฝัน ยินเสี้ยวเสี้ยวยังไม่ทันดึงสติตนเองกลับมา ก็ได้ยินเขาพูดขึ้น：“เอ่อ ทุกคนครับ พวกคุณเองก็รู้ดี ผมเป็นพ่อ แม้ว่าคุณหมอที่ทำงานในโรงพยาบาลหนันหยูจะดี แต่เสี้ยวเสี้ยวคือองค์หญิงที่ตระกูลยินเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ผมไม่ยอมให้ลูกสาวผมต้องทนลำบาก ข่าวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นเพราะเสี้ยวเสี้ยวดึงดันจะแต่งงานกับคุณหมอคนนั้น ส่วนผมวางแผนที่จะให้เธอได้แต่งงานกับ ครอบครัวที่ดีกว่า คนที่รักและทะนุถนอมเธอมากกว่าอย่างผู้จัดการจาง……”
ยินเสี้ยวเสี้ยวมองไปทางยินไป่ฝันด้วยสายตาเย็นชา เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่ายินไป่ฝันจะน่าไม่อายถึงขั้นนี้ พยายามที่จะระงับความโกรธในใจของตนเองเอาไว้ เวลานี้เธอไม่สามารถโมโหเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นชื่อเสียงที่พึ่งกลับมาของเธอจะถูกทำลายเพราะตัวเธอเอง！
ไม่รอให้ยินไป่ฝันพูดจบ จู่ๆยินเสี้ยวเสี้ยวก็คุกเข่าลง เหยียดกายให้ตรง มองไปทางยินไป่ฝันที่อยู่ตรงหน้า ทุกคนที่อยู่ตรงกลางนั้นแหวกทางออก ทุกคนล้วนมองดูภาพที่เกิดขึ้นกระทันหันนี้
ลูกคุกเข่าให้กับพ่อแม่ ตั้งแต่โบราณมาจนถึงปัจจุบันนั้นคือสิ่งถูกทํานองคลองธรรม ทว่ากลับน้อยครั้งที่จะมีการคุกเข่าต่อหน้าสายตาของคนมากมาย แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับคุกเข่าด้วยความไม่ลังเล ตอนที่เธอคุกเข่าลงไปนั้น ดวงตาของยินเสี้ยวเสี้ยวก็แดงระเรื่อขึ้นมา น้ำตาของเธอไหลลง
จากนั้น ต่อหน้าทุกครั้ง ยินเสี้ยวเสี้ยวคุกเข่าลงกราบขอขมายินไป่ฝัน
เงยหน้า ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดขึ้น：“พ่อคะ หนูขอโทษ หนูเป็นลูกไม่รักดี หนูไม่สามารถแต่งงานกับคนที่พ่อเลือกให้ได้ค่ะ”
คำพูดนี้ เป็นการพูดอธิบายว่าทำไมยินเสี้ยวเสี้ยวถึงคุกเข่า และตอนที่เธอคุกเข่านั้น ยินไป่ฝันก็หน้านิ่งขึ้นมาในทันที ทางด้านหลี่หมึ้งก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่พอใจ ยินเสี้ยวเสี้ยวช่างเป็นผู้หญิงที่มีร้อยเล่ห์นัก！
นักข่าวที่ยืนอยู่ข้างๆรีบฉวยโอกาส พูดขึ้น
——คุณหนูยิน คุณหนูพูดแบบนี้หมายความว่าอะไรคะ?
——คุณหนูยิน ก่อนหน้านี้ข่าวลือที่บอกว่าคุณจะแต่งงานกับคุณหมอในโรงพยาบาลหนันหยูคือความจริงใช่ไหมคะ? หรือว่าเป็นไปตามที่คุณยินพูด เพียงแค่ต้องการประชดคนในครอบครัวเท่านั้นคะ?
——คุณหนูยิน การที่วันนี้คุณมาตรวจที่โรงพยาบาล เพราะเรื่องนี้ใช่ไหมคะ?
……
ยินเสี้ยวเสี้ยวร้องไห้สะอื้น แล้วหันไปมองยินไป่ฝัน
น้ำตาของเธอไม่ใช่ของปลอม แต่เป็นน้ำตาจริงๆ บางทีในตอนแรกเธออาจจะเป็นคนบีบน้ำตาให้ไหลออกมา แต่ตอนนี้ตอนที่เธอมองดูยินไป่ฝันก็รู้สึกน้อยใจอย่างสุดซึ้ง น้อยใจที่ตนเองต้องเกิดมาในครอบครัวยิน แต่กลับไม่อาจเทียบกับคนนอกได้
พ่อของเธอสามารถเลือกที่จะบีบบังคับเธอต่อหน้าทุกคน ขอเพียงเธอคิดหาวิธีรับมือไม่ได้ เช่นนั้นเรื่องนี้ก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธ ไปๆมาๆท้ายที่สุดแล้ว เธอก็ต้องแต่งงานกับผู้จัดการจาง แต่น่าเสียดายที่คนในตระกูลยินไม่มีใครสังเกตุว่า เธอยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ใช่คนโง่！
สิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่ให้โอกาสยินไป่ฝันในการพูด เธอทำเพียงร้องไห้แล้วมองไปที่ยินไป่ฝัน จากนั้นก็พูดขึ้นเสียงเบา แต่กลับชัดเจนทุกถ้อยคำ：“การที่ฉันมาตรวจในวันนี้ ก็เหมือนกับที่ฉันเคยบอกก่อนหน้านี้ค่ะ ฉันต้องการยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง ล้างมลทินที่ติดตัวมาตลอดห้าปีว่าเป็นคน‘จิตใจโหดร้าย พฤติกรรมไม่ดี’ สำหรับการแต่งงานของฉัน ฉันสามารถบอกกับพ่อได้แค่ว่าฉันเป็นลูกสาวอกตัญญู หลังจากที่ฉันกับว่าที่สามีมั่นใจในความรู้สึกของเราแล้วนั้น ฉันได้จดทะเบียนสมรสกับเขาแล้วค่ะ”
พูดจบ ทุกคนก็อื้ออึงขึ้นมาในทันที
ไม่แปลกที่ยินเสี้ยวเสี้ยวต้องคุกเข่าขอขมายินไป่ฝันขนาดนี้ นี่ก็คงนับว่าเธอตัดสินใจชีวิตคู่ด้วยตนเองแล้วสินะ? โชคดีที่สังคมในยุคปัจจุบันเปิดกว้างขึ้นมาก จึงไม่ต้องมีแบบแผนพิธีอะไรมากนัก การจดทะเบียนสมรสแล้วค่อยแต่งงานกันนั้นถือเป็นเรื่องธรรมดา
พูดจบ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็หันไปขอขมายินไป่ฝันอีกครั้ง เงยหน้าขึ้นมองดูเขาด้วยดวงตาใส：“พ่อคะ เสี้ยวเสี้ยวทำผิด ตอนนี้เสี้ยวเสี้ยวขอแค่คุณพ่อรักษาสุขภาพให้ดี อย่าได้ป่วย หนูจดทะเบียนสมรสกับเขาแล้ว ดังนั้นไม่สามารถทำตามคำสั่งของคุณพ่อได้ ไม่สามารถที่จะแต่งงานกับลูกเขยที่พอต้องการ ตอนนี้เสี้ยวเสี้ยวต้องการเพียงขอให้คุณพ่ออวยพรให้พวกเรา……”
พูดจบ ยินเสี้ยวเสี้ยวทำทุกอย่างจนครบ ก้มลงขอขมาครั้งที่สาม ก็เป็นการกำหนดชัดแล้วว่า ครั้งนี้ยินไป่ฝันแพ้แล้ว อีกทั้งยังแพ้ราบคาบเลยด้วย！
คนที่ยืนดูรอบๆพยายาบบอกให้ยินเสี้ยวเสี้ยวลุกขึ้น มีบ้างบางคนบอกให้ยินไป่ฝันยอมทำตามความต้องการของลูก สุดท้ายแล้วยินไป่ฝันก็ไม่สามารถสู้เสียงข้างมากได้ จึงตอบตกลงการแต่งงานของยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างเสียไม่ได้
ยินเสี้ยวเสี้ยวรีบลุกขึ้นอย่างมีความสุข จากนั้นก็มีนักข่าวมาเปลี่ยนบทสนทนา
——คุณหนูยินคะ ไม่ทราบว่าคุณกับว่าที่สามีรู้จักกันได้ยังไงคะ?
——คุณหนูยินคะ การที่ต้องแต่งงานกับคุณหมอธรรมดาๆคนหนึ่ง คุณรับได้หรอคะ?
——คุณหนูยินคะ ไม่ทราบว่าตำแหน่งของว่าที่สามีในโรงพยาบาลหนันหยูเป็นยังไงบ้างคะ?
……
จู่ๆ ทุกคนก็ถามคำถามเกี่ยวกับยินเสี้ยวเสี้ยวและจิ๋นลี่ยวน ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่กล้าที่จะเสี่ยง ถึงขั้นที่ว่าตั้งแต่ต้นจนจบไม่กล้าที่จะเอ่ยชื่อของจิ๋นลี่ยวน เพราะอยากที่จะยืนยันได้ว่าที่นี่มีนักข่าวที่รู้จักจิ๋นลี่ยวนหรือไม่ ก่อนที่ครอบครัวจิ๋นซื่อจะยอมรับนั้น เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่พูดชื่อของจิ๋นลี่ยวนออกมา
จากนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวทำได้เพียงก้มหน้า‘เขินอาย’ คลายิ้มบางๆ คล้ายว่าเขินอายในการตอบคำถาม ในที่สุด‘ความวุ่นวาย’ก็จบลง เพียงแต่ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่เคยคิดว่า การที่เธอสามารถจัดการอุปสรรคตรงหน้าของตนเองได้แล้วนั้นก็สามารถแต่งงานกับจิ๋นลี่ยวน เรื่องกลับไม่ได้ราบรื่นอย่างที่เธอคิด
ตอนที่จิ๋นลี่ยวนเดินออกมาจากห้องผ่าตัด ไลฟ์สดในวันนี้ได้จบลงไปนานแล้ว ยืนเงียบๆอยู่ตรงมุมลิฟท์ จิ๋นลี่ยวนหลับตาลงเพื่อพักผ่อนสายตา ไม่นานก็มีคนเดินเข้ามาในลิฟท์จนเต็มไปหมด
——นี่ เธอเห็นไลฟ์สดวันนี้ตอนเย็นหรือยัง? ได้ยินว่าคุณหนูตระกูลยิน……
——จะไม่ดูได้ยังไงล้ะ！ฉันตกใจมากเลย เธอยังบริสุทธิ์…..
——ไม่ง่ายเลยจริงๆ ฉันละนับถือเธอจริงๆ การเรียนก็ดี หน้าตาก็ดี นิสัยก็ยังดีอีก
——จริงด้วย ครั้งนี้คุณหมอจิ๋นได้เพรชเม็ดงามไปแล้ว
——จะไม่ใช่ได้ยังไงล้ะ คุณหมอจิ๋นฉลาดมาก พาเธอไปจดทะเบียนสมรสด้วยกัน……
……
หลังจากที่ทุกคนแตกหือออกไปแล้วนั้น จิ๋นลี่ยวนค่อยๆทำหน้ามุ้ยแล้วเดินกลับไปที่ห้องทำงานของตนเอง เขาเมินเฉยกับสายตาของทุกคนที่มองมาทั้งอาจจะอิจฉา อาจจะอวยพร อาจจะริษยา
ยินเสี้ยวเสี้ยว เธอทำเรื่องโง่ๆอะไรลงไป?
จิ๋นลี่ยวนถามตนเองในใจไม่หยุด เปิดโทรศัพท์ด้วยความรวดเร็ว จากนั้นพิมคำว่ายินเสี้ยวเสี้ยว ก็เจอคลิปไลฟ์สดเย็นนี้เด้งออกมาทันที จิ๋นลี่ยวนสูดลมหายใจเข้าแล้วเปิดออก
หลังจากผ่านไปนานครู่หนึ่ง จิ๋นลี่ยวนทำได้เพียงเบิกตากว้างมองดูผู้หญิงในคลิปที่ก้มลงร้องไห้ขอขมา ยังไม่ทันได้คิดอะไร คนในตระกูลจิ๋นก็โทรมา บอกให้เขาพายินเสี้ยวเสี้ยวกลับไปที่บ้านครอบครัวจิ๋นซื่อในวันพรึ่งนี้
เป็นไปตามนั้น นี่คือด่านสุดท้ายที่จะตัดสินว่ายินเสี้ยวเสี้ยวสามารถแต่งงานเข้าตระกูลจิ๋นได้หรือไม่
