บทที่ 1401 –รูปแบบเนตรศิลาศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่สอง
หลังจากที่เขาเสร็จสิ้นการกลั่นยาและปรับแต่งธงสวรรค์ปัญจธาตุ มันเป็นการดีที่เขาจะปรับแต่งสิ่งอื่นๆต่อ
ชิงสุ่ยมีความสุขอย่างมากกับรองเท้าเก้าเทวาของเขา และรูปแบบเนตรศิลาศักดิ์สิทธิ์ของเขาในตอนนี้ ด้วยความสามารถของพวกมันๆจะเป็นอย่างมากสำหรับตัวของเขาในตอนนี้
เวลาได้ผ่านไปอย่างต่อเนื่องในขณะที่มังกรไอยราของเขานั้นยังคงเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง ในตอนนี้ชิงสุ่ยมีความต้องการอย่างมากที่จะให้มังกรไอยราของเขาทะลวงเข้าสู่ระดับบัญชาสวรรค์พินาศอีกตัวหนึ่ง นั้นเพราะมันนั้นจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขาได้
……….
“ชิงสุ่ย พี่หวู่กำลังเผชิญหน้าความทรมานแห่งสวรรค์พินาศในตอนนี้”ห่ายตงชิงรีบออกมานอกห้องและรีบมาบอกชิงสุ่ย
“ดูเหมือนว่าเวลานั้นจะมาถึงแล้วสินะ ข้าจะออกไปตรวจดูสักหน่อยว่าไม่มีคนรบกวนนาง”ชิงสุ่ยรีบกล่าวก่อนที่จะออกไป
เป็นเวลานานแล้วที่ฮี่หวงกู่หวู๋ได้เข้ามาสู่ระดับบัญชาสวรรค์พินาศ และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอนั้นกำลังจะก้าวผ่านไปยังอีกขั้นหนึ่งของระดับบัญชาสวรรค์พินาศ ดังนั้นชิงสุ่ยจึงไม่ค่อยกังวลมากนักเพราะเธอนั้นเคยผ่านเรื่องราวเช่นนี้มาก่อนนอกจานี้แล้ว เธอนั้นก็ยังมีรากฐานในการบ่มเพาะที่แข็งแกร่ง มันจึงทำให้เขานั้นคิดว่าเธอนั้นต้องผ่านมันไปได้อย่างง่ายดาย
ในขณะนี่ฮี่หวงกู่หวู๋นั่งอยู่บนยอดเขาที่อยู่ใกล้ๆชิงสุ่ย ขณะที่เขาจ้องมองไปที่เธอโดยไม่คลาดสายตา อย่างห่างๆ
ขณะนี่เธอนั้นสวมใสชุดสีขาวหิมะ และปล่อยผมสายออกมาข้างหลัง ในขณะนี้เธอดูอ่อนโยนและบอบบางอย่างมาก นั้นเพราะเธอนั้นกำลังเปิดใช้สัมผัสทั้งหมดและปราณจากกลิ่นอายใดๆที่บิดกั้นร่างกายของเธอ
ในขณะนั้นเมฆสีดำได้ก่อตัวขึ้นบนฟากฟ้า แผ่นดินรอบๆตัวของเธอค่อยๆสั่นไหว นอกจากนี้ยังเกิดสายลมกรรโชกอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นครั้งแรกที่ชิงสุ่ยได้เห็นขั้นตอนความทรมานแห่งสวรรค์พินาศ
ความทรมานแห่งสวรรค์พินาศนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อผู้บ่มเพาะระดับบัญชาสวรรค์พินาศต้องการที่จะทะลวงเข้าไปสู่ระดับขั้นถัดไป ซึ่งเป็นการขัดต่อกฎแห่งสวรรค์จึงถูกสวรรค์ลงโทษ ที่ขัดขืนต้องฟากฟ้า
ทันใดนั้นสายฟ้าที่น้ำม่วงเข้มได้ฟาดเข้าใส่ร่างกายของฮี่หวงกู่หวู่อย่างรุนแรง
เปรี๊ยง เปรี๊ยง!
ประกายไฟสีม่วงได้ห้อมล้อมไปทั่งร่างของเธอ ในขณะนี้ฮี่ห่วง กูหวู๋ไม่ได้เคลื่อนไหวแต่อย่างใด แต่เธอนั้นกำลังปล่อยให้ร่างกายของเธอนั้นดูดซับพลังสายฟ้าดังกล่าวเข้าไปสู่ร่างกายของเธอ
ในขณะนี้ชิงสุ่ยได้ใช้สัมผัสทางวิญญาณของเขา สัมผัสไปที่ร่างกายของเธอ ขณะนี้นี่เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นภายในร่างกายของเธออย่างช้าๆ
ในรอบนี้สายฟ้าที่ฟาดลงมานั้นรุนแรงมากกว่าครั้งก่อนอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่ฮี่หวงกูหวู๋ที่นิ่งสงบอยู่ก็ยังสัมผัสได้ สายฟ้าที่ฟาดลงมาใส่ร่างกายของเธอนั้นทรงพลังอย่างมากเมื่อเทียบกับครั้งแรกที่เธอได้เผชิญหน้ากับมัน
ความทรมานแห่งสวรรค์พินาศ(ทัณฑ์สวรรค์พินาศ)นั้นเป็นเหมือนบทลงโทษและเป็นเหมือนพลังที่ใช้ทะลายกำแพงในเวลาเดียวกัน โดยทั่วไปผู้บ่มเพาะจะดูดซับพลังของมันเพื่อทะลวงก้าวข้ามระดับถัดไป แต่หากเกินข้อผิดพลาด หรือร่างกายของพวกเขานั้นไม่สามารถทนได้พวกเขาก็จะตกตายในทันที นี่คือความพิเศษและอันตรายของความทรมานแห่งสวรรค์พินาศ(ทัณฑ์สวรรค์พินาศ)
สำหรับครั้งแรกในการทะลวงระดับนั้นพลังของสายฟ้าจะยังไม่รุนแรงเท่าไร มันนั้นสามารถดูดวัยและนำเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อระดับยิ่งสู้ขึ้นความรุนแรงและความยากลำบากในการดูดซับก็จะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน มันจึงทำให้มีผู้บ่มเพาะระดับบัญชาสวรรค์พินาศระดับสูงๆน้อยมาก เว้นเสียว่าพวกเขาเป็นคนที่ได้รับพรสวรรค์โดยธรรมชาติที่หาตัวจับยาก พวกเขาก็จะสามารถหลีกเลี่ยงกับความทรมานแห่งสวรรค์พินาศ(ทัณฑ์สวรรค์พินาศ)ได้ระดับหนึ่ง
ครึ่งชั่วยามผ่านไป สายฟ้ายังคงฟาดเข้าใส่ร่างกายของเธออย่างต่อเนื่อง สายฟ้าที่มีความหนาเท่ากับนิ้วก้อยของคนเรา ได้ตรงเข้าใส่ร่างกายของเธออย่างต่อเนื่อง ในเวลานี้ฮี่หวง กู่หวู๋ไม่ได้เลือกดูดซับพวกมันทั้งหมด เธอเริ่มทำการป้องกันตัวเองและชะลอตัวในการดูดซับในเวลานี้
ภายใต้ความทรมานแห่งสวรรค์พินาศ(ทัณฑ์สวรรค์พินาศ) ฮี่หวงกู่หวู๋เริ่มป้องกันร่างกายของเธอ แต่ก็ยังดูดซับสายฟ้าเข้ามาในร่างกาย สายฟ้าเหล่านนั้นได้ตรงเข้าสู่ตันเถียนของเธอเพื่อปรับแต่งรากฐานของเธออย่างต่อเนื่อง นี่เป็นวิธีที่ได้รัยความนิยมและดีที่สุดในการทะลวงระดับของผู้บ่มเพาะขั้นบัญชาสวรรค์พินาศ
นอกจากนี้ก็ไม่เคยมีใครเลยที่สามารถดูดซับสายฟ้าทั้งหมดเข้าไปในร่างกายได้ในทีเดียว นั้นเพราะอำนาจของสายฟ้าดังกล่าวนั้นรุนแรงเกินไป และนี่เป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมากในการนำสายฟ้าเข้าสู่ร่างกาย หากเกิดข้อผิดพลาดพวกเขาจะตายในทันที ดังนั้นจึงไม่มีใครบ้ากล่าวเสี่ยงทำเรื่องเช่นนั้น
และยิ่งไปกล่าวสิ่งอื่นใด แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้นำพาสายฟ้าทั้งหมดเข้าสู่ร่างกาย ก็ยังมีบางคนที่ไม่สามารทนได้ จึงทำให้เห็นผู้ที่พยายามทะลวงระดับเหล่านี้นั้นล้มตายเป็นจำนวนมาก
…
ในขณะนี้สายฟ้ายังคงฟาดลงมาอย่างต่อเนื่อง ในขณะครั้งที่50ฟาดลงมาถูกร่างกายของฮี่หวง กู่หวู๋…
ย๊า!
ฮี่หวง กูหวู๋ได้คำรามออกมา พยัคฆ์ขาวได้ปรากฏขึ้นข้างๆเธอ ในขณะที่มันออกมารับสายฟ้าแทนเธอตอนนี้ ซึ่งในตอนนี้ความแข็งแกร่งของพยัคฆ์ขาวตัวนั้นทรงพลังกว่าอี่หวง กู่หวู๋หลายเท่า
พยัคฆ์ขาวถูกเรียกออกมา สีหน้าของชิงสุ่ยได้เปลี่ยนไป เขากำลังกลัวว่าตอนนี้ความทรมานแห่งสวรรค์พินาศ(ทัณฑ์สวรรค์พินาศ)นั้นจะเพิ่มความรุนแรงขึ้นตามระดับของความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น ชิงสุ่ยจ้องไปที่เธออย่างจริงจัง หากเกิดอะไรขึ้นเขาจะรีบคว้าตัวเธอออกมาในทันที
ย๊า!
ฮี่หวง กู่หวู๋คำรามออกมาแลเรียกพยัคฆ์ขาวอีกตัวออกมาอีกตัว
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของชิงสุ่ย เขานั้นไม่เคยมีประสบการณ์การความทรมานแห่งสวรรค์พินาศมาก่อน นั้นจึงทำให้เขานั้นไม่สามารถคาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับความทรมานแห่งสวรรค์พินาศได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ระสายตาอออกห่างอี่หวง กู่หวู๋เพราะเขานั้นเป็นห่วงเธออย่างมากในตอนนี้ และเฝ้าดูความปลอดภัยของเธออย่างไม่พริบตา
ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้ข้อสรุปแล้วว่า เมื่อใดที่เรามีความแข็งแกร่งมากขึ้น ความทรมานแห่งสวรรค์พินาศ(ทัณฑ์สวรรค์พินาศ)ก็จะรุนแรงมากขึ้น เช่นตัวอย่างผู้บ่มเพาะบัญชาสวรรค์ระดับหนึ่งที่มีความแข็งแกร่งใกล้เคียงผู้บ่มเพาะบัญชาสวรรค์ระดับสอง ความทรมานแห่งสวรรค์พินาศ(ทัณฑ์สวรรค์พินาศ)ที่พวกเขาได้รับนั้นก็จะรุนแรงใกล้เคียงกัน
ในเวลานี้อี่หวง กู่หวู๋ได้เรียกพยัคฆ์ขาวทั้งหมดออกมา ในทำนองเดียวกัน จำนวนสายฟ้าก็ได้เพิ่มขึ้น ขณะนี้ชิงสุ่ยเริ่มสัมผัสได้ถึงความอ่อนล่าบนใบหน้าของเธอ
ชิงสุ่ยกำหมัดของเขาจนแน่น เขาไม่เชื่อว่าเธอจะล้มเหลวในตอนนี้ และเขายอมรับไม่ได้ที่เธอจะล้มเหลว สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือต้องเขาไปช่วยเธอ และช่วยให้เธอนั้นผ่านมันไปให้ได้โดยสำเร็จ
แต่ถึงอย่างไรตอนนี้ชิงสุ่ยก็ยังไม่ได้วู่วามเข้าไป เขาตัดสินใจรออีกสักพักเพื่อดูสถานการณ์ในช่วงต่อไป
ในตอนนี้ชิงสุ่ยได้เดินเข้ามาใกล้ๆขณะที่เหลืออีกไม่กี่ก้าวเขาก็จะเข้าสู่ขอบเขตของขึ้น ความทรมานแห่งสวรรค์พินาศ(ทัณฑ์สวรรค์พินาศ)
ในช่วงเวลานั้นเองพลังลึกลับได้เชื่อมต่อระหว่างเขากับฮี่หวง กู่หวู๋เข้าด้วยกัน
ธงสวรรค์ปัญจธาตุ!
ในตอนนี้ธงสวรรค์ปัญจธาตุได้เชื่อมต่อทั้งสองเข้าด้วยกัน มันจึงทำให้สายฟ้าดังกล่าวเริ่มกระหน่ำโหมเข้าใส่ร่างกายของเขา
นี่เป็นผลของธงสวรรค์ปัญจธาตุ?
ในขณะที่สายฟ้านั้นได้ถูกส่งเข้าสู่ร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ได้เกิดความเจ็บปวดใดๆบนร่างกายของเขา เหมือนกับฮี่หวง กู่หวู๋ ราวกับว่าเธอนั้นได้ผ่านสายฟ้ามาให้เขาเท่านั้น ในเวลาเดียวกันความรุนแรงขอสายฟ้าที่ฮี่หวง กูหวู๋ได้รับในตอนนี้ก็อ่อนแอลง
หลังจากที่เธอเริ่มสัมฟัสได้เธอมองไปที่ชิงสุ่ยด้วยความตกใจและต้องการให้เขาออกไปจากบริเวณนี้ เพราะกลัวว่าเขานั้นจะเป็นอันตราย
“หวู๋หวู๋ เจ้าสัมผัสได้ถึงผลของธงสวรรค์ปัญจธาตุได้หรือไม่? นี่คือการเชื่อมต่อระหว่างเรา เราต้องผ่นมันไปด้วยกัน ด้วยพลังของเราทั้งสองเราจะสามารถผ่านมันได้”ชิงสุ่ยกล่าวออกมา
เธอทำหน้างงเล็กน้อย ก่อนที่จะมองไปที่ชิงสุ่ยและยิ้มออกมา “เดิมทีข้าคิดว่าครั้งนี้ข้าจะได้เห็นหน้าของเจ้าเป็นครั้งสุดท้ายเสียอีก!”
“ไม่มีวัน ในตอนนี้สามีของเจ้าอยู่ที่นี่ ข้าจะไม่ยอมให้เรื่องเช่นนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ตราบเท่าที่ข้ามีชีวิตเรื่องเช่นนั้นจะไม่มีวันเกิดขึ้น”ชิงสุ่ยกล่าวอย่างอบอุ่น ขณะจ้องมองไปที่เธอ
โดยไม่รู้ว่าเป็นเพราะชิงสุ่ยหรือไม่ในตอนนี้ความทรมานแห่งสวรรค์พินาศ(ทัณฑ์สวรรค์พินาศ)ได้รุนแรงขึ้นมีอีกระดับหนึ่ง ความหนาของสายฟ้าได้เปลี่ยนมาใหญ่ขึ้นเท่ากับหัวแม่มือของคนเรา และเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ในตอนนี้ชิงสุ่ยเห็นว่าฮี่หวง กู่หวู๋มาถึงขีดจำกัดแล้ว เขาจึงได้เรียกวิหกเพลิงออกมา
ด้วยความสามารถของวิหกเพลิงมันนั้นมีความสามารถที่ดีในการทนต่อสายฟ้าและเปลวเพลิง ด้วยองค์ประกอบหลักที่เกิดมาจากลักษณ์เบญจธาตุในร่างกายของมัน
โดยไม่ทันคิด ชิงสุ่ยได้เรียกอสูรอัสนีคลั่งออกมาในทันที!
สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เขานั้นตกใจอย่างมากความสามารถในการดูดซับสายฟ้าของอสูรอัสนีคลั่งนั้นอยู่ในระดับที่น่ากลัวอย่างมาก เมื่อมันออกมาความรุนแรงของสายฟ้าก็ถูกดูดซับให้เบาบางลงอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเห็นอย่างนั้นชิงสุ่ยจึงได้เรียกมังกรไอยรา และแมงมุม6เศียรออกมาเพื่อช่วยดูดซับสายฟ้าในตอนนี้
แม้ว่านี้จะเป็นครั้งแรกที่เขานั้นได้ผจญกับความทรมานแห่งสวรรค์พินาศ(ทัณฑ์สวรรค์พินาศ) แต่ชิงสุ่ยนั้นก็สามารถรับมือกับมันได้ดี นอกจากนี้มันยังเป็นความทรมานแห่งสวรรค์พินาศ(ทัณฑ์สวรรค์พินาศ)ระดับที่สองอีกด้วย ชิงสุ่ยยังสัมผัสได้อีกว่า ในตอนนี้หากเขาต้องผจญกับความทรมานแห่งสวรรค์พินาศ(ทัณฑ์สวรรค์พินาศ) เขานั้นก็หน้าจะสามารถทนมันได้ถึงระดับที่3เลยทีเดียว
เสียงคำราได้ดังสนั่นขึ้น!
สิ่งนี้ทำให้เขาตกตะลึงอย่างมาก มังกรไอยราได้ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า และตรงเข้าใส่หมู่เมฆสีดำในมันที ขณะนี้มันถูกห้อมล้อมไปด้วยสายฟ้าสีม่วงเข็ม ขณะที่ร่างกายของมันนั้นได้ถูกกระหน่ำฟาดด้วยสายฟ้าอย่างต่อเนื่อง
เสียงกระพือปีกและเสียงคำรามของมันได้ดังสนั่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ชิงสุ่ยมองไปที่ท้องฟ้าด้วยความกังวล เขาไม่เข้าใจว่าว่าทำไมมังกรไอยราถึงได้ทำเช่นนั้นออกมา เช่นเดียวกับฮี่หวง กู่หวู๋ที่ไม่สามารถเข้าใจได้เช่นเดียวกัน แต่ถึงอย่างไรตอนนี้สีหน้าของเธอจริงจังย่างมาก ราวกกับว่าเธอนั้นไม่ต้องการหนีปัญหาอีกต่อไป ในตอนนี้เธอนั้นได้ตั้งสติของเธอและเขาสู้ห้วงแห่งภวังค์
เสียงระเบิดค่อยๆดังขึ้น เช่นเดียวกับกลิ่นอายที่แปลกประหลาดได้กระจายไปทั่วทั้งท้องฟ้า ในตอนนี้ร่างกายของมังกรไอยรานั้นกำลังระเบิดออก รังไหมสีทองได้เข้าหอหุ้มร่างของมันเอาไว้ในตอนนี้ ราวกับว่ามันนั้นกำลังจะเกิดใหม่ก็ปาน
ตูม!
เสียงระเบิดออกได้ดังขึ้นอีกครั้ง!
กร๊ากก!
เมฆสีดำบนท้องฟ้าถูกฉีกขาดให้แยกออกจากกัน ขณะที่ร่างของมังกรไยราได้ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ในตนนี้ร่างกายของมันนั้นได้ขยายยาวขึ้นสองเท่า นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ดุดันและทรงพลัง
