Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา – บทที่221 การแผนของยินเสี้ยวเสี้ยว

บทที่221 การแผนของยินเสี้ยวเสี้ยว

บทที่221 การแผนของยินเสี้ยวเสี้ยว

ยินเสี้ยวเสี้ยวออกมาจากห้องนอน กู่ชูเหยากำลังช่วยเขาทำความสะอาดบ้านที่ยุ่งเหยิง ฉีเคอหานที่อยู่ด้านหนึ่งเพียงแค่ดูเท่านั้น ไม่ได้ช่วย และสายตาที่มองกู่ชูเหยาอยู่เต็มไปด้วยการดูถูก

“เสี้ยวเสี้ยว… ” กู่ชูเหยาหันกลับมาเมื่อได้ยินเสียงที่อยู่ข้างหลัง และพร้อมกับแววตาที่กังวล”เป็นยังไงบ้างหรือคะ ร่างกายของเธอโอเคมั้ย”

เขาได้พักฟื้นที่บ้านตั้งแต่ครั้งที่แล้วถูกฉีเคอหานทำร้ายโดยบังเอิญ ​​ต่อมาก็ถูกส่งไปที่บ้านพักของตระกูลกู่พักฟื้น ซึ่งอยู่ห่างไกลจากเมือง T ดังนั้นจึงไม่ทราบสถานการณ์ในเมือง T เสมอมา แต่เขาคิดว่ารักกันขนาดนี้ระหว่างจิ๋นลี่ยวนกับยินเสี้ยวเสี้ยว จะไม่เกิดเรื่องอะไร แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อเขากลับมาทุกอย่างก็เปลี่ยนไปแล้ว

ยินเสี้ยวเสี้ยวหย่า ยินเสี้ยวเสี้ยวตั้งครรภ์ มู่เยียนหรานกลับมา และเกือบจะแต่งงานกับจิ๋นลี่ยวน …

ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนทำให้เขาตกตะลึง

ยินเสี้ยวเสี้ยวส่ายหัวและยิ้มอย่างฝืนใจ ยื่นมือไปหยิบผ้าขี้ริ้วในมือขอกู่ชูเหยา แล้วพูดว่า “ขอบคุณที่มาเยี่ยมฉัน ฉันสบายดีมากเลยค่ะ แล้วคุณล่ะ หายดีหรือยังคะ”

กู่ชูเหยาไม่ได้คาดว่ายินเสี้ยวเสี้ยวยังจำเรื่องของเขาได้ พยักหน้าและพูดว่า “คุณมีอะไรอยากกินไหม ผมทำให้คุณ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันมีเรื่องต้องทำในวันนี้ และเดี๋ยวจะต้องออกไปข้างนอก” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดว่า แต่เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากจะรั้งแขกไว้อีกต่อไปแล้ว “ขอโทษนะ วันนี้ฉันต้อนรับคุณอย่างดีไม่ได้แล้วค่ะ”

“ไม่เป็นไร ถ้าคุณมีอะไรต้องทำก็ไปทำก่อน แล้วฉันมาในอีกไม่กี่วัน” กู่ชูเหยาไม่ได้สนใจอะไร แต่ฉีเคอหาน​​ยกคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่เขาเมื่อได้ยินคำพูดของยินเสี้ยวเสี้ยว

“คุณเพิ่งเกิดเรื่อง ออกไปทำไม คุณว่าตอนนี้ยังยุ่งไม่พอเหรอ” อารมณ์ของฉีเคอหานไม่ค่อยดี ควรจะบอกได้ว่าตั้งแต่เขาหมั้นกับกู่ชูเหยา อารมณ์ของเขาก็ไม่ค่อยดีแล้ว รวมถึงเรื่องที่ได้ทราบว่าเฉิงชื่อชิงดูเหมือนชอบยินเสี้ยวเสี้ยวก็ไม่ดียิ่งขึ้น เขาคิดว่าจิ๋นลี่หยาวจะดีกว่ายินเสี้ยวเสี้ยวเป็นร้อยเท่า แม้ว่าเขาไม่อยากให้เฉิงชื่อชิงอยู่กับจิ๋นลี่หยาว แต่เขาก็ไม่อยากให้เฉิงชื่อชิงชอบคนอื่นด้วย “ดูสถานการณ์ของคุณตอนนี้สิ ตั้งครรภ์อยู่ยังอยากจะออกไปเดินเตร่ไปเดินเตร่มา ตกลงคุณอยากเอาลูกคนนี้หรือไม่”

“ฉีเคอหาน” กู่ชูเหยาตวาดและขมวดคิ้วแน่น

ยินเสี้ยวเสี้ยวกลับส่ายหัวอย่างไม่สนใจ หันตัวกลับมาและพูดว่า “คุณชายฉี ขอบคุณที่ช่วยฉันในเมื่อกี้นี้”

เพียงแค่ประโยคเดียว ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่ได้พูดอะไรอีกต่อไป และในเวลานี้จิ๋นลี่ยวนก็ออกมาจากห้องนอน สีหน้าของเขาน่ากลัวมาก น่ากลัวจนถึงแม้ว่าเป็นฉีเคอหานก็​​ไม่กล้าพูดอะไรอีก

มองส่งกู่ชูเหยาพวกเขาจากไป ยินเสี้ยวเสี้ยวรักษารอยยิ้มที่เหมาะสมอยู่เสมอ

จิ๋นลี่ยวนเดินในตอนท้าย ถึงที่สุดก็อดไม่ไว้ที่จะหันหัวกลับมามองเธอ แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวเพียงแค่มองเขาอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็ปิดประตู …

ปัง

เสียงเบามาก จากนั้นคือเสียงประตูรหัสถูกล็อค

ต่อหน้าประตูที่คุ้นเคย ลูกกระเดือกของจิ๋นลี่ยวนขยับเล็กน้อยและกำหมัดอย่างแน่น แล้วจากไปหลังจากเวลาผ่านไปนาน

ในห้อง ยินเสี้ยวเสี้ยวยืนเงียบ ๆ โดยหลังพิงประตูและสีหน้าอย่างเฉยเมย

หลังจากเวลาผ่านไปนานก็เม้มริมฝีปากแล้วหันตัวกลับไปห้องนอนเปลี่ยนเสื้อผ้า วันนี้เขาจะต้องออกไปข้างนอกทำเรื่องบางอย่าง!

ในตรอกที่ทรุดโทรมของเมือง T ขาของเฉินหยูซึ่งยังไม่หายดีนั้นเดินอย่างยากลำบาก

ทันใดนั้น มีอีกคนหนึ่งออกมาจากซอยที่ซับซ้อนและยืนตรงหน้าเฉินหยู

เฉินหยูขมวดคิ้วและมองเฉินฉิงที่ต่อหน้าเขาไม่ได้พูดจา

“นี่คุณหมายความว่าอย่างไรเห็นฉันแล้วยังทำเป็นไม่สนใจฉันเหรอ” เฉินฉิงพูดโดยขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจกับท่าทีอย่างนี้ขอเฉินหยู “เฉินหยูไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ฉันก็เป็นพี่สาวของนาย มันเกินไปหรือเปล่าที่นายทำแบบนี้”

หลังจากครั้งที่แล้วในโรงพยาบาลเธอไม่ได้ยอมรับว่าเฉินหยูเป็นน้องชายของเธอ เขาก็ดูเหมือนจะตีตัวออกห่างตัวเองมากขึ้นทุกทีแล้ว

“มีอะไรเหรอ” เฉินหยูพิงกำแพงด้านหนึ่งและพูดเบา ๆ ตัวของเขามีกลิ่นอายนักเลย แต่ก็ปนเปไปด้วยอ่อร่าความหล่อเหลาเบิกบาน” ที่ผมรู้ว่าคุณเฉินเป็นคนที่ไม่มีเรื่องก็ไม่มา เรื่องที่ยังคุยไม่จบในครั้งที่แล้ว คุณจะคุยต่อในวันนี้อย่างนั้นหรอ”

สีหน้าของเฉินฉิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ระงับความโกรธไว้ และพูดกับเขาว่า “นายให้แม่โอนเงินให้ฉันหน่อย ฉันไม่มีเงินแล้วและตอนนี้ฉันต้องการเงิน แล้วคุณดูคุณตอนนี้ มันดูเหมือนเป็นคนขาเป๋ นายจะปล่อยคนที่ทำให้้นายกลายเป็นแบบนี้อย่างยินเสี้ยวเสี้ยวไปอย่างงั้นหรอ หรือคิดว่าเธอหน้าตาดีแล้วก็จะปล่อยเธอไป ถ้านายทำใจไม่ได้ พี่ไปหาคนมาทุบตีเธอเพื่อช่วยนายระบายความโกรธ … ”

“เหอเหอ … ” เสียงหัวเราะเยาะเบา ๆ ดังขึ้น ทันใดนั้น เฉินหยูที่ยืนพิงกำแพงก็พูดเยาะเย้ยว่า “เมื่อพี่ไม่มีเงินก็มาหาผม ผมยังไม่ได้เป็นคนขาเป๋ พี่ก็ขอสาปแช่งให้ผมเป็นคนขาเป๋ พี่เป็นพี่สาวของผมจริงๆเหรอ ทุบตียินเสี้ยวเสี้ยว ผมว่าพี่ไม่ได้ทำเพื่อผมหรอก เป็นเพียงเพราะว่าพี่รู้สึกไม่ยอมกับเรื่องที่ยินเสี้ยวเสี้ยวแจ้งตำรวจจับพี่ในครั้งที่แล้วใช่ไหม หรือว่าพี่รู้สึกอิจฉายินเสี้ยวเสี้ยวที่ดีกว่าพี่ในทุกๆด้าน”

“เฉินหยู!” เฉินฉิงตวาดด้วยความโกรธ ซึ่งโกรธจนใบหน้าแดงไปหมด และกำมืออย่างแน่นๆ “แกมีท่ามีแบบนี้กับพี่ได้หรอ ยังไงฉันเป็นพี่สาวของแก แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นเพียงคนนอกเท่านั้น แกจะต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ”

เฉินหยูไม่อยากสนใจเธอ หลายปีมานี้เขาจะไม่รู้ได้ยังไงว่าเฉินฉิงเป็นคนแบบไหน เฉินหยูโบกมือและอยากจะจากไป แล้วพูดว่า “ผมจะบอกแม่ว่าพี่ต้องการเงิน ตอนนี้ พี่ไปได้แล้ว คุณเฉิน …”

เฉินฉิงได้ยินคำว่า’คุณเฉิน’คำนี้ลอยเข้ามาในหูของ

ทำให้เธอรู้สึกถูกประชด มองร่างกายที่โยกไปโยกมาของเฉินหยู ก็ยื่นมือออกมาผลักเฉินหยูโดยไม่ได้ลังเลสักเล็กน้อย ถ้าหากในยามปกติ เฉินหยูจะถูก‘จู่โจม’อย่างนี้ได้ยังไง ตอนนี้เฉินฉิงทำสำเร็จโดยฉวยโอกาสตอนที่เฉินหยูเผลอ

มีของกระจุกกระจิกมากมายในซอย และมีกล่องกระดาษไม่น้อยอยู่ข้างๆ เฉินฉิงผลักเขาแล้วเขาก็ล้มลงไปโดยไม่ได้ระวังตัว และกล่องกระดาษที่อยู่ข้างๆก็ตกลงมา

มีเสียงอู้อี้ดังขึ้น เฉินหยูพยายามป้องกันขาของตัวเองอย่างเต็มที่ เพราะกลัวว่าอาการบาดเจ็บจะร้ายแรงขึ้ง

เฉินฉิงเพิ่งจะก้าวไปข้างหน้าด้วยความภาคภูมิใจ แต่เขาได้เห็นมีใครเดินมาจากท้ายซอย แล้วก็รีบหันตัวและวิ่งออกไปตามทางที่เขามา

“เฉินหยู” ยินเสี้ยวเสี้ยวเรียกด้วยเสียงเบา ๆ และไม่กล้าเข้าใกล้สถานที่มืดและชื้นเช่นนี้ ซ้ำยังปนเปไปด้วยกลิ่นของความโกโรโกโส ถ้าไม่ใช่เพราะเมื่อกี้ได้เห็นคนที่เหมือนกับเฉินหยูจากระยะไกล เขาจะไม่เข้ามาแน่ ๆ “เฉินหยู เป็นคุณไหมคะ”

เมื่อได้ยินเสียงของยินเสี้ยวเสี้ยว เฉินหยูที่ภายใต้กองกล่องกระดาษก็ยื่นมือออกไปโดยไม่รู้ตัวและผลักกล่องกระดาษที่ตรงหน้าเขา แล้วนอนคว่ำอยู่บนพื้นและมองเงาร่างอรชรสวยสดงดงามของเธอในสุดทางของซอยนั้น หลังจากยืนยันว่าคนนั้นเป็นเฉินหยู ยินเสี้ยวเสี้ยวก็วิ่งมาอย่างช้าๆ

ซอยนี้ลึกไปหน่อยและมีของกระจุกกระจิกอยู่รอบ ๆ รวมถึงกล่องกระดาษ ขวดเหล้า อ่างล้างจาน จนกระทั่งมีเสาไม้ไผ่จำนวนมาก ยินเสี้ยวเสี้ยวใส่ชุดเดรสคอกลมหนาและใส่รองเท้าหนังส้นแบนคู่หนึ่ง เมื่อเขาวิ่งมา ย่ำน้ำสกปรกจนทำให้ข้อเท้าของเธอสกปรก ชนกล่องกระดาษที่อยู่ข้างๆตกลงมาโดนเธอบ้างขวดเหล้าก็ถูกเธอเตะล้มลงโดยไม่ระวัง การเดินทางนี้ไม่นานแต่ถึงกับเดินอย่างจนตรอกเล็กน้อย แต่เฉินหยูกลับรู้สึกว่าอบอุ่นใจมาก

นี่ถึงจะเป็นพี่สาวที่แท้จริง

หลังจากได้เจอน้องชายของตัวเอง ไม่ว่าเขาจะอยู่ในโลกแบบไหน ก็จะไปหาเขาเหมือนเดิม

เมื่อเดินไปถึงตรงหน้าเฉินหยู ยินเสี้ยวเสี้ยวก็รู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย คุณหนูที่ใช้ชีวิตที่มีเกียรติมั่งคั่งและร่ำรวยคนหนึ่ง แม้ว่าเป็นคุณหนูของบ้านยินที่ไม่ให้ความสำคัญ แต่อย่างน้อยก็เป็นคนที่มีชีวิตดีตั้งแต่วัยเด็ก จะเป็นไปได้อย่างไรที่เคยมาที่แบบนี้ คราวนี้มาแต่ไม่มีใครปกป้องอยู่ข้างกาย มันแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

“เฉินหยู เป็นอย่างไรบ้าง บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า” ยินเสี้ยวเสี้ยวพูดและนั่งยองๆอยู่ตรงหน้าเฉินหยู หลังจากพยุงเขานั่งขึ้น ก็รีบไปดูขาของเขา แต่เพราะว่าเมื่อเขาถูกผลักล้มลงไป มีกองน้ำอยู่ข้างเขาพอดี ซึ่งดูเหมือนว่ามันเป็นน้ำเน่า กลิ่นเหม็นมาก ตอนนี้กางเกงเต็มไปด้วยกลิ่นนั้น ยินเสี้ยวเสี้ยวยื่นมือออกไปแล้วจะดูอาการบาดเจ็บของเฉินหยูโดยไม่ได้ลังเล “ขาของนายได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า?” เฉินหยูรู้สึกอายเล็กน้อยและกกหูของเขาแดงเล็กน้อยเช่นกัน รีบยื่นมือไปหยุดการกระทำของยินเสี้ยวเสี้ยวและพูดว่า “พี่ อย่าดูนะ มันเหม็นมากเลย ผมไม่เป็นไรครับ…”

คิ้วของยินเสี้ยวเสี้ยวขมวดเล็กน้อย แต่ยินเสี้ยวเสี้ยวไม่สนใจคำพูดของเขา ในฤดูหนาวใส่เสื้อหนาก็จริง น้ำเน่าซึมเข้าไปไม่ได้ แต่ว่ากลิ่นก็เหม็นจริง ยินเสี้ยวเสี้ยวหยิบทิชชู่ออกมาแล้วเช็ดคราบสกปรกอยู่ในกางเกงของเขาและพูดว่า “เหม็นก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันกลับไปล้างให้สะอาดก็ได้ มันไม่เป็นไรหรอก… ” หลังจากได้ยินคำพูดของยินเสี้ยวเสี้ยว เฉินหยูตะลึงสักครู่ จากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา บางครั้งเขาพบว่าจิตใจของยินเสี้ยวเสี้ยวนั้นดีมากเลย

ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอก็คิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ และจะไม่ทรมานตัวเองโดยเจตนา

อยู่ข้างหน้าไม่ไกลก็คือที่พักของเฉินหยู ยินเสี้ยวเสี้ยวรีบประคองเฉินหยูเดินกลับบ้าน

มันยังเป็นห้องเล็ก ๆ ทั้งเก่าและชำรุดเหมือนเดิม และยังมีกลิ่นฝุ่นในห้องซึ่งมองออกได้ว่าไม่มีคนอยู่นานแล้ว

เมื่อเฉินหยูกลับมาถึงบ้าน เขาก็รีบเข้าห้องเปลี่ยนกางเกงทันที แล้วเมื่อเขาออกมายินเสี้ยวเสี้ยวก็ได้จัดระเบียบตัวเองเล็กน้อย อย่างน้อยพวกเขาสองคนก็ไม่ได้เหม็นขนาดนี้แล้ว หลังจากรินน้ำให้ยินเสี้ยวเสี้ยว เขาก็นั่งลงอยู่ที่ตรงข้ามของยินเสี้ยวเสี้ยว และถามว่า “พี่เสี้ยวเสี้ยว ทำไมพี่มาที่นี่ครับ”

เฉินหยูพูดและมองท้องของยินเสี้ยวเสี้ยวโดยไม่รู้ตัว

ยินเสี้ยวเสี้ยวเงียบงันเป็นเวลานานไม่ตอบ แต่แววตากะพริบพราย หลังจากเวลาผ่านไปนานจึงเงยหน้าขึ้น แล้วมองเฉินหยูและพูดว่า “เฉินหยู ฉันจะมีเรื่องต้องการให้นายช่วยฉันหน่อย”

เฉินหยูสะดุ้งมากเมื่อเห็นสีหน้าจริงจังขนาดนี้ของยินเสี้ยวเสี้ยวเป็นครั้งแรก

ใช้มือลูบท้องของตัวเอง ยินเสี้ยวเสี้ยวนึกถึงคำพูดเด็ดขาดที่เธอพูดอยู่ต่อหน้าจิ๋นลี่ยวน ก็อดที่จะแสยะยิ้มกว้างไม่ได้ “เฉินหยู ฉันทราบว่านายรู้จักคนมากมาย และฉันไม่มีทางจริงๆแล้วจึงมาหาให้นายช่วย ฉันอยากคลอดลูกนี้ … ”

เฉินหยูสะดุ้งตกใจจนลุกขึ้นจากเก้าอี้ และมองยินเสี้ยวเสี้ยวอย่างไม่เชื่อและถามว่า “พี่ คุณรู้ไหมว่านี่หมายความอย่างไรไหม ถ้าคุณคลอดลูกนี้ จากนี้ไปคุณก็เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว และคุณอาจไม่มีวันได้แต่งงานแล้วนะ แล้วบ้านจิ๋นจะปล่อยให้คุณเลี้ยงเขาเหรอ แล้วบ้านยินล่ะ บ้านยินจะอนุญาตไหมล่ะครับ?”

ยินเสี้ยวเสี้ยวมองเฉินหยูอย่างสงบ แววตาของเธอเต็มไปด้วยความแน่วแน่และพูดต่อไปว่า “ใช่ นายก็ทราบว่าบ้านจิ๋นจะไม่ปล่อยให้ฉันเลี้ยงลูกนี้ และบ้านยินก็ไม่อนุญาตด้วย ตราบเท่าที่ฉันได้คลอดลูกนี้ ก็หมายถึงฉันจะไม่ได้พบเขาอีก บ้านจิ๋นไม่ยอมให้และบ้านยินก็ไม่ยอมให้เหมือนกัน ดังนั้นฉันต้องการความช่วยเหลือจากนาย”

เฉินหยูกลืนน้ำลายอย่างหนัก สมองของเขาว่างเปล่า แค่ได้ยินยินเสี้ยวเสี้ยวพูดว่า

“เฉินหยู ฉันต้องการให้คุณช่วยฉัน ขโมยลูกฉัน”

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Flash Marriage แต่งงานกับคน(ไม่)ธรรมดา

Status: Ongoing

แม่เลี้ยงวางแผนอยากให้เธอแต่งงานกับชายแก่ที่มีอายุ 40ปี โดยเป็นการสมรสทางธุรกิจ เธอเลยไปจับผู้ชายบนถนนคนหนึ่งมาอย่างฉุกละหุกและถามว่า:“คุณกล้าแต่งงานกับฉันไหม?”จิ๋นลี่ยวที่เพิ่งถูกแฟนเบี้ยวนัดตอบว่า:“พอดีเลย วันนี้ผมเอาทะเบียนบ้านมาแล้ว ไปจดทะเบียนกันเถอะ” ยินเสี้ยวเสี้ยวที่มีอายุ 23ปี ก็เลยแต่งงานกับผู้ชายที่พึ่งเจอกันสองครั้งแบบสายฟ้าแลบ หลังจากนั้น แม่สามีส่งเครื่องต้มไข่ให้กับยินเสี้ยวเสี้ยว บอกเธอว่าต้องทานไข่ทุกวันเพื่อเพิ่มโปรตีน พอดีจิ๋นลี่ยวนกำลังเดินผ่าน แล้วพูดอย่างจริงจังว่า:“ที่รัก คุณกินทุกวันไม่ใช่หรือ ยังไม่เพียงแต่อันเดียวเท่านั้น” ยินเสี้ยวเสี้ยวนิ่งไปสักพักแล้วใบหน้าก็แดงไปหมด:“คน…ลามก!”จิ๋นลี่ยวนขมวดคิ้ว:“ผมพูดอะไรไปหรอ?“

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท