Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา – บทที่ 206 เสียใจภายหลัง

บทที่ 206 เสียใจภายหลัง

บทที่ 206 เสียใจภายหลัง

มองยินเสี้ยวเสี้ยวที่อยู่ตรงหน้า จิ๋นลี่ยวนก็ตกตะลึง หลังจากผ่านไปพักใหญ่จึงเอามือตนเองกลับมา

ยินเสี้ยวเสี้ยวหลบเลี่ยงเขา

ถูกต้อง ก็ควรหลบเลี่ยงเขา พวกเขาสองคนไม่มีเหตุผลอะไร เขามีสิทธิ์อะไรไปทำท่าทางใกล้ชิดสนิทสนมขนาดนั้นกับเธอ นี่ไม่ใช่ทำให้คนอื่นวิจารณ์เธอหรือ แม้ในสถานการณ์ปกตินี่อาจจะไม่มีอะไร แต่พวกเขาสองคนเพิ่งจะหย่ากันนี่ นี่เพิ่งจะหย่ากันก็เป็นแบบนี้ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า

ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้พูดอะไร ได้แต่มองนัยน์ตาคู่นั้นของเขาแฝงด้วยอย่างตำหนิ

ริมฝีปากของตนเองเม้มแน่นจิ๋นลี่ยวนลุกขึ้นยืนไม่พูดไม่จา

ภายในห้องรับแขกที่ยุ่งเหยิงวุ่นวาย ก็สงบเงียบขึ้นมาทันทีราวกับสามารถได้ยินแม้แต่เสียงหัวใจเต้น

มู่เยียนหรานที่ยืนอยู่อีกด้านมองเห็นทุกอย่าง สองมือที่อยู่ใต้แขนเสื้อกำหมัดแน่น สีหน้ากลับแสดงให้เห็นถึงความกระอักกระอ่วน พูดอย่างรู้สึกขอโทษว่า “เสี้ยวเสี้ยว เธออย่าถือสาที่คุณย่าพูดเมื่อกี้เลยนะ เธอก็คือ……”

“คุณมู่คะ ตอนนี้ฉันไม่ใช่หลานสะใภ้ตระกูลจิ๋นแล้ว คำพูดของคุณท่านไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายกับฉันหรอกค่ะ” ยินเสี้ยวเสี้ยวตัดบทมู่เยียนหรานทันที จุดนี้แม้จะใช้คำพูดต่างกันแต่ความหมายเดียวกับจิ๋นลี่ยวนเมื่อครู่ ท่าทีดูเหมือนว่าไม่ได้เห็นเรื่องนี้อยู่ในสายตาแต่กลับยั่วโมโหมู่เยียนหรานได้จริงๆ แต่ถึงเธอจะโกรธก็ไม่สามารถปลดปล่อยออกมาได้ “ฉันหย่ากับคุณชายสามแล้ว……”

พูดพลาง ยินเสี้ยวเสี้ยวมองตรงไปที่จิ๋นลี่ยวนพูดเบาๆว่า “นับแต่นี้ต่อไป ชายหรือหญิงจะแต่งงาน ต่างฝ่ายต่างไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”

พอพูดจบ จิ๋นลี่ยวนรู้แค่ว่าตนเองแทบจะอดไม่ได้ที่จะก้าวไปข้างหน้าคว้าตัวยินเสี้ยวเสี้ยวเข้าไปสั่งสอนในห้องตัวเองสักรอบ!

ต่างฝ่ายต่างไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกเหรอ

ต่างฝ่ายต่างไม่เกี่ยวข้องกันได้อย่างไร ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาสองคนคุ้นเคยกันมากจนนอนร่วมเรียงเคียงหมอนกันแล้วทำทุกสิ่งทุกอย่างที่ใกล้ชิดสนิทสนมกัน ตอนนี้เธอกลับมาบอกว่าต่างฝ่ายต่างไม่มีอะไรไม่เกี่ยวข้องกัน ทันใดนั้น จิ๋นลี่ยวนก็โกรธตนเองอย่างมากที่ตอนนั้นเขาวู่วามพูดว่า ‘หย่า’คำนั้นออกมา! เห็นได้ชัดว่าก่อนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวจะปรากฏตัวเขาเป็นคนที่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ แต่ตอนนี้ล่ะ ขอแค่มีความเกี่ยวข้องกับยินเสี้ยวเสี้ยว เขาก็กลายเป็นคนโง่ไปเลย!

ไอ้โง่ทีมีตัวตนอยู่ทั่วไปนี่เอง!

จิ๋นลี่ยวนตอนนี้แทบอยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาด โดยเฉพาะตอนที่เห็นยินเสี้ยวเสี้ยวทำท่าทางลากเส้นแบ่งแยกจากตนเองนับตั้งแต่นี้ไปอย่างนั้นก็โกรธจนขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน!

ใครจะแต่งงานใหม่เหรอ

เขาจะลองดู ว่าทั้งเมืองTจะมีใครกล้าแต่งกับเธอ!

จิ๋นลี่โป๋ยื่นดูเรื่องสนุกๆอยู่อีกด้าน บางครั้งก็ยังหยิบผลไม้แห้งที่วางอยู่ข้างๆใส่ปาก ท่าทางแบบนั้นดูเหมือนกับกำลังดูละครเวทีอย่างสบายอารมณ์อย่างนั้นเลย! จิ๋นลี่โป๋ส่ายหน้าไม่เห็นด้วยกับการกระทำของพี่ชาย แต่เขาจิ๋นลี่โป๋ก็มีนิสัยแบบนั้น ข้อมือที่อยู่ใกล้ดอกไม้จนเกินไปจนไม่สามารถเอาดอกไม้มาไว้กับตัวได้

แต่ว่าจิ๋นลี่โป๋และจิ๋นลี่หยาวก็ถือว่าดูออก การหย่าร้างครั้งนี้มีบางอย่างผิดปกติ เมื่อผ่านความรู้สึกตึงเครียดเมื่อครู่นี้ก็ค่อยๆกลับมาผ่อนคลายลง ครั้งนี้หยูเจียห้วยและจิ๋นหยวนเฟิงก็ออกมาแล้ว ให้พวกเขาได้มีเวลาเตรียมตัว

ตระกูลจิ๋น หยูเจียห้วยก็ไม่ได้รับมือง่ายๆเมื่อเทียบกับคุณย่าจิ๋น

หยูเจียห้วยออกมายืนตรงนั้นเงียบๆมองยินเสี้ยวเสี้ยวอยู่พักใหญ่ จากนั้นกลับหันหน้าไปพูดกับมู่เยียนหรานว่า “เยียนหราน วันนี้ทำให้เธอได้ดูเรื่องตลกเลย วันนี้เธอมาที่บ้านพวกเรามีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

ประโยคเดียว มู่เยียนหรานมีสีหน้ากระอักกระอ่วนทันที

เธอจะมีเรื่องอะไรได้เล่า ก็แค่ได้ข่าวว่ายินเสี้ยวเสี้ยวกับจิ๋นลี่ยวนหย่ากันแล้วก็เลยอยากจะมาสืบข่าวดู ใครจะไปรู้ว่าจะมาเห็นเหตุการณ์ที่มีสีสันขนาดนี้ พอหยูเจียห้วยถามขึ้นมาอย่างนี้เธอก็ไม่รู้ว่าจะตอบว่าเธอมาทำอะไร

หยูเจียห้วยก็ไม่ได้โง่ แน่นอนว่าเธอรู้ว่ามู่เยียนหรานมาสืบข่าวคราว ในใจอดไม่ได้จึงเหน็บแนมอีกเล็กน้อย

เทียบกับเรื่องที่ยินเสี้ยวเสี้ยวมีลูกไม่ได้นั้น มู่เยียนหรานเธอกลับยิ่งไม่ชอบ

ตระกูลหยูก็เป็นตระกูลที่มีหน้ามีตาของเมืองT ตั้งแต่เด็กจนโตหยูเจียห้วยก็พบเจอเรื่องราวมาไม่น้อย บวกกับเวลาตนเองหลายปีก็ไม่ได้ปล่อยผ่านโดยไร้ประโยชน์ มู่เยียนหรานมีความคิดอะไรเธอก็ดูออก แต่เมื่อเทียบกับยินเสี้ยวเสี้ยวและมู่เยียนหรานแล้ว แน่นอนว่าเธอจะเอนเอียงไปทางยินเสี้ยวเสี้ยวมากกว่า ในเมื่อความคิดของยินเสี้ยวเสี้ยวใสซื่อกว่ามู่เยียนหรานมากนัก เธอเป็นแม่คน แน่นอนว่าไม่อยากเลี้ยงหมาป่าไว้ข้างกายลูกชายของตนเอง ใครจะไปรู้จู่ๆมันจะลอบกัด

แน่นอน นี่ก็แค่การเปรียบเทียบระหว่างคนสองคนเท่านั้น ถ้าหากมีตัวเลือกที่ดีกว่า ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ต้องเป็นคนนั้นที่ถูกละทิ้ง!

“วันนี้บ้านของพวกเราคงจะต้อนรับได้ไม่เต็มที่ เอาอย่างนี้มั้ย ครั้งหน้าค่อยมาใหม่แล้วกันนะ ครั้งหน้าก่อนจะมาก็โทรศัพท์มาบอกก่อน ไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้เธอต้องมาเจอกับเหตุการณ์อย่างนี้อีกคงไม่ดีนัก” หยูเจียห้วยพูดพลาง ทำท่าทางเหมือนหน้าตาดูใจดีแต่ข้างในซ่อนความร้ายกาจเอาไว้ ทำให้ มู่เยียนหรานไม่สามารถทนได้เล็กน้อย “ฉันจะให้คุณเฉิงคนขับรถส่งเธอกลับไป”

หยูเจียห้วยพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ต่อให้หน้าของมู่เยียนหรานจะหนาขนาดไหนก็คงต้องไปแล้ว ขณะเดียวกันคำพูดตำหนิเธอของหยูเจียห้วยเมื่อครู่ก็พูดอย่างชัดเจนแล้ว

เธอก็ไม่ใช่คนตระกูลจิ๋น อยากจะบ้านตระกูลจิ๋นเมื่อไหร่ก็มา ไม่อยากมาก็ไม่มาแบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เป็นแขก แม้แต่มารยาทพื้นฐานของการเป็นแขกก็ไม่รู้ เกินไปแล้วจริงๆ

มู่เยียนหรานเดินออกไปอย่างเยาะเย้ย ในใจไม่พอใจหยูเจียห้วยขึ้นมาเป็นพิเศษ

เธอเป็นคุณหนูตระกูลมู่ ตั้งแต่เล็กยังไม่เคยถูกตำหนิแบบนี้มาก่อน คนที่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเธอก็จะทำให้พวกเขาอยู่ไม่เป็นสุข! ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม!

พอมู่เยียนหรานจากไป ในห้องรับแขกนอกจากคนนอกที่เคยเป็นคนตระกูลจิ๋นอย่างยินเสี้ยวเสี้ยวแล้วก็ล้วนมีแต่คนในตระกูลจิ๋นทั้งสิ้น

แม้จิ๋นลี่ยวนจะโกรธ แต่กลับไม่อาจจะควบคุมร่างกายได้ลุกขึ้นมายืนตอนที่สายตาของหยูเจียห้วยมองไปยังยินเสี้ยวเสี้ยว เพื่อยินเสี้ยวเสี้ยวเขาเอาตัวมาบังสายตาของหยูเจียห้วย เป็นการปกป้องเป็นพิเศษที่เห็นได้ชัดเจน

ยินเสี้ยวเสี้ยวมองเห็นร่างสูงใหญ่ตระหง่านอยู่ตรงหน้า ความโกรธในใจกลับยิ่งเพิ่มทวีขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดเจน

คนที่บอกว่าจะหย่าก็คือเขา ที่ทำเป็นอ่อนโยนอยู่ตอนนี้ก็คือเขา!

จิ๋นลี่ยวนตกลงว่าเขาคิดจะทำอะไรกันแน่!

“เสี้ยวเสี้ยว” เรียกเสียงเบาๆ ไม่รอให้หยูเจียห้วยเอ่ยปาก ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ออกมายืนด้านหลังจิ๋นลี่ยวน มือเล็กก็หลบเลี่ยงมือใหญ่ที่ยื่นออกมาของจิ๋นลี่ยวนมายืนตรงหน้าหยูเจียห้วย

“พวกเธอหย่ากันแล้วเหรอ” หยูเจียห้วยมองจิ๋นลี่ยวนอย่างเคลือบแคลงสงสัยเล็กน้อย ท่าทางของจิ๋นลี่ยวนวันนี้ เรื่องนี้สมควรแก่การสงสัย

“อืม หย่าแล้วค่ะ” ตอบอย่างเปิดเผย แต่ตอนที่พูดเธอสองคำนั้นก็รู้สึกว่ามีอะไรทิ่มแทงให้เจ็บปวดในใจ

จิ๋นลี่ยวนมองยินเสี้ยวเสี้ยวพลางเม้มปากแน่น สายตาไม่ขยับเขยื้อน

“ตระกูลยินรู้เรื่องแล้วเหรอ” หยูเจียห้วยแม้จะไม่เคยติดต่อกับคนตระกูลยิน แต่ก็เคยได้ยินข่าวลือของหลี่หมึ้งคนนั้นมาบ้าง ถ้าหย่ากันแล้วจริงๆ ตระกูลยินก็ไม่น่าจะเงียบเฉยขนาดนี้ถึงจะถูก “เธอต้องรู้ว่า การหย่าร้างครั้งนี้หมายความว่านับแต่นี้ต่อไปเธอยินเสี้ยวเสี้ยวจะถูกตราหน้าว่า “แม่หม้าย” ไปตลอดชีวิต เธออายุเพียง 23 ปี ตัดสินใจออกมาแบบนี้ไม่วู่วามไปหน่อยเหรอ”

มองให้มุมของผู้หญิง หยูเจียห้วยจึงได้เตือนออกมาหนึ่งประโยค แม้ตอนนี้จะสายไปแล้ว

สีหน้าขาวซีด ทำไมยินเสี้ยวเสี้ยวจะไม่เคยคิดถึงเรื่องพวกนี้

ผู้หญิงอายุยังน้อยก็กลายเป็นแม่หม้าย ต่อไปชีวิตนี้ก็ไม่มีทางราบรื่นแล้ว

ในแววตาฉายความวิตกกังวล เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน ตอนนั้นเขาคิดเพียงอยากจะหย่า มิเช่นนั้นเขาไม่รู้ว่าวันหนึ่งหากยินเสี้ยวเสี้ยวตั้งท้อง เขาจะทำพฤติกรรมแบบที่ตอนนั้นตนเองพูดออกมากับเฉินหยูและซูเหนียงหรือไม่ ต่อให้เขาจิ๋นลี่ยวนไม่ยอมรับ การหย่ากับยินเสี้ยวเสี้ยวไม่แน่ว่าอาจจะไม่ใช่การกระทำที่จะปกป้องเธอวิธีหนึ่ง

เขารู้ตนเองที่อยู่ในอารมณ์โกรธจัดนั้นเรื่องอะไรก็ทำออกมาได้ทั้งนั้น ดังนั้นใช้โอกาสที่ตนยังพอมีสติสัมปชัญญะ เลือกที่จะหย่ากับเธอ ล้างแค้นและปกป้องยินเสี้ยวเสี้ยวในเวลาเดียวกัน……

เขาไม่กล้าจินตนาการเลยว่า ถ้าหากวันหนึ่งตนเองลงมือทำร้ายภรรยาของตัวเองจริงๆ……

ตอนที่หนังสือข้อตกลงการหย่าของยินเสี้ยวเสี้ยวส่งมาตรงหน้าเขา ตอนที่ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดเหตุผลการหย่าออกมาจากปากนั้นเอง เขาจึงพบว่า ความจริงแล้วตนเองรักยินเสี้ยวเสี้ยวแล้ว ไม่รู้ว่าลึกซึ้งแค่ไหน แต่รักแล้วแน่นอน มิฉะนั้นหากเขาจะแก้แค้นซูเหนียงจริง ใช้วิธีเอายินเสี้ยวเสี้ยวไว้ข้างกายตนเองทรมานแบบที่เขาพูดไว้ดีที่สุดแน่นอน แต่เขาไม่ใช่ว่าปล่อยวางแล้วหรือ

นี่คือการแสดงออกถึงความรักที่เขามีต่อยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างดีที่สุด

ตอนที่รู้ว่าภูมิหลังของยินเสี้ยวเสี้ยวแรกสุดนั้นตกใจอย่างมาก แต่ที่มากยิ่งกว่าคือความโกรธ โกรธที่ยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นลูกสาวของซูเหนียง ต่อไป แม้แต่การที่เขาจะรักเธอ ทะนุถนอมเธอก็จะมีภาระอยู่ในใจ……

ใครใช้ให้ เธอเป็นลูกสาวศัตรูของตนเองเล่า

หลังจากนิ่งเงียบสองวินาที ยินเสี้ยวเสี้ยวพยักหน้าพูดว่า “ฉันรู้”

หยูเจียห้วยมองเธออยู่นานโดยไม่พูดอะไร หลังจากนั้นเนิ่นนานจึงพูดขึ้นว่า “ทรัพย์สินของพวกเธอจะแบ่งสรรกันอย่างไร เท่าที่ฉันรู้ ก่อนหน้าที่พวกเธอจะแต่งงานไม่ได้ทำการประเมินทรัพย์สินนี่ ลี่ยวน……”

“อะไรฉันก็ไม่อยากได้” ยินเสี้ยวเสี้ยวตัดบทของหยูเจียห้วย ที่เธออยู่ที่นี่ ก็เพื่อจะพูดประโยคนี้ และตอนนี้ในที่สุดเธอก็ได้โอกาสแล้ว มองตรงๆไปที่หยูเจียห้วย คำพูดของยินเสี้ยวเสี้ยวกลับพูดให้จิ๋นลี่ยวนฟัง “ฉันหย่ากับคุณชายสามแล้ว ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร ตอนนี้ผลสรุปก็เกิดขึ้นแล้ว ฉันไม่ต้องการทัพย์สินอะไรของตระกูลจิ๋น แต่ฉันจะให้เขารู้ว่า วินาทีนั้นนับตั้งแต่ที่เขาตัดสินใจจะหย่ากับฉัน ก็กำหนดไว้แล้ว ว่าเขาต้องเสียใจภายหลัง!”

ร่างของจิ๋นลี่ยวนสั่นสะท้านอย่างแรง ไม่ได้พูดอะไร

หยูเจียห้วยมองเธออย่างคิ้วขมวดแน่น ในหัวสมองคิดอะไรบางสิ่งอย่างรวดเร็ว

หลังจากยินเสี้ยวเสี้ยวสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วก็พูดต่อว่า “คุณหญิงจิ๋นคะ ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้วฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ พี่ชายฉันกำลังรอฉันอยู่ค่ะ”

พูดจบ ยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่ได้ให้โอกาสเธอได้ปฏิเสธหมุนตัวเดินออกจากคฤหาสน์ตระกูลจิ๋นไปเลย

ที่นี่เคยเป็นสถานที่ที่เคยบอกว่าจะให้เธอเป็นที่พักพิง แต่ตอนนี้ที่นี่กลับพึ่งพิงไม่ได้อีกแล้ว

เสียใจภายหลังเหรอ

มองดูแผ่นหลังที่เดินจากไปของยินเสี้ยวเสี้ยว จิ๋นลี่ยวนสองมือกำหมัดแน่น เขาเสียใจภายหลังแล้วจริงๆ นับตั้งแต่ที่เขาพูดสองคำนั้นออกไปเขาก็เสียใจแล้ว แต่ถ้าหากย้อนเวลากลับไปตอนนั้นอีกครั้งเขาก็ยังคงเลือกที่จะทำแบบนั้นอีก เพราะเขาไม่มีทางเลือกอื่น!

หลังจากหยูเจียห้วยมองจิ๋นลี่ยวนด้วยความสงสัยอย่างนิ่งเงียบอยู่นาน ดวงตาคู่นั้นแฝงไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัยแต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ถามออกมา

ในเวลาเดียวกันนี้เอง มู่เยียนหรานที่ออกจากบ้านตระกูลจิ๋นก็รับสายของ ‘พญายม’……

“คุณหนูมู่ ของที่ผมต้องการคุณเตรียมไว้ให้ผมพร้อมแล้วหรือยัง” ‘พญายม’ในสายถามด้วยเสียงเบาๆ มีความไม่แยแสอยู่เล็กน้อยแต่กลับทำให้คนรู้สึกเย็นยะเยือก “อย่างช้าที่สุดคนของผมต้องได้รับของในวันศุกร์นี้”

เดิมมือเท้าของมู่เยียนหรานนั้นเย็นเยือกอยู่เล็กน้อย แต่ตอนนี้ได้ยินประโยคนี้กลับอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา พูดว่า “เตรียมพร้อมแล้ว ทั้งหมดสามคนล้วนแข็งแรงมาก คืนนี้ฉันจะส่งข้อมูลให้คุณ หนึ่งในนั้นก็คือยินเสี้ยวเสี้ยวคุณหนูใหญ่ของตระกูลยิน…

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Status: Ongoing

แม่เลี้ยงวางแผนอยากให้เธอแต่งงานกับชายแก่ที่มีอายุ 40ปี โดยเป็นการสมรสทางธุรกิจ เธอเลยไปจับผู้ชายบนถนนคนหนึ่งมาอย่างฉุกละหุกและถามว่า:“คุณกล้าแต่งงานกับฉันไหม?”จิ๋นลี่ยวที่เพิ่งถูกแฟนเบี้ยวนัดตอบว่า:“พอดีเลย วันนี้ผมเอาทะเบียนบ้านมาแล้ว ไปจดทะเบียนกันเถอะ” ยินเสี้ยวเสี้ยวที่มีอายุ 23ปี ก็เลยแต่งงานกับผู้ชายที่พึ่งเจอกันสองครั้งแบบสายฟ้าแลบ หลังจากนั้น แม่สามีส่งเครื่องต้มไข่ให้กับยินเสี้ยวเสี้ยว บอกเธอว่าต้องทานไข่ทุกวันเพื่อเพิ่มโปรตีน พอดีจิ๋นลี่ยวนกำลังเดินผ่าน แล้วพูดอย่างจริงจังว่า:“ที่รัก คุณกินทุกวันไม่ใช่หรือ ยังไม่เพียงแต่อันเดียวเท่านั้น” ยินเสี้ยวเสี้ยวนิ่งไปสักพักแล้วใบหน้าก็แดงไปหมด:“คน…ลามก!”จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้ว:“ผมพูดอะไรไปหรอ?“

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท