บทที่149 ยินเสี้ยวเสี้ยวที่มองโลกในแง่ดี
บนโลกนี้ ไม่ใช่ว่าเมื่อไหร่ก็จะสามารถตามใจตัวเองได้ ทางเลือกไม่ใช่ว่าจะตามอำเภอใจได้มากตั้งแต่แรก ครั้งนี้ยินเสี้ยวเสี้ยวก็เข้าใจเหตุผลนี้ดี
วันเสาร์ ยินเสี้ยวเสี้ยวตามจิ๋นลี่ยวนกลับไปบ้านจิ๋น แต่คิดไม่ถึงว่าครั้งที่แล้วที่มู่เยียนหรานถูกเอ้อฮันโจมตีตอนนี้จะอยู่ที่นี่ด้วย
“คุณย่า”พูดเบาๆตามจิ๋นลี่ยวนไป ยินเสี้ยวเสี้ยวมองมู่เยียนหรานแล้วพยักหน้าเล็กน้อย
ไม่ว่ายังไง ที่บ้านจิ๋น เธอเป็นเจ้าบ้านเสมอ ส่วนเธอก็เป็นแขกตลอดไป
จิ๋นลี่ยวนก็พยักหน้าให้มู่เยียนหรานเล็กน้อย ไม่พูดอะไร หันไปนั่งไปที่โซฟาตามยินเสี้ยวเสี้ยว คุณย่าจิ๋นที่เดิมทียิ้มอย่างมีความสุขเพราะมู่เยียนหรานก็เปลี่ยนเป็นไม่น่ามองเท่าไหร่นัก
ยินเสี้ยวเสี้ยวละสายตา ไม่พูดอะไร
ท่าทางของคุณย่าจิ๋น ก่อนหลังที่มู่เยียนหรานปรากฏตัว ก็กลายเป็นชัดเจนเป็นพิเศษ
“คุณย่า ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณย่าสักหน่อย”ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดเสียงเบา สำหรับเรื่องของตัวเองเธอก็จัดการได้เพียงพอ เธอก็ยังอยากจัดการด้วยตัวเอง“เกี่ยวกับเรื่องที่ฉันจะทำงานค่ะ”
ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดไป หันไปมองมู่เยียนหราน ชัดเจนมากว่าเรื่องแบบนี้ไม่อยากให้เธอที่เป็นคนนอกรู้ แต่ถ้าคุณย่าจิ๋นชอบมู่เยียนหรานมากเป็นพิเศษจริง ถึงแม้ยินเสี้ยวเสี้ยวทำอย่างชัดเจนแต่ก็ไม่ได้พูดให้มู่เยียนหรานออกไป ก็แค่ละสายตาไปมองเธอ ให้เธอพูดต่อ
สูดหายใจเบาๆ ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดไปตรงๆ：“คุณย่าคะ ฉันเพิ่งเรียนจบ ประสบการณ์ชีวิตไม่มาก ความสามารถก็ไม่แกร่งพอ ตั้งแต่ออกมาจาก‘เก๋อหลิน’ช่วงนี้ฉันก็คิดมาอย่างจริงจังแล้ว เอาแต่อยู่บ้านอย่างนั้นก็ไม่ใช่เรื่อง ตอนนี้ข้างกายพี่ชายฉันขาดคนพอดี ฉันอยากไปช่วยพี่ แล้วก็ได้เรียนไปด้วย คุณย่าว่าดีไหมคะ？”
น้ำเสียงในทุกคำพูดก็อ่อนลงหน่อยๆ ต่อหน้าคุณย่าจิ๋น ยินเสี้ยวเสี้ยวลดท่าทีของตัวเองโดยไม่รู้ตัว ตั้งแต่นาทีที่รู้ว่าจิ๋นลี่ยวนคือคนบ้านจิ๋น เธอก็กลัวคุณย่าคนนี้ที่เล่าลือกันมา โดยเฉพาะหลังจากที่มู่เยียนหรานปรากฏตัว ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ระวังทุกขึ้นตอนมากขึ้น
ใบหน้าเล็กๆที่ละเอียดอ่อนมีความกังวลและคาดหวัง ยินเสี้ยวเสี้ยวมองไปที่คุณย่าตาแข็ง
คิ้วขมวดเล็กน้อย คุณย่าไม่พูดได้แต่หันไปมองจิ๋นลี่ยวนที่เห็นด้วยอย่างชัดเจน ผ่านไปนานจึงพูด：“ลี่ยวน คุณก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้？นี่ควรไป‘บริษัทจื่อยิน’หรือว่ากลับมาช่วยที่บริษัทจิ๋นซื่อดีล่ะ？”
คิ้วต่ำลง จิ๋นลี่ยวนไม่พูดอะไร
ทาง‘บริษัทจื่อยิน’มียินจื่อเจิ้นปกป้องเธอ ถึงเขารู้ความคิดพวกนั้นของยินจื่อเจิ้น แต่แค่เขาเป็นพี่ชายของยินเสี้ยวเสี้ยวหนึ่งวัน เรื่องก็จะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าเป็นบริษัทจิ๋นซื่อ ยินเสี้ยวเสี้ยวจะต้องพยายามหนักมากขึ้นเพื่อได้มา แต่เขาไม่อยู่บริษัทจิ๋นซื่อ แม้แต่จิ๋นลี่โป๋ก็ไม่อาจจะดูแลเธอได้……
“เดิมทีผมอยากให้เสี้ยวเสี้ยวกลับไปเรียนต่อ แต่ตอนนี้แต่ละโรงเรียนก็เปิดเทอมไปหมดแล้ว เธอก็ไม่อยากใช้ความสัมพันธ์ของตระกูลแทรกเข้าไปเพื่อทำงาน ……”จิ๋นลี่ยวนพูดเบาๆ มือใหญ่ๆยังกุมมือเล็กๆของยินเสี้ยวเสี้ยวไว้“อยู่แต่บ้านมาตั้งนานหลายวัน ผมคิดว่าเสี้ยวเสี้ยวก็ควรออกมาทำงาน จะได้ไม่ตัดขาดสังคมเกินไป‘บริษัทจื่อยิน’เป็นตัวเลือกที่ไม่เลว”
พูดถึงตรงนี้ แต่กลับบอกคุณย่าอย่างชัดเจน ไม่ว่าเธอเห็นด้วยหรือไม่ ยินเสี้ยวเสี้ยวแค่อยากออกไปก็ออกไปเลย จนเธออยากไปไหนก็ไปได้ทั้งนั้น พวกเขามาก็แค่มาบอกอย่างเป็นมารยาทเล็กน้อย
ช่วงนี้ วิธีของคุณย่าจิ๋นก็ทำให้จิ๋นลี่ยวนมีคำไม่พอใจหน่อยๆ
ขมวดคิ้วหน่อยๆ สายตาคุณย่าจิ๋นมองไปที่จิ๋นลี่ยวนอย่างเฉียบคม
ยินเสี้ยวเสี้ยวคนนี้ กระทบต่อลี่ยวนมากเกินไปหรือเปล่า？
ไม่ทันตั้งตัว สายตาของคุณย่าจิ๋นมองไปที่ตัวเสี้ยวเสี้ยว ……
สวยก็สวย แต่น่าเสียดายไม่ฉลาดเท่าไหร่
“คุณย่า ฉันพูดได้ไหม？”ทันใดนั้น มู่เยียนหรานที่เดิมทีเงียบอยู่ข้างมาตลอดก็พูดเสียงเบา ใบหน้าที่บอบบางนั้นมีรอยยิ้มเล็กน้อย ได้รับการอนุญาตจากคุณย่าแล้วจึงพูด“ตอนนี้เสี้ยวเสี้ยวยี่สิบสามสินะ อายุยังไม่มาก ความเห็นของฉันว่าไปเรียนดีกว่าค่ะ ยังไงบรรยากาศที่นี่ก็ค่อนข้างดี และยังเรียนรู้ได้อีกเยอะ ถึงอยากจะฝึกความสามารถ เรียนปริญญาโทก็ออกมาทำงานได้ ถึงตอนนั้นดูว่าคุณจะดูแลได้ไหม ……”
ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่พูด ได้แต่มองเธอเงียบๆ
“ส่วนปัญหาที่คุณพูดเกี่ยวกับเรื่องเปิดเทอมของโรงเรียน นักศึกษาปริญญาโทของมหาวิทยาลัยTปีนี้จะเข้าเรียนช้าออกไป ช่วงนี้ ฉันได้ยินว่าโรงเรียนของเสี้ยวเสี้ยวก็คือมหาวิทยาลัยTพอดี แค่ทางบ้านทำอะไรสักหน่อย ถ้าไปเรียนก็ได้อยู่แล้ว”มู่เยียนหรานพูดไปก็หันไปมองคุณย่าจิ๋นแล้วพูดอย่างอ่อนช้อยว่า“คุณย่า ไม่ใช่ว่าฉันก็เป็นนักเรียนที่ย้ายห้องด้วยเหรอไง ตอนนี้เสี้ยวเสี้ยวไปที่มหาวิทยาลัยT ก็จะได้เป็นเพื่อนฉันพอดี ……”
ประโยคเดียว ก็กำหนด‘อนาคต’ของยินเสี้ยวเสี้ยวแล้ว
และปฏิกิริยาของทุกเรื่องที่เชื่อมต่อกัน ก็เริ่มทำงานตั้งแต่ตอนนี้
“โอเค！”ตบไปที่ขา คุณย่าจิ๋นยิ้มหรี่ตา มองมู่เยียนหรานแล้วพูด“ความคิดเยียนหรานไม่เลวจริงๆ ฉันก็คิดว่าจากสภาพตอนนี้ของยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วไปอยู่ที่โรงเรียนดีกว่า เวลามีข่าวคราวอะไร พวกเราบ้านจิ๋นจะได้ไม่เป็นอะไรที่คนจะเอามาพูดตามใจได้！”
ไม่พูดสักคำ จิ๋นลี่ยวนมองคุณย่าจิ๋นคิ้วขมวดเล็กน้อย กำลังจะพูดอะไรกลับรู้สึกว่ามือของตัวเองถูกแรงเล็กๆบีบไว้ คำพูดที่อยู่ที่ปากก็ถูกกลืนลงไปเงียบๆ
ที่จริง สำหรับเขาแล้ว บางทีโรงเรียนก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวสำหรับยินเสี้ยวเสี้ยว
ส่วนยินจื่อเจิ้น น่าจะไม่มีโอกาสอะไรอีก
……
ออกมาจากบ้านจิ๋น จิ๋นลี่ยวนจูงมือยินเสี้ยวเสี้ยวค่อยๆเดินไปที่ถนน
“ไม่ดีใจเหรอ？”ถามเบาๆ จิ๋นลี่ยวนไม่ทันสังเกตว่า ตอนนี้ตัวเองยิ่งสนใจอารมณ์ของยินเสี้ยวเสี้ยวมากขึ้นแล้ว
ยินเสี้ยวเสี้ยวส่ายหน้า พูดกับเขาด้วยใบหน้ายิ้มๆ：“ไม่ได้ไม่ดีใจ ที่จริงไปเรียนได้ฉันดีใจมาก ก็แค่ฉันไม่คิดว่าจะใช้วิธีแบบนี้เข้าไป อีกอย่างทางพี่ชายฉันก็ไม่มีทางยอมแพ้ ปอโทการออกแบบโฆษณาก็ไม่ยุ่งเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่ก็คงฝึกงานเป็นหลัก ยังดีที่ฉันยังไปหาพี่ได้ ดูแบบนี้แล้วฉันโชคดีมาก ……”
จิ๋นลี่ยวนยิ้มนิดๆ ริมฝีปากเผยให้เห็นส่วนโค้งที่สวยงาม
เสี้ยวเสี้ยวของเขามองโลกในแง่ดีมากขึ้น
ที่จริงๆ ในสายตายินเสี้ยวเสี้ยว ทำงานไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุดนัก ที่สำคัญที่สุดคือ‘กำหนดเวลาตั้งครรภ์’ของคุณย่าจิ๋น ตอนนี้เธอยังคงไม่มีทางเอาชนะอุปสรรคในใจตัวเองได้ แบบนี้ต่อไปอย่าว่าคุณย่าร้อนใจ จิ๋นลี่ยวนร้อนใจ เธอเองก็ร้อนใจ！
แค่คิดถึงว่าภายในวันเวลาที่กำหนดเธอไม่สามารถตั้งท้องลูกของจิ๋นลี่ยวนได้ เธอก็รู้สึกปวดหัวมากๆ
เรื่องแบบนี้ เกิดขี้นที่ผู้หญิงคนไหนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งนั้น
วันหยุด บ้านยินจัดงานเลี้ยงที่‘ร้านอาหารเทาถี้’ดึงดูดผู้คนได้ไม่น้อย
บ้านยินไม่ได้เป็นตระกูลใหญ่มากมายที่เมืองTนัก เป็นแค่คนในตระกูลเล็กๆ ที่มีอยู่มากมายในเมืองTเท่านั้น แต่บ้านยินต่างกับตระกูลเล็กๆพวกนี้อย่างมาก ไม่ใช่แค่มียินจื่อเจิ้นที่เป็นคนดูแลที่มีความสามารถโดดเด่น แต่ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับบ้านจิ๋นเมืองT ส่วนน้องสาวที่ยินจื่อเจิ้นรักและเอาใจที่สุดก็แต่งงานกับคุณชายสามบ้านจิ๋นที่เป็นที่รัก
——ฉันว่าครั้งนี้บ้านยินลงทุนจัด‘ร้านอาหารเทาถี้’เลย คงจะไม่มีเรื่องใหญ่อะไรจะประกาศหรอกนะ？
——ใครจะไปรู้ คงไม่ใช่ว่าคุณชายใหญ่ตระกูลยินจะแต่งงานหรอกนะ？
——ฉันว่าความเป็นไปได้นี้ค่อนข้างน้อย หรือว่าจะเป็นการโยกย้ายเจ้าของบ้านยิน？
……
มีการพูดคุยขึ้นมา แทบจะทุกคนต่างเริ่มคาดเดาว่า เกิดอะไรขึ้นกันแน่
ก่อนที่ยินจื่อเจิ้นปรากฏที่บ้านยิน ก็ธรรมดามาตลอด แต่ตั้งแต่คุณชายใหญ่ตระกูลยินกลับมา คุณหนูใหญ่ตระกูลยินแต่งเข้าบ้านจิ๋น ทั้งเมืองTแทบจะเห็นข่าวพวกเขาทุกวัน ถ้าบอกว่าดังมากไปกว่าครึ่งหนึ่งของท้องฟ้าก็คงไม่มากเกินไป ก็แค่ประวัติศาสตร์นี้ยังทำให้คนพูดถึงมันอยู่ ……
ยินเสี้ยวเสี้ยวถูกแฉว่าสกปรกตั้งแต่แรก ถูกบังคับให้ตรวจสอบความบริสุทธิ์ และสุดท้ายยังถูกแฉเรื่องที่ถูกขืนใจเมื่อตอนยังสิบขวบ การเติบโตแบบนี้ทำให้คนเริ่มใฝ่ฝันถึงครอบครัวที่มีเงิน
หลายๆครั้ง หลายๆเรื่องก็ไม่สู้กับการแสดงออกที่มองไปแล้วสวยสดงดงาม นั่นคือเหตุผลนี้
ใน‘ร้านอาหารเทาถี้’ผู้จัดการหวงยุ่งอยู่กับการทักทายแขก ส่วนยินจื่อเจิ้นก็ไปๆมาๆในห้องรับแขก มุมปากมีรอยยิ้มเล็กน้อย ไม่ชัดเจนมากแต่มีความเมตตาที่ชัดเจน
——ฮ่าฮ่า กลัวว่าครั้งนี้บ้านยินจะเริ่มไต่ขึ้นไปยากแล้วสิ จื่อเจิ้น สู้ๆนะ ลุงดูอยู่
——คุณชายใหญ่ตระกูลยิน ปีนั้นที่อายุยี่สิบห้าก็ควรเข้าไป‘บริษัทจื่อยิน’อย่างขยันขันแข็ง มาตอนนี้ ก็ไม่สาย
——พวกเรารอดูว่าคุณจะเอา‘บริษัทจื่อยิน’ให้เจริญรุ่งเรืองได้อย่างไร ……
……
คำพูดแบบนี้กรอกเข้าหูยินจื่อเจิ้นนับไม่ถ้วน แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรมาก สายตามองไปที่ประตูใหญ่ แล้วก็คอยมองเวลา
——จำได้ว่าเมื่อก่อนคุณไม่ใส่นาฬิกานี่ คงไม่ใช่ว่ามีคนพิเศษให้หรอกนะ？
มีคนเห็นนาฬิกาที่ข้อมือยินจื่อเจิ้น อดไม่ได้ที่จะหยอกล้อ ประโยคเดียวกลับทำให้ดึงดูดคนรอบๆไม่น้อย
ถ้าเอาลูกสาวตัวเองแต่งกับผู้ชายแบบนี้ ในฐานะพ่อก็คงรู้สึกภาคภูมิใจอย่างหนึ่งแหละ ก็แค่ ยินจื่อเจิ้นคงไม่ใช่ว่ามีคนที่ชอบจริงๆหรอกนะ？
เวลานั้น คนไม่น้อยต่างสนใจคำตอบของยินจื่อเจิ้น
มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ยินจื่อเจิ้นตอบเสียงเบา：“นี่คือของที่เสี้ยวเสี้ยวให้ผม”
ในเวลานี้ ใครที่คิดเล็กคิดน้อยก็จะพบว่า ตอนที่ยินจื่อเจิ้นตอบคำถามคนอื่นในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ตอบคำถามคนอื่น
คนอื่นถามว่าใช่คนพิเศษให้หรือไม่ เขากลับตอบว่ายินเสี้ยวเสี้ยวให้
จะบอกว่ายินเสี้ยวเสี้ยวเป็นคนพิเศษของเขาเหรอ？
ความเป็นไปได้นี้， ไม่ใช่ว่าทุกคนจะคิด ก็กล้าคิด
แทบทุกคนต่างคิดว่ายินจื่อเจิ้นเป็นคนที่รักน้องสาวมาก แค่ของที่แปดเปื้อนโดยยินเสี้ยวเสี้ยวเขาจะรักษาเป็นพิเศษ นี่มันสอดคล้องกับภาพลักษณ์ที่พี่ชายรักและเอาใจน้องสาวอย่างไร้ขอบเขตจริงๆ！
บางเรื่องสงสัยได้ บางเรื่องกลับสงสัยไม่ได้ เช่นเรื่องที่ยินจื่อเจิ้นชอบยินเสี้ยวเสี้ยวนี้ ก็ไม่สามารถถูกใครสงสัยได้ มากไปกว่านั้น ปัญหาขัดขวางตัวตนของพวกเขาก็คืออุปสรรคที่เป็นธรรมชาติที่ดีที่สุดของพวกเขา
งานเลี้ยงขึ้นตำแหน่งของยินจื่อเจิ้น ยินเสี้ยวเสี้ยวมาแน่นอน แค่ใครก็คิดไม่ถึงว่า ในฐานะน้องเขย คุณชายสามบ้านจิ๋นจะทำให้เรื่องน่าอายต่อยินจื่อเจิ้นกับยินเสี้ยวเสี้ยวในงานเลี้ยง ……
