Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล – บทที่ 1912 – ความพึงพอใจของชิงสุ่ย

บทที่ 1912 - ความพึงพอใจของชิงสุ่ย

  ถานท่ายหลิงเยียนทำหน้ามุ่ยไม่กล้าสบตาชิงสุ่ยในขณะที่มือทั้งสองของเธอก็กอดชิงสุ่ยไว้อย่างแนบแน่น ส่วนมือของชิงสุ่ยก็กำลังขยับเขยื้อนด้วยความซุกซนภายในเสื้อผ้าของเธอ

  ชิงสุ่ยขาดสติไปชั่วขณะก่อนจะรู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่ ซึ่งเมื่อเขารู้ตัวเขาก็รีบผละมือของเขา แต่ถานท่ายหลิงเยียนก็รีบห้ามเขาด้วยร่างกายที่กำลังสั่นเครือ  อย่าขยับออกไป 

  การกระทำของเธอมันทำให้เขารู้สึกกลัวเล็กน้อยแต่ใบหน้าของเขาก็เป็นประกายไปด้วยรอยยิ้มโดยที่ไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขารับรู้ได้ดีที่สุดคือตอนนี้ถานท่ายหลิงเยียนไม่ได้พยายามต่อต้านการกระทำของเขาเลย

  แม้ว่าเธอจะไม่เคลื่อนไหวแต่เธอก็ยังคงไว้ซึ่งความงดงามแบบที่อธิบายไม่ได้ ฝ่ามือของเขารับรู้ถึงแรงกระเบื้องที่เกิดขึ้นเหนือยอดเขาคู่งาม แขนอีกข้างหนึ่งของเขาโอบเอวเธออย่างใกล้ชิด ชิงสุ่ยกำลังปล่อยให้ร่างกายตอบสนองทุกสัดส่วนอย่างเป็นธรรมชาติ

  ที่เขาขาดสติไปคงเป็นเพราะลมหายใจหรือไม่ก็รอยจูบของถานท่ายหลิงเยียน

   ก็ได้ก็ได้ข้าจะไม่ขยับออกไปไหน ชิงสุ่ยกล่าวพร้อมกับรอยยิ้ม

  ความสูงของทั้งสองคนอยู่ในระดับใกล้เคียงกันโดยที่ถานท่ายหลิงเยียนมีความสูงน้อยกว่าชิงสุ่ยเพียงแค่2 นิ้ว เมื่อมองดูถานท่ายหลิงเยียนในระยะประชิด จิตใจของเขาก็ยิ่งสั่นไหว ผิวของเธอปราณีตยิ่งกว่าหยกขาว ดวงตาถูกเติมเต็มไปด้วยความงดงามเข้ามาแทนที่ความเยือกเย็น มันให้ความรู้สึกดีจนเขาแทบจะไม่อยากเชื่อ

  ขนตาของเธอกระพริบไปมาเหมือนกับพัดจีนที่โบกสะบัดสายลมด้วยความอ่อนโยนซึ่งเธอยังคงประหม่าไม่กล้าสบตากับชิงสุ่ย

   เอ่อเจ้าช่วยเอามือออกไปก่อนได้หรือไม่……. ถานท่ายหลิงเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เบาบาง

  ชิงสุ่ยขยับปากไปใกล้ๆหูของเธอและกล่าวด้วยความกล้าหาญว่า ทำไมเจ้าไม่ลองบอกว่าตอนนี้เจ้ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ล่ะ เจ้าจะรู้สึกดีจริงๆหรือหากข้าเอามือออก 

   เจ้าคนชั่ว ถานท่ายหลิงเยียนกล่าวตอบ

   ข้าแค่ล้อเล่นหน่ะ ชิงสุ่ยกอดเธอแน่นมากขึ้นในขณะที่เขากล่าวเขาก็รับรู้ได้ถึงกลิ่นอายที่ทำให้จิตใจเบิกบาน

  ถานท่ายหลิงเยียนรู้สึกว่าตัวของเธอกำลังถูกรายล้อมไปด้วยกลิ่นอายของชิงสุ่ยเธอไม่ได้รู้สึกกลัว แต่รู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังเผชิญหน้ากับดินแดนพิศวงที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน

   เจ้าต้องการให้ข้าบอกว่าข้ารู้สึกดีเพื่อทำให้เจ้าพอใจอย่างนั้นสินะ? ถานท่ายหลิงเยียนถามอย่างจริงจัง

  ชิงสุ่ยไม่คิดเลยว่าเธอจะพูดแบบนี้ออกมาซึ่งการที่เธอพูดคำพูดเหล่านี้ ยิ่งทำให้เขาตื่นเต้นเหมือนถูกเติมเต็ม

   ฮ่าฮ่า ไม่ต้องพูดแล้วก็ได้ ชิงสุ่ยกล่าวด้วยความเขินอาย

   ….เยียนน้อยของเจ้าชอบรอยจูบของเจ้า รอยยิ้มเล็กปรากฏขึ้นบนใบหน้าถานท่ายหลิงเยียน โดยเฉพาะมุมปากยิ้มกว้างขึ้นด้วยความตื่นเต้น

  นี้เป็นครั้งที่สองที่เธอกล่าวแบบนี้ออกมามันยิ่งทำให้เขาพึงพอใจ จนต้องเผลอปากพูดออกไปว่า  ถ้าหากเจ้าชอบมัน ข้าคงต้องทำอีกสักครั้งแล้ว 

  ……………..

  ชิงสุ่ยลิ้มรสชาติริมฝีปากของเธอเป็นเวลาพักใหญ่ก่อนจะหยุด ซึ่งเธอก็พยายามมองหน้าชิงสุ่ยด้วยความเขินอาย  ชิงสุ่ย ข้า………….. 

   เจ้าไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้วตอนนี้ข้าพึ่งพอใจในสิ่งที่ได้รับ และพร้อมจะรอวันที่เจ้าจูบข้ากลับมา ชิงสุ่ยยิ้มกว้างขณะที่มือของเขายังคงโอบเอวถานท่ายหลิงเยียน

   ข้าไม่รู้ว่าทำไมแต่หัวใจของข้ามันเต้นไม่เป็นจังหวะเลย ถานท่ายหลิงเยียนกล่าวดวยน้ำเสียงที่เบาบาง

   ดูเหมือนว่าเจ้าจะเปลี่ยนไปมาจริงๆแล้วเจ้าก็กำลังทำทุกอย่างเพื่อข้า ชิงสุ่ยจับมือของเธอ

  ใบหน้าของถานท่ายหลิงเยียนทุกเติมเต็มไปด้วยความสุขจนแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำ อืม สงสัยจะเป็นเรื่องจริง….. 

  ………………..

  ชิงสุ่ยใช้เวลาอยู่กับเธอเพียงพอใจวันนี้คือวันที่เขาประสบความสำเร็จทั้งสองอย่าง เรียกได้ว่ามันเป็นวันที่มีโชคลาภเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

  ด้วยยาวิเศษของชิงสุ่ยสัตว์อสูรของชิงสุ่ยและสัตว์อสูรของบรรดาพี่น้องต่างก็พัฒนาขึ้นอย่างฉับพลัน แต่ก็ยังคงอยู่ห่างจากความแข็งแกร่งของชิงสุ่ย

  อสูรนรกรัตติกาลมีเกราะที่หนาขึ้นสามารถดูดซับการโจมตีได้มากยิ่งขึ้น อาจเรียกง่ายๆว่ามันคือภูเขาขนาดยักษ์เครื่องที่ ไม่เพียงแต่ขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้นอีกเล็กน้อย แต่สีผิวของมันก็ดำสนิทเหมือนเพชรดำ และมีหมอกบางๆคอยปกคลุม สร้างความโดดเด่นให้กับตัวของมัน

  อสูรนรกรัตติกาลคือสัตว์อสูรระดับวิวัฒนาการขึ้นทำให้ศักยภาพในการเติบโตสูงขึ้น โดยปกติแล้วชิงสุ่ยจะไม่ค่อยเรียกใช้งานมัน สิ่งที่มีประโยชน์จากตัวมันคือพลังแห่งการจงรักภักดี และความสามารถที่โดดเด่นก็คงจะเป็นความสามารถในการต่อกรกับสัตว์อสูรประเภทพิษ จึงทำให้ชิงสุ่ยเลือกใช้งานมันเพื่อต่อกรกับราชันย์มังกรพิษ

  สำหรับเจ้าอสูรสยบมังกรร่างกายของมันเติบโตขึ้น แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งลักษณะที่อ่อนแอ สิ่งที่น่ากลัวคงเป็นความเร็วรวมถึงเกาะเกร็ดที่สามารถป้องกันทุกอย่าง และใช้ในการปลิดชีพศัตรูได้โดยที่ศัตรูไม่ทันมองเห็น

  ส่วนมังกรทองชิงสุ่ยยังคงไม่เข้าใจระดับการพัฒนาของเจ้ามังกรทองเลย ในตอนแรกมันอาจจะถูกนับว่าเป็นมังกรธาตุดิน แต่ไม่ใช่สายพันธุ์แท้จริงของมังกร ซึ่งหลังจากที่มันกินสมบัติเข้าไป มันก็วิวัฒนาการร่างกายเป็นมังกรทอง แต่ดูเหมือนมันจะไม่เติบโตขึ้นเลย มันยังคงไว้ซึ่งกรงเล็บคู่หน้า 2 คู่ ในขณะที่มังกรตัวโตเต็มวัยจะมีกรงเล็บ 4 คู่ ส่วนสำหรับราชันมังกรทองคำเมื่อโตเต็มวัยจะมีกรงเล็บทั้งหมด 5 คู่

  สายเลือดของมังกรทองแข็งแกร่งกว่าสายเลือดของมังกรพิษอย่างไม่ต้องสงสัยแต่ถ้าหากวัดกันที่ระดับความแข็งแกร่งรากฐาน จะบอกว่าใครชนะก็คงเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อไหร่ที่มังกรทองพัฒนาร่างสู่ร่างราชันย์มังกรทอง ต่อให้เป็นราชันย์มังกรพิษก็ไม่ใช่คู่ต่อกรของมัน

  และในเมื่อมังกรทองคำสืบสายเลือดมาจากมังกรทองคำห้ากรงเล็บ มันจะต้องพัฒนาไปสู่กรงเล็บทั้ง 5 ได้อย่างแน่นอน เพียงแต่หน้าเศร้าที่สุดคือไม่รู้อีกนานเพียงใดมันถึงจะวิวัฒนาการ

  ชิงสุ่ยพยายามสรรค์สร้างยามากมายเพื่อเร่งการเจริญเติบโตแต่ส่วนใหญ่ก็ทำได้เพียงแค่เพิ่มความแข็งแกร่ง ไม่สามารถเพิ่มอายุของพวกมันได้ โชคดีที่โลกแห่งความจริงและภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะมันมีความแตกต่างของเวลา เขาจึงพยายามให้มังกรทองคำอยู่แต่ภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ ซึ่งเขาเองก็รู้สึกว่าหากไม่มีอะไรผิดพลาด ระยะเวลาอีก 5 ปีข้างหน้า เจ้ามังกรทองคำจะต้องเติบโตวิวัฒนาการ

 

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

Status: Ongoing

นิยายเรื่องนี้เป็นเกี่ยวกับตัวละครหลักมีชื่อว่า ชิงสุ่ยซึ่งถูกส่งข้ามมิติและมายังทวีปคิวชู  ทั้งทวีปเต็มไปด้วยการฆ่าฟันดังพายุโลหิต ส่งผลให้ซากศพ กระดูกและเศษเนื้อ  กระจายเกลื่อนไปทั่วทวีปซึ่งถือเรื่องธรรมดามากในโลกใบนี้

 นักรบหนุ่มชิงสุ่ยทำการพลิกชะตากรรมชีวิตเพื่อสร้างเส้นในการเพาะปลูกพลังยุทธ เขาใช้เวลากว่า 10 ปีเพื่อฝึกฝนตัวเอง เพื่อที่จะแสวงหาการแก้แค้นบุคคลผู้หนึ่งที่ได้ทอดทิ้งแม่ของเขา! บนเส้นทางชีวิตนี้ เขาได้มีโอกาสพบกับหญิงสาวผู้มีความงดงามดุลรูปปั่นเทพธิดา ( เจ้าหญิงน้ำแข็ง ) ชิชิงซวง ซึ่งเป็นบ่อเกิดของความเกลียดชังและการแก้แค้นจากคู่หมั้นของเธอนามซิตู่บูฟาน หลังจากผ่านพ้นเข้าเมืองร้อยไมล์ ชิงสุ่ยได้พบกับสาวสวยแสนงดงามชื่อ ยูฮี และคนอื่นๆ ที่อาณาจักรเซียนเทียน

 หลังจากที่เขาเผชิญความทุกข์ยากในเส้นทางชีวิต เขาได้ฆ่านายน้อยของตระกูลกงหยางเพราะยูฮี ทำให้เขาต้องหลบๆซ่อนๆ แต่ในความโชคร้ายก็มีความโชคดี หญิงสาวรูปร่างใบหน้าราวกับนางอัปสรสวรรค์ ชื่อเย่ยีเจียนจี  ได้พานพบและได้ช่วยเหลือเขาเอาไว้ ต่อไปนี้เขาจะต้องพบเจอกับสงครามที่ต้องล้างด้วยเลือด  ชิงสุ่ยจะสามารถรอดพ้นอันตรายได้หรือไม่ จะรอดพ้นภัยพิบัติได้หรือไม่  และความสัมพันธ์ของเขากับสาวงามต่างๆจะเป็นอย่างไร

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท