พ่อเลี้ยงยอดเซียน – บทที่ 742 ความวุ่นวายในตลาดเมืองศักดิ์สิทธิ์

บทที่ 742 ความวุ่นวายในตลาดเมืองศักดิ์สิทธิ์

หลิงตู้ฉิงไม่เคยกังวลเรื่องของเลือดทรราชสวรรค์แม้แต่น้อย เนื่องจากในอาณาจักรจันทรานั้นมีกลุ่มคนของสันเขาทรราชอาศัยอยู่เช่นกัน

เขามั่นใจเต็มสิบส่วนว่าคนเหล่านั้นจะต้องตอบตกลงแน่นอนหากเป็นเขาที่เอ่ยปากขอด้วยตัวเอง เพราะมันก็แค่เลือดไม่กี่หยด มันไม่ได้ทำให้ใครเสียหายอะไร

และยิ่งตอนนี้การเดินทางทุกอย่างมันยิ่งง่ายขึ้น เพราะที่อาณาเขตนภาตอนนี้หลิงฟ่างหัวได้ทำการติดตั้งประตูเคลื่อนย้ายไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นหลิงฟ่างหัวจึงสามารถใช้ประตูเคลื่อนย้ายของสำนักเงามายาเดินทางไปที่อาณาเขตนภาได้เลยโดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการเดินทางเป็นสิบปีหากเป็นก่อนหน้านี้

ส่วนเรื่องพิกัดของประตูเคลื่อนย้ายที่รั่วไหลออกไปให้กับสำนักเงามายาได้ทราบนั้น หลิงตู้ฉิงไม่ได้กังวลอะไรแม้แต่น้อย เนื่องจากในคฤหาสน์สราญรมย์ตอนนี้มีง้าวเทวะพินาศเฝ้าอยู่ หากมีใครกล้าโผล่เข้าไปที่นั่นและสร้างเรื่อง มันผู้นั้นจะต้องพบจุดจบภายในพริบตาอย่างแน่นอน

“ตกลง เดี๋ยวข้าจะพาลูกสาวของท่านไปส่งที่อาณาเขตนภาด้วยตัวของข้าเอง ท่านไม่ต้องเป็นกังวล” ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันตอบกลับ

ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชันแปลกใจไม่น้อยเมื่อได้ยินว่าอาณาเขตนภาที่กันดารออกขนาดนั้นกลับมีประตูเคลื่อนย้ายตั้งอยู่ได้ยังไง?

แต่เมื่อเขามาลองคิดดูอีกที เหตุผลที่อาณาเขตนภามีประตูเคลื่อนย้ายก็น่าจะเป็นเพราะชายที่อยู่ตรงหน้าของเขาแน่นอน

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “เมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้นั้นมีของดี ๆ อยู่มากมาย ไหน ๆ เจ้าก็จะพาลูกสาวของข้าไปส่งที่อาณาเขตนภา ซึ่งเป็นบ้านของข้าอยู่แล้ว ดังนั้นเดี๋ยวเจ้าจงติดตามข้าไปที่ตลาดแลกเปลี่ยนสมบัติของที่นี่ก่อนเพื่อที่ข้าจะได้ซื้อของจากที่นี่ และให้ลูกสาวของข้าเอาพวกมันไปฝากกับครอบครัวของข้าที่อาณาเขตนภา”

เนื่องจากเมืองศักดิ์สิทธิ์เป็นศูนย์รวมของผู้เชี่ยวชาญจากทุกสายพันธุ์ในเขตแดนอุดรทมิฬ ดังนั้นมันจึงทำให้ที่นี่มีสิ่งของแปลก ๆ จำนวนมากวางขายอยู่ หากของเหล่านี้ถูกนำมาใช้อย่างถูกวิธีมันจะเป็นประโยชน์มหาศาลกับครอบครัวของเขา

หลิงตู้ฉิงจึงอยากใช้โอกาสนี้ที่ไหน ๆ เขาก็มาที่เมืองศักดิ์สิทธิ์แล้วในการรวบรวมของแปลก ๆ ที่มีประโยชน์กลับไปที่อาณาเขตนภา

ในทางกลับกัน ผู้อาวุโสของสำนักเงามายากลับคิดว่าหลิงตู้ฉิงต้องการใช้โอกาสนี้ในการขูดเอากำไรจากพวกเขา ซึ่งมันทำให้เขาได้แต่พูดอย่างจนใจว่า “ถ้าหากคุณชายหลิงต้องการของสิ่งไหนก็ให้บอกมาเลยก็แล้วกัน เดี๋ยวพวกเราสำนักเงามายาจะเป็นผู้จ่ายให้กับท่านเอง!”

“แบบนั้นก็ดีเหมือนกัน!” หลิงตู้ฉิงหัวเราะพลางคิดในใจ

ในเมื่อมีคนเสนอตัวจ่ายให้กับเขา ดังนั้นเขาจะโง่ปฏิเสธทำไม?

หลังจากนั้นกลุ่มของพวกเขาก็มุ่งหน้าไปที่ย่านการค้า ซึ่งอยู่ในบริเวณทิศใต้ของตัวเมืองศักดิ์สิทธิ์

ย่านการค้าแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ‘ตลาดหมื่นสายพันธุ์’

สภาพแวดล้อมของตลาดแห่งนี้มันคือลานโล่งขนาดใหญ่ที่มีผู้เชี่ยวชาญจากเผ่าต่าง ๆ ตั้งแผงขายของกันมากมายก็เท่านั้น แต่สิ่งที่ดูแปลกแยกไปจากตลาดอื่น ๆ ก็คือที่พื้นของตลาดหลายจุดนั้นมีคราบเลือดเปรอะเต็มไปหมด

หากมองจากสภาพแวดล้อมอันป่าเถื่อนของตลาดแห่งนี้แล้ว ทุกคนก็เข้าใจได้อย่างหนึ่งว่าเมืองศักดิ์สิทธิ์นั้นไม่ได้ปลอดภัยไปทั้งหมด

การมาถึงของกลุ่มหลิงตู้ฉิงนั้นไม่ได้ทำให้ผู้คนที่อยู่ในตลาดแตกตื่นกันสักเท่าไหร่ เนื่องจากในตลาดแห่งนี้ก็พอจะมีมนุษย์มาเดินเลือกซื้อของอยู่บ้างเหมือนกัน

ของที่วางขายในตลาดนี้นั้นมีของแปลก ๆ มากมาย ซึ่งมันรวมไปถึงพวกหัวกะโหลก หนังสดของสิ่งมีชีวิตประเภทต่าง ๆ และรวมไปถึงอวัยวะอื่น ๆ ที่ดูแปลกประหลาดมากมาย

เมื่อเห็นของประหลาด ๆ แบบนี้ แน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติที่หลิงตู้ฉิงจะไม่ได้รู้สึกประหลาดใจกับบรรยากาศของตลาดหมื่นสายพันธุ์ จะมีก็แต่พวกจ้าวเหมิงลู่เท่านั้นที่รู้สึกว่าเมืองศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้มันแปลกประหลาดเกินที่พวกนางจะเคยคาดคิดได้

ในระหว่างที่พวกเขาเดินดูของได้เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น พวกเขาก็ได้พบกับเผ่ามนุษย์ต้นไม้ที่คุ้นหน้าอีกครั้งหนึ่งซึ่งก็คือ เจียงหวง

“พี่สาวเจียงหวง ท่านก็มาซื้อของเหมือนกันงั้นเหรอ?” อุลบาทักทายในทันที

เจียงหวงหันมามองอุลบา และคนอื่น ๆ ด้วยแววตาประหลาดใจเช่นกัน “เอ๋ นี่พวกเจ้าก็มาเหมือนกัน?”

“ข้าพาสหายของข้ามาซื้อของน่ะพี่สาว!” อุลบาตอบกลับพลางชี้ไปที่หลิงตู้ฉิง

เจียงหวงหัวเราะ “งั้นเหรอ! แต่ข้าไม่ได้มาซื้อของที่นี่หรอก ข้าแค่เอาของบางอย่างมาขายก็เท่านั้น ว่าแต่พวกเจ้าเถอะอย่าเดินเข้าไปด้านในตลาดให้ลึกมากล่ะ ข้างในนั้นมันอันตรายเป็นอย่างมากจนแม้แต่ข้าเองยังไม่กล้าเดินเข้าไปเลย”

“ทำไมเป็นแบบนั้น?” หลิงฟ่างหัวถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย

แต่ก่อนที่นางจะได้รับคำตอบ พวกเขาทั้งหมดก็รู้สึกได้ถึงคลื่นพลังวิญญาณที่ผันผวนกระจายออกมาจากพื้นที่ด้านในของตลาด ซึ่งมันทำให้บรรดาพวกผู้เชี่ยวชาญที่อ่อนแอที่วางขายของอยู่ต้องรีบเก็บของที่วางขายบนพื้นเข้าแหวนมิติของตนเอง และรีบพุ่งตัวออกจากตลาดในทันที ส่วนบรรดาผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งจนมั่นใจในตัวเองต่างก็ยืนนิ่งและทำเพียงแค่หันไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น

เมื่อคลื่นพลังวิญญาณทำให้จำนวนคนที่อยู่ในตลาดเหลือน้อยลง พวกของหลิงตู้ฉิงจึงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าต้นตอของคลื่นพลังวิญญาณที่ผันผวนมันเกิดขึ้นจากอะไร

ที่แท้มันก็เป็นเพราะมนุษย์กระทิงผู้หนึ่งกำลังขัดแย้งอยู่กับมนุษย์เสือดาว

“หนิวกวน นี่เจ้าหมายความว่ายังไง? ข้าจะขายให้เจ้าหรือข้าจะไม่ขายมันก็เป็นสิทธิ์ของข้า เจ้าไม่มีสิทธิ์มาบังคับอะไรข้าทั้งนั้น!” มนุษย์เสือดาวตะโกนขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาล

“เมฆทมิฬ นี่เจ้าโง่รึเปล่า? ผลไม้ที่เจ้าขายมันก็แค่ผลไม้วิญญาณปฐพี ซึ่งข้าอุตส่าห์เอาเขาบรรพบุรุษของข้าที่มีมูลค่ามากกว่าตั้งมากมายมาแลกกับเจ้า แต่เจ้ากลับปฏิเสธข้าแบบนี้เจ้าตั้งใจดูถูกข้าชัด ๆ!” มนุษย์กระทิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าเดือดดาลเช่นกัน.ไอรีนโนเวล

มนุษย์เสือดาว เมื่อได้ฟังเช่นนี้ก็ยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่และตะคอกกลับว่า “ก็ข้าบอกเจ้าไปแล้วไงว่าข้าต้องการแลกมันกับโอสถฉิงฟูที่มีประโยชน์กับการบ่มเพาะของข้าเท่านั้น ข้าไม่ต้องการแลกมันกับเขาของบรรพบุรุษเจ้า!”

มนุษย์กระทิงโมโหหนักยิ่งกว่าเดิมและตะโกนว่า “นี่เจ้ากล้าดียังไงถึงได้ดูถูกบรรพบุรุษข้าแบบนี้อีกแล้วหะ ไอ้บ้าเอ้ย!”

เมื่อสิ้นเสียงตะโกน ร่างของมนุษย์กระทิงก็ขยายใหญ่ขึ้นถึงสามเท่าและพุ่งตรงเข้าไปหามนุษย์เสือดาวในทันที

มนุษย์เสือดาวพ่นลมออกจมูก จากนั้นตะโกนว่า “นี่เจ้าคิดว่าข้ากลัวเจ้างั้นเหรอ?”

มนุษย์เสือดาวฟาดกรงเล็บของมันเข้ากับหมัดของมนุษย์กระทิงที่ปล่อยมาทันที ซึ่งกรงเล็บของมนุษย์เสือดาวนั้นเปล่งประกายอันแหลมคมราวกับว่าความคมของมันไม่ได้ด้อยไปกว่าอาวุธจักรพรรดิเลยด้วยซ้ำ

เมื่อกรงเล็บและกำปั้นปะทะกันผลลัพธ์ที่ออกมาก็คือ รอยเฉือนลึกปรากฏขึ้นที่กำปั้นของมนุษย์กระทิงในทันที

มนุษย์กระทิงที่เห็นเช่นนี้ก็รีบถอยตัวกลับอย่างรวดเร็วและพูดว่า “นี่เจ้าสำเร็จกรงเล็บเซียนโลหิตแล้วงั้นเหรอ?”

“เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ?” มนุษย์เสือดาวตอบกลับ “อยากจะลองดูอีกรอบไหมถ้าเจ้ายังไม่แน่ใจ?”

มนุษย์กระทิงพ่นลมด้วยความเดือดดาลและพูดว่า “งั้นเจ้ารอข้าก่อนเถอะ ไว้ข้าสำเร็จวิชากระทิงคลั่งสิบทิศเมื่อไหร่ ข้าจะมาคิดบัญชีกับเจ้าแน่นอน!”

เมื่อพูดจบ มนุษย์กระทิงก็บินจากไปในทันที

ทางด้านของมนุษย์เสือดาวเมื่อเห็นว่ามนุษย์กระทิงจากไปแล้วมันก็แสดงสีหน้าเย้ยหยัน จากนั้นมันก็นั่งลงกับพื้นและหยิบผลไม้วิญญาณปฐพีขึ้นมาวางไว้ตรงหน้ามันเพื่อรอให้คนมาแลกเปลี่ยนกับมันต่อไป

ส่วนบรรดาผู้คนที่อยู่รอบ ๆ เมื่อเห็นว่าการต่อสู้ระหว่างมนุษย์กระทิงและมนุษย์เสือดาวจบลงแล้ว พวกเขาต่างก็วิ่งกลับมาประจำจุดขายเดิมและเอาของมาขายต่อไปราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

จ้าวเหมิงลู่และคนอื่น ๆ ต่างมองหน้ากันด้วยสายตาแปลกประหลาด สภาพแวดล้อมของที่นี่มันช่าง…

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “ต่อให้ที่นี่จะดูเหมือนว่ามีแต่ความวุ่นวาย แต่อันที่จริงแล้วที่นี่ก็มีกฎเหล็กที่ไม่มีเขียนบอกเอาไว้ ซึ่งทุกคนจำเป็นต้องทำตามอยู่เหมือนกัน”

“หากมองแบบผิวเผิน มันจะดูเหมือนว่าหากใครแข็งแกร่งกว่าคนผู้นั้นจะได้เปรียบ แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่แบบนั้น ทุกคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้หากจะลงมือกับใคร ฝั่งตรงข้ามจะต้องมีระดับการบ่มเพาะที่เท่ากับตัวเองเท่านั้นถึงจะสามารถลงมือได้ ห้ามรังแกคนที่อ่อนแอกว่าเป็นอันขาด แต่แน่นอนว่าถ้าหากคนที่อ่อนแอกว่าอยากหาเรื่องใส่ตัวโดยการไปก่อกวนพวกที่แข็งแกร่งกว่าตัวเองแล้วตายขึ้นมา อันนี้มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เหมือนกัน”

แทบจะในทันทีที่หลิงตู้ฉิงพูดจบทุกคนก็สัมผัสได้ถึงคลื่นพลังวิญญาณที่ผันผวนอีกระลอกหนึ่งแผ่ออกมาจากในบริเวณที่ไม่ไกลพวกเขาเท่าไหร่นัก ซึ่งแน่นอนว่ามันหมายความว่ามีคนสู้กันอีกแล้ว

แต่ในรอบนี้คนที่สู้กันนั้นเป็นเพียงแค่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตรวมแสงดารา ดังนั้นมันเลยไม่มีใครให้ความสนใจสักเท่าไหร่

ในเวลาเดียวกัน เจียงหวงก็มองมาที่หลิงตู้ฉิง และพูดว่า “ข้าได้ยินว่าเจ้ามาหาซื้อของงั้นเหรอ? ลองดูของที่ข้าจะนำมาขายก่อนไหมเผื่อเจ้าถูกใจข้าจะได้ขายให้กับเจ้าเลย”

“ของชิ้นแรกที่ข้านำมาขายก็มีกิ่งไม้ 2 กิ่งที่ร่วงหล่นออกมาจากต้นไม้ผู้สร้างพวกเรา ถึงแม้ว่าพวกมันจะเป็นเพียงกิ่งไม้ธรรมดาแต่ถ้าหากเอาไปเป็นหนึ่งในวัสดุสำหรับสร้างอาวุธระดับสวรรค์มันก็ถือว่าใช้ได้เช่นกัน”

“ส่วนของอีกอย่างที่ข้าเอามาขายก็คือผลไม้ลูกหนึ่ง…ผลไม้นี้ออกจะแปลกอยู่สักหน่อยเพราะมันงอกออกมาจากศีรษะของท่านปู่ของข้า ซึ่งมันทำให้ท่านปู่ของข้าเจ็บปวดมาก ๆ อยู่ถึง 200 ปีเชียวล่ะก่อนที่มันจะร่วงหล่นออกมา เป็นไงเจ้าสนใจชิ้นไหนบ้างไหม? แต่ถ้าหากเจ้าอยากได้ทั้งหมดข้าจะขอแลกกับโอสถวิญญาณบริสุทธิ์ 2 เม็ด ข้าเคยได้ยินมาว่าโอสถวิญญาณบริสุทธิ์นั้นสามารถรักษาแผลได้ดีมาก ดังนั้นข้าจึงอยากลองดูสักหน่อย”

“ข้าจะแลกกับเจ้าเอง!” หลิงฟ่างหัวพูดแทรกขึ้นในทันที เนื่องจากผลไม้ที่เจียงหวงพูดถึงนั้นมันดึงดูดความสนใจของนางเป็นอย่างมาก

แต่แล้วก่อนที่หลิงฟ่างหัวจะได้ซื้อของจากเจียงหวง นางก็ถูกหยุดเอาไว้ในทันทีโดยหลิงตู้ฉิง!

พ่อเลี้ยงยอดเซียน

พ่อเลี้ยงยอดเซียน

Status: Ongoing

พ่อเลี้ยงยอดเซียนเรื่องย่อ พ่อเลี้ยงยอดเซียน

ไม่นึกเลยว่าอารมณ์ทั้งเจ็ดจะมีผลต่อการบ่มเพาะเช่นนี้!

ในชาติที่แล้วอีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นข้าจะกลายเป็นนิรันดร์กาล!

ข้ายอมสละอารมณ์ทั้งเจ็ดเพื่อความเป็นนิรันดร์ แต่ท้ายที่สุดข้ากลับต้องเผชิญกับทางตัน วิถีไร้อารมณ์นั้นบกพร่อง!

ในเมื่อวิถีไร้อารมณ์ไม่สามารถพาข้าก้าวข้ามไปถึงขอบเขตนิรันดร์กาล ข้าต้องกลับไปจุติใหม่! ในชีวิตหน้าข้าจะเปลี่ยนวิถี! ในชีวิตหน้าข้าจะฟื้นฟูอารมณ์ทั้งเจ็ดของข้า!

ชาติหน้าข้าจะโอบรับพวกมันทั้งหมด

ความรัก ความชัง ปรารถนา โศกศัลย์ ยินดี เดือดดาล สุขสันต์

ครั้งนี้ข้าจักต้องไม่พลาด รอบนี้ข้าจักต้องให้ทุกสรรพสิ่งขนานนามข้าว่า ‘ไร้เทียมทาน!’

จักรพรรดิเซียนไร้อารมณ์ ผู้แสวงหาความเป็นนิรันดร์ ตัดสินใจจุติใหม่ แต่แล้วเหตุการณ์กลับตาลปัตร เมื่อยามที่เขาลืมตาดูโลกขึ้นอีกครั้ง เขากลับจุติอยู่ในร่างของชายหนุ่มอายุยี่สิบห้าปี ที่สำคัญชายผู้ที่เขาลงมาจุติในร่างกลับอุปการะบุตรบุญธรรมไว้แล้วถึงเจ็ดคน! และเด็กทุกคนกลับมีความสามารถท้าทายสวรรค์!

————————————————————-

ขั้นพลัง

ขอบเขตหลอมรวมลมปราณ

ขอบเขตควบแน่นลมปราณ

ขอบเขตประสานทะเลลมปราณ

ขอบเขตรวมแสงดารา

ขอบเขตนภา (ขั้นต่อไปถัดจากขอบเขตรวมแสงดารา)

ขอบเขตครึ่งสวรรค์ (ขอบเขตนภาระดับ12-13)

ขอบเขตสวรรค์

– สวรรค์สามัญ

– หลุดพ้นสามัญ

ขอบเขตเหนือสวรรค์

ขอบเขตราชัน

ขอบเขตจักรพรรดิ

ขอบเขตเร้นลับ

ขอบเขตจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ (ระดับการบำเพ็ญเพียรของหลิงตู้ฉิงในชาติก่อน)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน