TTW:บทที่ 283 ไม่สงสัย
คนอื่นๆต่างตกใจที่ชาวนาคนถือปืนไรเฟิลตายลงอย่างกะทันหันพวกเขาไม่คิดว่า ฮันกวงมิน ไม่เพียงแต่ถอยกลับแต่ ฮันกวงมิน ยังคงวิ่งออกมาพร้อมกับขวานของเขาฆ่าชาวนาทั้งหมดที่อยู่ใกล้ๆ
หลิวกำ ต้องมอง ฮันกวงมิน ใหม่เขาจำได้ว่า ฮันกวงมิน เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแล้วเขาค่อนข้างขี้ขลาดเกี่ยวกับความรัก
“คนเหล่านี้มองไปที่น้องสาวโจว และรองหัวหน้าอย่างมีเจตนาร้าย ถ้าพวกเราเชื่อฟังพวกเขาและเดินไปในหมู่บ้านนั่นหมายความว่ามีคนคอยซุ่มโจมตีเรามากขึ้น ถ้าเราปล่อยให้พวกเขามีชีวิตอยู่พวกเขาจะกลับมาพร้อมกับคนที่มากขึ้นเพื่อที่จะฆ่าเราในการเดินทางกลับจากอ่าวกรีนเปา ผมพยายามที่จะเสนอมิตรภาพพวกเขาแต่พวกเขากลับปฏิเสธข้อเสนอของผม ผมจึงตัดสินใจที่จะฆ่าพวกเขาเพื่อไม่ให้เป็นปัญหากับเราในอนาคต” ฮันกวงมิน อธิบายให้ หลิวกำ ฟังขณะที่ร่างของเขากำลัง สั่นเทา
“ คุณทำถูกต้องแล้ว” หลิวกำ พยักหน้าด้วยความพอใจ เพื่อช่วยให้สมาชิกเหล่านี้เติบโตขึ้นพวกเขาจะต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองในการแก้ปัญหาใหม่ๆในสังคมนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับบุคคลที่ลังเลและอ่อนแอ
“ขอบคุณพี่ใหญ่หลิว! ผมจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเป็นหัวหน้าทีมที่เหมาะสม!” ฮันกวงมิน รู้สึกอายคำชมของเจ้านายของเขาทำให้เขารู้สึกดียังไม่เคยมีมาก่อน
เขาเป็นหนึ่งในสามคนแรกที่ติดตาม หลิวกำ ในตอนแรกเป็น จางเฉียงหลี่ และวังเฉิง ในขณะที่ทั้งสองคนได้รับการยอมรับให้มีความสำคัญเทียบเท่ากับรองหัวหน้า เมื่อมองไปที่ 2 คนนี้ทำให้ ฮันกวงมิน รู้สึกราวกับว่าเขาตามอยู่เบื้องหลัง เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถได้รับความเคารพจากเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม ดังนั้นเมื่อมีโอกาสเขาจะพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นประโยชน์
*****
มันใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงเมื่อพวกเขามาถึงอ่าวกรีนเปา
บริเวณอ่าวทั้งหมดค่อนข้างเงียบและไม่มีซอมบี้ปรากฏตัว มันเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ดังนั้นก่อนที่จะเกิดภัยพิบัติที่นี่ควรเต็มไปด้วยผู้คน แต่เนื่องจากพื้นที่นี้ถูกกวาดล้างทั้งหมดตามสมมติฐานของพวกเขาผู้เล่นที่โอนย้ายเข้ามาน่าจะฆ่าพวกมันไปทั้งหมด ซากซอมบี้อาจถูกเผาหรือโยนลงในทะเล
อ่าวกรีนเปาเห็นได้ชัดว่าสะอาดกว่าที่อื่นๆมีผู้เล่นกลุ่มนึงกำลังควบคุมพื้นที่นี้
ด้วยท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ดังกล่าวมันจึงน่าแปลกใจที่ไม่มีเรือใดๆ เทียบท่าอยู่ จากการคาดเดาสมาชิกในทีมอาจใช้ท่าเรือเป็นเส้นทางหลบหนีดังนั้นจึงสามารถอธิบายถึงการหายไปของเรือทุกลำที่อยู่ในท่าเรือ แม้แต่เครื่องบินก็ยังออกจากพื้นที่นี้เพื่อความปลอดภัยทางหนีเดียวที่หนีออกจากบนบกได้ก็คือทะเล อันตรายที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลกอาจทำให้เกิดสึนามิเข้าสู่อ่าวได้นั่นจึงเป็นความเสี่ยงค่อนข้างสูงสำหรับคนที่ อยู่บนพื้นดิน
หากไม่มีเรือจอดเทียบท่าทำให้เรือเหาะเพียงลำเดียวที่มีอยู่เด่นชัดขึ้น เรือเหาะ เซเรนิตี้ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขนาด 2000 ตัน ในโลกนี้เรือเดินสมุทรและเรือเหาะแตกต่างกันมากทีเดียว เซเรนิตี้ เป็นรูปวงรีด้านบนและด้านล่างของเรือปิดสนิท แต่หน้าต่างด้านข้างมีขนาดใหญ่มีแสงสามารถแทรกซึมผ่านหน้าต่างทำให้เกิดแสงสว่างภายใน
เป็นความโชคดีของพวกเขาที่เรือเหาะแห่งนี้เป็นประเภทสะเทินน้ำสะเทินบกซึ่งสามารถใช้ได้เช่นเดียวกับเรือลำอื่นๆในน้ำ และยังสามารถจมอยู่ในน้ำส่วนใหญ่ในขณะที่ดาดฟ้าไม่ได้จมอยู่ใต้น้ำและสุดท้ายมันยังสามารถเติมฮีเลียมด้านบนสุดเพื่อกลายเป็นเรือเหาะ เมื่อเติมบอลลูนที่มีขนาดใหญ่กว่าเรือหลายเท่ามันจะทำให้เรือเหาะนี้บินขึ้น
ในเวลานี้ เซเรนิตี้ เทียบอยู่ท่าเรือพวกเขาใช้กล้องส่องทางไกลเพื่อตรวจสอบสถานการณ์บนดาดฟ้า การเข้าสู่เรือเป็นเรื่องง่ายเนื่องจากมีป้อมปราการเพียงเล็กน้อยเท่านั้นไม่มีคนเฝ้ายามอยู่ การเข้าไปในโถงหลักของเรือบินนั้นค่อนข้างง่ายนี่คือความคาดคิดของ หลิวกำ แต่มันยังคงมีข้อสงสัยในใจของเขา
“ตะโกนคำเตือนให้พวกเขาได้ยิน” หลิวกำ บอกกับ ฮันกวงมิน
ก่อนที่จะมาถึงเส้นทางนี้พวกเขาคิดถึงแผนการมากมาย พวกเขาจะใช้แผนของบริษัทซานชิงเพื่อตะโกนบอกว่า เซเรนิตี้ สามารถพาไปที่ปลอดภัยได้ มันอาจฟังเหมือนเป็นเรื่องไร้สาระสำหรับชาวเมืองแต่ผู้เล่นที่ติดอยู่ในเกมนี้มันเป็นข้อเสนอที่ล่อลวง
การโกหกแบบนี้อาจทำให้เกิดความสับสนมันเป็นโอกาสสำหรับผู้เล่นที่อยู่บนเรือเหาะ เมื่อผู้เล่นถูกล่อลวงพวกเขาจะยอมจำนนต่อ หลิวกำ และ ยินฮี สามารถเดินเข้าไปฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
“ เราเป็นพนักงานช่วยเหลือของบริษัทซานชิง! เราจอดรถที่ลานจอดรถที่ตั้งอยู่ 70 องศาจากท่าเรือ กรุณาส่งตัวแทนเพื่อมาพูดคุยกับเรา!” ฮันกวงมิน ทำตามคำแนะนำของ หลิวกำ และตะโกน 3 ครั้ง
เซเรนิตี้ ไม่มีการตอบสนอง ไม่มีสัญญาณไฟออกมาจากหน้าต่าง ประตูโดยสารไม่มีการขยับ นอกจากนี้ดูเหมือนราวกับว่าเรือเหาะนี้ถูกทิ้งร้าง
เรื่องนี้แปลกมากหลังจากฟังคำพูดของ จางเฉียงหลี่ แล้วดูเหมือนว่ามันจะไม่ถูกต้อง เป็นไปได้ไหมว่าผู้ชายที่สวมเสื้อกันฝนไม่ได้พูดความจริง? หรือพวกเขาย้ายออกไปจากที่นี่พร้อมกับกลุ่มทั้งหมดเพื่อไปยังภูเขา กรีนสเตชั่น ดังนั้นจึงไม่มีใครอยู่อย่างที่นี่อย่างนั้นหรือ?
ไม่มีทาง ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฝ่ายนั้นจะละทิ้งที่มั่นของตัวเอง เว้นเสียแต่ว่ามันเกิดเหตุการณ์คล้ายกับค่ายชายทะเลซึ่งพวกเขาถูกบังคับโดยการปรากฏตัวของปูยักษ์
ท่าเรือแห่งนี้ไม่มีร่องรอยในการต่อสู้หากมีการปรากฏตัวอย่างสัตว์กลายพันธุ์เช่นปูยักษ์ท่าเรือแห่งนี้คงไม่น่าจะอยู่ในสภาพดังกล่าว แม้แต่ เซเรนิตี้ เมื่อมีสัตว์กลายพันธุ์อย่างปูยักษ์ปรากฏขึ้นอย่างน้อยมันควรมีรอยแตกหักบนเรือ
“ พี่ใหญ่หลิวดูเหมือนว่าเรือเหาะนี้ไม่มีคนอยู่ข้างใน บางทีผมควรพาชายสองสามคนเข้าไปข้างในดีไหม?” ฮันกวงมิน แนะนำ หลิวกำ
“ ตกลงแต่จงระวังให้ดี ดูเหมือนมีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นกับเรือเหาะนี้”หลิวกำ เตือน ฮันกวงมิน
“ ตกลงครับผมจะระมัดระวัง” ฮันกวงมิน สั่งให้ผู้เล่นระดับ 5 คนอื่นๆเข้าร่วมกับเขาทุกคนมีโล่ และปืนไรเฟิลในขณะที่พวกเขากำลังเข้าใกล้ประตู หลิวกำ, ยินฮี และผู้เล่นระดับ 4 ที่เหลือรออยู่บนบก
เหตุผลที่ หลิวกำ ไม่ได้ส่งคนทั้งหมดขึ้นไปบนเรือเหาะนั้นมันอาจมีการซุ่มโจมตีเกิดขึ้น พวกเขาอาจใช้ เซเรนิตี้ เป็นเหยื่อและเมื่อทุกคนอยู่บนเครื่องบินพวกเขาอาจจะระเบิดมันทิ้ง แม้ว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นมีน้อยมาก แต่นี่ก็ยังเป็นฐานของชายสวมเสื้อกันฝนไม่มีใครโง่พอที่จะให้ฐานของตัวเองเป็นเหยื่อและปล่อยให้ผู้คนเข้าไปยังพื้นที่นี้อย่างง่ายดาย
ดังนั้นกลุ่มบนบกต้องคอยป้องกันสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น หากทีมตรวจสอบต้องเจอกับเหตุการณ์บางอย่างพวกเขาจะสามารถช่วยเหลือได้ทันที
——————————–